“ตระกูลสมิธ ดีทรอยต์ คอยดูเถอะ ฉันจะกลับมาแน่” หลังจากยิงกลุ่มอันธพาลตายไปแล้วสี่สิบกว่าคน หลี่เย่าก็ะโเสียงดังลั่นจากนั้นะโลงสู่แม่น้ำ
“ให้ตาย! ไปหาตามแม่น้ำต้องหาคนจีนคนนั้นให้เจอ!” ชายฉกรรจ์ผิวขาวคนหนึ่งะโเสียงดัง
“พี่เย่ากินยาไปแล้ว หรือว่าจะเจออันตรายที่อเมริกาจริงๆลองคำนวณหน่อยดีกว่า ดูว่าพี่เย่าเกิดเื่ขึ้นจริงๆ หรือเปล่า” กัวไฮว่ไปถึงห้องนอน จู่ๆ ในใจก็พลันสั่นสะท้านขึ้นมาสติที่เขาได้ใส่เอาไว้ในยาลูกกลอนสูญหายไปแล้วเขาจึงทราบได้ว่าหลี่เย่าได้พบกับปัญหา
“ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว รอหลี่เย่ากลับมา ต้องให้เขาถ่ายเืออก แล้วค่อยพาไปร้านใต้หล้าอู่เฉิงก็ไม่เลวนี่นาฮ่าๆ” กัวไฮว่พูดพลางหัวเราะเสียงดัง
“พี่ไฮว่ เมื่อไหร่จะไปร้านใต้หล้าอู่เฉิงเหรอ พาน้องไปด้วยสิ” เฉียนตัวตัวมองหน้ากัวไฮว่พลางพูดด้วยสีหน้าเป็จริงเป็จัง
“ไว้ตอนนั้นฉันจะเรียกนายไปนะ พาจู้จื่อไปด้วยกัน ฮ่าๆ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ฉันโทรหาซุนหลิงหลิงหน่อยดีกว่าฉันทุ่มเทเพื่อรักษาอาการป่วยของเธอไปไม่น้อย เธอก็ควรจะรักษาสัญญาไม่ใช่เหรอ”
“พี่ไฮว่ คนอื่นเหยียบเรือสองแคมสุดท้ายก็ซวยซ้ำแล้วซ้ำเล่าพี่อยู่กับอาซ้อหลายคนในเวลาเดียวกันแบบนี้ พี่มีเคล็ดลับอะไรเหรอ เมื่อไหร่จะสอนน้องสักที” เฉียนตัวตัวถามขึ้นยิ้มๆ
“พี่น่ะ มือซ้ายดรรชนีกระบี่หกชีพจร มือขวาพลังเก้าสุริยันสองมือประกบกันเป็สิบแปดฝ่ามือพิชิตั ทั้งสองมือยังต่อสู้กันเองอีก คนเก่งน่ะย่อมต้องเหนื่อยกว่าคนอื่นเป็ธรรมดา” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ฮัลโหล พี่หลิงหลิง คิดถึงผมล่ะสิ ถ้าคิดถึงก็เรียกผมว่าพี่ให้ฟังหน่อยสิ” กัวไฮว่ต่อสายโทรไป แล้วพูดยิ้มๆ กับปลายสาย
“หลิงหลิง ผู้ชายคนนึง ไม่สิผู้ชายหน้าไม่อายคนนึงถามว่าเธอคิดถึงเขาหรือเปล่า เธอจะรับโทรศัพท์ไหม” เพียงแค่ได้ยินปลายสาย เด็กสาวเสียงหวานคนหนึ่งก็ะโถามด้วยเสียงดัง
“บอกให้เขารอก่อน เดี๋ยวฉันไป” ซุนหลิงหลิงพูดอย่างตื่นเต้นเธอรอสายนี้มานานแล้ว ถึงแม้จะได้รับสายเพราะมีคนโทรหาเธอตลอด แต่จะมีใครถามตรงๆอย่างหน้าไม่อายอีกว่าเธอคิดถึงเขาไหม คงจะมีเพียงกัวไฮว่เท่านั้นแหละ
“พี่ พี่ชอบผู้ชายพูดตรงๆ นี่เอง” เด็กสาวหน้าตาไม่เลวคนหนึ่งส่งโทรศัพท์ให้ซุนหลิงหลิงแล้วพูดขึ้นเบาๆ
“ใช่ เสี่ยวโหรว ผู้ชายคนนี้ไม่เลวเลยนะ ให้พี่แนะนำให้เอาไหมลองรู้จักกันสักหน่อยสิ” ซุนหลิงหลิงรับโทรศัพท์มาแล้วพูดล้อเล่น
