การกระทำที่รุนแรงมากไป ทำให้คนในโรงครัวต่างฝากความหวังไว้ที่เฉินเนี้ยนหรานอีกครั้ง
สำหรับบุรุษแปลกหน้าที่กำลังจะกลายมาเป็เ้าบ่าวของคุณหนูใหญ่แห่งสกุลโจวผู้แข็งแกร่ง เฉินเนี้ยนหรานอยากรู้อยากเห็น
นางอยากรู้ว่า บุรุษที่เหมือนโจวอ้าวเสวียนจะหน้าตาเป็เช่นไร ถึงได้มีค่าพอที่คุณหนูใหญ่้าออกเรือนด้วยโดยไม่สนใจสิ่งใด
“อยากจะให้ข้าทุ่มเททำอาหารให้กับเขา เื่นี้ ข้าจะต้องไปส่งอาหารด้วยตนเอง แล้วตรวจสอบอีกถึงจะสามารถแก้ไขอาหารให้ถูกปากของเขา”
หลังจากรับภารกิจมา เฉินเนี้ยนหรานจึงเสนอความคิดของตนกับสาวใช้ผู้ดูแลอย่างกล้าหาญ
โชคดีที่สาวใช้คนนั้นแค่พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง อาจเพราะคิดว่านางเป็สตรีที่แต่งงานแล้วคนหนึ่งและคงทำให้เกิดเื่ใดไม่ได้ จึงตกลงให้นางเป็คนนำอาหารไปส่ง
“ได้ เ้ายกน้ำแกงร้อนนี้ไปกับข้า จำเอาไว้ เมื่อเจอคุณชาย เ้าต้องมีมารยาท อย่ามองซี้ซั้ว”
“เ้าค่ะ เ้าค่ะ” หลังจากรับคำ เฉินเนี้ยนหรานจึงยกถ้วยน้ำแกงตามไป
เดินเลี้ยวตัดผ่านสนามหญ้า เดินผ่านสวนดอกไม้คล้ายเดินข้ามมิติอยู่ครู่หนึ่ง จึงมาถึงหน้าเรือนเล็กเงียบสงบ
“จำไว้ อย่ามองส่งเดช ไม่เช่นนั้นข้าจะจิ้มตาเ้า” ขณะเดินใกล้ถึงข้างเรือน สาวใช้คนนั้นก็พูดเตือนเสียงดุร้าย
“เ้าค่ะ เ้าค่ะ ข้าจำได้แล้ว” เฉิยเนี้ยนหรานทำท่าทางขี้ขลาดหวาดกลัว สาวใช้คนนั้นถึงได้เปิดประตูเข้าไป
“เพล้ง…”
เพิ่งจะเปิดประตูเข้ามา ถ้วยชากลับลอยมาแต่ไกล
ตามมาด้วยเสียงร้องขอของเหล่าแม่นมในเรือน
“คุณชายคุณชาย ท่านอย่าอาละวาดเลยนะเ้าคะ ข้าได้ให้คนไปทำอาหารมาแล้วไม่ใช่หรือ หากไม่พอใจชา พวกข้าจะเปลี่ยนให้ ไม่พอใจข้าวก็จะเปลี่ยนให้ ไม่พอใจคนพวกเราล้วนสามารถเปลี่ยนให้ได้นะเ้าคะ เพียงแต่คุณชายอย่าโมโหจนทำร้ายตนเองก็พอนะเ้าคะ”
แม่นมร้องขอ ทำให้เฉินเนี้ยนหรานที่ยืนฟังอยู่ถึงกับเหงื่อตก ไม่รู้จริงๆ ว่าเ้านายที่อาละวาดโวยวายนั้นจะมีหน้าตาเป็เช่นไร
