เมื่อมองไปยังด้านหลังขององครักษ์ที่เดินออกไป ทุกคนในที่นี่ยังคงจมอยู่กับความตึงเครียด ไม่สามารถสงบลงได้เป็เวลานาน ยังมีบางอย่างที่อยากจะพูด รู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างขาดหายไป
“ท่านอ๋อง เรารีบส่งหมู่เฟยกลับกันเถิด ในร่างของหมู่เฟยยังมีพิษอยู่ ต้องไปหาหมอ!” มู่หรงหว่านหรูกระวนกระวายอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม คำพูดเหล่านี้กลับทำให้หานอวิ๋นซีอับอาย เห็นได้ชัดว่านางเป็หมอพิษ แต่มู่หรงหว่านหรูก็ทำราวกับนางเป็อากาศ?
ใครจะรู้ว่า อี้ไท่เฟยเองก็พยักหน้าเช่นกัน “เฟยเยี่ย เรากลับกันเถอะ รีบพาแม่ไปหาหมอพิษที่เก่งกาจ แม่อึดอัดที่คอเหลือเกิน”
หลงเฟยเยี่ยไม่ตอบ เมื่อกำลังจะออกไปพร้อมกับอี้ไท่เฟย หานอวิ๋นซีก็มองอย่างเ็า นางไม่ได้สนใจอี้ไท่เฟยและมู่หรงหว่านหรู แต่เมื่อมองไปที่ด้านหลังของหลงเฟยเยี่ย กลับรู้สึกว่าตนเองเป็คนนอกโดยสิ้นเชิง ความรู้สึกไร้ตัวตนที่ไม่อาจพรรณนาได้ถาโถมเข้ามาในหัวใจ
เอาเถอะ พวกเขาเป็ครอบครัวกันมาโดยตลอด แล้วนางก็เป็แค่คนนอก
ในตอนที่หลี่ซื่อวางยาพิษ ระบบล้างพิษของนางไม่ได้เตือนนาง หากหลี่ซื่อไม่ได้้าหลอกคนอื่น เช่นนั้นก็ยาพิษที่นางใช้นั้นเป็พิษลับจริงๆ หากเป็พิษลับ หานอวิ๋นซีเองก็อยากจะเห็นเหลือเกินว่าอี้ไท่เฟยจะไปล้างพิษกับหมอพิษที่เก่งกาจในเมืองหลวงคนไหน
อี้ไท่เฟย มู่หรงว่านหรู เื่ของตระกูลหานและการเดิมพัน พวกเขาต่างโยนปัญหามาให้ข้าอยู่ไม่น้อย ทางที่ดีวันใดวันหนึ่งพวกเ้าอย่ามาอ้อนวอนให้ข้าช่วยก็แล้วกัน!
ในขณะที่หานอวิ๋นซีกำลังมองพวกเขา หลงเฟยเยี่ยก็หันกลับมาและถามอย่างเ็าว่า “หานอวิ๋นซี เ้ายังไม่เดินมาอีกหรือ?”
หัวใจของหานอวิ๋นซีเต้นไม่เป็จังหวะ ประโยคนี้ช่างคุ้นเคยเสียจริง!
เห็นได้ชัดว่าเขาเคยพูดกับนางเพียงครั้งเดียว ในตอนที่เข้าไปในวังเพื่อแสดงความเคารพต่อหมู่เฟย แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน นางถึงได้รู้สึกคุ้นเคยและรู้สึกว่าไม่ได้ถูกทอดทิ้ง
หานอวิ๋นซีชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นจู่ๆ ก็ยิ้มออกมา “ท่านอ๋อง ข้ายังมีเื่การเดิมพันที่จะต้องจัดการ ยังไปตอนนี้ไม่ได้”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา มู่หลิวเยวี่ยที่จ้องมองหลงเฟยเยี่ยอยู่ก็ตื่นตัวขึ้นมาทันทีและหันมามองหานอวิ๋นซีอย่างรวดเร็ว
การเดิมพัน!
ใช่ ยังมีการเดิมพัน!
และในที่สุดผู้คนที่ยังอารมณ์ค้างอยู่ก็นึกขึ้นมาได้เช่นกันว่ายังมีการเดิมพัน เมื่อครู่ถูกหลี่ซื่อทำให้ใจนลืมเื่ทั้งหมดไป ไม่แปลกที่พวกเขาจะรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป
หานอวิ๋นซียอมรับว่าตนเองเป็คนไม่ดี มู่หลิวเยวี่ย เ้าปฏิบัติต่อข้าอย่างไร้ความปรานี ก็อย่ามาโทษว่าข้าใจร้ายกับเ้าก็แล้วกัน!
