ใช้เวลาไม่นานเนี่ยเทียนป้าก็พาองค์หญิงโยวเยว่ที่ตนจับได้มาที่ตระกูลหวัง! ไม่สิ ตอนนี้นางก็คือบ่าวคนสนิทผู้แสนภักดีต่างหาก
“เซียนแซ่จาง องค์หญิงโยวเยว่ พวกท่านดู นี่คือบ่าวคนสนิทขององค์หญิงหรือไม่” เนี่ยเทียนป้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระวนกระวายใจ
คนในที่นั้นมองสตรีชุดดำที่เนี่ยเทียนป้าพาตัวมา
สตรีนางนี้งดงามหาใดเปรียบ เรือนผมยาวจรดแผ่นหลัง จะติดก็แค่บนดวงหน้างามงดนั้นกลับมีรอยแผลเป็น่าสะพรึงอยู่ด้วย ตอนนี้นางกำลังนั่งอยู่บนพื้นอย่างอิดโรย คล้ายว่าโดนยาบางอย่างจึงไม่อาจกระดิกตัวได้สักกระผีกริ้น ดวงตาทั้งสองว่างเปล่า สีหน้าไร้ระลอกอารมณ์ คล้ายว่ายอมรับในชะตากรรมแล้ว
เพียงแต่ทันทีที่ได้ยินเนี่ยเทียนป้าเรียกพี่หญิงใหญ่ที่อยู่ในกรงว่า ‘องค์หญิงโยวเยว่’ นางก็ต้องผงะ แววตาพลันฉายแววประหลาดใจ
เมื่อเห็นองค์หญิงโยวเยว่ที่อยู่ในกรงนางก็ต้องยกมือปิดปากทันที น้ำตาเอ่อขึ้นในดวงตา
หวังเค่อหันหลังให้พวกจางเจิ้งเต้า ทำมือประหนึ่งว่า้าให้ทุกคนช่วยเงียบเสียงลงหน่อย เห็นได้ชัดว่าหวังเค่อเองก็กำลังยืนยันว่าสตรีที่ถูกตระกูลเนี่ยพาตัวมานี้จะเป็ตัวปลอมเพื่อตบตาตนหรือไม่
ในจังหวะที่พวกเนี่ยเทียนป้ากำลังลุ้นกันตัวโก่ง หวังเค่อก็เข้ามายืนยันฐานะของสตรีตรงหน้าเป็ที่เรียบร้อย แอบส่งสัญญาณไปด้านหลัง
“พี่หญิง ทำไมท่านถึงมีสารรูปเช่นนี้ได้? เป็ข้าไม่ดีเอง ข้าทำลายความเชื่อใจขององค์หญิง กลับเป็ท่านที่จงรักภักดีกว่าข้า พี่หญิง ทำไมหน้าของท่านถึงได้...ฮือออออ!” พี่หญิงรองที่อยู่ไม่ไกลกันจู่ๆ ก็ร่ำไห้โฮออกมา
“ฮืออออ!” ‘องค์หญิงโยวเยว่’ ที่อยู่ในกรงเองก็ร่ำไห้จนน้ำตาเป็สายเื
สตรีชุดดำนางนั้นจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยเครื่องหมายคำถามเต็มหัว เหตุใดสตรีที่อยู่ในกรงถึงได้เรียกข้าว่าพี่หญิงล่ะ?
เนี่ยเทียนป้ามองจางเจิ้งเต้าอย่างลุ้นระทึก แต่น่าเสียดายที่ในสายตาของจางเจิ้งเต้าตอนนี้มีแต่องค์หญิงโยวเยว่ที่อยู่ในกรงเท่านั้น มันเฝ้ามองนางด้วยความปวดใจ จากนั้นอยู่ๆ มันก็บันดาลโทสะออกมา
“บัดซบ เ้ากล้าดียังไงถึงได้ทำร้ายคนสนิทของเสี่ยวเยว่เยว่ ข้าจะฆ่าเ้า!” จางเจิ้งเต้าตั้งท่าจะกระโจนเข้าหาเนี่ยเทียนป้าอย่างเอาเื่
เนี่ยเทียนป้าเปลี่ยนสีหน้าทันควัน “เซียนแซ่จาง โปรดระงับโทสะลงก่อน ตอนที่ข้าทำการจับกุมนาง เพราะความเผอเรอจึงพลาดทำใบหน้านางเสียโฉม แต่ระหว่างที่นางถูกกักตัว พวกเราไม่ได้ข่มเหงรังแกนางแต่อย่างใด จะมีก็แค่ให้นางทานยาคลายเส้นเอ็นเท่านั้น พวกเราไม่กล้าแตะต้องนางเด็ดขาด! เซียนแซ่จางเมตตาด้วย!”
