หลายวันมานี้คังอิงไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ั้แ่ถูกฟู่ซินหลางซ้อมจนต้องเข้าโรงพยาบาล หลังจากนั้นก็กลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ แต่หลังจากที่เธอข้ามภพมาอยู่ในร่างกายนี้ และฟื้นขึ้นมา หลายๆ อย่างก็ดีขึ้นตามลำดับอย่างน่าอัศจรรย์
แต่สุดท้ายแล้วาแสาหัสเช่นนั้นก็ยังคงส่งผลกระทบต่อร่างกายอยู่บ้าง คังอิงยังไม่ทันหายดี หลังออกจากโรงพยาบาลแป๊บๆ ก็ต้องรีบร้อนจัดการเื่การหย่าร้าง
กว่าจะจัดการเื่หย่าเรียบร้อยก็เล่นเอาเหนื่อยสายตัวแทบขาด แล้วยังต้องมาเจอกับสือเจียงหย่วนที่ถูกตามล่า จนเธอต้องดูแลเขาตลอดทั้งคืนแทบไม่ได้หลับได้นอน ไหนจะตอนย้ายมาอยู่บ้านใหม่ที่ต้องทำความสะอาดบ้านอีก ทำให้คังอิงรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งตัวไปจนถึงจิติญญา
เมื่อหัวถึงหมอน คังอิงก็หลับเป็ตาย พอเธอได้นอนหลับอย่างสบายใจ ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที เธอถึงได้รู้ว่าฟ้ามืดแล้ว
ไม่รู้ว่าเธอหลับไปนานแค่ไหน แต่คังอิงรู้สึกว่าร่างกายของเธอเหมือนกับนาฬิกาไขลานที่หยุดเดิน พอได้ไขลานใหม่ก็เริ่มเดินได้อย่างคล่องแคล่ว ส่วนร่างกายของคนหนุ่มสาวก็เปรียบเสมือนแบตเตอรี่โทรศัพท์รุ่นใหม่ การชาร์จนั้นเร็วสุดๆ
คังอิงยกข้อมือขึ้นดู พบว่านาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ของเธอแสดงเวลา 7 : 30 น. เธอนอนตื่นช้าอีกจนได้ ป่านนี้คงเลยเวลาอาหารเย็นไปแล้ว
ไม่แปลกที่ท้องของเธอจะร้องครวญคราง ถึงตอนเที่ยงเธอจะได้กินเนื้อสัตว์ แต่ร่างกายที่เต็มไปด้วยพลังก็ยิ่งใช้พลังงานมากเป็พิเศษ ยิ่งต้องใช้แรงงานมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งหิวเร็วเท่านั้น
คังอิงลูบท้องของตนเอง จู่ๆ ก็นึกถึงสือเจียงหย่วนขึ้นมา ไม่รู้ว่าเขาตื่นแล้วหรือยัง หากเขายังไม่ตื่น เธอควรจะทำอาหารเย็นให้เขากินดีไหมนะ?
ทันทีที่คังอิงคิดเช่นนั้น เธอก็รีบแต่งตัว พร้อมกับใช้ยางมัดผมสีดำมัดผมยาวประบ่าเป็หางม้า เธอมองใบหน้าอ่อนเยาว์สะสวยในกระจก แล้วพลันรู้สึกสบายตาขึ้นมา
เธอพบว่าหลังจากเกิดใหม่ครั้งนี้ นอกจากขาดแคลนเงินแล้ว เธอก็มีทุกอย่าง ทั้งรูปร่างหน้าตา ร่างกายที่แข็งแรง… พอคิดถึงสิ่งเหล่านี้ คังอิงก็ไม่รู้สึกเสียใจกับการเป็คนธรรมดาสามัญอีกต่อไป
เธอเปิดประตูอย่างมีความสุข พอดีกับประตูเหล็กในลานบ้านที่ส่งเสียงดัง ‘แอ๊ด’ พร้อมกับเปิดออก คังอิงใเล็กน้อย แต่เธอก็โล่งใจเมื่อเหลือบไปเห็นร่างสูงใหญ่ที่คุ้นเคยปรากฏในสายตา สือเจียงหย่วนนั่นเอง
คังอิงเห็นเขาเดินเข้ามาด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง ดูเหมือนเขาจะตื่นนอนก่อนเธอ เธอจึงบอกอย่างเกรงอกเกรงใจ “ฉันเผลอหลับยาว ตื่นไม่ทันทำอาหารเย็นให้คุณ คุณกินอะไรมาหรือยัง?”