สาวใช้ที่พานางมาก็ยืนค้อมหัวลงอยู่ด้านข้าง ไม่กล้าเข้าไปในทันที
เฉินเนี้ยนหรานจึงอาศัยใน่นี้พิจารณาเหตุการณ์ภายในเรือน
ในเรือนนี้ตกแต่งได้เละเทะนัก
สาวใช้ เด็กรับใช้ภายในเรือนนั่งคุกเข่าอยู่เป็จำนวนมาก ตรงกลางมีบุรุษรูปร่างดียืนอยู่เพียงคนเดียว
เพียงแต่ บุรุษคนนี้ในตอนนี้กลับทำหน้าดุร้าย
“เปลี่ยนๆเ้านี่แหละที่ต้องเปลี่ยนคนแรก วันนี้ข้าอารมณ์ไม่ดี แค่เห็นของในเรือนนี้ก็ไม่พอใจแล้ว เอาไปเปลี่ยนให้ข้าให้หมด”
“เ้าค่ะ พวกข้าจะให้คนมาเปลี่ยนดอกไม้กับต้นไม้ในเรือนนะเ้าคะ” แม่นมที่นั่งคุกเข่าอยู่ไม่โกรธเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังเรียกคนให้ออกไปอย่างระมัดระวัง ดูเหมือนจะเตรียมตัวเปลี่ยนคน เปลี่ยนต้นไม้ดอกไม้จริงๆ
เฉินเนี้ยนหรานขมวดคิ้ว นี่คือการอาละวาดโดยไร้เหตุผลอย่างแน่นอน เหตุใดคนพวกนี้กลับมองไม่ออก! ทั้งยังต้องเอาใจเขาอีก
เพราะเหตุนี้จึงสามารถมองออกได้เลยว่า คุณหนูใหญ่โจวชอบคนคนนี้จนปรารถนาจะแต่งเขาให้เป็เ้าบ่าวจริงๆ
พอดีกับที่ในตอนนี้เอง บุรุษที่เดิมทียืนหันข้างอยู่ได้หันหน้ามามอง ตอนที่เห็นใบหน้าตรงๆ ของเขา เฉินเนี้ยนหรานจึงเข้าใจได้ในทันที
ดวงตาของเขางดงามนิ่งสงบราวกับทะเลสาบในฤดูเหมันต์ ในส่วนลึกของดวงตากลับดูราวกับซ่อนความเหงาที่หนาวเหน็บจนเข้ากระดูกเอาไว้ คิ้วสองข้างโก่งขึ้นเล็กน้อยยิ่งเสริมภาพลักษณ์จอมพยศของเขาให้เพิ่มขึ้นอีก เพียงแต่ไม่ว่าจะเป็ความเหงาหรือพยศล้วนกลบกลิ่นอายความสูงส่งที่มีมาแต่กำเนิดของเขาไม่ได้
ถ้าหากไม่ใช่ตรงระหว่างคิ้วของเขามีไฝสีแดงอยู่เม็ดหนึ่ง นางคงคิดว่าคนคนนี้เป็โจวอ้าวเสวียนแล้วจริงๆ
เหมือน เหมือนกันมาก
กลิ่นอายสูงส่งที่เหมือนกัน ความโดดเดี่ยวหงอยเหงา…และความไม่ยอมลงให้ก็เหมือนกัน…
บนโลกใบนี้เหตุใดถึงมีคนที่เหมือนกันเช่นนี้ออกมา?