“เซียนแซ่จางระงับโทสะก่อน ประมุขเนี่ยแม้ทำนางเจ็บตัวไปบ้าง แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ได้เอาชีวิตนาง หากบ่าวคนนี้ตกไปอยู่ในกำมือของผู้อื่น น่ากลัวว่าคงจะตายตกไปนานแล้ว! เซียนแซ่จางระงับโทสะก่อน!” หวังเค่อเข้ามาช่วยห้าม พยายามเกลี้ยกล่อมหว่านล้อมจางเจิ้งเต้า
“ประมุขหวังพูดถูกแล้ว ประมุขหวังพูดถูกที่สุด! เซียนแซ่จาง ข้าเองก็แค่ทำตามประกาศนำจับเท่านั้นเอง แถมประกาศที่ว่าท่านก็เป็คนออกเองด้วย!” เนี่ยเทียนป้ารีบเสริมขึ้นมา
“ไสหัวไป ไสหัวไป!” จางเจิ้งเต้าคำรามอย่างหัวเสีย
“ประมุขเนี่ย ตอนนี้เซียนแซ่จางกำลังเืขึ้นหน้า ข้าจะช่วยเกลี้ยกล่อมให้เอง พวกท่านไปกันก่อนเถอะ ไปรอที่นอกประตูก่อนก็ได้ ข้าจะช่วยพูดให้กับท่านเอง ไป รีบไป!” หวังเค่อยื้อตัวจางเจิ้งเต้าที่กำลังโมโหเป็ฟืนเป็ไฟไปพลางะโเร่งเนี่ยเทียนป้าไปพลาง
“ได้ๆๆ ขอบคุณประมุขหวังมาก ประมุขหวัง ช่วยข้าพูดทีนะ ฝากด้วยล่ะ!” เนี่ยเทียนป้าประคองมือมาทางหวังเค่อ
จากนั้นมันก็รีบนำศิษย์ตระกูลเนี่ยออกจากตระกูลหวังไป แต่ไม่วายได้ยินเสียงด่าทอของจางเจิ้งเต้าแว่วมาเป็ระยะๆ
เนี่ยเทียนป้าเหงื่อแตกพลั่ก ยืนรออยู่หน้าประตูของตระกูลหวัง หัวใจลุ่มๆ ดอนๆ ไม่รู้ว่าสถานการณ์ด้านในเป็อย่างไรบ้าง
รออยู่ครึ่งชั่วยามหวังเค่อถึงค่อยเดินออกมา
“ประมุขหวัง เป็ยังไงบ้าง” เนี่ยเทียนป้าถามโดยไม่รอช้า
“ไม่ต้องกังวลไป ประมุขเนี่ย ข้าช่วยท่านเกลี้ยกล่อมเซียนแซ่จางเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าถึงข้าจะไม่ช่วยท่านเื่ราวก็อาจจะไม่แย่อย่างที่ท่านคิดก็ได้ เมื่อครู่ที่เซียนแซ่จางออกอาละวาดขนาดนั้นก็แค่แกล้งทำไปอย่างนั้นเอง ก็แค่อยากแสดงให้องค์หญิงโยวเยว่เห็นว่ามันยืนหยัดเพื่อนาง เพราะงั้นก็เลยต้องทำเป็โมโหอย่างไรเล่า!” หวังเค่อเอ่ยยิ้มๆ
“งั้นก็ดีแล้ว ดีแล้วๆ งั้น งั้นเื่ตำแหน่งที่ว่างเข้าพรรคอีกาทองคำเล่า?” เนี่ยเทียนป้ายังคงไม่หายร้อนใจ
“ข้าถามมาให้แล้ว เซียนแซ่จางรับปากว่าจะให้ท่านหนึ่งที่ แต่หลังจากที่เข้าพรรคแล้ว ทางที่ดีท่านจะต้องอยู่ให้ห่างจากองค์หญิงโยวเยว่ให้ได้มากที่สุด!” หวังเค่ออธิบาย
