เริ่มต้นเช้าวันใหม่สนามรบในโรงเรียนอาโออิถูกทำปัดกวาดจนสะอาดตาจริงดังว่า ไม่มีใครโทร.แจ้งความประตูหน้าต่างได้รับการซ่อมแซม “พ่อแม่” ของฟุคาดะก็โทร.มาลางานให้
คานาโกะอยากโทร.แจ้งความแต่เสิ่นิเกลี้ยกล่อมไว้ว่าถ้าตำรวจทำอะไรได้ เขาคงไม่จำเป็ต้องมาที่ญี่ปุ่นคานาโกะได้ขอลาพักร้อนให้กับลูกสาวและพาลูกติดตัวไปด้วยทุกที่ใน่นี้
ไม่ต้องไปเรียนหนังสือได้อยู่กับแม่ทั้งวัน สำหรับอาโออิแล้วนี่คือ์อย่างแท้จริงเด็กน้อยติดตามแม่ของเธอไปยังสถานที่ปราศรัยต่างๆ เข้าร่วมงานกิจกรรมประชาสัมพันธ์อาโออิรู้สึกสนุกกว่าได้เล่นในสนามเด็กเล่นอีก!
เสิ่นิต่อสู้กับเหล่าวายร้ายหลังจากผ่านไปหนึ่งคืน สถานการณ์ก็ยิ่งดุเดือดแน่นอนว่าคนที่เดือดคือผู้ว่าจ้างสังหารคุราชินะ คานาโกะสถานีโทรทัศน์เชิญเธอเข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้นเรื่อยๆไม่เพียงแต่จะไม่เรียกเก็บเงินค่าประชาสัมพันธ์ใดๆ กับเธอเท่านั้น ผู้สมัครสาวยังได้รับค่าจ้างซึ่งต่อมาได้นำมาเป็เงินช่วยเหลือทางการเมืองอีกด้วย
บัญชีหาเสียงของคานาโกะเฟื่องฟูขึ้นเรื่อยๆพวกเขาใช้ตู้คอนเทนเนอร์สามตู้ต่อกันว่าจ้างพนักงานเพิ่มอีกหลายสิบคนให้ช่วยดำเนินการโทรศัพท์เพื่อเยี่ยมเยียนและบริการให้คำปรึกษา
การหาเสียงเลือกตั้งเป็ไปด้วยดีผลโพลจากการสำรวจความคิดเห็นเผยให้เห็นว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของความนิยมนั้นพุ่งพรวดเหมือนกับจรวด
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ผู้สมัครคนอื่นๆซึ่งเดิมคิดว่าเธอเป็เพียงแค่ตัวประกอบเริ่มมองเธอเป็คู่ต่อสู้บางคนถึงขนาดอยากได้เธอเข้าร่วมพรรคของตนเอง
แม้จะเป็หนทางเปิดประตูสู่อาชีพทางการเมืองแต่เมื่อพรรค้าให้เธอระงับกฎหมายต่อต้านมาเฟียคานาโกะจึงปฏิเสธความปรารถนาดีของทุกฝ่ายและดำเนินการโดยเป็ผู้ลงสมัครที่ตั้งตนเป็อิสระ
เป็เวลา3วัน ที่คานาโกะยุ่งจนแทบไม่มีเวลานอนภารกิจการประชาสัมพันธ์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จัดกิจกรรมสัมภาษณ์ไม่รู้จบเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ และแฟนคลับกลุ่มผู้สนับสนุนดั้งเดิมก็ต้องได้รับการดูแลคานาโกะแทบอยากจะแยกร่างไปทำงาน
และใน่เวลานั้นเสิ่นิก็ติดตามคานาโกะไปเหมือนเงาและเซี่ยวอี๋เองก็ได้กลายมาเป็พี่เลี้ยงของอาโออิไปโดยปริยาย
เซี่ยวอี๋สามารถคว่ำอันธพาล4คนได้ด้วยมือเปล่า แต่นี่เป็ครั้งแรกที่เธอต้องคอยดูแลเด็กหนำซ้ำอาโออิยังไม่รู้ภาษาจีนอีก อยู่กับเด็กน้อยก็พูดกันไม่รู้เื่ แต่ในแง่นี้อาโออิมีไหวพริบมากกว่าเซี่ยวอี๋นัก เธอมีซอฟต์แวร์แปลภาษาในโทรศัพท์เมื่อเธอพูดภาษาญี่ปุ่นลงไป ซอฟต์แวร์ก็จะแปลเป็ภาษาจีนให้โดยอัตโนมัติเมื่อเซี่ยวอี๋พูดภาษาจีนกลับไปก็สามารถแปลเป็ภาษาญี่ปุ่นได้ ต้องขอบคุณเทคโนโลยีเซี่ยวอี๋จะได้ไม่พาเธอไปเข้าห้องน้ำเมื่ออาโออิบอกว่าหิว...
