หลังจากเกิดเหตุการณ์ของหานอวิ๋นซี โรงน้ำชาเทียนเซียงก็ปิดประตูไว้ คนข้างนอกเข้าไม่ได้ คนข้างในก็ออกไม่ได้เช่นกัน
ทันทีที่หลงเฟยเยี่ยมาถึง มู่ชิงอู่ก็รีบเข้าไปทักทายเขา
มู่ชิงอู่ไม่พบเบาะแสั้แ่บ่ายวานนี้จนถึงเที่ยงวันนี้ เขาไม่มีหน้าจะกลับมาจริงๆ อย่างไรก็ตามฉินอ๋องมาถึงแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องกลับมา
ทันทีที่เข้ามาในประตู มู่ชิงอู่ก็คุกเข่าลงทันที “กระหม่อมทำหน้าที่ปกป้องหวังเฟยไม่ดีพอ กระหม่อมสมควรตาย!”
“หากเ้ามาที่นี่เพื่อสารภาพผิดกับข้า ข้าก็จะปะาเ้าเดี๋ยวนี้!” หลงเฟยเยี่ยพูดอย่างไม่เกรงใจ
สารภาพตอนนี้ จะไปมีประโยชน์อะไรกัน?
มู่ชิงอู่เข้าใจ เพียงแต่เขารู้สึกเสียใจจริงๆ
“สรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้น?” หลงเฟยเยี่ยพูดอย่างเ็า สิ่งที่เขาได้ยินจากแม่ทัพมู่และคนรับใช้ของโรงน้ำชาเทียนเซียงนั้นไม่สมบูรณ์ มีเพียงมู่ชิงอู่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่รู้ดีที่สุดว่าเกิดอะไรขึ้น
มู่ชิงอู่รายงานหลงเฟยเยี่ยถึงเหตุผลที่พวกเขามาที่โรงน้ำชาเทียนเซียงและสิ่งที่เกิดขึ้นโดยละเอียด รวมถึงความสงสัยเกี่ยวกับหานรั่วเสวี่ยคุณหนูรองของตระกูลหานด้วย
“ในเมื่อการสืบสวนชัดเจนแล้ว ทำไมเ้ายังไปที่เขาหนานซานล่ะ?” หลงเฟยเยี่ยไม่เข้าใจ
“หวังเฟยบอกว่านาง้าไปเก็บหนานซานหงกลับไปพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดเื่แบบนี้ขึ้น” มู่ชิงอู่สำนึกผิด หากรู้ว่าเป็เช่นนี้ั้แ่แรก เขาคงมาที่นี่คนเดียว
หานอวิ๋นซีชอบดื่มหนานซานหงด้วยอย่างนั้นหรือ?
แววตาของหลงเฟยเยี่ยฉายแววสับสน และถามอีกครั้งว่า “พวกเ้าใช้เวลานานแค่ไหนจากลานซินหยู่ไปถึงเขาหนานซาน?”
มีผู้คนจำนวนมากซุ่มโจมตีที่ฝั่งหนานซาน ต้องมีใครบางคนที่ซุ่มโจมตีรู้ว่าหานอวิ๋นซีจะไปที่นั่น คำถามนี้ของหลงเฟยเยี่ย แน่นอนว่าเขากำลังสงสัยว่ามีสายลับอยู่ในโรงน้ำชาเทียนเซียง
“ถนนบนูเาเดินทางยากลำบาก ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามพ่ะย่ะค่ะ” มู่ชิงอู่ตอบตามความเป็จริง
น้อยกว่าครึ่งชั่วยาม เวลานี้ไม่ได้สั้นเกินไป เพียงพอที่นักฆ่าจะทำการซุ่มโจมตี
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือนักฆ่าจำนวนมากเข้ามาในโรงน้ำชาเทียนเซียงได้อย่างไร ต้องรู้ว่าโรงน้ำชาเทียนเซียงไม่ใช่โรงน้ำชาธรรมดา ผู้คนที่มาที่นี่ล้วนเป็ผู้ที่มีอำนาจและมีอิทธิพลของเมืองหลวง การรักษาความปลอดภัยของที่นี่ก็เข้มงวดมาโดยตลอด
ในขณะเดียวกัน ซ่างกวนก็รีบเข้ามา
ไม่ว่าจะทำอย่างไรซ่างกวนก็หาเ้าของโรงน้ำชาไม่เจอ เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะติดต่อไปแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย
เ้าของโรงน้ำชามีตำหนักบนูเาทางทิศตะวันตกของโรงน้ำชาเทียนเซียง เวลาที่มาที่นี่ก็จะอาศัยอยู่ที่นั่นเสียส่วนใหญ่ แม้ว่าเ้าของจะไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก แต่เขาก็อาศัยอยู่ในโรงน้ำชาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