“แน่นอน แน่นอนอยู่แล้ว ฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่า ขอบคุณ ขอบคุณประมุขหวัง ก่อนหน้านี้ข้ามีเื่เข้าใจผิดกับตระกูลหวังมากมาย ผู้น้อยอยากกล่าวขอขมาต่อท่านสักหน่อย!” เนี่ยเทียนป้าพลันเบิกบานสำราญใจขึ้นมา
“เอาเถอะน่า ต่อจากนี้ไปพวกเราต่างก็เป็ส่วนหนึ่งของพรรคอีกาทองคำเหมือนๆ กัน นับว่าเป็ศิษย์พี่ศิษย์น้องกันแล้ว ถึงตอนนั้นพวกเรายังต้องพึ่งพาอาศัยกันไม่ใช่หรือ!” หวังเค่อยิ้มอย่างใจกว้าง
“ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นย่อมแน่นอน ต่อจากนี้ไปเื่ของพี่หวังก็คือเื่ของเนี่ยเทียนป้า! ครั้งนี้ต้องขอบคุณท่านจากใจจริง ไม่รู้ว่าจะตอบแทนท่านอย่างไรดี ตัวข้าตอนนี้ก็มีแค่มุกคลายธุลีอยู่เพียงเม็ดเดียว ยังคงยกให้พี่หวังจะดีกว่า!” เนี่ยเทียนป้าว่าแล้วก็นำมุกวิเศษออกมายื่นส่งให้หวังเค่อ
หวังเค่อตาลุกวาว “ฮ่าฮ่า งั้นข้าไม่เกรงใจแล้ว!”
“เชิญ เชิญ!” เนี่ยเทียนป้าตอบรับอย่างยินดี
หากหวังเค่อไม่รับไป เนี่ยเทียนป้าก็จะรู้สึกหนักใจ แต่เมื่อหวังเค่อรับไป เนี่ยเทียนป้ากลับรู้สึกวางใจ
“พี่หวัง ต่อไปท่านช่วยพูดกับเซียนแซ่จางให้ข้าทีนะ! แล้วผู้น้อยจะตอบแทนท่านอย่างงามแน่!” เนี่ยเทียนป้าเอ่ยด้วยความคาดหวัง
หวังเค่อพยักหน้า “นั่นย่อมแน่อยู่แล้ว เพียงแต่องค์หญิงโยวเยว่กับคนของนางเพิ่งจะได้กลับมาพบหน้ากัน คาดว่าจะต้องมีเื่ราวมากมายให้พูดคุยรำลึกถึง ไม่อาจรบกวนได้ เซียนแซ่จางหลงใหลองค์หญิงจนหัวปักหัวปำ ข้าไม่กล้าเข้าไปกวนตอนนี้หรอก ประเดี๋ยวเมื่อสบโอกาสเหมาะๆ แล้วข้าจะพยายามให้ดีที่สุด!”
“เท่านี้ก็พอแล้วๆ!” เนี่ยเทียนป้าเอ่ยอย่างซาบซึ้งตันใจ
“แต่ว่า ท่านเองก็รู้ หลายวันมานี้พวกคนหนุ่มเืร้อนมักจะแห่กันมาชิงตัวองค์หญิงโยวเยว่กันกลางดึก ถึงข้าจะไม่กลัวพวกมัน แต่ข้ากลับกลัวว่าจะมีคนมาขัดขวาง่เวลาหฤหรรษ์ของเซียนแซ่จางกับองค์หญิงโยวเยว่มากกว่า ถึงตอนนั้นเกิดเซียนแซ่จางพิโรธขึ้นมาละก็...!” หวังเค่อเอ่ยอย่างกลัดกลุ้ม
“ไม่ต้องกังวลไป คืนนี้ตระกูลเนี่ยของข้าจะช่วยกันเฝ้าระวังให้เอง รับรองว่าจะไม่มีใครเข้าใกล้ตระกูลหวังได้แม้แต่รายเดียว!” เนี่ยเทียนป้ารับปากเป็มั่นเหมาะ
“ดี เช่นนั้นต้องขอบคุณท่านแล้ว ข้าจะไปรายงานความดีความชอบนี้ให้เซียนแซ่จางฟังแน่นอน!” หวังเค่อตอบรับอย่างขึงขัง
เนี่ยเทียนป้าตาลุกวาว “ขอบคุณประมุขหวังมาก!”