อาโออิชอบพี่สาวชาวจีนคนนี้มากถึงเธอจะซุ่มซ่ามอยู่บ้าง อารมณ์ฉุนเฉียวบางเวลา แต่พี่สาวก็เป็คนดีเพื่อโยเกิร์ตที่อาโออิอยากทาน พี่สาวก็อุตส่าห์วิ่งขึ้นวิ่งลงบันไดอยู่ 3 หน ทั้งที่อาโออิแค่แหย่เล่น
อาโออิมักจะเรียกเซี่ยวอี๋ว่า“เจเจ้” เื่นี้ทำให้เธอมีความสุขอยู่เสมอ ผู้หญิงชอบที่จะถูกเด็กน้อยะโเรียกและแพนด้าเองก็ได้มากลายเป็สัตว์เลี้ยงของอาโออิโดยสมบูรณ์แบบทุกวันนี้อาโออิเป็ผู้ร้องะโเรียกมาให้อาหาร
อาโออิไม่เข้าใจว่านกกระยางขาวนั้นต่างจากนกแก้วเด็กน้อยบังคับให้แพนด้าเรียนรู้วิธีการเห่าของสุนัขก่อนที่เธอจะยอมให้มันกินอาหารแพนด้ากลัวว่าตนเองจะอดตายเสียก่อน แต่อาโออิก็ยังตั้งตารออย่างไร้เดียงสาให้แพนด้าเรียนรู้วิธีการเห่า...จนในที่สุดแพนด้าก็ร้อง“แคว้ก โฮ่ง” ขึ้นมาจริงๆ ถือเป็ผลงานอันพิสดารชั้นเยี่ยมของโลกได้เลย!
วันที่4เวลา 7 นาฬิกา 20 นาทีในตอนเช้า ากำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
คานาโกะนั่งอยู่ในห้องแต่งตัวของสถานีโทรทัศน์ใหญ่ในโตเกียวเธอกำลังตรวจดูการแต่งหน้าขณะหันหน้าเข้าหากระจกโต๊ะเครื่องแป้งนอกจากเสิ่นิแล้ว คนอื่นๆ ก็เข้าไปนั่งเป็ผู้ชม
ที่จริงคานาโกะไม่ได้มาที่นี่เป็ครั้งแรกแต่นี่เป็ครั้งแรกที่เธอแต่งตัวรัดกุมมากในการออกโทรทัศน์ เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวชุดสูทสีดำร่างอันน่าภาคภูมิใจของเธอถูกซ่อนไว้ภายใต้เครื่องแต่งกายที่ดูเป็ทางการสวมสูทและกางเกงขายาว เป็ภาพลักษณ์ที่ยากที่จะได้เห็นในวันทั่วไป
วันนี้ไม่ใช่งานประชาสัมพันธ์ตามท้องถนนไม่ใช่การพบปะแฟนคลับ แต่เป็การถ่ายทอดสดการโต้วาทีอภิปราย ในเวลาเดียวกันมีการเชิญผู้สมัครส.ส. อีก 3 ท่านมาร่วมรายการ รวมถึงผู้น้อยอย่างคานาโกะและประธานมิตสึโอกะด้วย
หากเปรียบการประชาสัมพันธ์ในวันปกติเป็เหมือนกับการทำการบ้านวันนี้ก็ถือเป็วันเข้าสอบ
“อันที่จริงไม่ต้องเป็กังวลไป คิดอะไรก็พูดไปตามนั้น ผมว่าคุณไม่เลวเลย เมื่อเทียบกับนักการเมืองทุจริตเ่าั้ถ้าใครมีสมองก็ต้องสนับสนุนคุณแน่นอน” ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเสิ่นิกล่าวปลอบใจในขณะที่มองคานาโกะที่เติมลิปสติกเป็ครั้งที่สามแล้ว
