มีแต่ต้าจวินคือคนที่กตัญญูที่สุดรึ?
หวังจินกุ้ยอยากหยิบกระโถนปัสสาวะมาครอบหัวแม่เฒ่าเซี่ยเหลือเกิน ยายแก่คนนี้หลอดเืในสมองอุดตันจนต้องเข้าโรงพยาบาล มีแต่เธอที่คอยวิ่งวุ่นปรนนิบัติรับใช้อยู่ตลอดเวลา ตอนแรกกลั้นปัสสาวะไม่อยู่จนเปื้อนผ้าปูเตียงไปหมด แม้แต่พยาบาลยังถึงกับต้องปิดจมูก เป็หวังจินกุ้ยที่ต้องอดทนเอาผ้าปูเตียงไปซักให้
อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ใช่เวลาถือสาหญิงชราอีกต่อไป ความสนใจของหวังจินกุ้ยอยู่กับข่าวที่บอกว่าเซี่ยต้าจวินร่ำรวยเงินทองแล้ว
“รวยแล้วจริงหรือ?”
“ก็จริงน่ะสิ พี่ต้าจวินเขียนจดหมายส่งมาที่บ้านตั้งนานแล้ว ทั้งยังส่งเงินมาด้วย พวกคุณไม่ได้รับหรือ?”
คนส่งข่าวสาบาน ทั้งยังพูดอย่างมั่นอกมั่นใจอีกด้วย
เขาบอกว่าตนก็ทำงานอยู่ที่เผิงเฉิงเช่นกัน และเพราะเป็คนบ้านเกิดเดียวกัน พอได้กลับบ้าน่ตรุษจีนเขาจึงอาสาช่วยเซี่ยต้าจวินส่งข่าวมาบอกกับที่บ้าน เขาบอกว่าเซี่ยต้าจวินเขียนจดหมายและส่งเงินมาให้ แม่เฒ่าเซี่ยกับหวังจินกุ้ยต่างคนต่างสงสัยอีกฝ่าย สุดท้ายแม่เฒ่าเซี่ยก็ด่าหวังจินกุ้ยว่าเป็คนเอาจดหมายไปซ่อน ในขณะที่หวังจินกุ้ยเองก็โวยวายว่าถูกปรักปรำ
“แม่ ต้องเป็ไอ้คนไร้คุณธรรมคนนั้นที่เอาจดหมายกับเงินไปแน่ๆ ถ้าฉันรู้ว่าลุงรองของหงเซี๋ยอยู่ที่ไหนฉันจะไม่บอกแม่ได้หรือ”
ตอนเธอซักผ้าปูเตียงอยู่ที่โรงพยาบาล เธอด่าั้แ่เซี่ยฉางเจิงยันเซี่ยต้าจวินว่าเป็ลูกเนรคุณ หากเธอรู้ข่าวของเซี่ยต้าจวินั้แ่ก่อนหน้านี้ หวังจินกุ้ยคงไม่ทนอยู่กับสภาพเช่นนี้อย่างแน่นอน
แม่เฒ่าเซี่ยยอมเชื่อหวังจินกุ้ยชั่วคราว ตอนนี้สิ่งสำคัญคือถามให้รู้ว่าอย่างแน่ชัดว่าเซี่ยต้าจวินอยู่ที่ไหน
ร่ำรวยจริงหรือไม่เป็อีกเื่ เมื่อไม่มีลูกชายผู้ว่านอนสอนง่ายอย่างเซี่ยต้าจวินอยู่ข้างกาย วันเวลาของแม่เฒ่าเซี่ยช่างไม่ราบรื่นเอาเสียเลย ต่อให้เซี่ยต้าจวินไม่ร่ำรวย ได้เงินมา 100 หยวนเขาก็จะยกให้เธอ 99 หยวน ทว่าตอนนี้เซี่ยฉางเจิงทิ้งเธอไว้ที่บ้านนอก เซี่ยหงปิงติดการพนัน หวังจินกุ้ยี้เีตัวเป็ขน แม่เฒ่าเซี่ยคิดถึงสมัยที่ตนควบคุมคนทั้งตระกูลได้เหลือเกิน
คนส่งข่าวยิ้มกว้าง “สงสัยจดหมายจะหายไปสินะ อย่างไรก็ตามพี่ต้าจวินช่างโชคดีเหลือเกิน พวกเราเดินทางลงใต้ไปหางานทำด้วยกัน แต่เถ้าแก่ฮ่องกงกลับถูกใจเขา ชวนเขาไปทำงานด้วยและให้ความสำคัญกับเขามากจริงๆ พี่ต้าจวินอยากกลับมารับพวกคุณไปอยู่ด้วยกันแต่ก็ไม่ว่างเสียทีจึงฝากฝังให้ผมมาแจ้งข่าวแก่พวกคุณ”