ด้วยความกลัวว่าหลงเฟยเยี่ยจะเดินไป หานอวิ๋นซีก็รีบพูดเสริมว่า “ท่านอ๋อง คุณหนูหลิวเยวี่ยได้เดิมพันกับข้าไว้ และนางก็แพ้ในการเดิมพัน”
“ท่านอ๋อง กลับกันเถอะ สุขภาพของหมู่เฟยเป็สิ่งสำคัญ” มู่หรงหว่านหรูเกลี้ยกล่อมด้วยเสียงเบา ท้ายที่สุดแล้วนางกับมู่หลิวเยวี่ยเป็พันธมิตรกันในเื่นี้
อย่างไรก็ตาม หลงเฟยเยี่ยกลับดูเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่นางพูด และกระซิบกับฉู่ซีเฟิงให้ส่งอี้ไท่เฟยกลับไป จากนั้นตนเองจึงหันหลังกลับและเดินไปคนเดียว
มู่หรงหว่านหรูเต็มไปด้วยความสงสัย ปกติแล้วท่านอ๋องจะไม่ชอบร่วมอะไรที่มันเอิกเกริกแบบนี้ ทำไมวันนี้ถึงได้สนใจกันนะ?
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปที่มู่หลิวเยวี่ย นางเองก็ไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงไปกับอี้ไท่เฟยก่อน
เมื่อเห็นหลงเฟยเยี่ยเดินเข้ามา หัวใจของมู่หลิวเยวี่ยก็ค่อยๆ จมดิ่งลง นางรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย!
ในอดีต นางปรารถนาอย่างยิ่งที่จะพบชายผู้นี้ สักวินาทีเดียวก็ยังดี แต่ตอนนี้นางกลับปรารถนาที่จะหาทางแอบเสียมากกว่า
“เดิมพันอะไร?” หลงเฟยเยี่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และมองตรงไปที่มู่หลิวเยวี่ยในที่สุด
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา มู่ชิงอู่ที่อยู่ข้างๆ ถึงกับตบหน้าผากตนเอง เขารู้ว่าน้องสาวของเขาจบเห่แล้ว ฉินอ๋องเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าเขาสนใจการเดิมพันนี้ นี่ไม่ใช่การถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วหรอกหรือ?
ศีรษะของมู่หลิวเยวี่ยก้มลงต่ำมากจนไม่สามารถต่ำกว่านี้ได้อีกแล้ว ใบหน้าร้อนราวกับไฟกำลังไหม้
เป็ความฝันของนางเสมอมาที่จะได้รับความสนใจจากฉินอ๋อง ไม่ว่าจะเป็ใบหน้าหรือรูปร่าง นางดูแลและแต่งตัวอย่างประณีต เข้มงวดกับตัวเองมาหลายปี หวังเพียงว่าในอนาคตที่ฉินอ๋องมองมา จะสร้างความประทับใจที่ดีและจดจำนางได้
แต่...แต่ตอนนี้เป็เวลาที่น่าอายและน่าเกลียดที่สุดสำหรับนาง
นางไม่เพียงแต่โง่ที่ถูกนักฆ่าใช้งาน แต่ยังโง่พอที่จะเดิมพันแบบนี้กับหานอวิ๋นซีด้วย นี่...ปล่อยให้นางกระอักเืตายไปเลยจะดีกว่า!
ทำไมนางถึงไร้ประโยชน์ถึงเพียงนี้ ช่างโง่เขลา ช่างน่าละอายจริงๆ!
พระเ้า ฉินอ๋องจะคิดอย่างไรกับนาง เขาจะคิดอย่างไรกับนางกันนะ?
“ข้าสามารถหาคนร้ายวางพิษที่แท้จริงได้ภายในหนึ่งเดือน ทั้งยังยังมีเวลาอีกสามวันจนกว่าจะถึงกำหนดเส้นตาย นั่นก็หมายความว่าข้าชนะ” หานอวิ๋นซีหัวเราะอย่างน่ากลัว
ไม่ง่ายกว่าที่จะได้ชัยชนะมา แน่นอนว่านางต้องหัวเราะอย่างเต็มที่
มู่หลิวเยวี่ยที่ฟังอยู่ มือทั้งสองก็กำหมัดแน่นในแขนเสื้อและนางก็ก่นด่าในใจว่า “หานอวิ๋นซี นังสารเลว!”
