กิริยาของซือคงเซิ่งเจี๋ยชะงักลง เขามองนางด้วยสายตาจริงจัง และพูดด้วยน้ำเสียงเป็การเป็งาน “ข้าอยากรู้ว่าใครสอนทักษะการเดินหมากล้อมให้เ้า เป็ใครที่ถ่ายทอดวิธีการเดินหมากแบบสี่ต่อหก”
ภายใต้ดวงตาที่ทอประกายวับวาว เฟิ่งเฉี่ยนใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว เหตุใดเขาจึงถามเื่นี้ขึ้นมากะทันหัน หรือระหว่างเขาและเซวียนหยวนเช่อมีบุญคุณความแค้นต่อกัน
“วิธีสี่ต่อหกอะไรกัน ข้าไม่เข้าใจความหมายของเ้า!”
ก่อนหน้าที่ความจริงทุกอย่างจะชัดเจน นางไม่คิดจะหักหลังเซวียนหยวนเช่อ
ซือคงเซิ่งเจี๋ยจับจ้องสีหน้าท่าทางของนาง เขาเห็นความลังเลลึกๆ ในแววตาของนาง ทำให้เขายิ่งแน่ใจว่าเขาคาดเดาถูกต้องแล้ว “ไม่โลภชัยชนะ จึงจะชนะเสมอ! ทุกครั้งที่เดินหมาก จะใช้พลังในการโจมตีเพียงหกส่วนเสมอ อีกสี่ส่วนกักเก็บไว้ป้องกัน!...เ้ากล้าพูดว่านี่เป็สิ่งที่เ้าคิดได้เองหรือ”
เฟิ่งเฉี่ยนประหลาดใจ เขาถึงกับพูดคำว่า “ไม่โลภชัยชนะ จึงจะชนะเสมอ” ออกมาได้ด้วย หรือเขารู้จักเซวียนหยวนเช่อจริงๆ
แต่หากพวกเขารู้จักกันจริงๆ เหตุใดเขาต้องมาถามนาง
แปลก แปลกมาก!
นางแบมืออก “นี่เป็สิ่งที่ข้าคิดได้เอง ไม่ได้หรือ”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยจ้องนางด้วยสายประเมินเนิ่นนานจึงละสายตา เขาหัวเราะ “เ้าไม่พูดก็ไม่เป็ไร! ช้าเร็วข้าต้องหาตัวคนที่อยู่เื้ัเ้าออกมาได้แน่ว่าเป็ใคร!”
พูดแล้วเขาก็หันไปสนใจหมูสามชั้นในน้ำซอสตรงหน้า และเริ่มกินขึ้นมาอีก
เฟิ่งเฉี่ยนลอบมองเขา อยากถามเขาเหลือเกินว่าเขามีจุดประสงค์ใดในการตามหาคนๆ นี้ แต่นางถามไม่ได้ เพราะทันทีที่นางถาม เท่ากับนางยอมรับ ว่ามีคนเช่นนี้อยู่จริง
มองไปมองมาสายตาของนางกลับมองเส้นผมสีเงินของเขา แสงแดดที่ส่องลงมาบนเส้นผมสีเงินของเขา สะท้อนแสงจนทำให้แสบตา ดึงดูดสายตาเช่นนั้นราวกับมีเวทมนต์ชนิดพิเศษ นางถูกมันดึงดูดอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
“หากยังไม่อยากตาย อย่าแตะต้องเส้นผมของข้า!”
สายตาคมปลาบของเขาตวัดมา เฟิ่งเฉี่ยนจึงได้สติ มือของตนเองยื่นออกไปหาเส้นผมของเขาั้แ่เมื่อใดไม่รู้ วินาทีที่ปลายนิ้วของนางกำลังจะัักับเส้นผมของเขา นางถูกเขาตวาดเสียก่อน
เฟิ่งเฉี่ยนถามอย่างแปลกใจ “เส้นผมของเ้าเป็เช่นนี้ั้แ่เกิดหรือไม่”
ดวงตาของซือคงเซิ่งเจี๋ยหม่นวูบ เขาหยุดอิริยาบถทั้งหมดลงและเข้าสู่ความเงียบขรึม
เฟิ่งเฉี่ยนประหลาดใจเล็กน้อย นางรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายรอบกายของเขาที่เปลี่ยนไป รวมไปถึงความรู้สึกเ็ปที่ครอบคลุมร่างของเขา จึงทำให้นางได้สติว่าตนเองไม่ระมัดระวังถามคำถามที่สร้างความเ็ปให้อีกฝ่าย
“ขอโทษ! ข้าไม่ได้ตั้งใจ!” เฟิ่งเฉี่ยนรู้สึกผิด
ซือคงเซิ่งเจี๋ยไม่พูดไม่จา ก้มหน้าก้มตากินหมูสามชั้นในน้ำซอส รัศมีรอบกายพลันจางหายไป
เฟิ่งเฉี่ยนพรูลมหายใจเบาๆ ล้วนเป็คนมีาแทั้งสิ้น มาพบกันเพราะมีวาสนาใยต้องใส่ใจด้วยว่าก่อนหน้านี้รู้จักกันหรือไม่
ร่างของนางเอนไปด้านหลัง มือทั้งคู่ประสานกันรองศีรษะต่างหมอน นางเอนกายนอนลงบนสนามหญ้า ปล่อยให้แสงแดดสาดส่องลงบนร่างของนาง ลบเลือนความรู้สึกสลดหดหู่ในใจนางออกไป
มองจากไกลๆ ริมทะเลสาบมีหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรี คนหนึ่งเอนกายนอนลง อีกคนหนึ่งนั่ง คนหนึ่งใจลอย อีกคนหนึ่งกำลังลิ้มรสชาติอาหารอันโอชา คนหนึ่งผมดำราวม่านน้ำตกสยายตัวลงบนสนามหญ้า อีกคนหนึ่งเส้นผมสีเงินปลิวสะบัดตามแรงลม เป็ภาพที่สมดุลและงดงาม!
