“เื่ทุกอย่างในจวนนี้ ข้าเป็ผู้ตัดสินใจ สิ่งที่ข้าสั่งเจ่าเจาไป ขอให้พวกเ้าทำตามอย่างไม่มีข้อแม้” เหลียนต้าได้ยินดังนั้นจึงรีบเอ่ยขึ้นพร้อมน้ำตา
“นายท่านพูดเช่นนี้ นายท่านคงลืมไปแล้วกระมัง ว่าแม่นางเซียนเยว่ตายเช่นไร” โม่โฉวทุบโต๊ะเสียงดังสนั่น เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเหิมเกริม
“หุบปาก! ข้าไม่เคยลืมว่าเซียนเย่วตายยังไง คนที่เ็ปกว่าใครก็คือข้า หากพวกเ้ายังอยากอยู่ที่จวนนี้ต่อไป ก็ขอให้ทำตามคำสั่งของข้า หากไม่แล้ว ข้าจะให้ผู้อื่นทำหน้าที่แทนพวกเ้า” เหลียนต้าและชิงเหอรีบน้อมกายลง เพราะเผลอทำให้โม่โฉวไม่พอใจ จนเขาขึ้นเสียงใส่
“พวกข้าผิดไปแล้วเ้าค่ะ”
“เื่ของนาง ข้าจะจัดการด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้พวกเ้าเป็ผู้ตัดสิน พวกเ้าอย่าลืมว่าสกุลของนางเป็ที่โปรดปรานของฮ่องเต้เพียงใด หากนางเป็อะไรไป แม้แต่ข้าก็ช่วยอะไรพวกเ้าไม่ได้” เป็ครั้งแรกที่โม่โฉวคิดปกป้องภรรยา เมื่อเห็นความมุ่งมั่นของโม่โฉว เหลียนต้าและชิงเหอก็มีท่าทีสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อดวงตะวันคล้อยลง มู่เลี่ยนชะเง้อคอมองไปยังหน้าประตูเรือน ทว่าไม่มีท่าทีว่านายหญิงจะกลับมา นางเดินวนไปมาในเรือนด้วยความเป็ห่วง
“เหตุใดนายหญิงยังไม่กลับมาอีก ตะวันคล้อยลงทุกที เกิดอะไรขึ้นกับนางหรือไม่” มู่เลี่ยนเดินวนไปมา พลางบ่นพึมพำด้วยความเป็ห่วง ทว่าอาหารบนโต๊ะ จากที่มีควันโพยพุ่ง ก็ค่อย ๆ จางหายไปจนอาหารเย็นสนิท ในที่สุดมู่เลี่ยนทนไม่ไหว จึงตัดสินใจมุ่งตรงไปยังเรือนใหญ่ทันที
“เข้าไม่ได้” ทหารที่เฝ้าหน้าเรือนเอ่ยขึ้น ก่อนมู่เลี่ยนจะพูดขึ้น
“ข้ามาตามนายหญิงกลับเรือน หากพวกเ้าไม่ให้ข้าเข้าไป ก็ไปเรียนให้นายท่านทราบ ว่า้าพบฮูหยินเสี่ยวเฟย” น้ำเสียงมุ่งมั่นของมู่เลี่ยน ทำให้ทหารที่เฝ้าหน้าเรือนบอกให้นางรออยู่ที่ด้านนอก ก่อนเขาจะเดินเข้าไปรายงานให้โม่โฉวทราบ
“ตอนนี้มู่เลี่ยน ขอเข้าพบฮูหยินเสี่ยวเฟยขอรับ”
“ให้นางมาพบข้า”
“ขอรับ” ไม่นานนักร่างของมู่เลี่ยนก็เดินเข้ามาในเรือนด้วยใบหน้ากังวลใจ ขณะที่นางน้อมกายลงเพื่อเคารพโม่โฉว สายตาของนางก็สัดส่ายมองหาเสี่ยวเฟยไปพร้อม ๆ กัน
“เ้ามาตามเสี่ยวเฟยงั้นเหรอ” โม่โฉวเอ่ยถาม ขณะที่บรรจงพู่กันลงในกระดาษ
“เ้าค่ะ พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้ว เป็เวลาอาหารของนายหญิง ข้าก็เลยมาตามเ้าค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น ก่อนโม่โฉวจะวางพู่กันในมือแล้วเงยหน้ามองอีกฝ่ายแน่นิ่ง