“พวกนั้นเป็นักการเมืองมืออาชีพ เมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขาฉันก็เป็เหมือนเด็กหน้าใหม่ ไม่ให้ประหม่าเลยจะเป็ไปได้อย่างไร?” ความประหม่าของคานาโกะนั้นมีที่มานักการเมืองมาออกโทรทัศน์แบบนี้มักจะถูกฉีกหน้า เธอเคยเห็นมาไม่น้อยฉากนั้นเปรียบได้กับคนปากร้ายที่ด่ากันข้างถนนหากจำเป็ก็จะมีการเล่นตุกติกกันทุกประเภท เล่นสกปรกกันจนเื่ปกติ ลุ้นระทึกเสียยิ่งกว่าการเชียร์มวย
ผู้ชมชอบดูภาพแห่งความบันเทิงเมื่อตนเองกลายเป็หนึ่งในนั้น คานาโกะไม่เคยคิดมาก่อนเลย
“ผมจะสอนวิธีทำใจให้สงบให้ ตอนที่ซุ่มยิงเพื่อที่จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจสงบลง พลซุ่มยิงมักจะกลั้นหายใจเพื่อให้ตัวเองนิ่ง และสิ่งที่ผมจะสอนคุณก็คือ ควบคุมลมหายใจเข้า-ออกให้เป็จังหวะหายใจเข้าลึกๆ ก่อน แล้วคั่นด้วยการหายใจออกมาใน 1 วินาทีถัดไปทำวนซ้ำไปเรื่อยๆ จะทำให้สงบลงได้เร็วขึ้นและไม่เกิดอาการวิงเวียนศีรษะหลังจากกลั้นลมหายใจ” เสิ่นิยิ้ม
“ตกลง ฉันจะลองดู จะว่าไปคุณก็ร้ายกาจเหลือเกินนะ ทำไมถึงล่วงรู้ความคิดของฉันได้?”คานาโกะอมยิ้ม
“ไม่ใช่ว่าผมร้ายกาจหรอก แต่ว่าคุณน่ะดูง่ายมากนักการเมืองไร้เดียงสาแบบนี้อาจถูกคนเลวรังแกได้” เสิ่นิอบรม
“ฉันไม่กลัว! เพราะฉันมีบอดี้การ์ดที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก!”คานาโกะกล่าวอย่างขี้เล่น ในที่สุดเธอก็ยิ้มออกและทำตัวเหมือนเด็กมันเหมือนกับการได้รื้อฟื้นความรู้สึกของเด็กสาวตัวน้อยอีกครั้ง
และในห้องแต่งตัวอีกห้องหนึ่งซึ่งกั้นไว้ด้วยผนังประธานหัวล้าน มิตสึโอกะ กำลังดื่มวิสกี้อย่างหดหู่เลขานุการทั้งสี่ผู้ซึ่งยืนพร้อมเพรียงกันด้วยความเคารพช่างแต่งหน้าจัดแต่งทรงวิกของเขาด้วยความระมัดระวัง
“งี่เง่า! ไอ้รองผอ.ไม่ได้ความ!” หลังจากได้ยินหัวข้อการแลกเปลี่ยนวาทะประธานมิตสึโอกะก็เหวี่ยงแก้วไวน์ในมือลงบนพื้นด้วยความโกรธเกรี้ยวเลขานุการพากันใ “ไอ้บ้านั่นเอาเงินฉันไปตั้งมากมายพูดเป็อย่างดีว่าจะเรียงหัวข้อซักถามให้เป็ประโยชน์ต่อเราแต่ในตอนท้ายเขากลับเปลี่ยนไปคุยเื่‘ความสัมพันธ์ระหว่างแก๊งมาเฟียกับสังคมสมัยใหม่’แถมยังเชิญนางคานาโกะซึ่งไม่คู่ควรกับฉันมาในรายการอีก!ซากุระร่วงโรยก็ไม่ได้เื่! ฉันออกใบสั่งไปเป็เดือนแล้ว!แต่แม่สาวคนนั้นยังมีชีวิตอยู่อย่างผาสุก มันหลอกเงินเราไปแล้วไม่ลงมือทำงานอย่างนั้นเหรอ...”