โดยพื้นฐานแล้วเ้าของไม่ได้สนใจกิจการของโรงน้ำชา และเป็ซ่างกวนที่คอยจัดการกิจการ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ซ่างกวนเองก็ทำอะไรไม่ถูกและไม่สามารถรับมือกับเื่ใหญ่เช่นนี้ได้
ฉินอ๋องมาถึงแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากเ้าของโรงน้ำชา ดังนั้นซ่างกวนจึงได้แต่กัดฟันและเข้ามาพบ
ทันทีที่เข้าประตู ก็เห็นหลงเฟยเยี่ยผู้สูงส่งนั่งอยู่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเ็าราวกับเทพเ้าที่ดุร้าย เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาลและรีบคุกเข่าลง “ซ่างกวนถวายบังคมฉินอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”
“ซ่างกวน ข้าจำได้ว่าเ้าไม่ใช่เ้าของ” หลงเฟยเยี่ยพูดอย่างเ็า เขาชอบหนานซานหงจากโรงน้ำชาเทียนเซียง และซ่างกวนก็มอบมันให้เป็ส่วยในนามเ้าของหลายครั้ง
“ทูลฉินอ๋อง กระหม่อมเองก็กำลังตามหาหัวหน้าเช่นกัน ตำแหน่งที่อยู่ของหัวหน้านั้นไม่อาจคาดเดาได้ กระหม่อมพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะติดต่อ และตามหาอย่างละเอียดถี่ถ้วน” ซ่างกวนรายงานตามความเป็จริง
“เ้าหาเ้าของไม่เจอหรือ?” หลงเฟยเยี่ยเลิกคิ้วและถาม
คำพูดนี้มีความหมายมากจนซ่างกวนใและรีบแสดงจุดยืนของเขา “ท่านอ๋อง กระหม่อมสามารถเป็ตัวแทนของหัวหน้าได้และให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับการสอบสวนเื่นี้ องครักษ์ทั้งหมดของโรงน้ำชาเข้าไปในูเาเพื่อค้นหาผู้ที่เกี่ยวข้องกับเื่นี้ เมื่อวานนี้สาวชงชา คนเสิร์ฟชา และปรมาจารย์ด้านชาทั้งสองคน รวมถึงองครักษ์ทั้งหมดในเขาหนานซานล้วนถูกคุมขังเพื่อรอการสอบสวนของฉินอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”
คนฉลาดอย่างซ่างกวน คิดไว้อยู่แล้วว่าฉินอ๋องต้องสงสัยโรงน้ำชาเทียนเซียง ความเป็จริงแล้ว เมื่อวานนี้เขานอนไม่หลับและคิดเกี่ยวกับเื่นี้ทั้งคืน และสงสัยเช่นกันว่ามีสายลับอยู่ในโรงน้ำชา มิฉะนั้น นักฆ่ากลุ่มใหญ่ขนาดนั้น คงไม่สามารถซุ่มเงียบอยู่บนไหล่เขาของเขาหนานซานได้
หลงเฟยเยี่ยที่ดูเหมือนจะพอใจกับคำตอบของซ่างกวน เขาก็ลุกขึ้นยืนและพูดอย่างเ็าว่า “สอบสวน”
ูเาถูกปิดตายทั้งหมด ไม่ว่าอย่างไรนักฆ่าก็ไม่สามารถหลบหนีจากบริเวณนี้ได้ หลงเฟยเยี่ยกำลังค้นหาูเาอย่างลับๆ พลางรอให้อีกฝ่ายเสนอเงื่อนไขออกมา
จะจับตัวประกันก็ต้องขออะไรสักอย่าง เขาไม่กลัวสิ่งอื่น แต่เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เคลื่อนไหว และไม่ร้องขอใดๆ ตราบใดที่อีกฝ่ายเคลื่อนไหวและขออะไรบางอย่าง เขาจะหาหานอวิ๋นซีเจออย่างแน่นอน