หวังเค่อประสานมือรับ จากนั้นเดินกลับเข้าตระกูลไป
“ปัง!”
บานประตูใหญ่ของตระกูลหวังลงดาลสนิท ปล่อยให้เนี่ยเทียนป้ายืนถูไม้ถูมืออย่างตื่นเต้นยินดีอยู่ด้านนอก
“ท่านประมุข?” ศิษย์ตระกูลเนี่ยคนหนึ่งขยับเข้าใกล้
“ไป จงไปรวบรวมศิษย์ตระกูลเนี่ยทุกคนมาที่นี่ คืนนี้พวกเราจะต้องคอยอารักขาตระกูลหวังให้ดีที่สุด พวกไร้ั์ตาหน้าไหนกล้าเข้าใกล้ตระกูลหวังในคืนนี้ ฆ่าให้หมดไม่ต้องปรานี!” เนี่ยเทียนป้าเอ่ยเสียงทุ้มลึก
“ทราบ!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยทุกคนขานรับ
สวนหลังตระกูลหวัง
พี่หญิงใหญ่พี่หญิงรองของหวังเค่อต่างก็ออกมาจากกรงกันถ้วนหน้า พวกมันและจางเจิ้งเต้ามายืนรอหวังเค่อที่เดินกลับเข้ามา
“พี่หวัง เนี่ยเทียนป้านั่นถูกท่านต้มซะเปื่อยเลยเชียว มันกระทั่งส่งตัวองค์หญิงโยวเยว่มาให้ท่านถึงที่” จางเจิ้งเต้าเวลานี้เองก็กำลังถูมืออย่างตื่นเต้นยินดีไม่แพ้เนี่ยเทียนป้า
หวังเค่อมองจางเจิ้งเต้าพักหนึ่ง แต่ไม่ได้บอกมันว่าตนยังได้ของสมนาคุณอย่างมุกวิเศษสองเม็ดที่มีค่าควรเมืองมาจากเนี่ยเทียนป้าอีกด้วย
“อืม คืนนี้ศิษย์ตระกูลเนี่ยจะช่วยกันเฝ้าระวังให้กับตระกูลหวังของเรา ไม่ให้มีใครมาระรานพวกเราในราตรีนี้ พวกเรามีเวลาแค่คืนเดียว รีบเก็บข้าวของทั้งหมดให้เรียบร้อย พวกเราจะใช้อุโมงค์หนีไปจากเมืองจูเซียนกันเดี๋ยวนี้! เร่งมือเข้า! ก่อนที่เนี่ยเทียนป้าจะรู้ตัว พวกเราต้องรีบไปจากที่นี่!” หวังเค่อสั่งการเสียงเข้ม
“ทราบ!” ศิษย์ตระกูลหวังกล่าวรับคำ
“เนี่ยเทียนป้าช่วยเ้าเฝ้ายามอยู่ด้านนอก? มันถูกเ้าปั่นหัวซะขนาดนั้นยังช่วยเ้าทำมาหากินอีก? พี่หวัง วิชาต้มตุ๋นฉ้อฉลของท่านยิ่งมายิ่งร้ายกาจขึ้นทุกที! ข้าว่าหากท่านกับข้าร่วมมือกัน ใต้หล้าไม่มีใครเทียบเราได้แน่!” จางเจิ้งเต้าเอ่ยอย่างตื่นเต้น
“ไสหัวไป!” หวังเค่อถลึงตาใส่เ้าตัวไร้ยางอายตรงหน้า
พวกมันรีบร้อนหอบผ้าผ่อนหนีออกจากเคหาสน์ตระกูลหวังเข้าไปในอุโมงค์อย่างเร็วรี่ หวังเค่อเดิมตั้งใจจะชะล้างศิลาิญญาของเมืองจูเซียนอยู่แล้ว ดังนั้นเส้นทางหลบหนีถึงได้ถูกขุดเตรียมไว้ั้แ่แรก