คังอิงไม่ทันได้คิดว่าการทำอาหารให้สือเจียงหย่วนกิน จะกลายเป็เื่ที่เธอต้องรับผิดชอบไปั้แ่เมื่อไหร่
สือเจียงหย่วนตะลึงงันไปชั่วขณะ ก่อนจะส่ายหน้าแล้วบอกอย่างตรงไปตรงมา
“ผมเพิ่งตื่นเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน เห็นว่าฟ้ามืดแล้วเลยคิดจะทำอาหาร แต่ผมทำอาหารไม่เก่ง กลัวว่าถ้าทำไม่อร่อยขึ้นมาคุณจะไม่ชอบเอา ผมก็เลยออกไปซื้ออาหารสำเร็จรูปกับข้าวสวยมาสองชาม งั้นมากินเลยก็แล้วกัน”
คังอิงคิดไม่ถึงว่าสือเจียงหย่วนที่ดูไม่ค่อยจะใส่ใจอะไร กลับคำนึงถึงเื่ที่เธอยังไม่ได้กินอาหารค่ำด้วย ในใจพลันรู้สึกดีขึ้นมา เพราะการที่เราถูกคนอื่นห่วงใยกับการที่ไม่มีใครสนใจใยดีนั้นมันต่างกันจริงๆ
คังอิงไม่ได้สังเกตเลยว่า สายตาที่สือเจียงหย่วนมองเธอนั้นร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับบนใบหน้าของเธอมีแม่เหล็กที่ดึงดูดสายตาของเขาเอาไว้แน่น
คังอิงไม่ได้เขียนคิ้วหรือทาลิปสติก เธอเพิ่งตื่นนอน ผมของเธอก็แทบไม่ได้หวี เพียงแค่ใช้มือลูบๆ แล้วมัดผมเป็หางม้าอย่างลวกๆ แต่ปอยผมยุ่งๆ ที่ตกลงมาก็ทำให้เธอดูมีชีวิตชีวาและอ่อนเยาว์ลงไปอีก
ดวงตากลมโตเหมือนเมล็ดอัลมอนด์ ต่อให้เธอจะไม่พูดอะไร แค่เพียงมองดูก็เหมือนมีกวางวิ่งเข้ามาชนหัวใจ [1] สือเจียงหย่วน เธอมีเสน่ห์เย้ายวนใจที่แผ่ซ่านออกมาจากภายใน หลอมรวมเข้ากับรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูอ่อนเยาว์ ทำให้เธอมีบุคลิกอันน่าหลงใหลเป็พิเศษ
สือเจียงหย่วนวางอาหารที่ห่อมาลงบนโต๊ะอาหาร จากนั้นเขาก็หันหลังแล้วเอามือลูบไปตรงตำแหน่งที่หัวใจอยู่เบาๆ นึกสงสัยว่าทำไมหัวใจของเขาถึงเต้นแรงขนาดนี้ แถมยังรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องอีกด้วย
แย่แล้ว หรือว่าครั้งนี้เขาถูกฟันจนเป็โรคหัวใจเข้าแล้วจริงๆ?
สือเจียงหย่วนขมวดคิ้ว เขาเคยได้ยินมาว่าโรคหัวใจเป็โรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ส่วนโรคที่ไม่ได้เกิดจากกรรมพันธุ์มักมีสาเหตุจากความเหนื่อยล้า หรือโรคอื่นๆ เขาไม่เคยได้ยินว่าการถูกฟันเข้าที่หลังจะทำให้เป็โรคหัวใจได้
ช่างเถอะ เอาไว้มีเวลาว่างค่อยไปตรวจที่โรงพยาบาลดูก็แล้วกัน ตรวจดูว่าร่างกายของเขาผิดปกติตรงไหน… ชายหนุ่มผู้ไม่เคยหวั่นไหวกับผู้หญิงคนใดคิดแผนการในใจ
ครั้นเห็นสือเจียงหย่วนนำอาหารเย็นมาให้ คังอิงก็รับไว้อย่างไม่ขัดเขิน อย่างไรเสียตอนนี้สือเจียงหย่วนช่วยเหลือเธอ เธอจะจดจำเื่นี้ไว้ในใจ และวันหน้าจะหาโอกาสตอบแทนเขาเป็แน่
บุญคุณเพียงหยดน้ำ ตอบแทนดั่งน้ำพุ นี่คือหลักการในการดำเนินชีวิตของคังอิง และเป็พื้นฐานที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจ สามารถฝ่าฟันอุปสรรครอบด้านได้อย่างราบรื่น
คนอื่นต่างพากันเรียกเธอว่า ‘หญิงเหล็กแห่งวงการธุรกิจ’ ไม่ใช่เพราะว่าเธอโหดร้าย ไร้หัวใจ หรือไม่รู้จักการวางตัว แต่เพราะเธอมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ และพร้อมทำงานหนักได้อย่างไม่ย่อท้อต่างหาก