หากให้พูดพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันทางสายเื ยิ่งทำให้คนรู้สึกว่ามันไม่มีเหตุผล
สำหรับตู้ซินถงที่ยืนอยู่ตรงข้าม เขารู้สึกรังเกียจสายตาหลงใหลของสตรีที่มองมายังตนขึ้นมาเองโดยสัญชาตญาณ
แต่ยามที่เผชิญหน้ากับแม่ครัวที่ยืนถือถ้วยน้ำแกงอยู่ตรงข้ามคนนี้ แม้เขาจะไม่พอใจ ทว่าภายในใจกลับไม่รู้สึกรังเกียจอย่างหาได้ยาก
โดยเฉพาะสายตาใของสตรีนางนี้ที่มองผ่านเขาไป คล้ายกำลังมองคนที่อยู่ไกลแสนไกล ยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างน่าประหลาด
กลับเป็สาวใช้ที่มาด้วยกัน เห็นท่าทางบื้อๆ บ้าๆ ของเฉินเนี้ยนหราน และสีหน้าไม่พอใจของตู้ซินถง
สาวใช้จึงตะคอกออกมา “แม่ครัวสารเลว แกกล้ามองคุณชายหรือ”
หลังจากนางตะคอกเฉินเนี้ยนหรานเสร็จ จึงรีบหันไปขอโทษตู้ซินถง “คุณชาย ข้าจะควักลูกตาของแม่ครัวคนนี้ทิ้ง ท่านวางใจเถิด ไม่มีผู้ใดกล้าทำผิดต่อท่าน”
เฉินเนี้ยนหรานใ นางเพียงมองบุรุษตรงหน้าแล้วเหม่อไปเท่านั้น เหตุใดถึงต้องมาควักลูกตากัน ชักจะมากเกินไปแล้วนะ
บุรุษที่อยู่ตรงข้ามได้ยินประโยคนี้พลันเลิกคิ้วขึ้น ริมฝีปากบางแย้มรอยยิ้มบางเบาที่ดูราวกับไม่ได้ยิ้มออกมา แล้วมองไปยังเฉินเนี้ยนหรานกับสาวใช้คนนั้น เขาเหมือนกำลังรอดูเื่สนุกๆ อยู่!
สาวใช้คนนั้นเมื่อเห็นเขาไม่แสดงท่าทีอะไร จึงเลิกคิ้วเตรียมสั่งสอนเฉินเนี้ยนหรานจริงๆ
“สักครู่นะเ้าคะ หากทำผิดไปแล้ว ย่อมสามารถเอาความดีความชอบมาชดใช้ความผิดได้ คิดไปแล้วการกระทำไม่ให้เกียรติของข้าเมื่อครู่นี้ ยังคงสามารถชดเชยความผิดได้นะเ้าคะ ข้าเพียงรู้สึกว่า เมื่อกระทำผิดไปแล้ว หากแค่ตำหนิลงโทษ สู้ให้มาทำงานชดใช้ความผิดจะดีกว่า วันนี้เป็ข้าที่เสียมารยาทก่อน ดังนั้นข้ายินดีรับโทษ ต่อไป ให้ข้าดูแลเื่อาหารการกินดีหรือไม่เ้าคะ? แน่นอนว่า หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว ข้ายังสามารถแสดงตลกให้คุณชายยิ้มได้ด้วยนะเ้าคะ...”
ล้อเล่นกันหรือ หากการแสดงตลกใหญ่นางไม่มี แต่หากเป็เล็กๆ ยังพอจะมีอยู่บ้าง
เมื่อคิดเช่นนี้ นางย่อมไม่กลัวอีก
อีกอย่าง มองออกเลยว่าคุณชายท่านนี้ทำท่าทางคล้าย้าดูเื่สนุกๆ และสิ่งที่นางต้องทำคือ สนองความ้าของคุณชายที่อยากจะดูเื่น่าสนุก
สาวใช้มองไปทางตู้ซินถง หลังจากอีกฝ่ายไม่ได้ท่าทีอะไรออกมา นางกลับเชิดหน้า “เช่นนั้นก็ได้ ดูสิว่าอีกเดี๋ยวเ้าจะแสดงตลกอะไรออกมา หากไม่สามารถทำให้คุณชายยิ้มได้ล่ะก็ ข้าจะถลกหนังเ้าออกมา”
