เสี่ยวฉินกำลังนั่งหลับตาอยู่ในสมาธิ รัศมีสีขาวปรากฏขึ้นรอบๆตัวให้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์ที่อธิบายไม่ได้
แม้แต่กลิ่นอายของเสี่ยวฉินก็เปลี่ยนไป หากก่อนหน้านี้เขาเป็ดาบที่อยู่ในฝัก ตอนนี้เขาคล้ายกับดาบที่แหลมคมอย่างน่าเหลือเชื่อและสามารถหลุดออกจากฝักได้ตลอดเวลา!
หลังจากผ่านไปไม่นาน เสี่ยวฉินก็ลืมตาขึ้นมาช้าๆ มีรอยยิ้มปิติยินดีปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา พร้อมกับพึมพำเบาๆ "การบรรลุเส้นทางแห่งดาบ..."
การพูดคุยกับหลี่ชิงหยุนในครั้งนี้ทำให้ความสามารถของเสี่ยวฉินเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณในเส้นทางแห่งดาบ แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของเขาจะไม่เพิ่มขึ้น แต่ความเข้าใจของเขานั้นสูงเกินกว่าเยาวชนรุ่นเดียวกันแล้ว
อีกทั้งนี่ยังเป็จุดเริ่มต้นในเส้นทางแห่งดาบที่เสี่ยวฉินสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง!
จากนั้นเขามองไปที่หลี่ชิงหยุนด้วยสายตาที่เคารพบูชาราวกับเขาเป็เทพเ้าอย่างไรอย่างนั้น พร้อมกับเขาที่ลุกขึ้นโค้งคำนับ "หลี่ชิงหยุน ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ"
หลี่ชิงหยุนส่ายหัวเล็กน้อยพร้อมกับโบกมือ "ข้าแค่ให้ความเข้าใจเล็กน้อยแก่เ้าเท่านั้น จริงๆแล้วทุกอย่างขึ้นอยู่กับความรู้ความเข้าใจของเ้าเองทั้งหมด"
สิ่งที่หลี่ชิงหยุนพูดเป็ความจริง หากเขาบอกข้อมูลนี้ให้กับนาหลันเสี่ยวฉีหรือเสิ่นชิง เขาเชื่อว่าสองสาวไม่มีทางตรัสรู้เฉกเช่นเสี่ยวฉินได้
เสี่ยวฉินทุ่มเทให้กับดาบมากกว่าสิ่งอื่นใด แน่นอนว่านี่เป็เื่ธรรมชาติที่เขาสามารถเข้าใจข้อมูลเชิงลึกที่หลี่ชิงหยุน้าจะสื่อได้
"หลี่ชิงหยุน ั้แ่วันนี้เป็ต้นไป ข้าเสี่ยวฉินพร้อมจะให้ความช่วยเหลือเ้าในทุกเื่! หากเ้ามีปัญหาใดๆเ้าสามารถมาหาข้าได้ตลอดเวลา" เสี่ยวฉินพูดอย่างเคร่งขรึมด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
เขาเชื่อว่าหลี่ชิงหยุนเป็ชายที่ไว้ใจได้และควรค่าแก่การช่วยเหลืออย่างแน่นอน
หลี่ชิงหยุนตกตะลึงไปชั่วขณะ
[จักรพรรดิเมฆาที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวมาตลอดหลายปี...แต่ในขณะนี้ข้ากำลังจะมีสหายแล้วงั้นรึ?]
"เช่นนั้นข้าขอขอบคุณล่วงหน้า" หลี่ชิงหยุนชูกำปั้นอย่างสุภาพ ในใจของเขาปรากฏความรู้สึกแปลกๆที่ไม่เคยมีมาก่อน
[จักรพรรดิเมฆาที่ไร้ความรู้สึกคนนั้นไม่มีอีกแล้ว ชีวิตนี้ของข้า...ข้าจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง!]
[เส้นทางของข้า! ข้าจะสร้างมันขึ้นมาใหม่!]
