เมื่อกล่าวเช่นนี้ออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าของทุกคนพลันแข็งทื่อ พวกเขามองเสิ่นล่างอย่างไม่เข้าใจ
เื่ดีๆ ที่ฟ้าประทานลงมาเช่นนี้ เสิ่นล่างกลับไม่รับไว้!
“ฮ่าๆ ข้าอยู่ที่นี่เพียงสามวัน หลังจากนี้อีกสามวันค่อยให้คำตอบข้าก็ได้ มิฉะนั้นพวกเ้าจะสูญสิ้นโอกาสนี้ไป”
เจี้ยนอู๋เฉินหาได้โกรธเคืองเพราะคำปฏิเสธของเสิ่นล่าง เขายังคงแสดงท่าทางสง่างามเช่นเคย
จากนั้นเขาก็โบกพัดขนนกในมือเบาๆ เหาะลงจากลานประลองแล้วออกไปจากที่นี่
แม้เจี้ยนอู๋เฉินจะออกไปแล้ว แต่ซือหม่าหว่านเอ๋อร์กลับไม่ได้ไปด้วย ตอนที่นางกำลังลังเลว่าจะขึ้นไปบนลานประลองดีไหม เสิ่นล่างพลันประกาศต่อคนตระกูลเสิ่นทั้งหลาย
“ผู้นำตระกูลได้รับาเ็ต้องกลับไปพักผ่อนก่อน ผู้ดูแลทั้งหลายดำเนินการต่อได้เลย”
กล่าวจบ เขาก็แบกร่างของเสิ่นเสวียนเหาะไปยังลานหลังเขา
เมื่อครู่นี้เสิ่นล่างกล่าวคำว่า ‘ผู้นำตระกูล’ ออกมาแล้ว การกระทำของเสิ่นเสวียนทำให้ได้รับการยอมรับจากเสิ่นล่าง ขณะเดียวกันก็ได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่ในตระกูลด้วย ทุกคนจึงพยักหน้าเป็การตอบรับ
เสิ่นเสี่ยวเม่ยเห็นเสิ่นเสวียนออกไปแล้ว จึงตามไปยังลานหลังเขาด้วยความช่วยเหลือของเสิ่นว่านซื่อ
คนตระกูลเสิ่นทั้งหลายในลานประลองต่างแยกย้ายกันไปภายใต้การจัดการของเหล่าผู้ดูแลตระกูล เหลือเพียงซือหม่าหว่านเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดี
ก่อนหน้านี้นางเข้าใจเสิ่นเสวียนผิดไป แต่ตอนนี้นางตัดสินใจแล้วว่าจะดึงเสิ่นเสวียนมาอยู่ข้างกาย
อัจฉริยะระดับนี้ หากดึงเข้าตระกูลซือหม่าได้จริงๆ จะเป็ผลดีต่อตระกูลซือหม่าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ณ ลานหลังเขาของตระกูลเสิ่น
เสิ่นเสวียนนอนอยู่บนเตียงเหมือนนอนหลับไปเฉยๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นร่องรอยาเ็บนร่างของเขาแล้ว าแนั้นยังน่ากลัวมากอยู่ดี
ในตอนนั้นหานเฟิงมีพลังขั้นบรรพบุรุษระดับกลาง พยายามเค้นพลังทั้งหมดออกมาเพราะ้าสังหารเสิ่นเสวียนให้ตาย แต่ก็ยังมิอาจสังหารเขาได้
ร่างกายนี้แข็งแกร่งมากจนน่ากลัว
เสิ่นล่างเดินกลับไปกลับมาอยู่ข้างเตียงของเสิ่นเสวียนอย่างร้อนใจ
เส้นผมและเคราสีขาวโพลนสะบัดไปมา แอบแฝงจิตใจที่ร้อนรุ่มเอาไว้ สิ่งที่เสิ่นเสวียนแสดงออกมาให้เห็นบนลานประลองทำให้เขานึกย้อนไปยัง่วัยหนุ่มอีกครั้ง เป็่อายุที่ทำทุกอย่างโดยไม่คิดคำนึงถึงผลที่ตามมา เสิ่นเสวียนเหมือนเขามาก เขาต้องรักษาเสิ่นเสวียนให้ฟื้นกลับคืนมา จึงจะนำพาตระกูลเสิ่นให้ก้าวหน้าสู่ความรุ่งเรืองได้
ขณะนั้น เสียงของเสิ่นว่านซื่อและเสิ่นเสี่ยวเม่ยดังขึ้นที่ด้านนอก
เสิ่นล่างตรวจดูอาการของเสิ่นเสวียนแล้ว ้าให้เขาได้พักรักษาตัวเงียบๆ จึงออกจากเรือนเล็กไปทันทีและปิดประตูไว้
“ผู้าุโใหญ่ ท่านพี่ข้าเป็อย่างไรบ้าง”
เสิ่นเสี่ยวเม่ยเห็นเสิ่นล่างออกมาแล้วจึงถามขึ้นทันที
“เขาได้รับาเ็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จำเป็ต้องพักรักษาตัว”
“ผู้าุโใหญ่โปรดช่วยพี่ชายข้าด้วย”
