“นายน้อยหาน ท่านต้องใช้เวลาฝึกอีกนานเท่าไร?” เย่สือซานสายตามองส่งเงาร่างของเย่สือชีจากไปจึงหันหน้ากลับมาพูดขึ้นกับเย่ชิงหาน
“พรุ่งนี้!” ได้ยินเสียงของเย่สือซาน เย่ชิงหานลืมตาขึ้นใช้เวลาครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะพูดออกมา พลังงานที่พรั่งพรูออกมาจากภายในทรวงอกเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ เขาคาดคะเนว่าช้าที่สุดพรุ่งนี้พลังงานที่พรั่งพรูออกมาจะหยุดลง ตอนนี้ตันเถียนของเขาเกือบจะเชื่อมประสานเป็ส่วนเดียวกันทั้งหมดกับจุดตันเถียนแล้ว เขามั่นใจว่าอาศัยการฝึกฝนตลอด่บ่ายและการทะลวงผ่านด่านขอบเขตพลังในตอนค่ำ ภายในคืนนี้เขาจะสามารถทำการเชื่อมประสานตันเถียนให้รวมเป็หนึ่งเดียวกับจุดตันเถียนได้อย่างสมบูรณ์ บรรลุถึงระดับขอบเขตนักรบอย่างแท้จริง ดังนั้นเขาไม่ได้พูดอะไรมาก พูดออกมาเพียงสองคำแล้วหลับตาฝึกฝนต่อ
“ถ้าอย่างนั้นหยุดพักชั่วโมงหนึ่ง จากนั้นพวกเราค่อยติดตามกองทัพเผ่าคนเถื่อนไป ดูว่าพวกมันวางแผนการร้ายอะไรไว้กันแน่!” เย่สือซานพยักหน้ารับทราบ จากนั้นพูดกำชับทั้งสองคนออกมาอีกไม่กี่ประโยคแล้วก็ปลีกตัวออกไปเฝ้าระวังภัยโดยรอบให้ทั้งสองคน
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ทั้งสามคนจึงเริ่มเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ตามหลังทัพใหญ่ของเผ่าคนเถื่อนไป ตอนนี้พลังงานที่พรั่งพรูออกมาจากหน้าอกของเย่ชิงหานไม่ได้รุนแรงเหมือน่ก่อนๆ ดังนั้นแค่โคจรพลังปราณรบให้ไหลเวียนอย่างช้าๆ นำพลังงานเ่าั้ไปเก็บไว้ในตันเถียนก็พอ ตอนนี้การเดินทางของทุกคนจึงไม่จำเป็ต้องรีบเร่งอย่างหนักเหมือนแต่ก่อน เคลื่อนไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่สบายๆ ในหัวพลางขบคิดว่าทัพใหญ่เผ่าคนเถื่อนเบื้องหน้า พวกมันมีเป้าหมายจะไปที่ใดกัน? และจะไปทำอะไรกัน?
.................................
แต่หลงไซ้หนานนั้นรู้ดีว่าทัพใหญ่เผ่าคนเถื่อนนี้จะไปที่ใดและมีวัตถุประสงค์อะไร? ภายใต้การลาดตระเวนตลอดหลายวันติดของหน่วยสอดแนมตระกูลฮวา พวกเขาสามารถบอกได้อย่างแน่ใจว่าทัพใหญ่เผ่าคนเถื่อนขบวนนี้เป็เพียงหนึ่งในสองของทัพเสริมที่เข้ามาช่วยเหลือ มีจำนวนนักรบอย่างแท้จริงมีราวสองพันคน ส่วนทางด้านทิศตะวันตกยังมีทัพใหญ่ของเผ่าปีศาจที่มีจำนวนนักรบราวสองพันห้าร้อยคน ทัพเสริมทั้งสองจะเดินทางมาถึงที่ยอดเขาขาดแห่งนี้อีกภายในสองวัน
ดังนั้นพวกเขามีเวลาอีกเพียงแค่หนึ่งวัน ถ้าหากหนึ่งวันผ่านไปแล้วยังไม่สามารถเหยียบขึ้นไปบนยอดเขาได้ละก็ พวกเขาจะต้องถอนกำลังกลับ ถอยกลับอย่างบ้าคลั่ง ถอยกลับเขตพื้นที่รวมพลชั่วคราว จากนั้นถอยร่นกลับไปอีกจนถึงค่ายใหญ่ที่พักชั่วคราว ถึงตอนนั้นถ้าหากทั้งเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนยังยกทัพเข้ามาโอบล้อมโจมตีพวกเขาอยู่อีก นักรบเขตปกครองเทพาทั้งหมดคงไม่ต่างจากสุนัขเร่ร่อนที่ถูกไล่ตามสังหารไปทั่วเกาะแห่งความมืดมิดจวบจนกระทั่งสิ้นสุดงานประลองาระหว่างเขตปกครอง
มองดูนักรบระดับหัวกะทิของเขตปกครองเทพาที่ถูกต้านทานจนต้องถอยกรูกันกลับลงมา หลงไซ้หนานถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง ส่ายหัวอย่างอับจนปัญญา ใบหน้าไม่ได้มีลักษณะสุขุมและองอาจห้าวหาญเหมือนแต่ก่อน ในทางตรงกันข้ามกลับถูกแทนที่ด้วยความหงอยเหงาและความจำใจ