“นางคงกลับพร้อมเ้าไม่ได้แล้วล่ะ” มู่เลี่ยนได้ยินดังนั้นจึงขมวดคิ้วแปลกใจ
“เหตุใด นางจึงกลับพร้อมข้ามิได้เ้าคะ”
“นายหญิงของเ้าก่อเื่ แอบกินเหล้าจนเมาไม่ได้สติ ตอนนี้ข้าให้นางนอนพักอยู่”
“เหล้ารึเ้าคะ” มู่เลี่ยนเอ่ยถามอีกครั้ง ก่อนจะนึกได้ว่า่เช้า เสี่ยวเฟยซื้อเหล้าจากตลาดติดมือกลับมา
“นายหญิงแอบเอาเหล้ามาที่เรือนใหญ่ด้วยงั้นรึ” นางพึมพำ ก่อนโม่โฉวจะเอ่ยขึ้น
“เ้าดูแลนางอย่างไร นางถึงกล้านำเหล้าเข้ามากินในเรือนใหญ่ หนำซ้ำยังพาเจ่าเจากินเหล้าจนเมามายไม่ได้สติกันทั้งคู่” มู่เลี่ยนได้ยินดังนั้น จึงน้อมกายลงแล้วพูดตะกุกตะกัก
“ข้าผิดเองเ้าค่ะ ที่ไม่ทันห้ามนายหญิง ข้าไม่คิดว่านางจะกล้าเอาเหล้ามาที่เรือนใหญ่” เขาหรี่ตาแล้วเอ่ยถามอีกฝ่าย
“เ้าตามใจนางถึงเพียงนี้ รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เสี่ยวเฟยทำ หากข้าจะลงโทษนางก็ย่อมได้”
“นายท่านอย่าลงโทษนายหญิงเลยนะเ้าคะ ทุกอย่างข้าผิดเอง ที่ไม่ยอมห้ามนางั้แ่แรก หากจะลงโทษก็ลงโทษข้าเถอะเ้าค่ะ” หญิงสาวพร้อมรับโทษแทน ทว่าโม่โฉวส่ายศีรษะเบา ๆ
“ครั้งนี้ข้าเว้นโทษเ้าไว้ก่อน และขอสั่งเ้า ว่านับจากนี้ห้ามเ้าให้เสี่ยวเฟยซื้อเหล้ามากินอีกเป็อันขาด ไม่เช่นนั้นเ้ากับข้าจะได้เห็นดีกัน” มู่เลี่ยนรีบน้อมกายลง
“ข้าจะจำไว้เ้าค่ะ ข้าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก” นางรับปากด้วยท่าทางตั้งมั่น
“เ้ากลับไปเถิด ส่วนเสี่ยวเฟยข้าจะดูแลนางเอง” คำพูดราบเรียบของโม่โฉว ทำให้มู่เลี่ยนไม่อาจปฏิเสธได้ นางน้อมกายลง แล้วรีบกลับไปตามคำสั่ง
ก่อนสองเท้าของโม่โฉวจะเดินมายังห้องนอน แสงจากโคมไฟด้านนอก ส่องเข้ามาพอให้เห็นร่างลาง ๆ ของเสี่ยวเฟยนอนอยู่ ชายหนุ่มหันมาจุดไฟในห้อง แล้วย่อตัวลงนั่งข้างเตียง จับจ้องไปยังเสี่ยวเฟยอย่างเงียบ ๆ
“ข้าคิดมาตลอด ว่าเหตุใดเ้าโดนพิษแล้วไม่ตาย เหตุใด นิสัยของเ้าเปลี่ยนไปราวกับคนละคน เสี่ยวเฟยต่อให้เ้าเป็คนใหม่แล้ว แต่การกระทำของเ้าในอดีต ยังอยู่ในใจของหลาย ๆ คน ข้าปกป้องเ้าเท่าที่ทำได้ แต่จะให้ข้าเปลี่ยนสายตาทุกคนที่มองเ้า ข้าคงทำไม่ได้” เขาพูดพลางขยับผ้าห่มขึ้นคลุมกายนางช้า ๆ ก่อนหญิงสาวจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น แล้วพบกับโม่โฉวนั่งอยู่ด้านข้าง ใบหน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์เหล้าของนาง ทำให้เขามองกิริยานั้นอย่างเงียบ ๆ
