“ลูกพี่พวกฉัน้าเจอแก ตามพวกฉันมา” ชายชุดดำสวมแว่นกันแดดมองมาทางเย่เฟิง สายตาของพวกเขากำลังสื่อว่า ‘แกโชคร้ายเข้าแล้วล่ะไอ้หนุ่ม’
เมื่อเหลือบมองจึงเห็นว่าเซียวเยว่กำลังซบไหล่เย่เฟิง ในเวลานั้นเขาแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอสาวสวยอยู่ที่นี่ด้วย น่าเสียดายที่สาวสวยอย่างเธอดันมาอยู่กับไอ้เด็กนี่ ซึ่งไปยั่วยุหัวหน้าคนใหม่ของเขา เกรงว่าคงจะพบจุดจบที่น่าเศร้าเสียแล้ว
“ลูกพี่แกเป็ใคร?”
เย่เฟิงเงยหน้ามอง เมื่อเห็นสายตาของอีกฝ่ายก็พอจะเดาความหมายได้ จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขัน
ไม่รู้ว่าแก๊งใหม่มีอิทธิพลมาจากไหน ใน่เวลาสั้นๆ ถึงกับสร้างชื่อจนเป็ที่รู้จักได้เช่นนี้นับว่าไม่ใช่เื่ง่าย เพียงแต่ไม่รู้ว่าใครคือหัวหน้าแก๊ง แล้วทำไมถึงอยากพบเขา?
“ตามไปดีๆ เถอะไอ้หนุ่ม เดี๋ยวไปถึงแกก็จะรู้เอง ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้แกได้รู้ซึ้งเองว่าแก๊งฉันเป็ยังไง!”
เมื่อเห็นเย่เฟิงยังกล้าถาม ชายชุดดำอีกคนก็แค่นเสียงด้วยความไม่พอใจ ก่อนะโด่าดังลั่น
พอสิ้นเสียง เย่เฟิงก็หยิบขวดเหล้าขึ้นมาขว้างใส่หัวอีกฝ่าย ขวดเหล้ากระแทกหน้าผากชายคนนั้นอย่างจัง โดยที่ทุกคนไม่ทันตั้งตัว
“อ๊าก—”
ชายชุดดำกรีดร้องพร้อมกับล้มลงไปกับพื้น ขวดเหล้าร่วงแตกกระจาย เืสดๆ ไหลจากหน้าผาก
“แล้วมันยังไงล่ะ?” เย่เฟิงถามกลับ จากนั้นเหยียดตัวลุกขึ้น พร้อมประคองร่างเซียวเยว่ไว้ในอ้อมแขน “ไปสิ พาฉันไปเจอลูกพี่พวกแกหน่อย”
ขณะพูด เย่เฟิงก็ใช้จิตหยั่งรู้สำรวจในระยะหนึ่งร้อยห้าสิบเมตร หากเกิดการเคลื่อนไหวอะไรต่อให้เพียงเล็กน้อย เขาก็จะสามารถรับรู้ได้ทันที
ในเมื่อหัวหน้าแก๊งใหม่อะไรนี่้าพบเขา งั้นเขาก็จะฝืนใจไปพบสักหน่อย ไม่แน่ว่าอาจเป็คนที่เขารู้จัก แต่เย่เฟิงรู้ได้จากท่าทางของอีกฝ่ายว่า หัวหน้าของคนพวกนี้คงไม่เป็มิตรกับเขาแน่ แล้วเป็ใครกันล่ะ? ดูท่าอีกฝ่ายยังไม่รู้กระทั่งชื่อเขาด้วยซ้ำ...
การกระทำของเย่เฟิงทำให้ฝ่ายตรงข้ามตื่นใจนนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง เพราะคำพูดไม่เข้าหูเพียงประโยคเดียว ชายหนุ่มถึงกับขว้างขวดเหล้า ทั้งยังกระแทกหน้าคนฝ่ายเขาอย่างจัง ตอนนี้จึงไม่มีใครกล้าตอบโต้เย่เฟิงเลยสักคน!
ทันทีที่เย่เฟิงลุกขึ้นยังบอกว่าจะไปพบลูกพี่ของพวกเขา ทำให้พวกเขาต้องรีบหยุดความคิดที่จะสั่งสอนเย่เฟิงไปก่อน ลูกพี่ตามหาไอ้หนุ่มนี่มาตลอดย่อมมีเหตุผลสินะ? ดูท่าทางเ้าหนุ่มนี่โหดเอาเื่ ไม่แน่ว่าอาจมีความสัมพันธ์บางอย่างกับลูกพี่ก็ได้ หากทำอะไรบุ่มบ่ามคงไม่ใช่เื่ดี...