“พี่สาวไซ้หนาน พวกเราจะทำอย่างไรกันต่อดี ถ้าหากถึงพรุ่งนี้ยังตีไม่แตกอีกละก็พวกเราต้องถอยแล้วนะ มิเช่นนั้นจะตกอยู่ภายใต้การโอบล้อมของทัพเสริมเผ่าปีศาจและเผ่าคนถื่อน ถึงตอนนั้นจะถอยก็ไม่มีโอกาสแล้ว!” ใบหน้าของเยว่ชิงเฉิงก็เต็มไปด้วยความหงอยเหงาและความกังวล เย่ชิงหานข่าวคราวเงียบหายไปครึ่งเดือนเต็มๆ แม้จะรู้ว่ามีเย่สือซานและเย่สือชีอยู่ด้วยเื่ความปลอดภัยคงไม่เป็ปัญหา แต่ผ่านไปตั้งครึ่งเดือนแล้วไม่มีข่าวคราวแม้แต่น้อยจะไม่ให้เป็ห่วงกังวลเลยก็คงไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางฝั่งเขตปกครองเทพาของตนเองรบแพ้ติดต่อกันหลายครั้ง อนาคตเลือนรางมากจนนางไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดีแล้วตอนนี้ แม้จะรู้ว่าเื่ความปลอดภัยของตนเองนั้นไม่มีปัญหาอย่างแน่นอนเพราะมีเยว่เซียนกูอยู่ข้างกาย และยังมีสมบัติล้ำค่าที่ท่านหัวหน้าตระกูลมอบให้ติดตัวมาด้วยอีก แต่ถ้าหากทางฝ่ายเขตปกครองเทพารบพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ละก็ นักรบลูกหลานของตระกูลเยว่ทั้งหมดร้อยกว่าคนคงยากที่จะมีชีวิตรอดออกไปได้
ผู้หญิงไม่ว่าจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอเพียงใดสุดท้ายแล้วก็คือผู้หญิงอยู่วันยังค่ำ ในเวลาที่เคว้งคว้างไร้ที่พึ่งย่อมต้องคิดถึงชายผู้เป็ที่รักเสมอให้มาคอยอยู่ข้างกายเป็ที่พักพิงให้นางได้ แม้ไม่รู้ว่าตนเองในตอนนี้ได้รักเ้าเด็กหนุ่มผอมแห้งคนนั้นแล้วหรือยัง เพียงแต่ในตอนนี้อยากให้เย่ชิงหานมาอยู่ข้างกาย แม้จะเป็การอยู่ข้างกายในลักษณะของการเร่ร่อนหลบหนีเอาชีวิตรอดไปทั่วเกาะแห่งความมืดมิดด้วยกันก็ตามที...
“พวกเราไม่สามารถถอยกลับได้อีกแล้ว การสู้รบในวันพรุ่งนี้ถ้าไม่สำเร็จก็คงต้องยอมตายในสนามรบ ดีกว่าไม่รบแล้วถูกฆ่าตาย! พรุ่งนี้ลองเสี่ยงดูอีกครั้งจะสำเร็จหรือไม่ให้์เป็ผู้ลิขิตก็แล้วกัน...” ดวงตาของหลงไซ้หนานทอประกายแสงแห่งความเด็ดเดี่ยว การยกทัพออกมาสู้รบในครั้งนี้เป็ความคิดของนาง ดังนั้นนางจึงมีหน้าที่รับผิดชอบต่อนักรบทุกคนที่ติดตามมา หลายวันมานี้มีคนตายไปมากมายเกินไปแล้ว นักรบทางฝ่ายตนเองตายไปพันกว่าคนและเจ็บหนักอีกหลายร้อยที่กำลังนอนพักรักษาตัวอยู่ภายในกระโจมพักชั่วคราว
ตอนนี้กำลังรบที่สมบูรณ์พร้อมต่อสู้เหลืออยู่เพียงแค่สองพันกว่าคน ถ้าหากสามารถสังหารนักรบเผ่าคนเถื่อนและเผ่าปีศาจที่อยู่บนยอดเขาได้ทั้งหมดละก็ ทางฝ่ายของตนเองคงยังพอมีหนทางรอดอยู่บ้าง
เพียงแต่นางไม่รู้ว่า้ายอดเขาเล็กๆ แห่งนี้มีค่ายกลเคลื่อนย้ายอยู่หลายแห่ง หากพวกเยาขาข่าและหมันก้านคิดอยากที่จะหนีละก็ เพียงแค่จัดคนไปสกัดกั้นการบุกโจมตีของเขตปกครองเทพาไว้ดังเดิม จากนั้นตนเองกับบุคคลสำคัญระดับสูงทั้งหลายที่อยู่บนยอดเขาสามารถใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายเคลื่อนย้ายหนีไปได้อย่างง่ายดาย แม้การสู้รบของทั้งสองฝ่ายหลายวันมานี้จะดุเดือดรุนแรง คนของฝ่ายตนเองที่มีอยู่สองพันกว่าคนจะาเ็ล้มตายไปกว่าครึ่ง แต่ใน่อันตรายคับขันหลายครั้งพวกเขาก็ไม่ได้เลือกที่จะใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายในการหลบหนีแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามกลับยิ่งรบยิ่งคึกคัก ยิ่งรบยิ่งฮึกเหิม
