ความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดของพวกสำนักอิ่นเซียนนั้นจัดว่าด้อยมาก หากเปลี่ยนเป็สี่ผู้าุโแห่งสำนักหมัดเทวา เย่เฟิงย่อมไม่สามารถลอบสังหารพวกเขาได้ทั้งหมดแน่ ก่อนหน้านี้ตอนที่ลอบจู่โจมเพื่อ่ชิงาาปะการัง เขาถูกคนพวกนั้นโจมตีจนไหล่เกือบหัก ซึ่งนั่นเป็เพียงคนของสำนักหมัดเทวาที่มีระดับวรยุทธ์เพียงห้าสิบปีเท่านั้น
ด้วยความด้อยชั้นเชิงการต่อสู้ระยะประชิดนี้เอง ทำให้ชายชราทั้งสองตัดสินใจใช้กับดักเพื่อเอาชนะ น่าเสียดายที่ความสามารถในการเคลื่อนไหวของเย่เฟิงไม่ด้อยไปกว่าคนเ่าั้ ภายใต้การรับรู้ของจิตหยั่งรู้ พวกกับดักค่ายกลย่อมทำอะไรเขาไม่ได้มาก
ชายหนุ่มวางร่างของจื่อเจี้ยนหลาน จากนั้นไล่ตามศัตรูไปยังลานหินอ่อน เขาเห็นชายชราทั้งสองยืนอยู่ใจกลางลานอย่างท้าทาย
เย่เฟิงกระจายจิตหยั่งรู้ออกไปรอบๆ และค้นพบว่าลานหินอ่อนแห่งนี้ซ่อนกรงเหล็กซึ่งสามารถพุ่งขึ้นมาดักจับผู้คนไว้ด้านในได้ น่าเสียดายที่เย่เฟิงมีกระบี่เจินชี่อยู่กับตัว กรงเหล็กประเภทนี้ กระบี่ของเขาสามารถทำลายมันได้อย่างง่ายดาย แม้แต่เรือดำน้ำนิวเคลียร์ที่ทำจากโลหะชั้นดี เขายังทำลายมันมาแล้ว ฉะนั้นยังต้องเกรงกลัวอะไรกับกรงเหล็กพวกนี้?
นอกจากนั้นในลานหินอ่อน ศิษย์รุ่นเยาว์คนอื่นๆ ของสำนักอิ่นเซียนต่างนั่งอยู่ในห้องควบคุมใต้ดิน กำลังควบคุมกลไกกับดัก้า
ทักษะเซียน— ทักษะร่างเทียม!
เย่เฟิงไม่จำเป็ต้องกังวลเกี่ยวกับร่างเทียมนี้ และสามารถใช้มันวิ่งไปมาได้ทั่ว ส่วนร่างจริงของเขาก็หลบซ่อนอยู่ในที่ลับ รอคอยเวลาที่จะพุ่งใส่ชายชราทั้งคู่จากอีกทางหนึ่ง
…………
ภายในลานหินอ่อน หลี่เทียนและชายชราจมูกโตยืนแยกกันด้วยระยะห่างประมาณสิบเมตร สีหน้าทะมึน ราวกับรู้ว่าตอนนี้อยู่ใน่เวลาวิกฤต
หากมีใครลอบโจมตีเข้ามา พวกเขาพร้อมจะตอบสนองด้วยมีดบินอย่างรวดเร็ว! ตราบใดที่เย่เฟิงเข้ามาในบริเวณนี้ได้ กรงเหล็กก็จะยกขึ้นและขังมันไว้ทันที!
ทันใดนั้นเสียงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจากระยะไกลก็ใกล้เข้ามา มันคือร่างเทียมของเย่เฟิงนั่นเอง! ร่างเทียมนี้ไม่สามารถเปล่งเสียงใดๆ ทำได้เพียงดึงดูดความสนใจของฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น
อะไรกัน เ้าเด็กนี่ไม่คิดจะพรางกายเลย?
ในใจของชายชราทั้งสองเต็มไปด้วยคำถาม แต่ก็ดีอย่างยิ่ง ดูเหมือนความสามารถในการลอบโจมตีของเด็กนี่จะมีขีดจำกัด ไม่ได้เหนือล้ำอย่างที่คาด
“ยกกรงขึ้น!”
หลี่เทียนออกคำสั่งเสียงดังลั่น เกือบจะในเวลาเดียวกัน กรงเหล็กที่กว้างและสูงเกือบสองเมตรก็โผล่ขึ้นมาจากลานหินอ่อน ซี่กรงแต่ละเส้นถูกสร้างขึ้นด้วยเหล็กหนา กักขังร่างเทียมของเย่เฟิงไว้ภายในอย่างรวดเร็ว
สำเร็จ!