น้ำเสียงอ่อนลงมาอย่างชัดเจน
เฉินเนี้ยนหรานไม่กลัว เดินไปตรงหน้าอย่างใจกว้างประนีประนอม จัดวางถ้วยตะเกียบ เติมน้ำแกง คีบกับข้าว งานพวกนี้แม้แต่สาวใช้ที่มองดูอดที่จะพยักหน้าให้ไม่ได้ แม่ครัวคนนี้ทำงานได้ไม่เลวเลย
ดูจากวิธีการดูแลแล้ว เหมือนกับสาวใช้ในเรือนนี้ดูแลเ้านายไม่มีผิด ในตอนนี้เหล่าสาวใช้กลับรู้สึกชื่นชอบในความสามารถขึ้นมาเล็กน้อย
สายตาของตู้ซินถง มองไปยังสายคาดเอวของเฉินเนี้ยนหราน นี่คือสายคาดเอวที่เฉินเนี้ยนหรานทำขึ้นมาเอง
สายคาดเอวที่นี่ ครอบครัวคนมีเงินมักใช้ทองมาทำเป็สายคาดเอว
ส่วนครอบครัวธรรมดา จะใช้ของทำมือมาทำสายคาดเอวง่ายๆ
สายคาดเอวของเฉินเนี้ยนหรานเป็ของที่นางออกแบบเอง จึงเป็สายคาดเอวที่ให้ความรู้สึกแบบในยุคปัจจุบัน
สายคาดเอวนี้เมื่อคาดลงที่เอวคอด รัดเอวเล็กจนใช้แค่มือเดียวก็สามารถกำรอบได้
โดยเฉพาะสีสัน ยิ่งเป็สีที่เข้าคู่กัน
ตู้ซินถงหรี่ตาลง สายตาเปลี่ยนไปราวกับได้เห็นของที่ไม่เคยเห็น จึงไม่ได้โกรธอีก
หัวหน้าสาวใช้เห็นคุณชายที่มักจะอาละวาดยอมใจเย็นลงมาทานข้าวแล้ว ในใจพลันดีใจจนแทบจะร้องเพลงออกมา
นางในตอนนี้สนใจแค่อีกเดี๋ยวจะเอาเื่นี้ไปรายงานกับคุณหนูใหญ่อย่างไร ถึงจะได้รับรางวัลอย่างงาม
“ข้าไม่ทานอาหารชนิดนี้” ตู้ซินถงมองพริกทอดที่ดูเผ็ดเล็กน้อย เขาไม่เคยทานรสเผ็ดมาก่อน
แต่เฉินเนี้ยหรานกลับยิ้มออกมา “คุณชาย อาหารชนิดนี้ขอแค่ทานเพียงเล็กน้อย หากเผ็ดก็รีบตักข้าวเข้าปาก ทำให้ในปากมีรสชาติ เมื่อเป็เช่นนี้ แม้จะเป็คนที่ไม่อยากทานข้าว ล้วนสามารถทานอาหารได้อย่างอร่อยเ้าค่ะ”
พริกนั่นเฉินเนี้ยนหรานได้หั่นให้เป็ท่อนเล็กๆ และใช้พริกมาทอด ก่อนใส่จิ๊กโฉ่วลงไปนิดเติมเกลือเข้าไปหน่อยเท่านั้น
แม้วิธีการทำอาหารจะง่าย แต่เป็อาหารที่มีรสชาติจริงๆ
ตู้ซินถงขมวดคิ้ว มองสตรีนางนี้ด้วยความสงสัย เขาหงุดหงิดแล้ว เหตุใดสตรีนางนี้ถึงได้มั่นใจว่าเขาจะทานพริกพวกนี้?
ไม่รู้ว่าเหตุใด พอสบตาเข้ากับสายตากระตือรือร้นของเฉินเนี้ยนหราน เขากลับหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบพริกท่อนนั้นขึ้นมาทานจริงๆ
หลังจากกลืนลงไปแล้ว สีหน้าพลันเปลี่ยน ก่อนจะรีบตักข้าวขึ้นมาทาน
ข้าวที่เดิมทีเต็มถ้วย ถูกตักทานเพียงครู่เดียวจนเหลือแค่ครึ่งถ้วย
ในตอนนี้เองที่เฉินเนี้ยนหรานตบมือ “ดูสิเ้าคะ ข้าบอกแล้วว่าคุณชายทานข้าวเช่นนี้เก่งมากเลยเ้าค่ะ ความจริงแล้ว มีบางครั้งที่ท่านรู้สึกว่ารสชาติของกับข้าวนี้ไม่เหมือนกัน แต่หากผ่านความยากลำบากนี้ไป ท่านจะรู้สึกว่ากับข้าวนี้รสชาติอร่อยแล้ว”