เสิ่นเสี่ยวเม่ยกล่าวทั้งน้ำตา นางเพิ่งได้พบกับเสิ่นเสวียน ไม่อยากเสียเขาไปแบบนี้ แม้จะไม่เข้าใจการต่อสู้บนลานประลอง แต่นางก็เห็นว่าเสิ่นเสวียนาเ็หนักมากจริงๆ
“วางใจเถอะ! ตอนนี้เขาคือผู้นำตระกูลแล้ว ข้าจะรักษาเขาอย่างสุดความสามารถ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขายังหมดสติอยู่ จำเป็ต้องมีคนดูแล”
“ข้าเอง”
เสิ่นว่านซื่อกล่าวขึ้นทันที เสิ่นเสี่ยวเม่ยไม่ค่อยสะดวกนัก แล้วเขาเองก็สนิทกับเสิ่นเสวียนที่สุดด้วย
“ดี อีกสักสองสามวันข้าจะหาเวลาว่างมาเยี่ยม จำไว้ว่าอย่าให้ใครเข้าไปรบกวนการพักผ่อนของผู้นำตระกูล”
“อืม”
เสิ่นว่านซื่อพยักหน้า
หลังจากจัดแจงทุกอย่างแล้ว เสิ่นล่างอยู่เฝ้าเสิ่นเสวียนอีกห้าชั่วยาม เห็นว่าเสิ่นเสวียนไม่มีทีท่าจะฟื้นขึ้นมา จนฟ้ามืดลงแล้วเขาถึงได้ออกไป
ระหว่างนั้นเสิ่นว่านซื่อได้ทำความสะอาดาแให้เสิ่นเสวียนแล้ว เช็ดเืออกไปจนหมด ตอนนี้เสิ่นเสวียนเหมือนนอนหลับปกติแล้วจริงๆ
เสิ่นล่างออกไปแล้ว เสิ่นว่านซื่อและเสิ่นเสี่ยวเม่ยอยู่เฝ้าเสิ่นเสวียนภายในเรือนนี้แทน
“ท่านพี่ ข้าเชื่อว่าท่านจะไม่เป็อะไร”
เสิ่นเสี่ยวเม่ยที่นั่งอยู่บนรถเข็นกล่าวขึ้น
“ผู้าุโใหญ่บอกแล้วว่าไม่เป็ไร เพียงแค่เหนื่อยล้าสะสมเท่านั้น เสี่ยวเม่ย เ้าไปนอนก่อนเถอะ!”
“ไม่เอา ข้าจะเฝ้าพี่ชายข้าอยู่ที่นี่”
ขณะนั้นเอง มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านนอก
“เขตหวงห้ามของผู้นำตระกูล ห้ามเข้า”
เมื่อได้ยินดังนั้น เสิ่นว่านซื่อจึงออกไปดูทันที
เขาพบว่าแม้ผู้าุโใหญ่จะออกไปแล้ว แต่ก็จัดองครักษ์ของตนมาเฝ้าที่นี่ไว้สองคน องครักษ์สองคนนี้ไม่ได้ต่ำต้อยเลยในตระกูลเสิ่น พลังของพวกเขาถึงขั้นแม่ทัพแล้วทั้งคู่
คนที่กล่าวขึ้นเมื่อครู่นี้คือหนึ่งในองครักษ์นั่นเอง ส่วนคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าพวกเขาก็คือซือหม่าหว่านเอ๋อร์ที่ถูกขวางเอาไว้
“ข้าคือน้องสาวของเสิ่นเสวียน เหตุใดถึงไม่ให้ข้าเข้าไป”
ซือหม่าหว่านเอ๋อร์โกรธมาก ตนเป็ถึงคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลซือหม่า เป็หนึ่งในสามอัจฉริยะหญิงแห่งเมืองหลวง กลับโดนปฏิเสธอยู่ด้านนอกเช่นนี้
“ท่านพี่ ข้าเอง”
ขณะนั้นซือหม่าหว่านเอ๋อร์มองเห็นเสิ่นว่านซื่อเดินออกมา จึงส่งเสียงเรียกเขาไว้
เมื่อเห็นซือหม่าหว่านเอ๋อร์ เสิ่นว่านซื่อพลันขมวดคิ้ว มองอีกฝ่ายด้วยแววตาสับสน
หากได้เจอซือหม่าหว่านเอ๋อร์เมื่อวานนี้ เขาคงจะเห็นนางเป็น้องสาวแท้ๆ ของตนเอง แต่วันนี้ได้เห็นซือหม่าหว่านเอ๋อร์มากับเจี้ยนอู๋เฉิน โดยเฉพาะหานเฟิงที่ทำให้เสิ่นเสวียนาเ็หนักขนาดนี้ ทำให้เขารู้สึกขัดแย้งขึ้นภายในจิตใจ
แต่เมื่อคิดถึงท่านอา เสิ่นว่านซื่อก็ยังเดินออกไปที่ประตูลานอยู่ดี
“เ้าไม่ได้ไปที่ตระกูลหานแล้วหรือ มาทำอะไรที่นี่”
“ท่านพี่เข้าใจผิดแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าได้รับคำสั่งจากท่านพ่อให้ไปส่งจดหมายที่ตระกูลหาน จึงต้องไปที่นั่นก่อน คิดไม่ถึงว่าเื่ราวจะบังเอิญเช่นนี้ ท่านพี่คงไม่ห้ามข้าเข้าไปหรอกใช่ไหม!”