หานอวิ๋นซีที่ยังคงมีความสุขก็พูดด้วยรอยยิ้มขึ้นมาอีกครั้งว่า “ท่านอ๋อง ผู้ที่แพ้ต้องถอดเสื้อผ้าออกแล้ววิ่งไปรอบๆ ถนนเสวียนอู่”
ฮือฮือ...
ในที่สุดมู่หลิวเยวี่ยก็ทนไม่ได้อีกต่อไป ยื่นมือไปดึงแขนเสื้อของมู่ชิงอู่เพื่อขอความช่วยเหลือ “ท่านพี่…”
มู่ชิงอู่ขมวดคิ้วจนเป็รอยย่นระหว่างคิ้ว แม้ว่าในตอนสอบสวนเขาจะไม่ได้ถือหางน้องสาวของตัวเองและยุติธรรมเป็อย่างมาก แต่เมื่อเผชิญกับการเดิมพันเช่นนี้ สุดท้ายเขาก็ยังรู้สึกลังเล
ถอดเสื้อผ้าแล้ววิ่งไปตามถนนมันก็ดูมากเกินไป หากถอดเสื้อผ้าแล้ววิ่ง ชื่อเสียงทั้งหมดก็จะหายไป ถ้าหลิวเยวี่ยทำเช่นนี้จริงๆ นางจะเป็อย่างไรกัน? จะตั้งหลักในวงสังคมของเมืองหลวงได้อย่างไร แล้วจะแต่งงานได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้น หน้าตาของจวนแม่ทัพก็จะหายไปเพราะนางเช่นกัน
มู่ชิงอู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “หวังเฟย ท่านอ๋อง หลิวเยวี่ยยังเด็กและโง่เขลา เื่นี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงบุตรสาวของตระกูลและเกี่ยวข้องกับทั้งชีวิตของนาง หวังว่าท่านจะยกโทษให้นางสักครั้ง”
หานอวิ๋นซีรู้อยู่แล้วว่ามู่ชิงอู่จะขอร้อง นางมองมือเล็กของมู่หลิวเยวี่ยที่จับมุมเสื้อผ้าของมู่ชิงอู่ไว้แน่นอย่างเ็า พร้อมยกยิ้มอย่างเหยียดหยาม
คนบางคนก็ดื้อรั้นมาก และคนบางคนก็สามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกสถานการณ์
หากมู่หลิวเยวี่ยกล้าหาญสักหน่อย มีความรับผิดชอบมากขึ้นและทำตามสัญญาอย่างดื้อรั้น นางก็คงให้อภัยจริงๆ หากมู่หลิวเยวี่ยไม่พึ่งพามู่ชิงอู่ และขอร้องด้วยตัวเอง ก็อาจจะทำให้ใจนางอ่อนลง แต่สตรีผู้นี้ไม่มีความกล้าที่จะทำตามสัญญา แถมยังไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมลดทิฐิและขอร้องอ้อนวอนนาง
สตรีผู้นี้ ไม่รู้จริงๆ ว่ามีอะไรให้ภูมิใจนักหนา
ในการเดิมพันครั้งนี้ หานอวิ๋นซีชนะอย่างสวยงาม ทว่ามันก็กลับไม่ง่าย เพราะมู่ชิงอู่ขอร้องให้ไว้ชีวิตมู่หลิวเยวี่ยอย่างง่ายดาย นางสงสารตัวเองเหลือเกิน
ต้องรู้ว่าถ้าวันนี้นางไม่ชนะ ก็จะไม่มีใครขอร้องแทนนางและจุดจบของนางจะเลวร้ายยิ่งกว่ามู่หลิวเยวี่ย
ถ้ามู่หลิวเยวี่ยกล้าที่จะทำให้เื่ใหญ่โตขนาดนี้ นางก็ต้องชดใช้มัน!
“การเดิมพันก็คือการเดิมพัน จะให้เป็เื่ตลกได้อย่างไร?” หานอวิ๋นซีถามอย่างไร้ความปรานี
พี่ชายขอร้องก็แล้ว นางยัง้าอะไรอีก! มู่หลิวเยวี่ยกำลังโกรธเกรี้ยวและกำลังจะโต้ตอบ แต่ก็ถูกมู่ชิงอู่ห้ามไว้ มู่ชิงอู่กัดฟันและพูดว่า “หวังเฟย...”