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับดาบกันเล็กน้อย
ไม่นานนักทั้งสองคนได้เดินทางมาจนถึงหน้าคฤหาสน์เ้าเมืองเสี่ยว
แม้ว่าจะบอกว่าเป็คฤหาสน์เ้าเมือง แต่ในความเป็จริงอาคารต่างๆที่ปรากฏให้เห็นนั้นล้วนเป็โรงหลอมอาวุธไปแล้วมากกว่าเจ็ดส่วน อีกทั้งทั้งหมดยังเป็อาคารที่มีมากกว่าห้าชั้น
ที่อยู่อาศัยของตระกูลเสี่ยวกลับอยู่ทิศใต้ด้านหลังสุดของอาคารห้าชั้น จะพูดได้ว่าคฤหาสน์เสี่ยวเป็โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ดีๆนี่เอง
เสี่ยวฉินและหลี่ชิงหยุนลงจากรถม้าพร้อมกับหันหน้าไปที่หน้าคฤหาสน์
เมื่อหลี่ชิงหยุนมองภาพที่ปรากฏตรงหน้า เขาก็รู้สึกขบขันเล็กน้อย 'ปรากฏว่าโรงหลอมอาวุธนั้นดูหรูหรายิ่งกว่าที่พักของเ้าเมืองเสียอีก'
ที่พักของตระกูลเสี่ยวนั้นไม่ได้ใหญ่โตอะไรราวกับกำลังหลบซ่อนอยู่หลังอาคารและสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็แค่ที่พักชั้นเดียวที่ประกอบขึ้นจากไม้ ไม่มีใครอยากจะเชื่อว่านี่คือที่พักของเ้าเมืองเลยจริงๆ
"เ้าแปลกใจหรือไม่?" เสี่ยวฉินแสดงสีหน้าแปลกๆ
หลี่ชิงหยุนหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ "พูดตามตรง ข้าไม่เคยเจอคฤหาสน์ที่ประหลาดเช่นนี้มาก่อน"
เสี่ยวฉินถูจมูกอย่างเคอะเขิน "ตอนข้าเด็กๆข้าก็สงสัยเช่นกัน แต่ข้ามารู้ความจริงจากปากของท่านพ่อว่า สิ่งนี้คือความ้าของบรรพบุรุษของตระกูลเสี่ยวก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต"
"ก่อนหน้านี้ตระกูลเสี่ยวยังคงเป็ตระกูลเสี่ยวจากเมืองเล็กๆที่ไม่มีผู้ใดรู้จัก บรรพบุรุษของตระกูลเสี่ยวเป็แค่ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพตีดาบเท่านั้น ในขณะนั้นตระกูลเสี่ยวเป็เพียงแค่ตระกูลข้าราชบริพารระดับต่ำสุดจากชานเมือง"
"ท่านทวดของข้าในขณะนั้นเป็ผู้ฝึกฝนระดับลมปราณโลกคนเดียวในตระกูล แต่ด้วยการสนับสนุนจากราชวงศ์รุ่นก่อน ทั้งยังเป็สถานที่เดียวที่เป็โรงตีดาบและผลิตอาวุธในราชวงศ์โม่ในสมัยนั้น าาองค์ก่อนหน้าจึงรับท่านทวดของข้าเข้าไปเป็บริวารส่วนตัว"
"ั้แ่นั้นเป็ต้นมาตระกูลเสี่ยวก็เริ่มเติบโตขึ้นอย่างช้าๆจากการขายสินค้าและออกแบบอาวุธ จนได้รับการยกย่องจากประชาชนและมหาอำนาจมากมาย"
"จนวันหนึ่งาาโม่หยานเซี่ยได้แต่งตั้งท่านทวดของข้าให้เป็หนึ่งในห้าผู้บัญชาการรุ่นก่อน"
"ั้แ่นั้นความภักดีของท่านทวดที่มีต่อาาโม่หยานเซี่ยก็ปรากฏให้เห็นประจักษ์ให้เห็นทุกครั้งในสนามรบ"
"และท่านทวดก็ได้รับทักษะการบ่มเพาะดาบที่เป็เอกลักษณ์จากาาโม่หยานเซี่ยเช่นกัน และหลังจากาาองค์ก่อนเกษียน ท่านจึงแต่งตั้งให้ตระกูลเสี่ยวเป็เ้าเมืองของหนึ่งในสี่เขตแห่งราชวงศ์โม่"
"หลังจากเข้าสู่ยุครุ่งเรืองของตระกูลเสี่ยว แต่ท่านทวดกลับกล่าวไว้ว่า《แม้ว่าตระกูลของเราพัฒนาไปได้ไกลแค่ไหนก็ตาม แต่จงจำไว้ว่าห้ามลืมรากเหง้าของเราเอง》นั่นคือคำสั่งเสียของท่านทวด ท่านอยากให้ตระกูลเสี่ยวเป็ดั่งเช่นตระกูลเสี่ยวในอดีต"