หลายคนครุ่นคิดไปในทิศทางเดียวกัน จากนั้นหนึ่งในพวกเขาก็โทรเรียกรถพยาบาล ส่วนที่เหลือมองมาทางเย่เฟิงและเซียวเยว่ด้วยสายตามุ่งร้าย ก่อนเดินนำออกจากผับไป
ทุกคนในผับต่างมองพวกที่กำลังจากไปโดยไม่กล้าพูดอะไรสักคำ ในใจคิดไปในทิศทางเดียวกันว่าเด็กหนุ่มคนนั้นคงทำให้หัวหน้าแก๊งใหม่ขุ่นเคืองใจ แน่นอนว่าเขาคงพบจุดจบไม่ดีนัก แม้แต่สาวสวยที่ตามเด็กหนุ่มนั่นไปก็ไม่รู้ว่าจะรอดหรือเปล่า?
พวกเขาย่อมไม่มีทางรู้ว่าเซียวเยว่เชื่อเย่เฟิงอย่างหมดใจ แม้แต่ตอนเผชิญหน้ากับเ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ สีหน้าเย่เฟิงยังไม่เปลี่ยนเลยสักนิด ทั้งยังกล้าเผชิญหน้ากับพวกเขา ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นสลักอยู่ในใจของเซียวเยว่เสมอมา แค่อันธพาลธรรมดาพวกนี้ทำไมยังต้องกลัว? ต่อให้อีกฝ่ายมีปืนก็ไม่อาจทำอะไรเย่เฟิงได้!
รถบูอิคสีดำขับออกจากผับ พาเย่เฟิงและเซียวเยว่ไปยังไนต์คลับขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
ภายในรถ เย่เฟิงรู้สึกว่าอุณหภูมิร่างกายของเซียวเยว่สูงขึ้นเรื่อยๆ จึงอดแปลกใจไม่ได้ เมื่อครู่เขาถามเธอแล้วว่าจะกลับบ้านก่อนไหม แต่เซียวเยว่ปฏิเสธ ตอบเพียงว่าเธอดื่มเหล้าจนเมา จะให้กลับไปเองได้อย่างไร?
การได้ดื่มเหล้ากับเย่เฟิงไม่ใช่เื่ง่าย เธอกลัวว่าต่อไปจะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีก ถึงอย่างไรในสายตาเซียวเยว่ เย่เฟิงไม่ใช่คนประเภททำตัวไร้สาระไปวันๆ อย่าเห็นว่าเธอเป็สาวงามแล้วสามารถชวนเขาออกมาได้ เขาจะยอมออกมาหรือไม่ย่อมขึ้นอยู่กับว่าเขามีเวลาหรือเปล่า ต่างจากคนอย่างจ้าวเหรินเจี๋ยที่เอาแต่เที่ยวเล่นสนุกไปวันๆ เมื่อเทียบกับเย่เฟิงนับว่าต่างกันมาก ซึ่งตัวตนเช่นนี้ของเย่เฟิงเป็สิ่งที่ดึงดูดเซียวเยว่ได้มากที่สุด...
ในเมื่อเซียวเยว่ไม่ยอมกลับบ้าน เย่เฟิงก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากต้องพาเธอมาด้วย ตอนนี้เซียวเยว่กำลังเมามาย หากปล่อยให้เธอกลับบ้านเพียงลำพัง เย่เฟิงย่อมไม่วางใจ อย่างน้อยพาเธอมาด้วยย่อมปลอดภัยกว่า
รถบูอิคสีดำหยุดตรงหน้าประตูทางเข้าไนต์คลับขนาดใหญ่ เย่เฟิงประคองเซียวเยว่ที่กำลังเมาลงจากรถ ก่อนพบว่าที่นี่ไม่ใช่หวงกงหรอกหรือ?
