บทที่ 9 : คอขวดของการผลิตและพันธมิตรหน้าดุ
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป...
เสียงเครื่องจักรในโรงงานรุ่งเรืองพานิชดังกระหึ่มอย่างต่อเนื่อง สร้างความสบายใจให้กับทุกคนในโรงงาน แต่ทว่า... ปัญหาใหม่ก็ตามมาติดๆ อย่างที่ตำราบริหารธุรกิจเรียกว่า 'Bottleneck' หรือ 'คอขวด'
"แย่แล้วเฮีย! ไอ้แก่สตาร์ทไม่ติดอีกแล้ว!"
ลุงหมาย คนขับรถะโหน้าตื่น วิ่งเข้ามาในออฟฟิศ
พ่อคมสันวางหูโทรศัพท์จากลูกค้า ทุบโต๊ะดังปัง "อะไรนะ! เพิ่งซ่อมไปเมื่ออาทิตย์ก่อนไม่ใช่เหรอ? วันนี้ต้องไปส่งสินค้าที่สถานีรถไฟลำพูนให้ทันรถด่วนรอบเย็นนะ ถ้าไม่ทันลูกค้าที่กรุงเทพฯ ปรับอานแน่!"
รินรดาที่กำลังนั่งทำการบ้าน (พร้อมกับแอบตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของโรงงาน) เงยหน้าขึ้นมอง
"เป็อะไรไปจ๊ะลุงหมาย?"
"หม้อน้ำรั่วครับคุณหนู แล้วเหมือนเพลาขับจะร้าวด้วย สงสัยจะบรรทุกหนักเกินไป่นี้" ลุงหมายรายงานเสียงอ่อย
รินรดาถอนหายใจ 'ก็สมควรอยู่หรอก... รถมาสด้าแฟมิเลียคันกระเปี๊ยก แต่พ่อเล่นอัดกระป๋องลำไยไปเกือบตันต่อรอบ วิ่งวันละ 4-5 เที่ยว ไม่พังก็แปลกแล้ว'
"จ้างรถรับจ้างเ้าอื่นหรือยังจ๊ะพ่อ?"
"โทรไปแล้ว เต็มหมด!" พ่อหน้าเครียดจนเส้นเืปูด "่นี้หน้าลำไย รถคิวไหนก็ไม่ว่าง... สงสัยต้องยอมเสียค่าปรับแล้วมั้งเนี่ย เวรกรรมจริงๆ"
รินรดานั่งควงปากกา ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ภาพของชายหนุ่มร่างสูงในชุดหมีเปื้อนน้ำมัน และรถบรรทุกคันเก่าที่จอดอยู่ในอู่นั้นลอยเข้ามาในหัว
"พ่อจ๊ะ... หนูว่าหนูหาคนช่วยได้"
"ใคร? เพื่อนพ่อคนไหน?"
"ไม่ใช่เพื่อนพ่อหรอกจ้ะ... แต่เป็ 'พี่สิงห์' อู่สิงห์คำ"
พ่อทำหน้าเหวอ "ไอ้หนุ่มช่างซ่อมมอไซค์น่ะนะ? มันมีรถบรรทุกด้วยเหรอ?"
"มีสิจ๊ะ รถหกล้อคันใหญ่เบ้อเริ่มเลย หนูเคยเห็นจอดอยู่หลังอู่" รินรดาโกหกหน้าตาย (จริงๆ เธอเห็นในนิมิตตอนสแกนพื้นที่อู่ต่างหาก) "เดี๋ยวหนูจะลองไปคุยกับเขาดู พ่อเตรียมของรอไว้เลย!"
...
อู่สิงห์คำ
เสียงเคาะเหล็กดัง ป๊องๆ มาจากด้านหลังอู่
สิงห์กำลังยืนเท้าเอว เหงื่อท่วมตัว อยู่หน้าซากรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อ ISUZU สีฟ้าซีดๆ สภาพเหมือนเพิ่งกู้มาจากป่าช้ารถ
เครื่องยนต์ถูกวางลงไปแล้ว แต่สตาร์ทเท่าไหร่ก็ไม่ติด มีแต่เสียง แชะๆๆๆ...