เวลานี้ ร่างเทียมของเย่เฟิงพยายามใช้กระบี่ฟันกรงเหล็ก ดูราวกับสัตว์ร้ายที่ถูกกักขังให้จนมุม
“ฮ่าๆ ไอ้หนู แกตกอยู่ในกำมือของพวกเราแล้ว ยอมส่งตำราเคล็ดอสูรร่ำไห้มาซะดีๆ”
ผู้าุโคุมกฎหลี่เทียนเห็นดังนั้นก็หัวเราะร่าด้วยใบหน้าเบิกบาน แบบนี้ไม่เพียงจะได้ตำราเคล็ดอสูรร่ำไห้คืนมา แต่ยังได้แก้แค้นให้หลี่จวิ้นหลงบุตรชายบุญธรรมของเขาด้วย เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว!
นอกจากนี้ การสังหารเย่เฟิงจะทำให้ชื่อเสียงของสำนักอิ่นเซียนดังก้องไปทั่วยุทธจักรแน่นอน ส่วนเื่ล่วงเกินเย่เวิ่นเทียนน่ะหรือ? เขาไม่เกรงกลัวใครอีกแล้วนอกจากเย่เฟิง แต่เมื่อมันอยู่ในสภาพเช่นนี้ ตามประวัติศาสตร์ของสำนักอิ่นเซียน ไม่เคยมีศัตรูคนใดหลบหนีจากลานหินอ่อนนี้ได้ พวกมันล้วนต้องสิ้นชีพอยู่ในที่แห่งนี้ นี่ทำให้หลี่เทียนมั่นใจว่าเย่เฟิงต้องกลายเป็ผีเฝ้าที่นี่แน่นอน นอกจากนั้น แนวโน้มที่จื่อเจี้ยนหลานจะหนีไปจากหุบเขานี้ได้ก็กลายเป็ศูนย์ หลี่เทียนจึงโล่งใจ เพราะไม่เช่นนั้น ต่อให้ส่งนักฆ่าไปมากเท่าใด ก็ไม่มีทางสังหารเย่เฟิงได้แน่
ไม่นาน พวกเขาก็พบว่า ‘เย่เฟิง’ ที่ถูกขังอยู่ในกรงไม่กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว ต่างคนต่างรู้สึกไม่ชอบมาพากล
เหตุใดจึงเป็เช่นนี้?
ขณะเดียวกัน ประกายกระบี่สีเขียวเข้มก็สว่างวาบผ่านลำคอของผู้าุโจมูกโตไป ‘ฉัวะ!’ ศีรษะของชายชราขาดกระเด็นจากลำคอ เย่เฟิง ‘อีกคน’ ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังอย่างไม่มีใครคาดคิด!
แน่นอนว่านี่ต้องเป็ร่างจริงของเย่เฟิงที่เข้าประชิดเพื่อลอบสังหารโดยใช้ร่างเทียมเป็เหยื่อล่อดึงดูดความสนใจ เขาเคยใช้วิธีนี้กับหลงโม่หรานยามอยู่ที่ทะเลตะวันออก น่าเสียดายที่ตอนนั้นพลาดเป้าไปเพียงครึ่งนิ้ว และเพราะเหตุการณ์นั้นเอง ทำให้เย่เฟิงไม่คิดลอบสังหารใครด้วยการแทงกระบี่ที่หัวใจอีก แต่จะฟันหัวมันตรงๆ นี่ล่ะ!
“ยกกรงขึ้นอีก!”
หลี่เทียนหนาวสั่นไปถึงขั้วหัวใจจากเหตุการณ์นี้ เป็ไปได้อย่างไรที่มีเย่เฟิงถึงสองคน? เขารีบสั่งผู้ควบคุมกลไกทันที!
กรงเหล็กอีกกรงกักขังเย่เฟิงไว้ภายในอย่างรวดเร็ว โดยธรรมชาติแล้ว เมื่อเห็นเย่เฟิงถูกขังไว้ภายในกรงแบบนี้ หลี่เทียนย่อมรู้สึกโล่งใจ แต่คราวนี้เขารู้สึกหวาดหวั่น กลัวว่าจะมีเย่เฟิงคนที่สามโผล่มาอีก
ความสามารถของเ้าเด็กนี่แปลกประหลาดเกินไป ไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดหลงโม่หรานแห่งตระกูลหลงถึงถูกฟันแขนขาดในการต่อสู้กับเ้าเด็กนี่ที่ทะเลตะวันออก มันต้องซ่อนความลับอันล้ำค่าไว้แน่นอน
“ไอ้หนู บอกความลับของแกมา ไม่เช่นนั้นฉันคนนี้จะทำให้แกต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน แล้วยังจะย่ำยีพวกผู้หญิงของแกอย่างเลวร้ายที่สุด!”