"แม้จะมีความมั่งคั่งมากมายจากรุ่นของท่านทวด แต่กฏของบรรพบุรุษตระกูลเสี่ยวนั้นเข้มงวดมาก มากเสียจนตระกูลเสี่ยวนั้นแทบจะไม่มีความขัดแย้งภายในครั้งใหญ่เลย นั่นเป็เพราะความมั่งคั่งจะถูกแบ่งอย่างเท่าเทียมและไม่มีการฉ้อฉลใดๆ"
"ดังคำกล่าวที่ว่ายิ่งมีทรัพย์สินมากเท่าใด มนุษย์ก็จะลืมรากเหง้าของตัวเองก่อนหน้านี้ นี่คือเหตุผลที่ท่านพ่อไม่ยอมสร้างที่พักให้หรูหราและดูใหม่ไปมากกว่านี้"
"ผู้ที่เคยยากจนมาก่อน เมื่อสักวันหนึ่งที่เขามั่งคั่ง เขาจะลืมรากเหง้าและไม่้าที่จะยากจนอีกต่อไป ความมั่งคั่งที่มากเกินไปคือสิ่งที่จะทำให้จิตใจของสมาชิกตระกูลเสี่ยวสั่นคลอน ทุกอย่างในที่พักของตระกูลเสี่ยวจึงเรียบง่ายอย่างที่เ้าเห็น" เสี่ยวฉินอธิบายความเป็มาของตระกูลเสี่ยวให้หลี่ชิงหยุนฟังตลอดทาง
แม้แต่หลี่ชิงหยุนยังต้องปรบมือชมเชยให้กับความคิดของบรรพบุรุษตระกูลเสี่ยวผู้นี้จริงๆ
จากนั้นเสี่ยวฉินก็กล่าวต่อ "จนถึงบัดนี้แม้ว่าจะมีการแก่งแย่งชิงดีกันบ้างเล็กน้อย แต่ตระกูลเสี่ยวยังคงเป็น้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งแตกต่างจากตระกูลใหญ่หลายๆตระกูลที่มีกลุ่มคนบางกลุ่ม้าเข้าควบคุมอำนาจและทรัพย์สินทั้งหมดเป็ของตัวเอง... ท่านทวดได้ตอกย้ำและสั่งห้ามให้หัวหน้าตระกูลแต่ละรุ่นปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงที่พักใดๆ เพื่อเป็เครื่องย้ำเตือนความยากลำบากให้แก่สมาชิกทุกคน"
"บรรพบุรุษตระกูลเสี่ยวช่างมีความคิดที่ลึกซึ้งโดยแท้จริง" หลี่ชิงหยุนอดไม่ได้ที่จะชมเชย
สิ่งที่บรรพบุรุษตระกูลเสี่ยวพูดไว้นั้นไม่มีผิดอย่างแน่นอน ความมั่งคั่งเป็สิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับผู้ที่เคยยากไร้มาก่อน เมื่อพวกเขามีมากขึ้นความ้าก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น จนท้ายที่สุดคนผู้นั้นอาจจะหลงมัวเมาในอำนาจและโชคลาภจนจิตใจเริ่มเปลี่ยนไปเป็คนละคน...
จากนั้นทั้งสองเดินไปที่ทิศตะวันออกของคฤหาสน์อย่างช้าๆ
เสี่ยวฉินมองไปที่หลี่ชิงหยุนพร้อมนำทางเขาไปที่โรงตีดาบของตระกูลเสี่ยว "หลี่ชิงหยุน จ้าบอกว่าเ้า้าหาดาบเล่มใหม่ใช่หรือไม่?"
หลี่ชิงหยุนพยักหน้าเบาๆ "ดาบเล่มเก่าของข้านั้นทำจากวัสดุที่ไม่ค่อยดีนัก หากข้าต้องต่อสู้กับปรมาจารย์ระดับลมปราณฟ้า มันจะต้องถูกทำลายอย่างไม่ต้องสงสัย"
เมื่อหลี่ชิงหยุนพูดจบเขาก็หยิบดาบสีดำออกมา มีรอยแตกที่แทบจะมองไม่เห็นปรากฏบนใบดาบเล็กน้อย นี่เป็สัญญาณว่าดาบเล่มนี้ใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว
ดาบเล่มนี้หลี่หยุนเฟิงเป็คนหามาให้ั้แ่เขาอายุ 12 ปี อีกทั้งมันยังเป็แค่อาวุธระดับ 4 แน่นอนว่าตอนนี้ดาบเล่มนี้ไม่สามารถรับพลังฉีจากเขาได้อีกต่อไป
หลี่ชิงหยุนลูบดาบสีดำนี้อย่างอ่อนโยน แน่นอนว่าเขารู้สึกผูกพันธ์กับดาบเล่มนี้มาก แต่เขาไม่มีทางเลือก แม้ว่าเขาจะซ่อมดาบเล่มนี้ไป มันก็ไม่สามารถดีขึ้นไปมากกว่านี้อีกแล้ว
เสี่ยวฉินพยักหน้าเบาๆก่อนจะผายมือนำทาง "เอาล่ะ เข้าไปด้านในกันเถอะ"
ทั้งสองเดินมาจนถึงอาคารด้านหน้า หน้าร้านแห่งนี้เป็สถานที่สำหรับการเลือกวัสดุในการขึ้นโครงดาบที่ประกอบด้วยเหล็กและโลหะมีค่าหลากหลายชนิด และยิ่งเหล็กมีคุณภาพสูง ราคาก็จะยิ่งสูงลิ่วตามไปด้วย
