โสมโบราณระดับสูงงอกอยู่ริมบ่อน้ำ แผ่พลังฟ้าดินออกมาอย่างเข้มข้น ทำให้ผู้คนที่อยู่ในรัศมีสิบลี้ล้วนััได้
หลงอวี้และหลิงหานเองก็ถูกพลังฟ้าดินนี้ดึงดูดมาเช่นกัน
ริมบ่อน้ำนั้น นอกจากเฟิงเหยาแล้วยังมีลูกศิษย์สำนักน้ำแข็งเยือกอีกสองคน ลูกศิษย์ลัทธิสยบฟ้าอีกสามคน รวมทั้งหมดหกคน กำลังยืนเผชิญหน้ากัน
แม้แต่ในกลุ่มลูกศิษย์หญิงทั้งสามของสำนักน้ำแข็งเยือก หรือในกลุ่มลูกศิษย์ชายทั้งสามของลัทธิสยบฟ้า ต่างก็ระแวงกันเองทั้งสิ้น!
ถึงอย่างไรโสมโบราณระดับสูงก็มีเพียงต้นเดียว ใครที่ได้ไปก็จะยกระดับอย่างก้าวะโ แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าทันที!
ต่อให้มาจากสำนักลัทธิเดียวกัน เมื่อสบโอกาสนี้ก็ต้องมีการแย่งชิงกันเกิดขึ้น
เพียงแต่ก่อนหน้านี้ต้องร่วมมือกันกำจัดคนนอกออกไปก่อน
ฝ่ายลัทธิสยบฟ้าทั้งสามคนนั้นคือพวกที่อยู่ในกลุ่มที่ออกไปกับหลงอวี้และหลิงหานเมื่อคืนก่อน ดูเหมือนทั้งสามคนจะเดินทางมาด้วยกันั้แ่เริ่มเข้าป่าจนถึงตอนนี้
ทั้งสามคนมีสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะพวกเขามีระดับวิถียุทธ์เพียงขั้นหก พวกเขารวมกันก็ยังสู้เฟิงเหยาคนเดียวไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงเฟิงเหยาที่มีพวกอีกสองคน
เพียงแต่ ความเย้ายวนของโสมโบราณระดับสูงนั้นรุนแรงเสียจนทั้งสามไม่คิดจะถอยหนี
“นั่นพวกศิษย์น้องนี่ ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”
หลิงหานที่เดินทางมาพร้อมกับหลงอวี้พอเห็นสถานการณ์ ก็เืร้อนเดือดพล่านคิดจะพุ่งไปช่วยเหลือทันที
“รอเดี๋ยวก่อนศิษย์ พี่!”
หลงอวี้กลับรั้งเขาไว้
“ท่านดูที่ริมบ่อน้ำก่อน มีแต่คนของสำนักน้ำแข็งเยือกกับลัทธิสยบฟ้าเรา ไม่เห็นคนของลัทธิพันไหมเลยแม้แต่คนเดียว แบบนี้ไม่ปกติแน่ มีโอกาสสูงที่พวกลัทธิพันไหมกำลังดักซุ่มเพื่อลอบโจมตีอยู่!”
หลิงหานได้ยินเช่นนั้นก็พลันใจนเหงื่อแตกพลั่ก
จริงด้วย คนของลัทธิพันไหมสามารถควบคุมเงาเพื่อใช้ต่อสู้ได้ พวกมันย่อมไม่เปิดเผยตัวจริงอย่างโจ่งแจ้งแน่ หากเขาผลีผลามพุ่งออกไปคงได้ตกเป็เป้าหมายของพวกลัทธิพันไหมด้วยน่ะสิ?
และในตอนที่หลิงหานกำลังคิดเช่นนั้น ทั้งหกคนตรงริมบ่อน้ำก็เริ่มปะทะกัน!
เฟิงเหยาบุกนำไปเผชิญหน้ากับคนของลัทธิสยบฟ้าก่อนทันที ไม่คิดจะออมมือแม้แต่น้อย พลันใช้วิทยายุทธ์ระดับสูงคลื่นัเยือกแข็ง!