ประธานมิตสึโอกะพูดยังไม่ทันจบอยู่ๆ มือใหญ่ก็จับคว้าลำคอของเขาไว้จากทางด้านหลัง ชายหัวโล้นไร้คิ้ว ไนติงเกลปรากฏตัวขึ้นข้างๆ เขาจ้องนักการเมืองชราในกระจกด้วยรอยยิ้ม“ข้าวน่ะทานแบบสุ่มสี่สุ่มห้าได้ แต่คำพูดจะกล่าวมั่วๆ ซั่วๆ ไม่ได้ถึงซากุระร่วงโรยจะบูชาเงินแต่บางครั้งเราก็สามารถฆ่าคนเพื่อความสะใจได้เหมือนกัน”
“คุณ...คือ…” ในขณะที่ลำคอถูกกำไว้ ประธานมิตสึโอกะถามอย่างหนักแน่นเพราะเขาไม่เคยเจอผู้ชายคนนี้มาก่อน
“ลืมแนะนำตัวไป ผมเป็บอดี้การ์ดคนใหม่ของคุณ เรียกผมว่า ‘ไดสุเกะ’ ก็ได้ส่วนชื่อในซากุระร่วงโรย ทางที่ดีคุณอย่าถามถึงดีกว่า”ไนติงเกลยิ้มแล้วปล่อยลำคอของท่านประธาน
“ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่? คุณบ้าไปแล้วหรือเปล่า?ผมจ่ายเงินให้พวกคุณเพื่อที่ตัวเองจะได้พ้นจากมลทินใดๆแล้วคุณจะมาเป็บอดี้การ์ดให้ผม นี่มันเื่อะไรกัน?” ประธานมิตสึโอกะยืนขึ้นอย่างประหม่าหากคนอื่นทราบว่าบอดี้การ์ดของตนจงใจสังหารฝ่ายตรงข้ามนั่นก็เท่ากับเป็การดับอาชีพทางการเมืองของเขา
“วางใจเถอะ คนลงมือไม่ใช่ผมผมแค่้าตัวตนเพื่อเป็ข้ออ้างในการพบกับบอดี้การ์ดของผู้หญิงคนนั้น”ไนติงเกลล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะกลับไปนั่งที่มุมหนึ่งอย่างสบายใจ
“คุณหมายถึง ‘ปีศาจงัดข้อ’ ตนนั้นน่ะเหรอ?” ฝีมือของเสิ่นิประธานมิตสึโอกะรู้ศักดาเขาั้แ่แรกแล้ว
“เขาขัดขวางการลอบสังหารของพี่น้องเรา สังหารคนของเราไป 5 คน” ไนติงเกลกล่าวอย่างใจเย็น ความจริงแล้วเขาต่างหากที่ฆ่าพี่น้องพวกนั้น
“ร้ายกาจขนาดนั้นเหรอ?” ประธานมิตสึโอกะใมาก“คุณมาที่นี่เพื่อขอเพิ่มค่าจ้างใช่หรือไม่?”