หลี่เทียนขบกรามแน่นขณะมองเย่เฟิง การต่อสู้ในวันนี้ ต่อให้สำนักอิ่นเซียนของเขาเป็ฝ่ายชนะ การต้องสูญเสียมือปีศาจสยบเทพและผู้าุโอีกสามคนเป็ความเสียหายใหญ่หลวงของสำนัก เขาต้องเค้นความลับอีกฝ่ายมาให้ได้เป็การชดเชย
“อย่าชักช้า ฉันให้เวลาแกแค่ครู่เดียวเท่านั้น”
หลี่เทียนกดดันเย่เฟิงต่อไป แต่ทันใดนั้น ชายหนุ่มก็ตวัดกระบี่ใส่กรงเหล็ก
ฉัวะ!
ร่างเทียมของเย่เฟิงมีเพียงกระบี่ปลอม โดยธรรมชาติแล้วย่อมไม่อาจทำลายกรงเหล็กได้ แต่กระบี่เจินชี่ที่ก่อตัวขึ้นจากแหวนกระบี่ัโบราณของเย่เฟิงตัวจริง แหลมคมยิ่งกว่ากระบี่ของจริงเสียอีก!
กระบี่ในมือชายหนุ่มตัดผ่านกรงเหล็กอย่างง่ายดายราวกับหั่นเต้าหู้ จากนั้นเย่เฟิงจึงก้าวเท้าออกจากกรง
“เดิมที ฉันก็ี้เีจะจัดการพวกแกนะ แต่แกดันส่งพวกนักฆ่ามาตามรังควานไม่เลิก ถ้าฉันไม่ตอบโต้เสียบ้าง จะไม่ถูกลูบคมตลอดไปหรือไง?”
เย่เฟิงเค้นเสียงกล่าว จากนั้นก้าวเท้าไปข้างๆ วิชาย่างก้าวไร้เงาปะทุขึ้น ส่งร่างชายหนุ่มพุ่งตรงไปหาหลี่เทียนอย่างรวดเร็วราวกับิญญาร้ายภายใต้แสงจันทร์
หลี่เทียนซัดอาวุธลับโต้กลับอย่างไม่ลังเล พร้อมกับเคลื่อนไหวหลบหนีอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกัน น่าใที่ความเร็วของชายชราไม่ด้อยไปกว่าเย่เฟิงเลย
สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ที่มีระดับวรยุทธ์ั้แ่หกสิบปีขึ้นไป เย่เฟิงไม่อาจไล่ตามฝ่ายตรงข้ามได้ทัน แม้เป็อย่างนั้น กระบี่ของเขาก็ใช่ว่าจะโจมตีได้ในระยะประชิดเท่านั้น ต่อให้อยู่ห่างออกไปกว่ายี่สิบเมตร เขาก็สามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้เช่นกัน
เมื่อเห็นหลี่เทียนยังคงโจมตีด้วยอาวุธลับกลับมาอย่างต่อเนื่อง เย่เฟิงจึงเคลื่อนที่หลบการโจมตีจากมีดบินพร้อมกับควบแน่นพลังชี่ไว้ในกระบี่ เรียกใช้กระบี่พิฆาตั!
รังสีกระบี่สีน้ำเงินพลันปรากฏ และพุ่งตรงไปหาหลี่เทียนด้วยความเร็วสูง
ดวงตาของชายชราเบิกกว้าง เขาได้ยินว่าเย่เฟิงสามารถปลดปล่อยรังสีกระบี่ได้ แต่ไม่เคยเชื่อแม้แต่ครั้งเดียว เป็ไปได้อย่างไรที่คนอายุน้อยอย่างมันจะใช้รังสีกระบี่ได้? ถึงอย่างนั้นตอนนี้เมื่อได้มาเห็นกับตา ต่อให้คิดจะหลบหลีกก็ไม่มีเวลาอีกแล้ว
“ยิงศร!”
หลี่เทียนคำรามเสียงดังก้อง ต่อให้ต้องตายเขาก็ต้องลากเ้าเด็กนี่ไปด้วยกันให้ได้!
ฉัวะ!
ศีรษะของหลี่เทียนถูกรังสีกระบี่ตัดขาดกระเด็น ในเวลาเดียวกันลูกศรนับไม่ถ้วนก็ถูกยิงจากกำแพงที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล มันมีมากเสียจนปกคลุมไปทั่วลานหินอ่อนแห่งนี้ราวกับห่าฝน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้