แม้จะเป็วิชาคลื่นัเยือกแข็งเหมือนกัน แต่พอเฟิงเหยาใช้กลับดูทรงพลังกว่าหลิ่วิเซวียน เห็นได้ชัดว่าพลังของเฟิงเหยานั้นเหนือกว่าหลิ่วิเซวียน ทั้งที่เฟิงเหยายังไม่ได้ใช้กระบี่โบราณปิ่งถงเลย
นั่นคือยุทธภัณฑ์ระดับสูง ยากจะจินตนาการได้ว่ามีอานุภาพสูงแค่ไหน
คลื่นัเยือกแข็งที่บรรลุขั้นสูงจะรวบรวมลมปราณอัดแน่นเป็ัเยือกแข็งได้สามตน มันได้แยกกันพุ่งไปหาลูกศิษย์สามคนของลัทธิสยบฟ้า ทำให้ทั้งสามคนต้องต้านรับกันจนมือเท้าระวิง รีบใช้ท่าร่างเพื่อถอยหลัง
“จะหนีไปไหน?”
ลูกศิษย์หญิงอีกสองคนของสำนักน้ำแข็งเยือกส่งเสียงะโแหลมสูง ขวางทางหลบหนีของศิษย์ลัทธิสยบฟ้าทั้งสามคนไว้
“หมัดทลายภูผา!”
ลมปราณแพร่กระจายไปทั่วบริเวณ พริบตานั้น ลูกศิษย์ลัทธิสยบฟ้าสองคนก็ถูกชกกระเด็นล้มกระแทกพื้นอย่างรุนแรง
ส่วนคนสุดท้ายที่เหลือ พอเห็นสถานการณ์ตรงหน้าก็ไม่กล้าอยู่ต่อ รีบดีดตัวหนีเข้าป่าข้างๆ ทันที
“อ้าก!!!”
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นภายในป่านั้น เห็นได้ชัดว่าหลังจากลูกศิษย์ลัทธิสยบฟ้าคนนั้นที่หนีเข้าป่าก็ถูกลอบโจมตีทันที ทำให้พวกเฟิงเหยาหน้าถอดสีไปตามๆ กัน
“คนของลัทธิพันไหมดักซุ่มโจมตีอยู่”
เฟิงเหยาพูดเสียงต่ำ
“พวกเรารีบเก็บโสมโบราณระดับสูงแล้วหนีไปกันเถอะ”
ลูกศิษย์หญิงสำนักน้ำแข็งเยือกอีกสองคนที่เหลือ แม้จะอยากได้โสมโบราณระดับสูงเหมือนกัน แต่หากเฟิงเหยายังอยู่พวกนางก็ไม่มีโอกาส และจากสถานการณ์ตอนนี้ พวกนางก็ได้แต่ติดตามเฟิงเหยาไปด้วยเท่านั้น
ในตอนที่ทั้งสามกำลังหารือกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเงาดำสายหนึ่งพุ่งมายังริมบ่อน้ำ ชิงโสมโบราณระดับสูงไปทันที
“อย่าหวัง!”
เฟิงเหยาหน้าถอดสีไปทันที มองปราดเดียวก็รู้ว่านั่นคือวิชาคุมเงาของลัทธิพันไหม!
ฟึ่บ! ฟึ่บ!
เพียงเฟิงเหยาสะบัดมือ ลมปราณสองสายถูกรวบรวมขึ้นมาก่อนจะซัดไปทางเงาดำ แต่เงานั่นพลันทาบติดลงกับพื้น หลบการโจมตีด้วยลมปราณของนางไปทั้งอย่างนั้น!
โสมโบราณระดับสูงถูกเงานั่นแย่งชิงไปง่ายๆ แม้แต่รากก็ไม่เหลือ!
พอเงาดำได้ของมาแล้วก็รีบพุ่งเข้าไปในป่าใกล้ๆด้วยความเร็วสูงสุด!
“ตามไป!”
เฟิงเหยางมีสีหน้าตึงเครียด รีบตามไปทันที
ลูกศิษย์หญิงอีกสองคนข้างหลัง พอเห็นเช่นนั้นก็หันมาสบตากันครู่หนึ่งแล้วเว้นระยะเล็กน้อยค่อยเริ่มตามไป เห็นได้ชัดว่าทั้งสองมีความคิดเป็ของตัวเองอยู่เช่นกัน
หากเฟิงเหยาเปิดฉากปะทะกับคนของลัทธิพันไหมจนาเ็ทั้งสองฝ่ายก่อนละก็ พวกนางก็จะฉวยโอกาสแย่งชิงของไปทันที!