ใครจะรู้ว่าเมื่อการสนทนาเริ่มต้นขึ้น หานอวิ๋นซีก็ขัดจังหวะและถามว่า “แม่ทัพใหญ่ หรือคนของจวนแม่ทัพของพวกเ้าจะผิดสัญญาอย่างนั้นหรือ?”
คนซื่อตรงเช่นมู่ชิงอู่จะทนกับคำถามแบบนี้ได้อย่างไร เขา้าตอบหานอวิ๋นซีอย่างตรงไปตรงมาว่า “ไม่” ถ้าเป็เขา ไม่ว่าการเดิมพันจะเป็อย่างไร ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็อย่างไร แน่นอนว่าเขาจะทำให้ถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม นี่เป็เื่ของน้องสาว เพื่อชีวิตของน้องสาวแล้ว เขาจึงได้แต่ยั้งไว้
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ออกไปโดยไม่สนใจหานอวิ๋นซีและมองตรงไปที่หลงเฟยเยี่ย “ฉินอ๋อง หลิวเยวี่ยยังเป็บุตรสาวคนโตของตระกูล โปรดท่านคิดอีกครั้งเถิด!”
เมื่อมู่หลิวเยวี่ยได้ยินสิ่งนี้ก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาเล็กน้อย นางรู้ว่าพี่ชายของนางกำลังใช้หน้าตาของจวนแม่ทัพเพื่ออ้อนวอนฉินอ๋อง ไม่ว่าจะพูดอย่างไรตำแหน่งในราชสำนักของนางก็ไม่ควรมองข้าม อย่างน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ฉินอ๋องน่าจะรักษาหน้านางมากที่สุดแล้ว
ในที่สุดก็เห็นความหวัง นางจึงไม่ตื่นตระหนกอีกต่อไป ด้วยความคาดหวังเล็กน้อย นางรู้อยู่เสมอว่าในบรรดาผู้ที่ชื่นชมฉินอ๋อง ตนเองเป็คนที่มีโอกาสดีที่สุดที่จะได้รับความชื่นชมจากฉินอ๋อง
หลงเฟยเยี่ยชำเลืองมองมู่ชิงอู่อย่างครุ่นคิดและพูดอย่างใจเย็นว่า “ถอดเสื้อผ้าแล้ววิ่งไปตามถนน? ใครเป็คนเสนอเื่นี้กัน?”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ มู่หลิวเยวี่ยก็ดีใจเป็อย่างมาก พระเ้า ฉินอ๋องถามเช่นนี้ ข้าก็มีความหวังใช่หรือไม่? ไม่สิ หากเป็นิสัยของเขาก็คงจะรีบปฏิเสธทันที
มู่หลิวเยวี่ยเงยหน้าขึ้นราวกับว่านางได้รับชีวิตใหม่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข “ท่านอ๋อง เป็หวังเฟยที่ออกความคิดเห็น ข้าเปล่าทำนะ!”
ใครจะรู้ว่าหลงเฟยเยี่ยกลับเหลือบมองนางด้วยความดูถูกเหยียดหยามและถามอย่างเ็าว่า “เช่นนั้นก็ยอมรับความพ่ายแพ้ จะพูดอะไรให้มากความ?”
เอ่อ…
ในขณะนี้ มู่หลิวเยวี่ยนั่งลงบนส้นเท้าของนางทันที ร่างกายราวกับหมดเรี่ยวแรง ปวกเปียกและเป็อัมพาต พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
ฉินอ๋องจริงๆ แล้ว...จริงๆ แล้วดูถูกนางอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าจะไม่ไว้หน้าจวนแม่ทัพเช่นนี้
เต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ เขาต้องให้นางทำตามสัญญา ถอดเสื้อผ้าแล้ววิ่งไปรอบๆ ถนนอย่างนั้นหรือ? เขา้าเห็นความบริสุทธิ์ของนางถูกทำลายหรือ?
เดิมทีในสายตาของเขาก็ไม่มีนางอยู่แล้ว ไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึงเลย ไร้ค่าไร้ประโยชน์ และเดิมทีภูมิหลังที่น่าภาคภูมิใจที่สุดของนาง จวนแม่ทัพใหญ่ก็ไร้ความหมายในสายตาเขาเช่นกัน
“ฮือฮือ...”