เซวียนหยวนเช่อนำซือคงเซิ่งเจี๋ยเดินชมวังหลวง บังเอิญผ่านทะเลสาบแห่งนี้ เขาอยู่อีกด้านหนึ่งของทะเลสาบ มองเห็นภาพนี้จากไกลๆ ทั้งสองคนต่างตกตะลึง
“อาเซิ่ง?” ซือคงจวินเย่มีสีหน้าระแวดระวัง เขารู้จักนิสัยของน้องชายดี และรู้ดีที่สุดว่าน้องชายไม่ชอบสมาคมกับผู้อื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรี แต่ตอนนี้เขาถึงกับนั่งอยู่กับสตรีอีกนางหนึ่งริมทะเลสาบ นี่ทำให้เขาประหลาดใจอย่างที่สุด!
ด้วยความที่อยู่ไกลมาก สตรีนางนั้นนอนอยู่ เขาจึงไม่ทันได้เห็นโฉมหน้าของสตรีนางนั้นให้ชัดเจน จึงรู้สึกประหลาดใจต่อสตรีนางนี้อย่างยิ่งยวด เขาทนรอไม่ไหวที่จะรู้ฐานะของสตรีนางนี้ให้ชัดเจน
“ท่านพี่เซวียนหยวน สตรีนางนั้นเป็ใครกัน เหตุใดจึงขวัญกล้าเช่นนี้ ถึงกับกล้าล่อลวงองค์ชายสามแห่งแคว้นหนานเยียนของพวกเรา”
ไม่ได้รับคำตอบจากเซวียนหยวนเช่อ เขาหันไปมอง ทันได้เห็นแววตาดำหม่นวูบของเซวียนหยวนเช่อที่พาดผ่านอย่างรวดเร็ว เขาประหลาดใจเล็กน้อย อดที่จะยิ่งสงสัยในฐานะของสตรีนางนั้นยิ่งขึ้นอีก
เซวียนหยวนเช่อได้สติ เขาพูดเรียบๆ “ท่านพี่ซือจวิน รบกวนท่านใช้วาจาให้เกียรติกันสักหน่อย! ไม่อนุญาตให้ใครดูแคลนผู้หญิงของข้าเซวียนหยวนเช่อ!”
“ผู้หญิงของท่าน?” ซือคงจวินเย่ตะลึงเล็กๆ เขาพูดด้วยน้ำเสียงใ “หรือ...นางคือฮองเฮา”
เซวียนหยวนเช่อไม่พูดไม่จา แต่เดินข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของทะเลสาบ
ซือคงจวินเย่มองเงาร่างด้านหลังของเซวียนหยวนเช่อ เขาบังเกิดความรู้สึกประหลาดชนิดหนึ่ง ดูเหมือนเซวียนหยวนเช่อจะไม่ได้รังเกียจฮองเฮาอย่างที่คนข้างนอกเขาเล่าลือกัน ในทางตรงข้าม ดูเหมือนเขาจะใส่ใจฮองเฮาท่านนี้มาก!
น่าสนใจ เขารู้สึกว่าตนเองจับจุดอ่อนของเซวียนหยวนเช่อได้แล้ว...
มีจุดอ่อนนี้แล้ว เซวียนหยวนเช่อย่อมมิใช่ไร้จุดโจมตีได้อีก!
เขาเดินไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มเ็าและเ้าเล่ห์
ซือคงเซิ่งเจี๋ยกินหมูสามชั้นในน้ำซอสจานที่หนึ่งหมดแล้ว เตรียมจะเริ่มกินจานที่สอง เฟิ่งเฉี่ยนตาไวมือไวหยิบฝากล่องสำรับอาหารมาปิดเสียก่อน นางลืมตาขึ้นข้างหนึ่งมองเขา “นี่ เป็คนก็อย่าได้เป็คนได้คืบเอาศอกเช่นนี้จะดีกว่า!”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยกำหมัดเช็ดปาก เขากระแอมเบาๆ “เป็เงินเท่าไหร่ ข้าซื้อจากเ้า!”
ได้ยินคำว่าเงิน เฟิ่งเฉี่ยนกระตือรือร้นขึ้นมาทันที นางลืมตาอีกข้างหนึ่งแล้วพูดอย่างครุ่นคิด “ข้าไม่้าเงิน!”