รอยัลคลับของตระกูลหวง หรือเรียกอีกอย่างว่าหวงกง เมื่อไม่นานมานี้ที่นี่คือสำนักงานใหญ่ของหนึ่งในสามแก๊งใหญ่ในเมืองเยี่ยนจิง ซึ่งก็คือแก๊งัดำ ตู้ปางหลงหัวหน้าแก๊งัดำถูกลอบสังหารในกลางดึกคืนหนึ่ง ทำให้แก๊งัดำไร้ซึ่งผู้นำและเกิดความโกลาหลภายในแก๊งพักใหญ่ กระทั่งวันหนึ่งมีคนฉวยโอกาสนี้ก่อตั้งแก๊งใหม่ขึ้นมาโดยรวบรวมสมาชิกที่เหลือรอดของแก๊งอสรพิษ์และแก๊งัดำขึ้น!
หัวหน้าแก๊งคนใหม่ทั้งแข็งแกร่ง ดุดัน และเหี้ยมโหด แต่ก็สามารถดูแลคนใต้ปกครองได้อย่างดี ทำให้คนในแก๊งตั้งใจทำงานแทบถวายชีวิต ผลที่ตามมาคือแก๊งใหม่สามารถเติบโตและขยับขยายได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้กลายเป็ว่าในเมืองเยี่ยนจิงมีแก๊ง์เป็แก๊งขนาดใหญ่เพียงแก๊งเดียว แต่ความสัมพันธ์ระหว่างแก๊งใหม่กับทางเ้าหน้าที่รัฐยังไม่สนิทชิดเชื้อกันมากนัก แน่นอนว่าเพื่อกระชับความสัมพันธ์ หัวหน้าแก๊งใหม่จึงเชิญชวนเ้าหน้าที่ระดับสูงมาดื่มกินด้วยกันภายในห้องส่วนตัวสุดหรูของรอยัลคลับ
เวลานี้เย่เฟิงและเซียวเยว่ถูกพาตัวเข้ามายังรอยัลคลับ ขณะมาถึง เย่เฟิงทอดถอนใจ ตอนที่เขามาครั้งก่อนระดับพลังของเขายังไม่ถึงสิบปี เขาสังหารตู้ปางหลงและถือโอกาสสังหารกลุ่มคนระดับสูงของแก๊งด้วย คาดไม่ถึงว่าจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มแก๊งมาเฟียในเมืองเยี่ยนจิงมากขนาดนี้ ตอนนี้เขามีระดับพลังสิบห้าปี และอีกไม่นานก็คงถึงยี่สิบปี เมื่อมาถึงรอยัลคลับอีกครั้ง เขาก็ยังไม่รู้ว่าใครคือหัวหน้าของแก๊งใหม่
“รออยู่ที่นี่ เดี๋ยวบอสจะมาหาพวกนายเอง”
ชายชุดดำหลายคนพาพวกเขามายังห้องธรรมดาห้องหนึ่ง ก่อนเดินออกไปเฝ้าหน้าประตูเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาหลบหนี
รอให้มาหางั้นเหรอ? แน่นอนว่านี่ไม่ใช่นิสัยของเย่เฟิง!
คนคนนี้ ‘เชิญ’ เขามา แต่กลับทำเช่นนี้ ดูท่าคงจะไม่มีความจริงใจ แล้วเย่เฟิงยังจำเป็ต้องไว้หน้าอีกฝ่ายด้วยหรือ?
เขาให้จิตหยั่งรู้สำรวจจึงรู้ว่าห้องส่วนตัวหรูหราชั้นถัดขึ้นไปเป็ห้องใหญ่ มีกลุ่มคนสังสรรค์กันอย่างรื่นเริง ดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน ในกลุ่มพวกเขามีชายร่างอ้วนพุงพลุ้ยคนหนึ่ง หัวมันเงาจนสะท้อนแสง สวมแว่นตาไร้กรอบ ดูจากท่าทางคงเป็คนสำคัญ น่าจะมีสถานะสูงในระดับหนึ่ง
ชายคนนี้ช่างดูคุ้นตา?
เย่เฟิงรู้สึกคุ้นเคยกับชายร่างอ้วนจึงเกิดความสงสัย เหมือนว่าเขาจะเคยเจออีกฝ่ายที่ไหนมาก่อน ฉับพลันเขาก็นึกออก นั่นไม่ใช่เ้าอ้วนทีู่เาฉางไป๋หรอกเหรอ คนที่เขาเคยสั่งสอนไปเมื่อตอนนั้น คนที่ชื่อเป่าซาน? ไม่เจอกันนาน คาดไม่ถึงเลยว่าหมอนี่จะเป็คนบ้าระห่ำถึงขั้นนี้ คนเราตัดสินกันแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้