ซือหม่าหว่านเอ๋อร์ยิ้มน้อยๆ ทว่าภายในใจกลับเปี่ยมไปด้วยความรังเกียจ นางยังคิดอยู่เลยว่าทำไมตนถึงได้เป็ญาติกับคนที่มิอาจฝึกฝนได้เช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะนางอยากดึงเสิ่นเสวียนมาอยู่ข้างกาย นางคงไม่เข้ามาที่นี่เด็ดขาด
“คำสั่งของอาเขยอย่างนั้นหรือ”
เมื่อได้ยินดังนั้น เสิ่นว่านซื่อก็เกิดลังเลขึ้นมา ดูเหมือนตนจะเข้าใจนางผิดไปจริงๆ
“พี่ชายทั้งสอง นางคือน้องสาวของข้าเอง ให้นางเข้ามาได้ไหม”
“เข้าไปได้!”
องครักษ์ทั้งสองคนพยักหน้าพลางกล่าว ผู้าุโใหญ่เคยบอกไว้ว่าใน่ที่เสิ่นเสวียนยังไม่ฟื้น ให้ฟังคำสั่งจากเสิ่นว่านซื่อ
“ขอบคุณพี่ชาย เ้าเข้ามาเถอะ!”
เสิ่นว่านซื่อกล่าวจบก็หันหลังเดินกลับไปยังเรือนเล็ก
ซือหม่าหว่านเอ๋อร์เดินตามมายังเรือนเล็ก มองเสิ่นเสวียนที่นอนอยู่บนเตียง
“เขาเป็อย่างไรบ้าง ข้ามียารักษาอยู่ เอาให้เขากินเถอะ!”
“ไม่ต้องหรอก พี่ชายข้ากินไปแล้ว”
เสิ่นเสี่ยวเม่ยมองซือหม่าหว่านเอ๋อร์ด้วยสายตาไม่เป็มิตร เมื่อตอนกลางวันยังเห็นแม่นางผู้นี้มากับหานเฟิงอยู่เลย ตอนนี้ยังมาถึงที่นี่อีก จะไม่ให้นางคิดร้ายไว้ก่อนได้อย่างไร
“เ้าคือเสี่ยวเม่ยใช่ไหม เป็อย่างไรบ้าง จำพี่หญิงหว่านเอ๋อร์ไม่ได้แล้วหรือ”
ซือหม่าหว่านเอ๋อร์มองเสิ่นเสี่ยวเม่ยพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“จำได้ แต่ทุกคนย่อมเปลี่ยนแปลงไป ตอนนี้พี่ชายข้ายังไม่พร้อมต้อนรับ เ้าออกไปเถอะ!” สัญชาตญาณหญิงของเสิ่นเสี่ยวเม่ยกำลังบอกว่าซือหม่าหว่านเอ๋อร์ไม่ได้มาดี
“เ้าได้เจอเขาแล้ว กลับไปก่อนเถอะ รอให้ผู้นำตื่นขึ้นแล้วค่อยว่ากัน”
เสิ่นว่านซื่อกล่าวกับซือหม่าหว่านเอ๋อร์เช่นกัน แม้ซือหม่าหว่านเอ๋อร์จะแสดงท่าทีที่เขาพอยอมรับได้ แต่เื่ที่เกิดขึ้นเมื่อวานทำให้เสิ่นว่านซื่อคลางแคลงใจมากเช่นกัน
“ก็ได้ พรุ่งนี้ข้าจะมาเยี่ยมเขาใหม่”
ซือหม่าหว่านเอ๋อร์หันมองเสิ่นเสวียนที่นอนอยู่บนเตียงอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจ แล้วนางก็เดินออกไปจากเรือน
เมื่อเห็นซือหม่าหว่านเอ๋อร์ออกไปแล้ว เสิ่นว่านซื่อก็ส่ายหัวพลางถอนหายใจ
“หวังว่าเ้าจะหวังดีจริงๆ”
ส่วนเสิ่นเสวียนที่หมดสติไป กลับปรากฏตัวขึ้นในโลกแปลกๆ แห่งหนึ่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้