หากไม่ใช้วิธีนี้ พวกนางก็ไม่มีหวังที่จะแย่งชิงโสมโบราณระดับสูงมาได้
เฟิงเหยาที่ไล่ตามมาคนเดียว เพียงครู่เดียวก็ตามเงาดำนั่นเข้าไปในป่าลึก
แม้นางจะรู้ดีว่า เงาที่ลัทธิพันไหมควบคุม ถ้าอยู่ในป่าที่มีแต่เงาต้นไม้เต็มไปหมดมันจะแอบซ่อนได้ง่าย ทำให้พวกนางตามรอยไม่ได้ แต่ถ้าอีกฝ่ายถือโสมโบราณระดับสูงไว้ แค่ไล่ตามพลังฟ้าดินอันเข้มข้นนั่นไป ก็ไม่มีทางสลัดนางหลุดได้แล้ว
เพียงแต่นางคาดไม่ถึงว่า หลังจากเข้าป่าได้ไม่ทันไรก็มีพละกำลังมหาศาลสายหนึ่งมารัดขาสองข้างของนางไว้ทันที!
“นี่มันวิทยายุทธ์ของลัทธิพันไหม!”
เฟิงเหยาพลันตื่นตระหนก ก้มหัวมองก็พบเงาดำที่ดูคล้ายแขนสองข้างกำลังกอดรัดขาของนางไว้ราวกับเชือก ส่วนพละกำลังหลายหมื่นชั่งที่อยู่ในนั้นก็เหมือนกำลังจะบีบขาของนางให้แหลกละเอียด!
“เ้าติดกับแล้ว”
น้ำเสียงชั่วร้ายดังมาจากเงามืด ไม่สามารถยืนยันตำแหน่งได้ จากนั้นเงาดำทั้งหมดที่อยู่ใกล้ๆ นางก็เกิดการเคลื่อนไหว
เคล็ดพันไหมบัญชาเงาที่คนลัทธิพันไหมฝึกฝนนั้น มีความสามารถในการควบคุมเงาได้ วิทยายุทธ์ของลัทธินี้ล้วนเกี่ยวข้องกับเงาทั้งสิ้น
อย่างเช่นตอนนี้ ลูกศิษย์ของลัทธิพันไหมที่หลบอยู่ในความมืดได้ควบคุมเงาของต้นไม้โบราณที่อยู่รอบๆ ให้พุ่งไปรัดเฟิงเหยาไว้
ลมปราณที่ถูกห่อหุ้มบนเงาของต้นไม้โบราณขนาดมหึมา เปลี่ยนไปห่อหุ้มร่างของเฟิงเหยาอย่างง่ายดาย ราวกับจะกดทับนางจนเละ!
เพียงแต่วินาทีต่อมา ปราณน้ำแข็งอันเย็นะเืสายหนึ่งพลันะเิออกจากร่างของเฟิงเหยา
“เคล็ดกระบี่จันทราเยือกแข็ง!”
คมกระบี่สายหนึ่งได้ทะลวงเงาดำไปในพริบตา สลายลมปราณที่อยู่บนเงาทิ้งอย่างง่ายดาย จากนั้นเฟิงเหยาก็ดีดตัวขึ้น เสือกกระบี่ไปยังทิศทางหนึ่งด้วยความเร็วสูง
“ปราณกระบี่จันทราเยือกแข็ง!”
ปราณกระบี่คล้ายกับพระจันทร์เสี้ยวแฝงกลิ่นอายเย็นะเืสายหนึ่งพุ่งออกไป ผ่าต้นไม้โบราณต้นใหญ่จนขาดสะบั้น
ต้นไม้โบราณต้นนั้นล้มครืนลงมาทันที เหลือเพียงกลิ่นอายของลูกศิษย์ลัทธิพันไหมคนนั้น ส่วนเ้าตัวได้หายไปแล้ว
“โสมโบราณ อยู่ทางนี้!”