"โธ่เว้ย! ระบบไฟก็ไล่แล้ว น้ำมันก็มาแล้ว เป็อะไรของมันวะ!" สิงห์สบถ เตะยางรถระบายอารมณ์
"เตะยางไปรถก็ไม่ติดหรอกนะพี่สิงห์"
เสียงใสๆ ที่คุ้นเคยทำเอาสิงห์สะดุ้ง เขาหันขวับไปเห็นรินรดายืนกอดอกพิงเสาโรงรถ ยิ้มแป้นแล้นอยู่
"อ้าว... ยัยเปี๊ยก มาทำไมอีกเนี่ย? วันนี้ไม่ได้พกการบ้านมาให้สอนนะ" สิงห์แกล้งทำเสียงดุ แต่รีบเช็ดมือที่เปื้อนน้ำมันกับกางเกง
"วันนี้เอาเงินมาให้ต่างหาก" รินรดาชี้ไปที่รถบรรทุก "รถคันนี้... วิ่งได้ไหม?"
"วิ่งได้... ถัามันยอมติดนะ" สิงห์ถอนหายใจ "วางเครื่องใหม่มาสามวันแล้ว ไล่ระบบยังไงก็ไม่จบ สงสัยปั๊มเชื้อเพลิงจะมีปัญหา"
รินรดาเดินเข้าไปใกล้รถบรรทุกคันั์ เธอตบตัวถังเบาๆ
[เปิดใช้งานสกิล: วิเคราะห์โครงสร้าง (Structural Analysis) Lv.2]
(เลเวลอัปจากการซ่อมเครื่องจักรโรงงาน)
สายตาของเธอมองทะลุฝากระโปรงรถ เข้าไปในห้องเครื่องที่ซับซ้อน
[ตรวจพบความผิดปกติ: ฟองอากาศในระบบท่อทางเดินน้ำมัน (Air Lock)]
[สาเหตุ: แหวนรองน็อตท่อไหลกลับ (Return Line) ไม่สนิท]
"ไม่ใช่ปั๊มเสียหรอกพี่... พี่ลืมไล่ลมตรงท่อไหลกลับหรือเปล่า?" รินรดาชี้เป้า "แล้วแหวนรองตรงนั้นน่ะ มันดูเหมือนจะปีนเกลียวนะ อากาศเลยเข้า"
สิงห์เลิกคิ้ว "มั่วป่าว? พี่ไล่ลมไปสามรอบแล้วนะ"
แต่เขาก็ยอมหยิบประแจเบอร์ 17 เดินไปไขน็อตตัวที่เธอชี้ พอคลายออกมานิดหนึ่ง...
ฟู่... เสียงลมดันออกมาพร้อมกับฟองน้ำมัน
สิงห์ตาโต "เฮ้ย! จริงว่ะ... อากาศเข้าตรงนี้จริงๆ ด้วย"
เขาจัดการเปลี่ยนแหวนรองตัวใหม่ ขันให้แน่น แล้วเดินไปบิดกุญแจสตาร์ทอีกครั้ง
ชึก-ชึก... บรึ้มมมม!
เสียงเครื่องยนต์ดีเซลคำรามกึกก้อง ควันดำพ่นออกมาจากท่อไอเสียลูกใหญ่ ก่อนจะเดินเบาลงอย่างนุ่มนวล
"ติดแล้ว! เยส!" สิงห์กำหมัดสะใจ หันมายิ้มกว้างให้รินรดาจนตาหยี "เธอนี่มัน... แม่ย่านางมาเกิดชัดๆ"
รินรดาหน้าแดงวูบกับคำชม 'แม่ย่านางเลยเหรอ... ฟังดูแก่พิลึกแฮะ'
"ติดแล้วก็ดีค่ะ งั้นพี่รับงานเลยนะ"
"งานไร?"
"ไปขนลำไยกระป๋องที่โรงงานพ่อหนู ไปส่งที่สถานีรถไฟ... ด่วนที่สุด! พ่อให้เที่ยวละ 500 บาท ค่าน้ำมันต่างหาก เอาไหม?"
สิงห์นิ่งคิด เที่ยวละ 500... วันนึงวิ่งสัก 2 เที่ยว ก็พันนึง เดือนนึง...
ดวงตาของนายช่างหนุ่มเป็ประกาย นี่มันโอกาสทองในการเริ่มธุรกิจขนส่งที่รินรดาเคยบอกไว้
"เอาดิ! รถพร้อม คนพร้อม!" สิงห์ตอบรับทันที
"เดี๋ยว..." รินรดายกมือห้าม แล้วมองสำรวจสภาพสิงห์ั้แ่หัวจรดเท้า
เสื้อกล้ามเปียกเหงื่อ กางเกงยีนส์ขาดเข่า ผมเผ้ายุ่งเหยิง หนวดเคราเฟิ้ม
"สภาพนี้... พ่อหนูไม่ปลื้มแน่" รินรดาส่ายหน้า "ไปอาบน้ำ โกนหนวด แล้วหาเสื้อดีๆ ใส่... พ่อหนูชอบคนดูสะอาดสะอ้าน ดูเป็มืออาชีพ เข้าใจไหม?"
