บทที่ 140 ฐานะของขงเบ้ง
เย่จื่อเฉินนับจำนวนสินค้าตามใบรายการของที่ผู้เฒ่าจันทรามาให้ ก่อนจะทำการสแกนส่งไป
ติ๊ง!
ติ๊ง!
หลังจากนั้นไม่นาน ซองแดงจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นบนแชทของผู้เฒ่าจันทรา เมื่อส่งของไปหมดแล้ว เย่จื่อเฉินก็บิดี้เีและเตรียมตัวรับวิทยายุทธ
"นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงต้าเฮย"
เย่จื่อเฉินไม่ได้ใอะไรมากมายที่ต้าเฮยมาเห็น เพราะคนกับผีอยู่กันคนละโลกอยู่แล้ว แล้วต้าเฮยก็เป็ลูกน้องของเขา เขาจึงไม่กลัวว่าความลับจะรั่วไหลออกไป
"มาดูนี่สิ"
"ดูก็ดูครับ"
เย่จื่อเฉินพยักหน้ารับ ทันใดนั้น ผู้เฒ่าจันทราก็ได้ส่งข้อความกลับมา หลังจากที่ได้รับของครบแล้ว
ผู้เฒ่าจันทรา : ท่านเง็กเซียน ราคากี่วิทยายุทธ
เย่จื่อเฉิน : ประมาณหนึ่งแสนวิทยายุทธ ข้าก็ไม่ได้คิดเต็มราคา ลดสิบเปอร์เซ็นต์ก็คือลดสิบเปอร์เซ็นต์นั่นแหละ
ติ๊ง!
คุณได้รับอั่งเป่าของผู้เฒ่าจันทรา
วิทยายุทธ x90,000
ติ๊ง!
คุณได้เลื่อนตำแหน่งบน์ ตำแหน่งปัจจุบันคือเซียนระดับห้า
บัตรเซียน : เง็กเซียนนิรนาม (วิทยายุทธจำนวน 91,612 จำนวนวิทยายุทธทั้งหมด 102,500 ตำแหน่งเซียนระดับห้า)
ตำแหน่งบน์ของเขาเพิ่มขึ้นอีกแล้ว
แต่ประโยชน์ของมันคืออะไรกันแน่นะ?
แต่ถึงยังไงก็ได้วิทยายุทธมาเยอะมากแล้ว แน่นอนว่ามันยังขาดอีกเยอะ ถ้าจะเอาไปแลกของในแอปเถาเป่าพวกนั้น
แต่เขาจะลองเสี่ยงโชคกับวงล้อเสี่ยงดวงดู...
ติ๊ง!
คุณได้รับเพ็ดดีกรี์ x1
ติ๊ง!
คุณได้รับกะหล่ำปลี์ x1
ติ๊ง!
คุณได้รับดิน์ x1
เย่จื่อเฉินอยากจะกระอักเืจริงๆ หมุนไปสามครั้งได้แต่ของที่มีราคาแค่หนึ่งร้อยวิทยายุทธทั้งนั้น
ต่างจากการเปิดหีบสมบัติในเกมแล้วได้แต่ของห่วยๆ ตรงไหน...
ห่วยชะมัด!
เย่จื่อเฉินรวบรวมสมาธิของเขา ขมวดคิ้วมองดูบัตรเซียน
แม่เ้า เก้าหมื่นวิทยายุทธเมื่อครู่นี้ ตอนนี้เหลืออยู่แค่หกหมื่นกว่าแล้ว
ผู้เฒ่าจันทรา : ท่านเง็กเซียน ไว้ครั้งหน้าเราค่อยคุยกันอีกนะ
เมื่อผู้เฒ่าจันทราได้รับสินค้าแล้วก็เตรียมจะจากไป เย่จื่อเฉินจึงรีบส่งข้อความไปรั้งเขาเอาไว้ก่อน
เย่จื่อเฉิน : เดี๋ยวก่อน!