ร้านขายอาวุธของตระกูลเสี่ยวมีทั้งแบบสำเร็จรูปและออกแบบสั่งทำส่วนตัว แต่ราคาของมันก็จะยิ่งสูงขึ้นหาก้าสั่งทำโดยผู้เชี่ยวชาญ
หลี่ชิงหยุน้าดาบที่เหมาะสมกับตัวเขาเอง ดังนั้นเขาจึงเื่มากเล็กน้อย
"พี่ใหญ่~" ทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามาในร้าน มีหญิงสาวตัวเล็กๆอายุประมาน 11 ขวบะโออกมาจากหลังร้านพร้อมเดินเข้าไปกอดแขนเสี่ยวฉินอย่างน่ารัก
สาวน้อยผู้นี้มีใบหน้าที่อวบอิ่ม ดวงตากลมโต อีกทั้งรูปหน้าได้รับการจัดวางเป็อย่างดี หากนางโตขึ้นนางจะกลายเป็สาวงามแห่งยุคอย่างแน่นอน
"หรงหรง อย่าเพิ่งรบกวนข้า ข้า้าพาสหายของข้าไปดูโลหะก่อน" เสี่ยวฉินจับมือของน้องสาวเขาไว้อย่างอ่อนโยน
"เอ๊ะ!? พี่ใหญ่มีสหายแล้วหรือ?" ด้วยความสงสัยสาวน้อยผู้นี้หันไปมองที่หลี่ชิงหยุนที่กำลังเดินตามหลังของเสี่ยวฉินเข้ามาในร้าน
"ว้าว... พี่สาวผู้นี้งดงามมาก" ปากเล็กๆของสาวน้อยเป็วงกลมเมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่งดงามของหลี่ชิงหยุน
แต่หลี่ชิงหยุนแทบจะสะดุดล้มหลังจากได้ยินสาวน้อยผู้นี้พูด
[พี่สาว!? ให้ตายเถอะ! ครอบครัวของเ้าเป็พี่สาว!]
หลี่ชิงหยุนสำลักเบาๆและตอบอย่างตะกุกตะกักด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก "อะแฮ่มๆ สาวน้อย ข้าไม่ใช่ผู้หญิง แต่ข้าเป็ผู้ชาย"
ด้วยหน้าตาที่บอบบางเกินกว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ของหลี่ชิงหยุน หากผู้ใดมองจากที่ไกลๆแน่นอนว่าอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็ผู้หญิงได้ สิ่งเดียวที่แตกต่างคือเขารวบผมไว้สูงและปล่อยปอยผมไว้เล็กน้อย หากหลี่ชิงหยุนปล่อยผมยาวลงมาจริงๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะดูงดงามยิ่งกว่านาหลันเสี่ยวฉีเสียอีก
"หืม? ไม่ใช่พี่สาวหรอกหรือ? ว้า~ น่าเสียดายจัง" สาวน้อยถอนหายใจอย่างไร้เดียงสา
เส้นสีดำปรากฏขึ้นใบหน้าของหลี่ชิงหยุนในทันที
"ฮ่าๆๆๆ หรงหรงเ้าซุกซนเกินไปแล้ว" เสี่ยวฉินหัวเราะเสียงดังและลูบหัวของเสี่ยวหรงหรงอย่างอ่อนโยน
"พี่ใหญ่ วันนี้ท่านว่างมาเล่นกับข้าหรือไม่?" เสี่ยวหรงหรงถามด้วยเสียงที่ไร้เดียงสา
"ตอนนี้ยังไม่ได้ ข้าจะไปช่วยหลี่ชิงหยุนเลือกโลหะก่อน" เสี่ยวฉินส่ายหน้าเบาๆ
"ฮึ่ม! พี่ใหญ่ใจร้าย" เสี่ยวหรงหรงทำหน้ามุ่ยและวิ่งหนีไปหลังร้านอย่างอารมณ์เสีย
"สาวน้อยผู้นี้ช่างน่ารักจริงๆ" หลี่ชิงหยุนชอบบุคลิกที่ตรงไปตรงมาของสาวน้อยผู้นี้มาก
"นั่นคือน้องสาวคนเล็กของข้าเสี่ยวหรงหรง แม้นว่านางจะดูน่ารักแต่นางก็ไร้เดียงสาเกินไป" เสี่ยวฉินหัวเราะเบาๆพร้อมกับเดินไปที่ชั้นเลือกโลหะสำหรับขึ้นโครงดาบ
ระหว่างเดินไปที่ชั้นเลือกโลหะ ทันใดนั้นหลี่ชิงหยุนก็อธิบายเกี่ยวกับโครงสร้างคร่าวๆของดาบที่เขา้าให้แก่เสี่ยวฉินได้ฟัง ก่อนที่เขาจะกล่าวถาม "ที่นี่เคยสร้างดาบรูปแบบนี้มาก่อนหรือไม่?"
เสี่ยวฉินขมวดคิ้วที่ได้ยินรูปแบบตามคำอธิบายของเขา "พูดตามตรง ตระกูลเสี่ยวไม่เคยตีดาบที่มีลักษณะเช่นนี้เลย เ้าสามารถร่างภาพให้ข้าดูได้หรือไม่?"