สิงห์ทำหน้ามุ่ย "เื่มากจังวะ... เออก็ได้ๆ รอแป๊บ!"
...
โรงงานรุ่งเรืองพานิช
พ่อคมสันเดินวนไปวนมาหน้าโกดังสินค้าอย่างร้อนใจ นาฬิกาข้อมือบอกเวลาว่าใกล้จะสายเกินแก้แล้ว
"มาแล้วครับเฮีย! รถมาแล้ว!" ลุงหมายะโบอก
รถบรรทุก 6 ล้อสีฟ้าสภาพสีถลอกปอกเปิก แต่เสียงเครื่องแน่นปึ้ก แล่นเข้ามาจอดเทียบท่าอย่างนิ่มนวล เสียงเบรกลมดัง ฟี๊...
ประตูฝั่งคนขับเปิดออก ชายหนุ่มร่างสูงก้าวลงมา
ไม่ใช่ไอ้หนุ่มขี้เมาในภาพจำของพ่อคมสัน แต่เป็ชายหนุ่มผมรองทรงสั้นเรียบร้อย ใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลา (แม้จะดูหน้าดุไปหน่อย) สวมเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตพับแขนทับเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์สีเข้มดูทะมัดทะแมง
รินรดาะโลงจากฝั่งคนนั่ง ยิ้มแฉ่ง "พ่อจ๊ะ นี่พี่สิงห์... เ้าของอู่สิงห์คำ แล้วก็เป็... เอ้อ... พันธมิตรทางธุรกิจของเราจ้ะ"
สิงห์ยกมือไหว้พ่อคมสันอย่างนอบน้อม (ตามที่รินรดาติวเข้มมาในรถ)
"สวัสดีครับเฮีย ผมสิงห์ครับ... ยินดีที่ได้ร่วมงานครับ"
พ่อรับไหว้แบบงงๆ มองดูหน่วยก้านแล้วต้องยอมรับในใจว่า 'ไอ้หนุ่มนี่มันหน่วยก้านดีว่ะ ไหล่กว้าง แขนแข็งแรง ท่าทางเอาการเอางาน'
"เออๆ ไหว้พระเถอะ... รถไหวแน่นะ?"
"ไหวครับ เครื่องเพิ่งฟิตมาใหม่ๆ รับรองส่งทันเวลาแน่นอนครับ" สิงห์ตอบเสียงหนักแน่น
ไม่พูดพร่ำทำเพลง สิงห์ปลดล็อคกระบะท้าย แล้วะโขึ้นไปช่วยคนงานยกลังสินค้า
ลังลำไยกระป๋องที่คนงานต้องช่วยกันยกสองคน สิงห์ก้มลงแบกขึ้นบ่าคนเดียวเดินตัวปลิว กล้ามแขนปูดโปนเกร็งตัวสวยงาม ทำเอาสาวๆ แถวนั้นมองตาค้าง
รินรดายืนมองภาพนั้นด้วยความภาคภูมิใจ
'นี่แหละ... ปฐมบทของ Singha Logistics'
พ่อคมสันเดินเข้ามากระซิบลูกสาว "ตาถึงนี่หว่าเรา... หมอนี่มันใช้ได้ ไม่ขี้เก๊กเหมือนพวกลูกคนรวย"
รินรดาหัวเราะแห้งๆ "จ้ะพ่อ... ใช้ได้เลยล่ะ"
การขนส่งเที่ยวแรกเริ่มขึ้นแล้ว รถหกล้อคันเก่าค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากโรงงาน บรรทุกความหวังของครอบครัวรินรดา และบรรทุกความฝันของสิงห์ออกไปสู่โลกกว้าง
โดยมีรินรดา (ที่ขอติดรถไปด้วยโดยอ้างว่าจะไปคุมงาน) นั่งยิ้มแก้มปริอยู่ข้างคนขับ คอยบอกทางและแอบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของสิงห์ที่กำลังตั้งใจขับรถอย่างเท่ที่สุดในโลก
[ภารกิจสำเร็จ: เปิดเส้นทางขนส่งสินค้า]
[ความสัมพันธ์กับสิงหราช: ระดับ ‘พาร์ทเนอร์ที่ไว้วางใจ’]
[ความประทับใจจากพ่อ: +30 (เริ่มเปิดใจ)]