วิธีการเหล่านี้จางเจิ้งเต้าล้วนคุ้นเคยเป็อย่างดี เหล่าศิษย์ตระกูลหวังยิ่งแล้วใหญ่
แต่องค์หญิงโยวเยว่ที่เนี่ยเทียนป้าเพิ่งพาตัวมาส่งกลับมีแต่ความสงสัยแคลงใจ พี่หญิงใหญ่พี่หญิงรองกอดแขนองค์หญิงโยวเยว่ตรงเข้าอุโมงค์ที่อยู่ไม่ไกลไปอย่างรวดเร็ว
ตนเพิ่งจะหนีออกจากรังหมาป่ามาได้แท้ๆ แต่กลับกลายเป็ว่า…ดันถูกแก๊งต้มตุ๋นอุ้มรับ่ต่อหรอกหรือนี่?
วันต่อมา ตะวันโด่งสาดแสงจ้า ไก่ของเมืองจูเซียนเริ่มส่งเสียงขัน
ศิษย์ตระกูลเนี่ยที่มีอาวุธครบครันยืนปักหลักจังก้าอยู่นอกตระกูลหวัง ไม่นานก็ดึงดูดสายตาของคนทั้งเมือง
“ตระกูลเนี่ยมาล้อมตระกูลหวังหรือนี่”
“ไม่ใช่ว่าพวกมัน้าจะชิงตัวองค์หญิงโยวเยว่หรอกนะ?”
“โจ๋งครึ่มอะไรอย่างนี้!”
“ตระกูลเนี่ยช่างโเี้จริงๆ!”
“ข้าเพิ่งซื้อแผนการลงทุนมาจากตระกูลหวัง ถ้าเกิดตระกูลหวังถูกถล่ม แล้วแผนการลงทุนที่ซื้อมาจะทำยังไง”
.........
......
...
เมืองจูเซียนระงมไปด้วยเสียงซุบซิบหารือ บรรดาเหล่าผู้ฝึกฌานรีบเร่งรุดมาทีละคนสองคน
แต่ยังไงตระกูลเนี่ยก็เป็ถึงตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองจูเซียน มีกองกำลังกล้าแข็ง จึงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
ปากทางเข้าตระกูลหวัง
เนี่ยเทียนป้าจ้องบานประตูไม่วางตา ใจที่เพิ่งจะสงบลงได้จากเมื่อคืนเป็ต้องเต้นไม่เป็ส่ำขึ้นมาอีกครั้ง
“ท่านประมุข ไม่ใช่ว่าเมื่อคืนนี้พวกเราตั้งใจจะบุกถล่มตระกูลหวังหรอกหรือ? แล้วทำไม ทำไมถึงได้เปลี่ยนมาช่วยพวกมันเฝ้าบ้านทั้งคืนอย่างนี้เล่า?” ศิษย์ตระกูลเนี่ยคนหนึ่งถามด้วยความพิศวง
เนี่ยเทียนป้าเองก็เริ่มมีสีหน้าไม่น่าดู “หุบปากเ้าไปซะ! พวกเรากำลังช่วยคุ้มครองเซียนแซ่จางกันอยู่ต่างหาก!”
ศิษย์คนนั้นไม่กล้าพูดพล่ามอีก แต่ความระส่ำระส่ายในใจของเนี่ยเทียนป้ากลับยิ่งมายิ่งรุนแรง
ไม่ใช่ว่าเมื่อวานนี้พวกมันมาสืบดูกันว่าเซียนแซ่จางคือตัวจริงหรือไม่หรอกหรือ? แล้วั้แ่เมื่อไหร่กันที่ตนเริ่มปักใจเชื่อว่าอีกฝ่ายคือตัวจริง? แถมยังบ้าจี้นำตัว ‘คนสนิท’ ขององค์หญิงโยวเยว่มาส่งถึงที่?