ดาบที่หลี่ชิงหยุน้านั้นแปลกมาก มันคล้ายคลึงกับการผสมผสานระหว่างกระบี่และดาบอ่อน เสี่ยวฉินไม่สามารถนึกภาพตามได้เลย เพราะเขาเองก็ไม่เคยเห็นดาบรูปร่างเช่นนี้มาก่อนจริงๆ
หลี่ชิงหยุนพยักหน้าพร้อมกับหยิบม้วนคัมภีร์สีเหลืองขึ้นมา ในม้วนคัมภีร์สีเหลืองนี้ปรากฏภาพพิมพ์เขียวของดาบที่เขา้า มีวิธีการตีขึ้นรูปโครงดาบ ใบดาบ การสร้างด้ามจับและปลอกดาบ อีกทั้งเขายังระบุการใช้ความร้อนและจำนวนครั้งในการตีขึ้นรูปดาบออกมาเป็ตัวเลข ที่น่าแปลกใจคือรายละเอียดในดาบของหลี่ชิงหยุนนั้นเยอะมาก แม้แต่ขั้นตอนการเผาและกำจัดสิ่งเจือปนเขายังบอกจำนวนครั้งไว้ด้วย และเพื่อให้ดาบออกมาสมดุลมากที่สุดหลี่ชิงหยุนจึงจดทุกรายละเอียดที่เขา้าไว้ทั้งหมด
แน่นอนว่ามีเพียงใบดาบเท่านั้นที่เขาไม่ได้ระบุวัสดุไว้ ในความเป็จริงเขาเชื่อว่าการใช้เหล็กอุกกาบาตสำหรับใบดาบนั้นเป็สิ่งที่ดีที่สุดไม่ต้องสงสัย
เสี่ยวฉินที่ได้อ่านม้วนคัมภีร์ที่หลี่ชิงหยุนส่งมาก็อ้าปากค้าง "นะ-นี่มันดาบประเภทใดกัน? มันจะไม่จู้จี้จุกจิกเกินไปหน่อยหรือ?"
ปลายดาบ คมดาบ สันดาบ ปลอกดาบ ด้ามดาบ ฐานดาบ พู่ดาบ และโกร่งดาบมีวิธีการต่างๆอธิบายไว้อย่างละเอียดยิบย่อย เสี่ยวฉินเหงื่อแตกพลั่กทันทีที่เขาอ่านรายละเอียดในแค่ละขั้นตอน 'บ้าจริง เพื่อนคนนี้จะพิถีพิถันเกินไปหน่อยหรือไม่?'
เสี่ยวฉินถอนหายใจและหันไปคุยกับหลี่ชิงหยุน "ขออภัย ข้าไม่มีความรู้ทางด้านนี้เพียงพอ บางทีท่านลุงของข้าอาจจะช่วยเ้าได้"
"ท่านลุง?" หลี่ชิงหยุนพึมพำ
เสี่ยวฉินพยักหน้า "ถูกต้อง ท่านลุงเป็ช่างตีดาบและช่างตีกระบี่ที่มีชื่อเสียงที่สุด อาวุธของหัวหน้าตระกูลขุนนางและราชวงศ์มาจากท่านลุงของข้าเช่นกัน บางทีท่านลุงอาจจะตอบสนองความ้าของเ้าได้"
ที่เสี่ยวฉินเสนอแนะวิธีการนี้ก็เป็เพราะรายละเอียดที่หลี่ชิงหยุน้าในม้วนคัมภีร์ที่เขาได้อ่านนั้นละเอียดอ่อนเกินกว่าช่างธรรมดาจะเข้าใจได้
มีเพียงแค่ลุงของเสี่ยวฉินที่เป็มืออาชีพในสายงานนี้เท่านั้นที่จะทำได้
หลี่ชิงหยุนพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาจึงเดินไปเลือกโลหะสำหรับดาบ หน้าร้านมีโลหะให้เลือกหลากหลายระดับมาก แต่เขา้าโลหะที่คุณภาพดีที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะเดินไปที่ด้านหลังสุดที่มีราคาแพง
ผ่านไปห้านาทีแม้ว่าเขาจะเดินไปทั่วแล้ว แต่เขากลับไม่สามารถหาวัสดุที่เหมาะสมสำหรับใบดาบได้เลย
จู่ๆหลี่ชิงหยุนหันไปพูดกับเสี่ยวฉิน "เสี่ยวฉิน มีโลหะชนิดอื่นที่ไม่ได้นำออกมาวางขายหรือไม่?"