ผู้เฒ่าจันทราที่กำลังจะไปขายของหยุดชะงักทันที แล้วจึงส่งข้อความถามกลับไปอย่างสงสัย
ผู้เฒ่าจันทรา : ท่านเง็กเซียนมีอะไรจะบอกอีกเหรอ
เย่จื่อเฉิน : ไท่ซางเหล่าจวินเป็ยังไงบ้าง
ั้แ่ที่ลบเพื่อนไท่ซางเหล่าจวินไป ทั้งคู่ก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย ตอนนั้นที่เขาลบเพื่อนก็เพราะว่าโมโห และคิดว่าธุรกิจบน์ของตัวเองจะต้องไปได้ดี บวกกับเขาได้เรียนวิชาแพทย์ของไท่ซางเหล่าจวินแล้ว จึงคิดว่าน่าจะไม่ต้องใช้ยาของเขาอีก
แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าจะคืนชีพให้กับหลิวฉิง จะต้องใช้ยาวิเศษเรียกคืนิญญาซานเหวินชิงของไท่ซางเหล่าจวิน
ที่สำคัญคือยานี้เป็ยาตำรับเซียนด้วย
เย่จื่อเฉินจึงจะลองถามกับผู้เฒ่าจันทราดู ว่าจะสามารถไปขอยาวิเศษนั้นจากไท่ซางเหล่าจวินมาให้เขาได้ไหม
ผู้เฒ่าจันทรา : เหล่าจวินน่ะเหรอ นักหลอมยาก็หัวรั้นแบบนี้แหละ ข้าเคยคุยกับเขาแล้วว่าให้ใจอ่อนกับท่านเง็กเซียนได้แล้ว แต่เขาก็บอกว่าไม่...แถมยังบอกอีกว่าต่อไปนี้จะไม่ติดต่อกับท่านเง็กเซียนแล้ว ของที่ข้าสั่งนี้ ครึ่งหนึ่งก็เป็ของที่เขา้าด้วย
ดูท่าว่าสถานการณ์จะไม่ค่อยดีเท่าไร
เย่จื่อเฉินทึ้งหัวและส่งข้อความกลับไปด้วยความหงุดหงิด
เย่จื่อเฉิน : แล้วท่านรู้ไหมว่าข้าจะสามารถไปหาซื้อยาวิเศษเรียกคืนิญญาซานเหวินชิงได้ที่ไหน
ผู้เฒ่าจันทรา : ยาวิเศษเรียกคืนิญญาซานเหวินชิง?
ผู้เฒ่าจันทราอึ้งไปเมื่อเห็นชื่อยา นี่มันยาตำหรับเซียนเลยนะ บน์ไม่มีใครหลอมยานี้ขึ้นมาได้ นอกจากไท่ซางเหล่าจวินเพียงคนเดียว
ผู้เฒ่าจันทรา : มีแค่ที่ไท่ซางเหล่าจวินเพียงคนเดียว แต่ยาวิเศษเรียกคืนิญญาซานเหวินชิงเป็ยาตำรับเซียน ต่อให้เป็เขา...
หนทางการคืนชีพช่างยากลำบากจริงๆ ดูจากที่ผู้เฒ่าจันทราพูดมานั้น ถึงจะเป็ไท่ซางเหล่าจวินก็ยังไม่แน่ใจว่าจะหลอมมันออกมาได้ไหม
ถ้าแม้แต่ไท่ซางเหล่าจวินยังหลอมออกมาไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นยาเม็ดนี้...
คิดแล้วก็กลุ้ม
เย่จื่อเฉิน : เอาอย่างนี้ ท่านช่วยถามไท่ซางเหล่าจวินให้ข้าหน่อย ่นี้ข้า้ายาตัวนี้
ผู้เฒ่าจันทรา : ไม่มีปัญหา
เย่จื่อเฉิน : ได้ ตามนั้นแหละ จะสั่งของเพิ่มเมื่อไรก็ทักมาหาข้าก็แล้วกัน
เย่จื่อเฉินก็ไม่ได้คิดว่าการคืนชีพมันจะง่ายอยู่แล้ว เพียงแต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะยากขนาดนี้
เย่จื่อเฉินทึ้งหัวด้วยอารมณ์หงุดหงิด เมื่อเงยหน้าขึ้นก็ต้องใที่เห็นต้าเฮยมาอยู่ข้างหลังเขา
“รู้สึกมหัศจรรย์ใช่ไหมล่ะ ฉันก็รู้สึกว่ามันมหัศจรรย์เหมือนกัน" เย่จื่อเฉินเม้มปากยิ้ม “ั้แ่นายมาอยู่ที่นี่ นายคิดว่าเด็กขงเบ้งเป็ยังไง?"
“ก็ค่อนข้างดีเลย เชื่อฟังดี"
“ฉันก็ว่าเด็กนั่นเชื่อฟังดีเหมือนกัน แต่ถ้าจะให้อยู่ที่นี่ตลอดมันก็ไม่เข้าท่า" เย่จื่อเฉินไม่ได้ระแวงเลยว่าต้าเฮยจะอยู่ข้างขงเบ้งแม้แต่น้อย เขาถอนหายใจ “ฉันมีความลับเยอะ ถ้าเขาอยู่ที่นี่ ไม่ช้าก็เร็วมันจะถูกเปิดเผย เข้าใจไหม?"