“ช่างเถอะ ฉันไม่มีจุดประสงค์แอบแฝงอะไรแบบนั้นอย่างกัวไฮว่มอสี่นั่นหรอกน่ะ” เสิ่นปี้โหรวพูดยิ้มๆ
“เธอจะต้องเสียใจ” ซุนหลิงหลิงหรี่ตาพร้อมกับพูดขึ้น “กัวไฮว่ โทรหาฉันมีเื่อะไรเหรอ ฉันคิดถึงเธอจริงๆ สองวันนี้ไปไหนมาล่ะ”
“ไปวุ่นวายกับเื่ของพี่อยู่น่ะสิ จะทำอะไรได้อีกล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เมื่อไหร่ว่างก็ออกมาเถอะผมจะช่วยรักษาพี่เอง”
“ตอนนี้นายอยู่ไหน ฉันจะออกไปหานาย” เมื่อซุนหลิงหลิงได้ฟังคำพูดของกัวไฮว่ก็พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“ไปเปิดห้องรอผมที่โรงแรมมหาลัยอู่เฉิงเถอะ เดี๋ยวผมใกล้จะไปถึงแล้วไปเปลี่ยนชุดรอเลย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ กับโทรศัพท์
“ได้ เดี๋ยวพอฉันเปิดห้องเสร็จจะบอกเลขห้องกับนายนะ” ซุนหลิงหลิงพูดด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ
“พี่หลิงหลิง พวกพี่จะทำอะไรน่ะ พี่ชอบคนตรงๆ แบบนี้จริงๆ เหรอปลายสายเป็กัวไฮว่จริงๆ เหรอ” เมื่อเสิ่นปี้โหรวได้ยินบทสนทนาของซุนหลิงหลิงกับกัวไฮว่ก็ถึงกับตกตะลึง
“พี่ไฮว่ ไม่สิ คุณไฮว่ ช่วยสอนน้องหน่อยสิ ผมคบกับหูซีมาจะปีนึงแล้วจับมือก็แล้ว คุณไฮว่เจอพี่หลิงหลิงแค่ครั้งเดียว ก็ให้เปิดห้องเลยที่สุดยอดไปเลยก็คือ คุณให้พี่เขาเปิดห้องรอ คุณทำได้ยังไงกัน สอนผมหน่อยสิ” เฉียนตัวตัวแทบจะคุกเข่าลง ถามขึ้นเสียงดัง
“อยากได้อะไรก็บอกตรงๆ เลย ถ้านายไม่พูดอีกฝ่ายจะรู้ได้ยังไงว่านาย้าอะไร เธอจะทำให้นายพอใจได้ยังไงล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เฉียนตัวตัว จะบอกอะไรให้นะถ้าคราวนี้นายกล้าตามฉันมา นายได้ตายแน่” พูดจบกัวไฮว่ก็ออกจากห้องนอนไป แล้วมุ่งหน้าเดินไปยังโรงแรมมหาลัยอู่เฉิง
“เสี่ยวซี ฉันว่าวันนี้อากาศไม่เลวเลยไม่งั้นเธอไปเปิดห้องที่โรงแรมมหาลัยอู่เฉิงห้องหนึ่งแล้วเราก็มาคุยเื่ชีวิตกันหน่อยเป็ไง” เมื่อเห็นกัวไฮว่จากไปเฉียนตัวตัวก็ทนไม่ไหวรีบต่อสายโทรหาหูซี แล้วพูดขึ้นเบาๆ
“ไปโรงแรมเปลืองเงินมากเลย มาบ้านฉันเถอะ ที่บ้านฉันไม่มีคน” ปลายสายพูดเบาๆ ด้วยความเขินอาย
“เสี่ยวซี เธอพูดจริงนะ ได้ เธอรอนะ เดี๋ยวสักครึ่งชั่วโมงฉันก็ไปถึงแล้วเธอรอเลยนะ” เมื่อเฉียนตัวตัวพูดเสร็จก็รีบกดวางสาย “เชื่อคุณไฮว่ ได้ชีวิตนิรันดร์”