เฟิงเหยารีบไล่ตามเข้าไปในส่วนลึกของป่าอย่างไม่ลังเล
ยุทธภัณฑ์ระดับสูงที่นาง ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือวรยุทธ์ขั้นแปดตอนนี้ นางก็พอจะต่อกรได้ ด้วยเหตุนี้ นางจึงกล้าไล่ตามเข้าไปในป่าลึกอย่างไม่เกรงกลัว
ภายในป่ามีเงาของสิ่งต่างๆ กระจายอยู่เต็มไปหมด จู่ๆ ก็มีเงาท่อนไม้สองท่อนยื่นมาจากใต้เท้า รัดที่ข้อเท้าของนางอีกครั้งราวกับอสรพิษ
“ลูกไม้เดิมๆ!”
เฟิงเหยาได้ฟันกระบี่ปิ่งถงด้วยสีหน้ารำคาญ แต่จู่ๆ เงาทั้งหมดที่อยู่รอบตัวก็พุ่งเข้าหานางทั่วสารทิศ
ต่อให้เคล็ดกระบี่จันทราน้ำแข็งจะมีพลังทำลายล้างสูงส่ง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการกระหน่ำโจมตีจากเงามืดทั่วสารทิศเช่นนี้ ต่อให้เป็นางก็รับมือไม่ไหวเหมือนกัน!
“เงาดำมากมายขนาดนี้ ลมปราณเข้มข้นขนาดนี้ ไม่ได้มีแค่คนเดียวแน่!”
พริบตานั้นเฟิงเหยาก็รู้ตัวทันทีว่าตัวเองได้ติดกับของศัตรูแล้ว เพียงแต่ในตอนนั้น เงาดำที่กำลังจะเข้ามาโจมตีใส่นางจู่ๆ ก็ถอยกลับไปเสียอย่างนั้น
“หืม?”
เฟิงเหยาขมวดคิ้วงุนงง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ อีกฝ่ายที่โจมตีรีบถอยไปแบบนั้น?
และนางก็ได้รู้สาเหตุอย่างรวดเร็ว
เพราะในป่าที่อยู่ห่างไปไม่ไกล ได้มีเสียงต่อสู้ดังขึ้น เสียงลมปราณะเิดังกึกก้องกระทบโสตประสาท เห็นได้ชัดว่ากลิ่นอายของโสมโบราณระดับสูงได้ดึงดูดคนอื่นเข้ามาด้วย ทำให้คนของลัทธิพันไหมด้วยกันเองก็ถูกเพ่งเล็งเหมือนกัน
ความจริงแล้ว ผู้ที่ไปจัดการกับผู้คุมเงาของลัทธิพันไหม คือหลงอวี้และหลิงหานนั่นเอง
ทั้งสองที่ซ่อนอยู่ในเงามืดทำความเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้จนชัดเจนแล้ว ในศึกนี้มีคนของลัทธิพันไหมซุ่มโจมตีจากในป่าทั้งหมดสามคน สองในสามมีวรยุทธ์ขั้นเจ็ด อีกหนึ่งคนอยู่ขั้นหก
ตอนที่พวกมันสามคนล้อมโจมตีเฟิงเหยา หลงอวี้และหานหลิงจึงได้เปิดฉากลอบโจมตีแบบสายฟ้าแลบ สังหารลูกศิษย์ลัทธิพันไหมคนที่่ชิงโสมโบราณไปอย่างรวดเร็ว และคนผู้นั้นก็มีวรยุทธ์ถึงขั้นเจ็ด!
แม้ลูกศิษย์ของลัทธิพันไหมจะมีวิธีการต่อสู้ที่พิสดาร วิทยายุทธ์ชั่วร้ายเ้าเล่ห์ แต่หากถูกประชิดตัว พลังต่อสู้ก็จะด้อยลงทันที จึงถูกหลงอวี้และหลิงหานร่วมมือกันสังหารได้อย่างง่ายดาย
“ได้โสมโบราณมาแล้ว”
หลงอวี้ถือโสมโบราณระดับสูงไว้ แววตาปรากฏความยินดี
หลิงหานที่อยู่ข้างๆ รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเช่นกัน
“ศิษย์น้อง เ้าเอาโสมไปก่อน เดี๋ยวข้าจะคอยขวางคนเหล่านี้ไว้เอง!”
เขาััได้ว่า หากหลงอวี้ดูดกลืนพลังฟ้าดินของโสมระดับสูงนี้ไป อาจจะยกระดับวรยุทธ์ถึงขั้นเจ็ดได้เลย!