แน่นอน ถ้าพวกเขาสามารถหาสายลับของโรงน้ำชาเทียนเซียงได้ ข้อได้เปรียบของพวกเขาก็จะมากขึ้น อย่างไรก็ตามยิ่งเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี ยิ่งล่าช้านานขึ้น หานอวิ๋นซีก็ยิ่งต้องทนทุกข์ทรมานมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อได้ยินว่าหลงเฟยเยี่ยพูดว่าจะมีการสอบปากคำ ซ่างกวนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไม่กล้าที่จะรอช้าและรีบเดินนำไป
“ท่านอ๋อง นอกจากปรมาจารย์ชาและองครักษ์ในเขาหนานซานที่ถูกขังไว้ด้วยกันแล้ว คนอื่นๆ ก็ถูกขังแยกเดี่ยว เด็กชงชาสองคนและสาวชงชาหนึ่งคนในลานซินหยู่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเขาหนานซาน” ซ่างกวนที่รีบเดินไปพลาง ก็พูดกระซิบไปพลาง
ความจริงแล้ว ไม่เพียงแต่เด็กชงชาและสาวชงชาในลานซินหยู่เท่านั้นที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเขาหนานซาน นอกจากคนทางฝั่งเขาหนานซานแล้ว คนอื่นๆ ในโรงน้ำชาเทียนเซียงเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน
ซ่างกวนยังคงทำหน้าที่เก็บรักษาความลับได้ดี การที่เขาทำเช่นนี้เป็ประโยชน์อย่างมากสำหรับการสอบสวน
หลงเฟยเยี่ยตอบกลับไปว่า “อืม” เบาๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเขายังคงเ็า เครื่องหน้าทั้งหมดดูนิ่งสงบ ทำให้ผู้คนต่างสงสัยว่าชายผู้นี้มีสีหน้าอย่างไร
ซ่างกวนแอบชำเลืองมองหลงเฟยเยี่ยเล็กน้อย รออยู่นาน เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้พูดอะไรจึงถามอย่างหวาดกลัวว่า “ท่านอ๋อง้าจะสอบสวนใครก่อนดีพ่ะย่ะค่ะ?”
“คนจากลานซินหยู่” หลงเฟยเยี่ยตอบตรงๆ โดยไม่ต้องคิด
ทันทีที่หลงเฟยเยี่ยมาถึงห้องสอบสวน เด็กชงชาสองคนก็ถูกนำตัวมา พวกเขาเป็เชายหนุ่มอายุเพียงสิบปีเท่านั้น และร้องไห้มาตลอดทาง
ทันทีที่เข้ามาและเห็นสถานการณ์ภายในห้อง เด็กทั้งสองก็ใกลัวทันทีและอดไม่ได้ที่จะร้องไห้เสียงดัง
“อย่าร้องไห้!” ซ่างกวนพูดด้วยความโกรธ
อย่างไรก็ตาม เด็กทั้งสองนอกจากจะไม่หยุดร้อง แต่กลับร้องดังขึ้นและกอดกันกลมอีกด้วย
ซ่างกวนเหงื่อแตกพลั่ก อันที่จริงตามความเข้าใจของเขา เด็กสองคนนี้คงไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่อะไร อย่างไรก็ตาม เื่นี้เสี่ยงเกินไป ฉินอ๋องยังไม่ได้สอบสวน ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าพูดเื่ไร้สาระ
เขาแอบชำเลืองมองฉินอ๋อง เมื่อเห็นว่าฉินอ๋องยังคงสงบ เขาจึงทำได้เพียงดึงเด็กทั้งสองออกไปและสั่งให้คนปิดปากพวกเขา
ทันทีที่เสียงร้องไห้หยุดลง ห้องก็เงียบลงในที่สุด
“อย่าร้องไห้ แค่ถามคำถามไม่กี่ข้อ แล้วก็ตอบตามความเป็จริง มิฉะนั้นพวกเ้าจะต้องทนทุกข์!” ซ่างกวนพูดเตือน
ใครจะรู้ จู่ๆ หลงเฟยเยี่ยก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า “ไม่มีอะไรจะถาม ถ้าไม่สารภาพละก็ ลากพวกเขาออกไปฝังเสีย”
ทันทีที่พูดออกมา ใบหน้าของเด็กทั้งสองก็ซีดเผือดด้วยความใ ในตอนแรกพวกเขาแค่ร้องไห้ แต่ตอนนี้พวกเขาดิ้นอย่างรุนแรง
ซ่างกวนปล่อยมือจากปากของเด็กน้อยคนหนึ่ง ใครจะรู้ว่าเด็กน้อยคนนี้จะะโว่า “ฮือฮือ...ข้าจะสารภาพ! ข้าจะสารภาพ!”