“เช่นนั้นเ้า้าอะไร” ซือคงเซิ่งเจี๋ยถาม
ั์ตาของเฟิ่งเฉี่ยนกลอกไปมา นางลุกขึ้นนั่งแล้วจ้องไปที่เส้นผมสีเงินของเขาพร้อมกับหัวเราะเ้าเล่ห์ “เ้าให้ข้าััเส้นผมของเ้า ข้าจะให้เ้ากินอีกหนึ่งจาน!”
ร่างของซือคงเซิ่งเจี๋ยแข็งเกร็งอย่างเห็นได้ชัด สายตาของเขาสับสนครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้า “ไม่ได้!”
เดิมทีเฟิ่งเฉี่ยนคิดจะหยอกเย้าเขาเล่น เห็นเขาปฏิเสธ ความ้าเอาชนะในใจนางยิ่งมีมากขึ้น นางหิ้วกล่องสำรับอาหาร เดินไปริมทะเลสาบ แล้วมองมาทางเขาอย่างท้าทาย นางหยิบหมูสามชั้นในน้ำซอสขึ้นมาจานหนึ่งแล้วเทลงในทะเลสาบทันที!
“ในเมื่อเ้าไม่้า เช่นนั้นข้าก็เทหมูสามชั้นในน้ำซอสทิ้งซะ เลี้ยงปลาก็แล้วกัน!”
ดวงตาของซือคงเซิ่งเจี๋ยเบิกกว้าง เขาตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าสตรีนางนี้จะเป็คนทำอะไรเด็ดขาดรวดเร็วปานนี้ นางไม่พูดเป็ครั้งที่สองแต่เทหมูสามชั้นในน้ำซอสลงไปเลี้ยงปลาทันที
เยี่ยม เยี่ยมมาก!
เขาไม่เชื่อหรอกว่า นางจะนำเนื้อหมูสามชั้นในน้ำซอสทั้งหมดเทลงไป!
“กลยุทธ์กระตุ้นข้าศึกใช้ไม่ได้กับข้า!”
เฟิ่งเฉี่ยนมองมาด้วยหางตาแล้วยกยิ้ม “อย่างนั้นก็ดี! เดิมทีข้าทำพวกมันมาเพื่อมอบให้คนบางคนกิน ตอนนี้ข้าไม่้ามอบให้เขาแล้ว เทแล้วก็ดี จะได้สิ้นเื่สิ้นราว!”
นี่เป็คำพูดจากใจจริงของนาง หลังจากรู้เื่ที่เซวียนหยวนเช่อแต่งตั้งพระชายา นางก็เก็บอัดโทสะไว้เต็มท้อง นางยินดีเทหมูสามชั้นในน้ำซอสเลี้ยงปลา ไม่้านำไปให้เขากิน ถือเสียว่าเป็การลงโทษเขา!
พูดแล้ว นางก็หยิบหมูสามชั้นในน้ำซอสเทลงในทะเลสาบทีละจานๆ กิริยาท่าทางคล่องแคล่วว่องไว ไม่มีความลังเลใจแม้แต่นิดเดียว
ซือคงเซิ่งเจี๋ยมองอย่างปวดใจ รสชาติของหมูสามชั้นในน้ำซอสยังอบอวลอยู่ในปากของเขา เขาไม่เคยกินหมูสามชั้นในน้ำซอสอร่อยเช่นนี้มาก่อน น้ำลายไม่รักดีของเขาออกมาเต็มปาก เมื่อเห็นนางหยิบหมูสามชั้นในน้ำซอสจานสุดท้ายออกมาเตรียมจะเทลงในทะเลสาบ เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป แขนเสื้อกว้างสะบัดออกเป็สายลมแรงวูบหนึ่ง แย่งชิงหมูสามชั้นในน้ำซอสจานสุดท้ายมาไว้ในมือของตนเอง เขาขบฟันพูดว่า “เ้าเป็สตรีฟั่นเฟือนคนหนึ่งจริงๆ!”
เฟิ่งเฉี่ยนมองเขาด้วยหางตา แล้วยิ้มอย่างผู้กุมชัยชนะ “เช่นนั้นข้อตกลงของพวกเราเป็อันตกลง”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยมองนางอย่างไม่สบอารมณ์พร้อมกับจ้องเขม็งไปที่ “มือสกปรก” ทั้งคู่ของนาง ในใจย้อนแย้ง “คิดจะััเส้นผมของข้าก็ได้ แต่ต้องล้างมือสกปรกของเ้าให้สะอาดเสียก่อน...”
พูดแล้ว เขาเสริมอีกหนึ่งประโยคด้วยความรังเกียจอย่างที่สุด “อย่างน้อยต้องล้างสิบครั้ง!”
เฟิ่งเฉี่ยนกลอกตามองบน ที่แท้เขาเป็คนรักความสะอาดขนาดหนัก มิน่าเล่าครั้งนั้นที่จุมพิตเขาเพราะไม่ทันระวัง เขาจึงได้หมดสติไปทันที!
“ก็ได้ ก็ได้ ล้างมือก็ล้าง!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้