เธอเคยทำงานติดต่อกันสามสิบหกชั่วโมงโดยไม่พัก จนในที่สุดก็สามารถก้าวข้ามอุปสรรคด้านเทคนิคร่วมกับทีมเทคนิคไปได้ หลังจากที่คนในวงการเดียวกันรู้เื่นี้เข้า พวกเขาก็ตั้งฉายาให้เธอว่า ‘หญิงเหล็กแห่งวงการธุรกิจ’
คังอิงเปิดกล่องโฟมที่ใส่ข้าวสวย ไก่ต้มสับครึ่งตัว เต้าหู้ตุ๋น บรอกโคลีซอสกระเทียม ส่วนน้ำซุปก็คือซุปเต้าหู้ใส่เห็ดหูหนูโรยหน้าด้วยต้นหอม มองแล้วน่ารับประทานเหลือเกิน
คังอิงรู้สึกว่าสิ่งที่เธอพอใจมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ เธอมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เหมือนแต่ก่อนที่เธอทำงานหนักจนกระเพาะอาหารมีปัญหา แม้แต่ไวน์แดงราคาแพง เธอก็ไม่อาจดื่มได้ ส่วนอาหารเลิศรสชั้นดีก็ได้แต่ชิมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว แม้ต่อหน้าเป็อาหารธรรมดาๆ แบบนี้ เธอก็ยังรู้สึกอยากอาหาร
คังอิงแกะตะเกียบแบบใช้แล้วทิ้งออก แล้วตักข้าวใส่ชามเซรามิกสองใบ เธอยื่นชามหนึ่งให้สือเจียงหย่วนพลางกล่าวว่า
“รีบกินข้าวเถอะ คุณเองก็หิวแล้วใช่ไหม?”
สือเจียงหย่วนเพิ่งจะโกหกคังอิงไป ที่จริงเขาตื่นั้แ่สองชั่วโมงก่อนแล้ว ตามหลักการเมื่อเขาตื่นขึ้นมา ก็ควรรีบออกไปจากที่นี่ทันที แต่เขากลับรู้สึกว่ามีบางอย่างดลใจให้เขาอยู่ที่นี่ต่อ
จนกระทั่ง่หกโมงเย็นเห็นว่าคังอิงยังไม่ตื่น เขาก็เลยตรงไปที่ตัวเมืองเพื่อหาอะไรกิน ขอแค่เขายังอยู่ในอำเภอหลี่ว์ ที่บ้านของน้ารองก็จะมีช้อนกับตะเกียบพร้อมสำหรับเขาเสมอ ยามปกติพอเขากลับมายังตัวเมืองนี้ เขาจะไปกินข้าวที่บ้านของน้ารองทันที
แต่คืนนี้พอเขาเดาว่าคังอิงตื่นขึ้นมาคงมืดแล้ว แถมไม่มีข้าวให้กิน ต่อให้เธอทำอาหารเองก็ต้องเสียเวลาไปอีกสักพัก เขาจึงหยุดอยู่กลางทาง แล้วห่ออาหารกลับมาบ้าน
คิดไม่ถึงว่าพอเขากลับมา คังอิงจะตื่นพอดี พอเห็นคังอิงกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย สือเจียงหย่วนก็มีความสุขขึ้นมา เขาถามคังอิงพร้อมรอยยิ้มว่า “คุณชอบกินอาหารพวกนี้ทุกอย่างเลยไหม?”
“ฉันไม่ใช่คนเลือกกินค่ะ อะไรก็กินได้ทั้งนั้น ตราบใดที่ฉันยังอยากอาหาร ฉันกินอะไรก็อร่อย” คังอิงกล่าวด้วยสีหน้ามีความสุข
สือเจียงหย่วนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาคิดว่าตัวเองเดารสนิยมของเธอถูก และทำให้เธอนึกอยากอาหาร แต่เธอกลับตอบว่า กินอะไรก็อร่อย
แต่พอนึกดูอีกที หากคังอิงชอบกินของอร่อย แบบนี้ต่อไปพอเขาเจอของอร่อย ก็ซื้อมาฝากเธอ อย่างนั้นเธอก็ต้องชอบอาหารทุกอย่างที่เขาซื้อมาฝากสินะ? คิดแบบนั้นแล้วก็น่าจะดีเหมือนกัน
สือเจียงหย่วนอารมณ์ดีขึ้นมาอีกครั้ง เขายกมุมปากขึ้น พลางกินอาหารเย็นกับคังอิงอย่างมีความสุข
เชิงอรรถ
[1] อาการใจเต้นเร็วแรง เพราะความตื่นเต้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้