สารภาพ?
อยู่ๆ ก็้าสารภาพหรือ?
การลักพาตัวฉินหวังเฟยบนเขาหนานซานไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน เด็กคนนี้รู้อะไรกัน? จะสารภาพอะไร? เป็ไปได้หรือไม่ว่าเขาเป็สายลับจริงๆ
ซ่างกวนและมู่ชิงอู่มองหน้ากันด้วยความไม่เชื่อ
หลงเฟยเยี่ยเองก็ยังรู้สึกงงงวยเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ทันใดนั้น เด็กน้อยก็ร้องออกมาว่า “ข้าสารภาพแล้ว! ข้าจะสารภาพ! พี่หญิงปี้ลวี่หักหลังคุณหนูใหญ่มู่...ฮือฮือ…พี่หญิงปี้ลวี่ไม่ทำตามกฎ พวกเราไม่รู้อะไรทั้งนั้น ฮือฮือฮือ…”
นี้มัน…
ซ่างกวนตบหน้าผากตนเองอย่างสับสน แต่หลงเฟยเยี่ยและมู่ชิงอู่กลับเข้าใจทันที
ปี้ลวี่สาวชงชาในลานซินหยวนฝ่าฝืนกฎตอบคำถามมากมายจากมู่ชิงอู่และหานอวิ๋นซี เด็กชงชาที่อยู่ข้างๆ ได้ยิน เลยคิดว่าพวกเขากำลังสอบสวนเื่นี้
หลงเฟยเยี่ยที่มือข้างหนึ่งนวดหัวคิ้ว ส่วนอีกข้างก็โบกมือโดยไม่พูดอะไร ส่งสัญญาณให้ซ่างกวนพาพวกเขาออกไป
ซ่างกวนที่รู้สึกงุนงง มู่ชิงอู่ก็รีบเข้ามาอธิบาย แก้มัดเด็กชงชาทั้งสองคน แล้วพูดเสียงเบาว่า “พาพวกเขาออกไป ปลอบพวกเขาดีๆ ด้วยล่ะ แล้วก็พาสาวชงชามาที่นี่”
หลังจากได้ยินคำอธิบาย ในที่สุดซ่างกวนก็เข้าใจ ส่วนเหตุใดมู่ชิงอู่และหานอวิ๋นซีจึงมาตรวจสอบมู่หลิวเยวี่ยนั้น แม้ว่าเขาจะอยากรู้ แต่ก็ไม่กล้าถามคำถามเพิ่มเติมและรีบพาคนออกไป
ทันทีที่สาวชงชาปี้ลวี่ถูกพาตัวออกจากห้องขัง นางก็ตัวสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้ ใจสับสนวุ่นวาย ไม่รู้ว่าที่เขาหนานซานเกิดเื่อะไรขึ้น และไม่รู้ว่าทำไมซ่างกวนต้องขังนาง
เมื่อวานนี้หลังจากดูแลหวังเฟยและแม่ทัพใหญ่เสร็จ นางก็พักผ่อน เดิม้าจะไปทิ้งกระป๋องชาอย่างลับๆ แต่ใครจะรู้ ก่อนที่นางจะได้ลงมือ ก็ได้ยินว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่เขาหนานซานและทางเข้าของโรงน้ำชาก็ถูกปิดตายทั้งหมด
ผู้คนในโรงน้ำชาต่างตื่นตระหนก ทุกคนถามกันไปมา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เขาหนานซาน
หลังจากนั้นไม่นาน องครักษ์ก็บุกเข้ามาในห้องและบังคับพาตัวนางไป
ไม่ว่านางจะอ้อนวอนและร้องไห้มากแค่ไหน องครักษ์ก็ไม่บอกนางว่าทำไม เมื่อคืนนางนอนพลิกตัวไปมา ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
นอกจากซ่อนกระป๋องชาฤดูใบไม้ผลิที่คุณหนูรองของตระกูลหานทิ้งไว้แล้ว นางก็ไม่ได้ทำอะไรผิด!