ตู้ซินถงที่มีรสชาติเผ็ดเต็มปากจนนึกอยากจะพ่นไฟ ขณะกำลังจะโวยวาย ทว่าหลังจากได้ยินประโยคนี้ของนาง ความโกรธนั้นกลับสลายหายไปอย่างน่าประหลาด เขามองไปยังเฉินเนี้ยนหราน “เหอะ ฉลาดพูด”
สาวใช้ใจนพูดไม่ออก แต่เมื่อเห็นท่าทางของตู้ซินถงไม่ได้โกรธ จึงดึงความกล้าขึ้นมา แล้วเข้ามาดูแลอย่างระมัดระวัง
ครั้งนี้ นางมองไปทางเฉินเนี้ยนหรานด้วยความนับถือ
สามารถทำให้คุณชายตู้ที่ไม่เคยทานเผ็ดมาก่อน หลังจากทานพริกเข้าไปแล้วกลับยังไม่โกรธ สตรีนางนี้มีไหวพริบจริงๆ
ความจริงแล้ว ไม่ใช่เฉินเนี้ยนหรานมีไหวพริบ แต่เป็เพราะนางรู้ถึงสิ่งที่บุรุษตรงหน้านี้้า
เขาที่ถูกขังไว้เช่นสัตว์เลี้ยง ไม่มีบุรุษคนใดจะพอใจที่ตนเองถูกเลี้ยงดูราวสัตว์เลี้ยงหรอก
และนางแค่ใส่ความหวังแฝงลงไปในประโยคนั้น...
ดังนั้น เ้านายคนนี้คงหมายจะจับนางเอาไว้เป็ฟางช่วยชีวิตอย่างแน่นอน!
หลังจากทานข้าวไปอีกครึ่งหนึ่ง ตู้ซินถงดันถ้วยข้าวออกไป “ไม่ทานแล้ว ไม่ทานแล้ว เ้า ออกไปเอาน้ำมา ส่วนเ้าอยู่ที่นี่ มาเล่าเื่ตลกให้ข้าฟัง”
เขาชี้ไปทางหัวหน้าสาวใช้ให้นางไปตักน้ำมาให้เขา และเฉินเนี้ยนหรานถูกรั้งไว้ให้เล่าเื่ตลก
สาวใช้ตกตะลึง จะต้องรู้ว่าหลังจากที่นางถูกยกระดับให้มาเป็หัวหน้าสาวใช้แล้ว นางแทบไม่ได้ทำงานหยาบๆ เช่นนี้แล้ว
แต่วันนี้ เ้านายคนนี้กลับให้นางไปเป็สาวรับใช้ทำงานเบ็ดเตล็ด
ในระหว่างที่นางชะงักไปนั้น ตู้ซินถงก็เอาถ้วยน้ำแกงตรงหน้าไปราดศีรษะนาง
“นังสาวใช้ชั้นต่ำ เ้าไม่คิดจะฟังคำพูดของข้าแล้วใช่หรือไม่ แล้วยังมาเรียกข้าว่าคุณชาย เ้านาย ข้ามีสาวใช้ที่น่ารังเกียจเช่นเ้าหรือ? ถุย ไสหัวไป...”
ด่าเสร็จแล้วยังถีบซ้ำไปอีก
หัวหน้าสาวใช้ที่น่าสงสารถูกถีบจนกระเด็นออกไปอย่างไร้ความผิด
“ฮือ คุณชาย...”
หัวหน้าสาวใช้เงยหน้ามาคิดจะอธิบายแก้ตัว แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโมโหของตู้ซินถงจึงใจนรีบลุกล้มหกคะมำออกไป
“ข้าออกไปแล้วเ้าค่ะ ออกแล้ว จะออกไปเอาน้ำให้เดี๋ยวนี้เ้าค่ะ...”
“ส่วนเ้า ดูแลคุณชายให้ดี” ก่อนจะไปนางไม่วายหันมาสั่งเฉินเนี้ยนหราน
รอจนกระทั่งในเรือนเหลือกันเพียงสองคน ตู้ซินถงจึงปรายตามองไปยังสตรีตรงหน้าแล้วยิ้มเย็น “ข้าไม่ใช่คนที่หัวเราะได้ง่ายๆ หากไม่สามารถเล่าเื่น่าขันจนฟันหลุดออกมาได้ วันนี้ เ้าจะออกจากเรือนนี้ไปไม่ได้”