“พี่หลิงหลิง พี่จะไปจริงเหรอ” เมื่อเสิ่นปี้โหรวเห็นซุนหลิงหลิงหยิบชุดตัวโปรดเตรียมจะออกไปก็รีบไปขวางอยู่ที่หน้าประตู “พี่คะ พี่ต้องคิดให้ดีนะพี่ชอบเขาจริงๆ เหรอ”
“ยายหนู หึงเหรอ ฉันบอกแต่แรกแล้วไงว่าจะแนะนำให้เธอแต่เธอก็ไม่ตกลง” ซุนหลิงหลิงพูดยิ้มๆ “ไม่งั้นเธอก็มาด้วยกันสิฉันไม่คิดมากหรอกว่าจะเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง เธอสวยขนาดนี้ฉันว่ากัวไฮว่ก็คงไม่คิดมากหรอก ฮ่าๆ” พูดจบ ซุนหลิงหลิงก็เดินออกมาจากห้องนอนเหลือเพียงแค่เสิ่นปี้โหรวยืนนิ่งอยู่กับที่
“บ้า พี่หลิงหลิงบ้าไปแล้ว” หลังจากเหนื่อยมานานเสิ่นปี้โหรวก็พูดขึ้นเบาๆ
“กัวไฮว่ เปิดห้องแล้วนะ 608 ฉันมาถึงแล้ว” ซุนหลิงหลิงต่อสายโทรหากัวไฮว่ แล้วพูดขึ้นเบาๆสีหน้าเธอแดงระเรื่อไปทั่วทั้งหน้า “เขาจะหลอกฉันไหมนะฉันเชื่อเขาขนาดนี้ได้ยังไง ถ้าเขาทำอะไรกับฉันขึ้นมา จะทำยังไง” ในเวลานี้ จู่ๆ ซุนหลิงหลิงก็ตื่นเต้นขึ้นมา
“ก๊อกก๊อกก๊อก พี่ ผมมาแล้ว เปิดประตูเถอะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ห้องนี้ไม่เลวเลย พี่รอก่อนนะ ่นี้ผมเหนื่อยมากเลย ผมไปอาบน้ำก่อนล่ะ” พูดจบ กัวไฮว่ก็ตรงเข้าไปในห้องอาบน้ำโดยไม่สนใจซุนหลิงหลิงไม่นานในห้องอาบน้ำก็มีเสียงตู้มตู้มตู้มดังขึ้นมา
“ตาบ้า ตาบ้านี่ ถ้าเดี๋ยวนายไม่รักษาให้ฉัน ฉันจะไปแจ้งตำรวจ ไม่สิฉันเอาที่ช็อตไฟฟ้ามาด้วย ฉันจะช็อตให้นายเป็ลมไปเลย” ซุนหลิงหลิงลอบคิดในใจ
“อะไรกัน ถอดเสื้อสิ ไม่ถอดจะรักษายังไง” ประมาณสิบห้านาทีต่อมากัวไฮว่แต่งตัวปกติธรรมดาเดินออกมา เขามองไปยังซุนหลิงหลิง แล้วพูดยิ้มร้ายๆ
“ต้องถอดเสื้อด้วยเหรอ” ซุนหลิงหลิงขบริมฝีปากพูด
“อย่ากลัวการรักษาสิ ตอนนี้ฉันเป็หมอเธอเป็คนไข้ อย่าคิดอย่างอื่นสิ ถอด” กัวไฮว่พูดเสียงดัง
ซุนหลิงหลิงปลดกระดุมเสื้อนอกออกอย่างระมัดระวังจากนั้นก็ถอดออกในขณะที่เธอจะถอดเข็มขัดด้วยสีหน้าแดงก่ำนั่นเอง กัวไฮว่ก็พูดขึ้น
“พี่ ถอดแค่เสื้อคลุม ถ้าพี่ยังอยากถอดอีก ผมไม่สนแล้วนะ” กัวไฮว่หรี่ตามองส่วนนูนสูงของซุนหลิงหลิงอย่างเ้าเล่ห์แล้วพูดขึ้นยิ้มๆ
“นี่น้อง ถ้านายอยากดู งั้นฉันจะถอดอีกชิ้น” ซุนหลิงหลิงมองกัวไฮว่พลางพูดขึ้น
“อะแฮ่มๆๆ ปีศาจ พี่มันปีศาจ ปีศาจแบบพี่ถ้าถูกท่านมหาเทพพบเข้าจะต้องกลายเป็ไม้พลองแน่ๆ” กัวไฮว่รีบหลีกสายตาไปจากร่างของซุนหลิงหลิงเขากลัวว่าตนเองจะทนไม่ไหว
“ใครเป็ปีศาจกันล่ะ ตาบ้า จะรักษาให้ฉันยังไง นายบอกมาเถอะ” ซุนหลิงหลิงพูดเบาๆ