ในที่สุด มู่หลิวเยวี่ยก็ร้องไห้ออกมา จินตนาการทั้งหมดและความหวังทั้งหมดพังทลาย
อะไรจะน่าสมเพชไปกว่าการถูกปฏิบัติราวกับอากาศ จากชายหนุ่มที่แอบรักมานานหลายปี?
การโจมตีแบบนี้ นางจะไปทนไหวได้อย่างไร!
“ไม่! ข้าไม่้า! ข้าไม่้า!” นางร้องไห้และะโ ดึงเสื้อผ้าของมู่ชิงอู่อย่างลนลาน
อย่างไรก็ตาม หลงเฟยเยี่ยหันหลังและจากไปโดยไม่แม้แต่จะมองมาที่นาง
“คุณหนูหลิวเยวี่ย ต่อหน้าฉินอ๋อง ต่อหน้าผู้คนมากมาย เ้าอย่าเล่นเล่ห์เหลี่ยมเลย เหลือเวลาอีกสามวัน เ้าควรคิดให้รอบคอบ!”
หานอวิ๋นซีพูดประโยคนี้อย่างมีความสุข และเดินตามหลงเฟยเยี่ยไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้มู่หลิวเยวี่ยร้องไห้อยู่ข้างหลัง...
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหลงเฟยเยี่ยใจร้ายจริงๆ เขาสามารถทำร้ายใครบางคนอย่างสุดซึ้ง แต่กลับไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย
หานอวิ๋นซีอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าทุกคนที่ตกหลุมรักเขาจะเ็ปจากความเ็าและความโเี้ของเขา?
ในที่สุดก็ตามทันเสียที หานอวิ๋นซีก็เดินไปข้างๆ เขาอย่างเชื่อฟัง เมื่อกำลังจะอ้าปากพูดขอบคุณ หลงเฟยเยี่ยกลับพูดอย่างเฉยเมยว่า “เ้ายังไม่กลับไปอีกหรือ?”
เอ่อ...หานอวิ๋นซีที่เพิ่งจะพบว่านี่เป็ทิศทางที่อยู่ตรงข้ามกับจวนฉินอ๋อง
“ท่าน...ไม่กลับหรือ?” หานอวิ๋นซีถามโดยไม่ต้องคิด
โดยไม่คาดคิด หลงเฟยเยี่ยหยุดและเหลือบมองนางโดยไม่พูดอะไรสักคำ จากนั้นก็หายไปในพริบตา
ชายผู้นี้!
ดีจริงๆ เขาจะไปไหน จะไปอธิบายให้นางฟังได้อย่างไร? สันนิษฐานว่าเขากำลังจะไปกู่หยวนเพื่อสอบปากคำหานรั่วเสวี่ยและกำจัดร่างของหลี่ซื่อ?
หานอวิ๋นซีเหลือบมองกลับไปที่ฝูงชนที่ยังไม่แยกย้ายกันไป จากนั้นจึงจะนึกถึงอี๋เหนียงเจ็ดและเสี่ยวอี้เอ๋อร์ นางรีบไปที่ประตูหลังของศาลต้าหลี่ อี๋เหนียงเจ็ด ท่านอย่าเป็อะไรไปเลยนะ ตอนนี้ทั้งสองครอบครัวของตระกูลหานก็ไม่อยู่แล้ว เหลือเพียงเสี่ยวอี้เอ๋อร์เท่านั้น!
โชคดีที่อาการาเ็ของอี๋เหนียงเจ็ดไม่ร้ายแรง แค่กระทบกระเทือนเล็กน้อย
หานอวิ๋นซีส่งอี๋เหนียงเจ็ดและเสี่ยวอี้เอ๋อร์กลับไปที่ตระกูลหานด้วยตนเอง จัดการเื่บางอย่างของตระกูลหานจนไม่ได้นอนทั้งคืน เมื่อคิดที่จะพักผ่อนสักหน่อย ก็มีคนจากจวนฉินอ๋องมาหา โดยบอกว่ามู่หรงหว่านหรู้าให้นางรีบกลับไปหา
ในเวลานี้ มู่หรงหว่านหรูที่มาหาอย่างร้อนรน ต้องเป็เพราะอี้ไท่เฟยถูกวางยาพิษจริงๆ และหมอพิษก็ไม่สามารถรักษาได้
หานอวิ๋นซีมีความสุขอย่างมาก!