"เอ๊ะ! ที่นี่ไม่มีอะไรถูกใจเ้าเลยงั้นหรือ?" เสี่ยวฉินแทบจะตาถลน ด้านในสุดนี้เป็เหล็กที่มีคุณภาพที่สูงที่สุดอีกทั้งยังเป็วัสดุที่ใช้ทำอาวุธสำหรับหัวหน้าตระกูลขุนนางด้วยซ้ำ แต่หลี่ชิงหยุนกลับบอกว่ามันไม่ตอบสนองความ้าของเขา
หลี่ชิงหยุนพยักหน้าอย่างไม่คาดคิด
"เช่นนั้น...ตามข้ามาหลังร้าน" เสี่ยวฉินส่ายหัวอย่างหมดหนทาง พร้อมนำทางหลี่ชิงหยุนไปที่หลังร้านซึ่งเป็ที่ที่เก็บวัสดุที่ไม่ได้นำออกมาวางขาย
หลังร้านแห่งนี้มีแท่งเหล็กและโลหะหลายชนิดที่ยังไม่ผ่านการตีขึ้นรูปวางอยู่รอบๆ แน่นอนว่าส่วนใหญ่สิ่งที่อยู่ด้านหลังนี้จะเป็โลหะที่ไม่สามารถตีขึ้นรูปได้ด้วยวิธีปกติแม้ว่าจะใช้ทุกวิธีการแล้วก็ตาม
เมื่อเดินผ่านไปได้ไม่นานดวงตาของหลี่ชิงหยุนก็สะดุดเข้ากับโลหะขนาดใหญ่แท่งหนึ่ง โลหะนี้มีสีดำมนและแทบไม่มีสิ่งเจือปนใดๆปรากฏบนโลหะเลย
เสี่ยวฉินเองก็สังเกตุเห็นสายตาของหลี่ชิงหยุน จากนั้นเขาก็ส่ายหัวอย่างขมขื่น "นี่คือโลหะที่ตระกูลเสี่ยวได้รับมาโดยบังเอิญ เพียงแต่ว่าไม่มีใครสามารถขึ้นรูปโลหะนี้ได้เลยแม้แต่คนเดียว แม้แต่การนำไปเผาไฟก็ยังไม่สามารถหลอมโลหะชนิดนี้ได้ แต่ท่านลุงคิดว่ามันต้องมีค่าอย่างมาก ดังนั้นท่านจึงเก็บมันไว้ที่นี่"
หลี่ชิงหยุนแทบจะยิ้มแฉ่งทันทีที่เห็นโลหะชนิดนี้ "ลุงของเ้าเข้าใจได้ถูกต้อง สิ่งนี้มีค่ามากกว่าโลหะในร้านทั้งหมดอย่างแน่นอน นี่คือโลหะหยินใต้พิภพระดับสูง สิ่งนี้ไม่เคยปรากฏขึ้นในอาณาจักรเซวียนมาก่อน!"
"เอ๊ะ! เ้ารู้จักโลหะชนิดนี้ด้วยหรือ?" เสี่ยวฉินอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เขาอย่างมึนงง
หลี่ชิงหยุนพยักหน้าเบาๆ "โลหะชนิดนี้มีเงื่อนไขพิเศษสำหรับขึ้นรูป มันไม่สามารถถูกหลอมละลายด้วยไฟธรรมดาได้"
"แล้วเราจะตีขึ้นรูปและหลอมมันได้อย่างไร?" เสี่ยวฉินถามอย่างฉงน
หลี่ชิงหยุนอธิบายอย่างใจเย็น "ตามชื่อของมัน สิ่งนี้เกิดจากดาวหางที่ฝังลึกลงไปใต้ดินและอุดมไปด้วยพลังหยินรอบๆโลหะจนกลายเป็โลหะธาตุหยิน วิธีการเปลี่ยนรูปร่างของมันนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับความร้อน แต่เป็ความหนาวเย็น! มีเพียงแต่ต้องใช้ความหนาวเย็นเท่านั้นถึงจะตีขึ้นรูปมันได้"
ห้องสมุดของเจดีย์ปฐมกาลนั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็คลังเก็บความรู้ขนาดใหญ่ โลหะชนิดนี้เขาเคยอ่านเจอในเจดีย์ปฐมกาลเมื่อไม่กี่วันก่อน แน่นอนว่าหนังสือในห้องสมุดมีการอธิบายที่มาโดยละเอียดไว้อย่างสมบูรณ์
"จะ-เ้า...เ้าแน่ใจหรือว่าโลหะชนิดนี้สามารถตีขึ้นรูปได้ด้วยความหนาวเย็น?" แม้แต่เสี่ยวฉินเองก็ไม่อยากจะเชื่อ เป็ไปได้อย่างไรที่โลหะจะไม่ถูกหลอมด้วยเปลวไฟแต่กลับเป็ความหนาวเย็นแทน
หลี่ชิงหยุนพยักหน้าอย่างจริงจัง จากนั้นเขาหยิบม้วนคัมภีร์เปล่าขึ้นมา และคัดลอกชื่อและรายละเอียดของโลหะชนิดนี้ออกมาเป็ข้อมูลลายลักษณ์อักษร จากนั้นเขายื่นมันให้กับเสี่ยวฉินโดยตรง