“ไม่มีปัญหาหรอก ยังไงซะพวกมันก็ยังอยู่ในเคหาสน์ตระกูลหวัง พวกมันจะหนีไปไหนได้!” ความกังวลในใจของเนี่ยเทียนป้าเริ่มกู่ร้องขึ้นมา
ทว่า ดวงตะวันโด่งฟ้า ประตูของตระกูลหวังก็ยังคงไม่เปิดออก
“ท่านประมุข พะ พวกเราคงไม่ได้ถูกหลอกกันใช่ไหม” ศิษย์ตระกูลเนี่ยถามอย่างวิตก
เนี่ยเทียนป้าหน้าแข็งทื่อ “เป็ไปไม่ได้!”
ศิษย์ตระกูลเนี่ยมีแต่ต้องปิดปากเงียบ
จวบกระทั่งยามบ่าย เคหาสน์ตระกูลหวังก็ยังไร้วี่แววความเคลื่อนไหว แม้แต่ประตูก็ยังไม่เปิด สุดท้ายเนี่ยเทียนป้าก็ตระหนักว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
“ไปเคาะประตู! แต่เคาะเบาๆ ล่ะ ประเดี๋ยวจะรบกวนเซียนแซ่จางเอาได้!” เนี่ยเทียนป้าสั่งลิ่วล้อ
ลิ่วล้อคนนั้นรีบไปเคาะประตูทันที
“ปัง ปัง ปัง!”
แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับจากตระกูลหวัง
“เคาะใหม่!”
“ปังปังปัง ปังปังปัง ปังปังปัง…!”
เสียงเคาะยิ่งมายิ่งกระชั้น ยิ่งมายิ่งดัง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ
“ไม่ ไม่ เป็ไปไม่ได้!” เนี่ยเทียนป้าแตกตื่นตระหนก
เนี่ยเทียนป้ารู้ตัวแล้วว่าตนเสียรู้เข้าให้แล้ว ดังนั้นจึงถีบประตูเปิดอย่างไม่แยแสอีกต่อไป
“ตูม!”
บานประตูของตระกูลหวังถูกยันโครม แต่ด้านในกลับโล่งโจ้ง ไม่มีอะไรอยู่เลยแม้แต่อย่างเดียว
“อ๋า? ไฉนถึงได้ดูต่างจากเมื่อวานขนาดนี้? ก่อนหน้านี้ตระกูลหวังมีต้นบอนไซสูงค่าอยู่หลายชนิดเลยนี่ หายไปไหนหมด? แล้วคนเล่า? ทำไมถึงได้ไม่มีใครอยู่เลย?” ศิษย์ตระกูลเนี่ยคนหนึ่งอุทานด้วยความตื่นใ
“ค้น รีบหาให้ทั่ว เร็วๆๆ!” เนี่ยเทียนป้าเร่งด้วยความร้อนใจสุดประมาณ
ขณะกำลังะโร้องป่าว เนี่ยเทียนป้าก็พุ่งตัวไปที่หลังสวน ศิษย์ตระกูลเนี่ยเองก็แยกย้ายกันไปตรวจตามห้องหับกันอย่างเร็วรี่
พอมาถึงสวนด้านหลัง ปรากฏว่ากรงที่เคยตั้งอยู่กลับอันตรธานไปแล้ว คนเองก็หายไปไม่เหลือแม้แต่เงา เรียกว่าไม่มีอะไรอยู่เลยสักอย่าง ว่างเปล่าโล่งโจ้งที่สุด
“เป็ไปไม่ได้ ฮ่าฮ่าฮ่า เป็ไปไม่ได้ ข้าจะไปถูกหลอกได้ยังไง? ข้าจะต้องหลอนไปเองแน่ หลอนไปเอง!” เนี่ยเทียนป้าวิ่งพรวดพราดเข้าไปยังห้องรับรอง เหงื่อผุดเต็มหน้าผาก
ห้องรับรองเมื่อวานนี้ยังคงกลาดเกลื่อนไปด้วยของประดับประดา แต่ตอนนี้กลับไม่มีอะไรเลยสักอย่าง จะมีก็แค่กำแพงเปลือยเปล่าอยู่เท่านั้น
ขนไปเสียเกลี้ยง?