อย่างไรก็ตาม แม้จะจับได้ที่นางขโมยชาฤดูใบไม้ผลิ แต่ก็คงไม่ทำให้เกิดความโกลาหล ถึงขั้นปิดโรงน้ำชาทั้งหมดเช่นนี้ได้
ก็แค่ชากระป๋องเดียว ครั้งล่าสุดที่คนจากตระกูลหานมาถามเกี่ยวกับเื่นี้ พวกเขาก็ไม่เคยมาอีกเลย
ก่อนที่หมอเทวดาหานจะเข้าคุกและตระกูลหานพ่ายแพ้ ด้วยสถานะของตระกูลหานแล้ว มันเป็ไปไม่ได้ที่ซ่างกวนจะปิดโรงน้ำชาเพื่อค้นหาของสิ่งหนึ่งในสวน
ปี้ลวี่ไม่ใช่เด็กชงชาที่ไม่มีประสบการณ์ นางอยู่ที่โรงน้ำชาเทียนเซียงมาเกือบสิบปี จากเด็กชงชาค่อยๆ ขึ้นมาทีละขั้นจนถึงสาวชงชา รับใช้ผู้ที่มีอำนาจอย่างเต็มตัว แม้ว่านางจะไม่ฉลาด แต่หลายสิ่งที่นางฟังมาก็ทำให้นางฉลาดขึ้นได้เช่นกัน
นางรู้ว่าเื่นี้ไม่ง่ายอย่างแน่นอน และมันคงไม่เกี่ยวข้องกับกระป๋องชาฤดูใบไม้ผลินั้นมากนัก
อย่างไรก็ตาม นางที่คิดเกี่ยวกับเื่นี้ก็ไม่รู้ว่าตนเองทำผิดอะไร ถึงต้องมาเข้าคุกแบบนี้!
นอกจากนางที่เข้าคุกแล้ว ยังมีคนอื่นด้วยใช่หรือไม่?
ตอนนี้องครักษ์กำลังนำตัวนางไปสอบปากคำใช่หรือไม่? ซ่างกวนสอบปากคำนางด้วยตัวเองหรือไม่? แล้วนางจะถูกลงโทษหรือไม่?
แต่จะสอบปากคำนางไปเพื่ออะไรกัน?
ปี้ลวี่ที่เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ เมื่อเห็นประตูสอบสวน นางก็อดไม่ได้ที่จะกลัว เลยสะอื้นขึ้นมาเบาๆ “นายท่านทั้งสอง สรุปมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
องครักษ์ไม่กล้าส่งเสียง ทำเพียงลากปี้ลวี่เข้าไปโดยตรง
ปี้ลวี่เกือบจะล้มลง นางยืนนิ่งๆ และเงยหน้าขึ้น ทันใดนั้นก็ถึงกับอ้าปากค้าง เพียงเห็นชายที่เหมือนพระเ้านั่งอยู่บนที่สูงตรงหน้านาง ใบหน้าของเขาเ็าราวกับน้ำแข็ง ฉายความเย่อหยิ่งของท่านอ๋องที่น่าตกตะลึงไปทั่วร่างของเขา
ปี้ลวี่ได้เห็นผู้มีอิทธิพลมามากมาย แต่ไม่เคยเห็นชายผู้สูงศักดิ์และมีอำนาจเหนือกว่าเช่นนี้มาก่อน
นางที่ตื่นตะลึงในตอนแรก ตอนนี้กลับกลายเป็สมองขาวโพลนไปจนหมด
ชายผู้นี้...คือใคร?
ทันใดนั้น ซ่างกวนก็เตะขาของนางจากด้านหลัง ปี้ลวี่ก็คุกเข่าลงทันที เมื่อได้สติกลับมา จึงจะเห็นซ่างกวนและมู่ชิงอู่อยู่ข้างๆ
ซ่างกวนและหลงเฟยเยี่ยเรียนรู้ที่จะเป็คนฉลาด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่พูดอะไรมาก และถามด้วยน้ำเสียงเ็าว่า “ปี้ลวี่ เ้าจะสารภาพหรือไม่?”
สืบหาความจริง ด้วยกลยุทธ์ที่ทำให้อีกฝ่ายสับสน
หากปี้ลวี่บริสุทธิ์ แม้ว่านางอยากจะสารภาพก็สารภาพไม่ออก แต่ถ้าหากนางรู้อะไรบางอย่าง เช่นนั้นผลลัพธ์ที่ได้คงน่ารอคอยไม่น้อย!