หลงอวี้ตอนนี้เพิ่งมีวรยุทธ์ขั้นหก แต่สามารถเอาชนะยอดฝีมือขั้นเจ็ดได้ ถ้ายกระดับขึ้นสู่ขั้นเจ็ดได้ เขาอาจต่อกรกับยอดฝีมือขั้นแปดได้เลย
หากเป็เช่นนั้น หลงอวี้ก็จะเคลื่อนไหวในป่าโสมโบราณได้ง่ายขึ้น หาโสมโบราณได้มากขึ้น ฉกฉวยผลประโยชน์ให้ลูกศิษย์ของลัทธิสยบฟ้าได้มากกว่าเดิม!
ที่หลิงหานตัดสินใจแบบนั้น เพราะยังอีกยาวไกลกว่าเขาจะทะลวงขีดจำกัดขึ้นสู่วิถียุทธ์ขั้นแปด แม้จะเป็โสมโบราณระดับสูงก็ไม่อาจทำให้เขาทะลวงขีดจำกัดได้อยู่ดี
เช่นนั้น ยกมันให้หลงอวี้ดูจะมีประโยชน์มากกว่า
หลงอวี้เป็คนเด็ดขาดไร้ซึ่งความลังเล พอมั่นใจแล้วว่าพลังของหลิงหานตอนนี้ ไม่มีอันตรายถึงชีวิต เขาก็รีบเอาโสมโบราณระดับสูงไปทันที!
สถานการณ์ตรงนี้วุ่นวายเกินไป ไม่ได้มีแค่คนของลัทธิพันไหมที่ซ่อนตัวอยู่สองคนเท่านั้น แต่ยังมีเฟิงเหยาและลูกศิษย์สำนักน้ำแข็งเยือกอีกสองคนที่ยังไล่ตามมาอีกด้วย
และที่สำคัญ หลงอวี้กลัวว่าอีกเดี๋ยวจะมีคนตามมาเพิ่มอีก และถ้าเป็ยอดฝีมือวรยุทธ์ขั้นแปดก็คงแย่แน่
ด้วยเหตุนี้เอง สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือนำโสมระดับสูงหนีไป หาที่ปลอดภัยเพื่อดูดกลืนพลังฟ้าดินให้หมด จากนั้นก็ลองทะลวงขีดจำกัดขึ้นสู่ขั้นเจ็ด!
“วายุก้าวพริบตา รองเท้าเหมันต์คลั่ง!”
เมื่อหลงอวี้ตัดสินใจได้ ก็ใช้วิชาวายุก้าวพริบตาที่บรรลุขั้นสูงสุดพร้อมกับใช้พลังของรองเท้าเหมันต์คลั่ง ทะยานเข้าไปในป่าลึกทันที!
แต่มีเงาร่างสายหนึ่งที่ซ่อนตัวอย่างแเี ลอบติดตามเขาไปด้วยความเร็วสูงกว่าหลงอวี้ที่เคลื่อนที่เต็มกำลังเสียอีก
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
เข็มยาวที่มาจากเงาดำพุ่งเข้าใส่เขาจากในเงามืด!
“วิทยายุทธ์ของลัทธิพันไหม?”
หลงอวี้เห็นเช่นนั้น ไม่ลังเลก็พลันเปลี่ยนร่างตัวเองให้เบาดุจสายลม เพียงก้าวเดียวก็เคลื่อนไปข้างหน้าได้สามจ้าง หลบเข็มเ่าั้อย่างง่ายดาย
จากนั้นเงาดำที่ไล่ตามมาติดๆ ก็หายตัวไปทันที
หลงอวี้รู้ว่าเป็หลิงหานที่ตามหาร่างหลักของลูกศิษย์ลัทธิพันไหมนั่นเจอ และเข้าไปจัดการไม่ให้อีกฝ่ายตามมาตอแยเขาต่อได้
หลิงหานตอนนี้เพิ่งจะสังหารลูกศิษย์ลัทธิพันไหมที่มีวรยุทธ์ขั้นหกคนหนึ่งที่ซ่อนอยู่บนต้นไม้จนตาย ในตอนนั้นเขาก็เห็นเฟิงเหยาถือกระบี่โบราณปิ่งถงกำลังไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว
“คิดจะไล่ตามไปอย่างนั้นหรือ ผ่านด้านข้าให้ได้ก่อน!”
หลิงหานะโเสียงดัง ะโลงจากต้นไม้ทันที!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้