“ท่านประมุข ข้าหาดูจนทั่วแล้ว แต่เคหาสน์ตระกูลหวังไม่มีใครอยู่เลยสักคนขอรับ!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยคนหนึ่งเข้ามารายงานอย่างแตกตื่น
“ท่านประมุข ข้าหาดูจนทั่วแล้ว แต่ข้าวของทุกอย่างในเคหาสน์ล้วนหายไปหมดเลยขอรับ เตียง โต๊ะ เก้าอี้ ถ้วยโถโอชาม หายไปหมดเกลี้ยง! เป็ไปได้ยังไงที่ข้าวของทุกอย่างในตระกูลหวังหายไปหมดในคืนเดียว?”
“ท่านประมุข ตระกูลหวังจะต้องวางอุบายมาแต่ต้นแล้วแน่ๆ ของทุกอย่างหายไปจนเกลี้ยง เหลือไว้แต่กำแพงเปล่าเท่านั้น!”
ลูกศิษย์พากันทยอยกันเข้ามารายงาน ส่งผลให้เนี่ยเทียนป้าต้องหนังศีรษะชาด้าน
.........
......
...
“ไอ้หวังเค่อมันยากจนจนสติฟั่นเฟือนไปแล้วหรือไร? ถึงได้เล่นขนข้าวของทุกอย่างไปหมดแบบนี้? ไม่เหลืออะไรไว้เลยสักกระผีกเดียว? ไม่มีแม้แต่ร่องรอยสักอย่าง หา ค้นหาต่อไป จะต้องมีร่องรอยอะไรอยู่แน่ พวกมันบินขึ้น์กันไปหมดแล้วรึไง? จะต้องมีอุโมงค์ลับซ่อนอยู่แน่!” เนี่ยเทียนป้าโกรธจนเนื้อตัวสั่น
ขณะกำลังตัวสั่น เนี่ยเทียนป้าพลันคิดอยากคว่ำโต๊ะขึ้นมา แต่ว่ารอบข้างดันมีแต่ความว่างเปล่า จะมีก็แค่กำแพง ไหนเลยจะมีโต๊ะให้เนี่ยเทียนป้าคว่ำเพื่อระบายโทสะได้?
“รับทราบ!” เหล่าศิษย์ตระกูลรีบออกตามหากันต่อ
ตระกูลหวังในเวลานี้มีแต่ความว่างเปล่า ดังนั้นจึงค้นหาต่อได้ไม่ยาก
“ท่านประมุข เมื่อกี้ผู้น้อยลองไปหาดู แม้แต่กระดาษชำระในห้องน้ำเ้าหวังเค่อนั่นก็ยังจะเอาไปด้วย! ไม่เหลือร่องรอยอะไรเลยสักอย่าง!” ศิษย์คนหนึ่งโวยวายมาแต่ไกล
ในที่สุดเนี่ยเทียนป้าก็ขบปัญหาทั้งหมดจนแตก องค์หญิงโยวเยว่ที่หวังเค่อจับมาได้คือตัวปลอม เซียนแซ่จางนั่นก็เป็ตัวปลอม เพื่อที่จะหลอกตน มันได้จัดเตรียมละครตบตาฉากใหญ่ไว้ รอให้ตนเข้ามาติดกับ ตนถูกหวังเค่อปั่นจนหัวหมุนเสียหลายตลบ แต่ก็ยังจะส่งตัวองค์หญิงโยวเยว่ตัวจริงไปให้หวังเค่อ?
เนี่ยเทียนป้าโกรธจนตัวสั่น แต่ก็ยังหาของมาทุ่มไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องปลดจี้หยกตรงเอวมาเขวี้ยงลงพื้นแทน
“แคร่ก!”
จี้หยกแตกกระจาย เนี่ยเทียนป้าสุดท้ายก็ทนไม่ไหวจนต้องคำรามออกมา “หวังเค่อ ไอ้คนลวงโลก ข้าจะฆ่าเ้า!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้