พูดเป็เล่น! ลักษณะภูมิประเทศที่ใช้เป็ฐานที่มั่นปักหลักตั้งรับได้ดีถึงเพียงนี้ หากนักรบฝั่งตนเองตายไปหนึ่งพันคน แน่นอนว่าเขตปกครองเทพาอย่างน้อยต้องตายไปไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันห้าร้อยคน คุ้มถึงเพียงนี้มีแต่คนโง่ที่ไม่ทำต่อ กองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเขตปกครองเทพาอยู่ที่นี่แทบทั้งหมดและเหลือเพียงเท่านี้แล้ว ถ้าจะให้ออกไล่ล่าสังหารพวกมันภายหลังจากนี้ ไม่สู้ให้พวกมันทั้งหมดทิ้งชีวิตไว้อยู่ที่นี่ไม่ดีกว่ารึ?
ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ในเวลานี้เอง หน้าผาด้านหลังยอดเขาขาดมีเสียงแหวกอากาศดังลอยมา ทำให้หน่วยเฝ้าระวังภัยของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนตื่นใจนร้องออกมา
“ร้องหาบิดาเ้ารึ คนกันเองทั้งนั้น! เดี๋ยวถ้าทำให้พวกเขตปกครองเทพารู้ตัวขึ้นมาข้าจะจับพวกเ้ากินทั้งเป็เลยคอยดู” เยาขาข่าร้องตะคอกด่าลูกสมุนออกมาในทันที ใบหน้าแสดงความยินดีออกมา สูดลมหายใจเข้าลึก มองดูเงาร่างเลือนรางที่อยู่ท่ามกลางความมืดของค่ำคืน
“คำนับนายท่าน ข้าน้อยมาช้าขอโปรดประทานอภัย!” เงาสีดำรวดเร็วเป็อย่างมาก ในขณะที่หน่วยเฝ้านะวังภัยกำลังอยู่ในอาการตกตะลึงอยู่นั้น มันก็แหวกอากาศเข้ามาแล้วดิ่งตัวลงมายังเบื้องหน้าของเยาขาข่าพร้อมกับคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
หืม? นี่มันปีศาจสายพันธุ์อะไรกัน? หมันก้านมองดูเ้าปีศาจตัวสีดำที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความตกตะลึง ทั่วร่างของเ้าปีศาจปกคลุมไปด้วยขนสีดำที่คล้ายกับขนนก ด้านหลังมีปีกใหญ่ยาวคู่หนึ่ง จากนั้นคล้ายกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงร้องออกมาด้วยเสียงอันดัง “ปีศาจนก? มารดามันเถอะ! ปีศาจนกไม่ใช่ว่าถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปเมื่อหนึ่งพันปีก่อนหน้านี้แล้วมิใช่รึ? ผีหลอกแล้วแบบนี้!”
“แหะๆ” มุมปากของเยาขาข่าโค้งงอขึ้นเป็เส้นวงกลมด้วยความเบิกบานใจ แล้วยิ้มอย่างลึกลับมองไปทางหมันก้าน จากนั้นพยักหน้าให้ปีศาจนกแล้วพูดขึ้น “อี้เฟ้ย เ้ามาช้าถึงสองวันเช่นนี้ คิดว่าเื่ที่ให้ไปจัดการเ้าคงเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วสิน่ะ”
“เรียนนายท่าน ทุกอย่างจัดเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้พวกนักรบเขตปกครองเทพาทั้งหมดจะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่อย่างแน่นอน” ปีศาจนกอ้าปากที่เต็มไปด้วยขนบนใบหน้าที่ดุร้ายของมัน พูดขึ้นพร้อมกับยิ้มออกมา
เยาขาข่าเมื่อได้ยินพลันหัวเราะเสียงดังออกมาทันที ผมสีทองที่หยิกงอทั้งศีรษะของมันสะบัดไปมา ทั่วทั้งร่างแผ่พุ่งไอพลังโหดร้ายป่าเถื่อนออกมาราวกับอสูรร้าย จากนั้นจึงพูดออกมาระคนเสียงหัวเราะ “ฮ่าๆ ดี ทำได้ดีมาก กลับไปข้าจะตบรางวัลให้เ้า ครั้งนี้ข้าจะให้หลงไซ้หนานตายอย่างไร้ที่ฝัง”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้