ชีวิตไม่เคยยากเข็ญสำหรับชายชราผู้นี้ตราบเท่าที่เขามีเงิน
“ซากุระร่วงโรยมีจรรยาบรรณ อย่าซ้ำเติมกันั้แ่่เริ่มต้นตอนนี้เราจะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง แต่บอดี้การ์ดคนนั้น...มันต้องตาย”ไนติงเกลวางมือทาบลงบนหน้าอกพลางหัวเราะเบาๆ
การถ่ายทอดสดกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วรถสัมภาษณ์สี่คันขับเคลื่อนเข้ามายังลานจอดรถใต้ดินของอาคารสถานีโทรทัศน์โตเกียวนักข่าวมากถึง 30 คนที่มีป้ายชื่อติดหน้าอกลงจากรถชายหญิงสะพานเป้ใบใหญ่ขึ้นหลังไปด้วย
ไม่ยิ้มไม่ทักทายเรียงรายเดินไปตามทางหนีไฟและเข้าไปในลิฟต์พวกเขารีบขึ้นไปที่ชั้นสตูดิโอถ่ายทอดสด
การถ่ายทอดสดเริ่มขึ้นในเวลา2ทุ่มตรง หลังจากคำทักทายของพิธีกรชื่อดัง ผู้สมัครทั้ง 4 รายก็ถูกเชิญให้ขึ้นไปบนเวที
แม้ว่าจะมีผู้สมัครลงเลือกตั้งเกือบ10รายก็ตาม แต่ผลจากการวิเคราะห์โพลในปัจจุบันพบว่าผู้เข้าชิงน่าจะมีเพียงแค่หนึ่งในสี่ท่านนี้เท่านั้น
คานาโกะเป็ม้ามืดใน่ไม่กี่วันที่ผ่านมาดัชนีการสำรวจความคิดเห็นสูงพอที่จะทำให้เธอเข้าร่วมในรายการอภิปรายสดประเภทนี้ได้นอกจากนี้ เธอเองก็มีภูมิหลังของการเป็ดาราถ่ายภาพนู้ดแล้วยังมีความไม่ลงรอยระหว่างเธอกับประธานมิตสึโอกะที่เป็อันดับหนึ่งในโพลอีกทั้งหมดเป็ไฮไลท์ของเวทีอภิปรายในวันนี้
นี่คือสาเหตุที่รองผู้อำนวยการที่ได้รับสินบนให้พยายามช่วยหนุนประธานมิตสึโอกะต้องว่าตามผู้อำนวยการสถานีที่้าเพิ่มคานาโกะเข้ามาในการอภิปรายด้วย
ผู้อภิปรายทั้ง4ท่านเข้าประจำที่แท่นโต้วาทีซึ่งจัดเป็วงกลมผู้สมัครทั้งสี่ยืนหันหน้าเข้าหากัน คานาโกะถูกจัดให้อยู่ข้างๆ ประธานมิตสึโอกะเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังเป็เป้า รอให้พวกเขายิงใส่ผู้สมัครอีกสองคนเหมือนมาเป็เครื่องประดับบารมีเฉยๆ แต่ผู้ที่สามารถมายืนอยู่ ณจุดนี้ได้ ย่อมไม่ใช่อาหารจานด่วนธรรมดา ทุกคนเตรียมสุนทรพจน์อันเผ็ดร้อนมา พร้อมที่จะหาจังหวะะโขึ้นเป็ตัวเอกได้ทุกเมื่อ
“คุณคานาโกะ ช่างเป็โชคที่ได้พบ แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้พบกันแต่ผมก็ไม่คาดคิดว่าจะได้พบคุณที่นี่ ผมชรามากแล้ว อายุปาไป 60 ปี ซ้ำยังเป็โรคหัวใจอีก อีกเดี๋ยวหวังว่าคุณจะเมตตาผมบ้าง”ประธานมิตสึโอกะถือโอกาสกล่าวทักทายคานาโกะด้วยความสุภาพ ภายใต้รอยยิ้มอันใจดีนั้นแต่มือที่จับคานาโกะกลับเต็มไปด้วยความรังเกียจ เขาไม่ยอมปล่อยมือออกใบหน้าอันชั่วร้ายของชายชราซึ่งหัวใจไม่ชราด้วย
“ดิฉันรู้ค่ะว่าคุณถ่อมตนผู้น้อยอย่างเรายังมีเื่อีกมากมายที่ต้องเรียนรู้จากคุณ กรุณาให้คำชี้แนะด้วยหากมีสิ่งใดผิดพลาดไป ได้โปรดอย่าได้ถือโทษโกรธเคืองกันนะคะ”คานาโกะใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการดึงมือออกเธอได้เห็นพวกนิสัยเสียหน้าไหว้หลังหลอกมามากไม่เลวร้ายไปกว่าหมาป่าชราที่อยู่ตรงหน้านี้หรอกเธอได้แต่รักษาความสุภาพขั้นพื้นฐานเอาไว้ คานาโกะถูกเลี้ยงดูมาเช่นนี้
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ การอภิปรายก็เป็อันเริ่มต้น!”พิธีกรประกาศเสียงกังวาน