เสี่ยวฉินที่กำลังสงสัยก็รับม้วนคัมภีร์มาอ่านโดยทันที
วินาทีต่อมาเขาก็อ้าปากค้าง เพราะสิ่งที่อยู่ในม้วนคัมภีร์คือรายละเอียดทั้งหมดที่อธิบายถึงโลหะที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขา
เสี่ยวฉินไม่คาดคิดว่าความรู้ของหลี่ชิงหยุนจะมากมายเช่นนี้ แม้แต่ลุงของเขาก็ยังไม่สามารถบอกวิธีการโดยละเอียดเช่นนี้ได้
"หลี่ชิงหยุน เ้ารอสักครู่ ข้าจะไปหาท่านลุงเดี๋ยวนี้" เสี่ยวฉินวิ่งออกไปด้านหลังพร้อมกับม้วนคัมภีร์ในมือ เื่นี้เป็เื่สำคัญมาก ลุงของเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลอมโลหะชนิดนี้จนเขารู้สึกหงุดหงิดและตัดใจไปนานแล้ว
แต่ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว เขาเชื่อว่าลุงของเขาจะสนใจงานชิ้นนี้อย่างแน่นอน
ผ่านไปไม่นานมีชายวัยกลางคนที่มีร่างกายสูงใหญ่เดินเข้ามาหาหลี่ชิงหยุนด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้น ด้านหลังของเขาคือเสี่ยวฉินที่กำลังเดินตามมาติดๆ
"หนุ่มน้อย สิ่งที่เ้าอธิบายไว้ในม้วนคัมภีร์นี้เป็เื่จริงหรือไม่?" ชายวัยกลางคนผู้นี้คือนักตีดาบที่มีชื่อเสียงที่สุดในราชวงศ์โม่ เสี่ยวหลาง และทันทีที่เขามาถึงเขาไม่จำเป็ต้องตีรอบพุ่มไม้และเข้าเื่หลักโดยตรง
หลี่ชิงหยุนก้มหน้าตอบอย่างสุภาพ "สิ่งที่ข้าเขียนลงในม้วนคัมภีร์เป็เื่จริง ท่านสามารถลองดูได้ เพียงแค่ให้ผู้ฝึกตนที่มีพลังหยินมาทำสิ่งนี้ด้วยตัวเอง"
"เอาล่ะ ข้าจะลองดู" แม้จะสงสัยเล็กน้อย แต่เสี่ยวหลางก็ได้เรียกรวมพลผู้ที่บ่มเพาะพลังหยินเพื่อดัดแปลงรูปลักษณ์ของโลหะใต้พิภพระดับสูง
จากนั้นไม่นานสมาชิกกว่าสิบคนของตระกูลเสี่ยวได้ทำการทดลองร่วมกัน แน่นอนว่าสิ่งที่หลี่ชิงหยุนพูดนั้นเป็ความจริง พลังหยินฉีสามารถทำให้รูปร่างของโลหะชนิดนี้เปลี่ยนไปได้จริงๆ!
เสี่ยวหลางะเิเสียงหัวเราะในทันที "หนุ่มน้อย เ้าคือโชคลาภของข้าจริงๆ ฮ่าๆๆๆ! ข้าใช้หลากหลายวิธีในการเปลี่ยนรูปร่างของมัน แต่ข้ากลับไม่สามารถทำอะไรกับโลหะชนิดนี้ได้เลย—"
"หนุ่มน้อย เ้าต้องใช้สิ่งนี้ในการสร้างดาบใหม่ของเ้าหรือไม่?" เสี่ยวหลางมองไปที่หลี่ชิงหยุนอย่างตื่นเต้น
หลี่ชิงหยุนพยักหน้าอย่างยิ้มแย้ม จากนั้นเขายื่นพิมพ์เขียวก่อนหน้านี้ให้กับเสี่ยวหลาง "ถูกต้อง นี่คือรูปลักษณ์และรูปแบบดาบที่ข้า้า"
เสี่ยวหลางรีบหยิบม้วนคัมภีร์สีเหลืองขึ้นมาอ่าน ไม่นานเขาก็อ้าปากค้างจนกรามของเขาแทบจะหล่นลงพื้น "นะ-นี่...วิธีการเช่นนี้มัน—"
"นี่คือองค์ความรู้ของเทพแห่งการตีดาบชัดๆ! ข้าเทียบชั้นกับเขาไม่ติดเลย!" เสี่ยวหลางกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แต่มีความหดหู่เล็กน้อยในน้ำเสียงนั้น
"อะไร!?" สมาชิกตระกูลเสี่ยวทุกคนอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อ แม้แต่เสี่ยวหลางที่มีชื่อเสียงด้านการตีดาบแห่งอาณาจักรเซวียนยังต้องยอมแพ้ต่อผู้ที่เขียนโครงร่างของดาบเล่มนี้จริงๆหรือ?