“เข้าใจครับ" ต้าเฮยพยักหน้า
เมื่อเห็นดังนั้น เย่จื่อเฉินจึงโบกมือไล่ต้าเฮย "เอาล่ะ ขึ้นไปข้างบนกันเถอะ"
จากนั้นก็ออกมานั่งเล่นอยู่กับขงเบ้ง จนเมื่อถึงยามเย็น เย่จื่อเฉินถึงได้ตบบ่าเขาสองสามที ในขณะเดียวกันก็ส่งสายตาให้ต้าเฮยด้วย เขาถึงได้ออกจากร้านไป
เมื่อประตูร้านปิดลง ขงเบ้งจึงได้เลิกคิ้วยิ้มถาม “ตกลงว่าพี่จื่อเฉินมีความลับอะไร นายน่าจะเห็นแล้วใช่ไหม รีบบอกฉันเร็ว"
ดูจากท่าทางของเขาแล้วนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เขาก็แค่อยากรู้ความลับนั้นเฉยๆ
“เ้านายเขา.. “
ต้าเฮยมีอาการลังเล ตอนที่มีชีวิตอยู่เขาเป็ทหารที่ซื่อสัตย์มาก ไม่เคยทำเื่อะไรลับหลังเ้านายมาก่อน
“ฉันจะไม่บอกให้คนอื่นรู้เด็ดขาด แล้วฉันก็จะไม่สร้างปัญหาให้พี่จื่อเฉินด้วย นายบอกฉันมาเถอะ"
...
“ถ้านายไม่พูด งั้นต่อไปนี้ฉันจะไม่ช่วยหล่อเลี้ยงิญญานายแล้ว"
ขงเบ้งจับจุดอ่อนเขาได้จริงๆ หลังจากที่ลังเลอยู่สักพัก ต้าเฮยจึงพูดขึ้น
"ความจริงแล้ว เ้านายกับ..."
ต้าเฮยพูดออกมาก็จริง ดูได้จากริมปากของเขาที่ขยับขึ้นลง แต่กลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาเลย
“ยันต์คุมิญญา" ขงเบ้งขมวดคิ้วมุ่น แล้วจึงลองยื่นมือไปจับต้าเฮย ไม่นานก็มียันต์แผ่นหนึ่งปรากฏขึ้นมาบนมือของเขา
“ตอนนี้ก็พูดได้แล้ว"
ต้าเฮยได้พูดทุกอย่างที่เห็นในชั้นใต้ดินออกมา
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ขงเบ้งจึงยิ้มทันที "ฉันว่าแล้วว่าพี่จื่อเฉินจะต้องเป็คนของทางฝั่งเรา คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะสามารถติดต่อกับคนบน์ได้ด้วย แต่..."
ขงเบ้งขมวดคิ้วมุ่น มองดูยันต์คุมผีในมือ
“สิ่งนี้น่าจะเป็ของยมทูตในนรกไม่ใช่เหรอ ทำไมคนในตระกูลลับถึงได้พกยันต์มีค่าแบบนี้ไว้กับตัว" ครู่หนึ่ง ขงเบ้งก็นึกขึ้นมาได้ แล้วพูดขึ้น “เดี๋ยวนะ ยันต์นี้จะทำให้ิญญาไม่ทรยศเ้านาย เมื่อกี้นายจะเปิดเผยความลับของพี่จื่อเฉิน... พี่จื่อเฉินเป็คนติดยันต์นี่ให้นายเหรอ?
“ใช่ครับ"
“ทำไมนายถึงไม่บอกให้เร็วกว่านี้"
ความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นบนใบหน้าของขงเบ้ง ถ้าเกิดฉีกยันต์ออก...
“ฉันนี่มันจริงๆ เลย ทำไมถึงได้โง่อย่างนี้!"
ขงเบ้งตบหัวตัวเองแรงๆ เย่จื่อเฉินเป็คนพาผีตัวนี้มา เขาก็ต้องเป็คนติดยันต์นี่ด้วยตัวเองอยู่แล้ว
ตอนที่ฉีกมันออก ทำไมเขาถึงคิดไม่ได้!
ในขณะเดียวกัน เย่จื่อเฉินที่เดินอยู่ข้างทางและกำลังจะโบกรถเพื่อกลับมหาวิทยาลัย ก็เกิดเจ็บหน้าอกขึ้นมากะทันหัน
เขากระอักเืออกมาทันที
หลิวฉิงที่ลอยอยู่ข้างกายเมื่อเห็นแบบนั้น ก็ใจนกรีดร้องลั่น
“เย่จื่อเฉิน!"