"ผู้าุโ ท่านช่วยข้าได้หรือไม่? แน่นอนว่าข้าย่อมมีสิ่งของตอบแทน" หลี่ชิงหยุนพูดขึ้นมาอย่างกะทันหันเมื่อมองไปที่ใบหน้าที่ตื่นเต้นของเสี่ยวหลาง
"โอ้? เ้าจะตอบแทนข้าอย่างไร?" เสี่ยวหลางถามด้วยแววตาที่เป็ประกาย
เขารู้ดีว่าดาบเล่มนี้ต้องใช้ระยะเวลาและใช้ความละเอียดอ่อนมากเพียงใดในการสร้างมันขึ้นมา แค่เงินเพียงอย่างเดียวไม่คุ้มค่ากับเวลาและโลหะที่สูญเสียไปอย่างแน่นอน
หลี่ชิงหยุนยิ้มอย่างรู้ทัน พร้อมกับหยิบหนังสือทักษะส่งให้เสี่ยวหลางโดยไม่พูดอะไร
เสี่ยวหลางมองไปที่หนังสือในมือของหลี่ชิงหยุนอย่างสงสัย จากนั้นเขาจึงหยิบมันขึ้นมาอ่านทันที
หลังจากอ่านไปได้เพียงแค่ห้าลมหายใจ เสี่ยวหลางก็มีใบหน้าเป็สีแดงจากความตื่นเต้น จากนั้นเขาก็หันหลังไปยังสมาชิกของตระกูลเสี่ยวพร้อมกับะโออกมาเสียงดังอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย "รวมพล! พวกเราจะเริ่มตีขึ้นรูปโครงดาบกันเดี๋ยวนี้!"
"ห๊ะ!?" สมาชิกทุกคนอุทานออกมาพร้อมกัน พวกเขาไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเหตุใดเสี่ยวหลางถึงได้ตื่นเต้นเช่นนี้
แม้แต่เสี่ยวฉินก็ยังอ้าปากค้างอย่างมึนงง
ในโลกนี้มีไม่มากนักที่จะทำให้ลุงของเขาสนใจและตื่นเต้นได้ถึงเพียงนี้ มีก็เพียงแต่สิ่งที่เกี่ยวข้องกับการตีดาบเท่านั้น
แน่นอนว่าสิ่งที่เสี่ยวฉินคาดเดานั้นถูกต้อง หนังสือที่หลี่ชิงหยุนส่งมอบให้เสี่ยวหลางนั้นเป็ทักษะระดับสูงสำหรับนักตีดาบและนักตีกระบี่ อีกทั้งยังเป็ข้อมูลที่ไม่เคยปรากฏในอาณาจักรเซวียนมาก่อน
"ฉินเอ๋อร์ พาแขกไปพักผ่อนก่อน ข้าจะเริ่มงานทันที" เสี่ยวหลางตัดสินใจทิ้งงานก่อนหน้านี้ทั้งหมดเพื่อสร้างดาบให้กับหลี่ชิงหยุนโดยเฉพาะ เขาแทบจะรอไม่ไหวที่จะสร้างสุดยอดดาบเล่มนี้ขึ้นมา
"ขอบคุณมากผู้าุโ" หลี่ชิงหยุนก้มหน้าคำนับขอบคุณเสี่ยวหลางโดยตรง
ต้องบอกว่าเสี่ยวหลางนั้นมีลักษณะนิสัยที่ซื่อตรงมาก หลี่ชิงหยุนรู้สึกชื่นชอบคนประเภทนี้
"เอาล่ะ หลี่ชิงหยุนไปที่ลานบ้านของข้ากันเถอะ ข้า้าประลองฝีมือกับเ้าใจจะขาดแล้ว" เสี่ยวฉินบอกลาเสี่ยวหลางและ้าจะนำทางหลี่ชิงหยุนไปที่ลานบ้านของเขาในทันที
"ฮี่ๆๆ ข้าเองก็เช่นกัน" หลี่ชิงหยุนหัวเราะอย่างตั้งตารอ เขาเดินตามเสี่ยวฉินไปจนถึงลานฝึกซ้อมขนาดใหญ่
ที่พักของเสี่ยวฉินนั้นเล็กมาก และแทบจะไม่มีอะไรพิเศษเลยนอกจากลานฝึกซ้อมขนาดใหญ่ ข้างๆสนามมีกล่องสำหรับเก็บอาวุธทุกชนิดไว้ใช้เพื่อฝึกฝน
"หลี่ชิงหยุน พวกเรามาแลกเปลี่ยนคำแนะนำกัน กฎก็คือห้ามใช้พลังฉีและจะใช้ได้เพียงแค่การเคลื่อนไหวทางกายภาพเท่านั้น" เมื่อกล่าวจบเสี่ยวฉินโยนดาบเล่มหนึ่งให้กับหลี่ชิงหยุน นี่เป็ดาบพื้นฐานของตระกูลเสี่ยวที่ใช้ในการฝึกซ้อม
หลี่ชิงหยุนพยักหน้าและรับดาบจากเสี่ยวฉิน จากนั้นเขาดึงดาบออกมาจากฝักเพื่อเตรียมที่จะแลกเปลี่ยนคำแนะนำกับเสี่ยวฉินในทันที