ส่วนที่ว่าถึงเผิงเฉิงแล้วควรทำอย่างไรต่อ แค่ตามหาเครือเชิงหรงของฮ่องกงก็พอแล้ว เพราะเซี่ยต้าจวินทำงานอยู่กับเถ้าแก่ตู้จากเครือเชิงหรงอย่างไรล่ะ
เซี่ยหงปิงกลับจากวงไพ่ เซี่ยหงเซี๋ยถือเมล็ดฟักทองเอาไว้ เธอฟังเพลินจนลืมที่จะแกะมันกิน คนส่งข่าวผู้นี้ช่างเล่าเื่เก่งเหลือเกิน สาธยายว่าเถ้าแก่ฮ่องกงร่ำรวยแค่ไหน เขาไม่สามารถบอกจำนวนเงินได้แต่บอกเพียงว่าเถ้าแก่คนนั้นมีรถอยู่หลายคัน ออกจากบ้านแต่ละครั้งใช้รถไม่เคยซ้ำ อีกทั้งรถที่เขานั่งมักจะมีรถคอยประกบทั้งด้านหน้าและด้านหลังอยู่ตลอดเวลา!
นี่คือความฟุ้งเฟ้อที่คนตระกูลเซี่ยไม่เคยได้ยินมาก่อน
แม่เฒ่าเซี่ยฟังจนรู้สึกเคลิ้ม ถึงอย่างไรคนตระหนี่เช่นเธอก็รู้จักมารยาทอยู่บ้าง หญิงชราจึงเอ่ยปากชวนคนส่งข่าวให้อยู่กินข้าวด้วยกัน หวังจินกุ้ยเองก็เลิกเกี่ยงงานทันที เธอเรียกเซี่ยหงเซี๋ยให้ออกจากบ้านไปจับไก่มาทำเป็อาหาร
แค่คิดถึงน่องไก่หอมกรุ่นเซี่ยหงเซี๋ยก็น้ำลายไหลแล้ว และที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าก็คือเื่ราวชีวิตของคนรวยที่คนส่งข่าวเล่าให้ฟังนั่นเอง
“แม่ ถ้าลุงรองรวยแล้วจริงๆ พวกเราจะไปที่เผิงเฉิงหรือเปล่า”
สองแม่ลูกเพิ่งจับพ่อไก่มาได้ตัวหนึ่ง หลังเชือดเสร็จก็นั่งถอนขนอย่างคล่องแคล่ว ไม่มีท่าทางอิดออดเหมือนทุกครั้ง
“โง่หรือเปล่า ทำไมจะไม่ไปล่ะ!”
หากพวกเธอไม่ไปเผิงเฉิง เซี่ยต้าจวินรวยแล้วเช่นนี้ก็เข้าทางเซี่ยจื่ออวี้น่ะสิ ไหนจะยังมีเซี่ยเสี่ยวหลานอีก ถ้านังเด็กนั่นรู้ว่าเซี่ยต้าจวินรวยแล้วคงอยากกลับมาเอาเปรียบตระกูลเซี่ยแน่นอน
โชคดีที่ปิดเทอมฤดูหนาวปีนี้เซี่ยจื่ออวี้ไม่ได้กลับบ้าน
ตัวซวยอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานเองก็คงยังไม่รู้ข่าว ลาภถึงได้ลอยมาหาหงเซี๋ยลูกสาวของเธอ สองคนนั้นสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ หวังจินกุ้ยย่อมรู้สึกอิจฉาตาร้อน ในบรรดาสามสาวตระกูลเซี่ย ทำไมถึงมีแค่หงเซี๋ยที่ต้องแต่งงานกับชาวไร่ชาวนากัน
ที่แท้ยังมีโอกาสรออยู่ หวังจินกุ้ยเอาไก่ผัดกับซอสแดง พลางเอ่ยกับเซี่ยหงเซี๋ยเสียงเบา
“คนที่ลูกคบอยู่ รีบไปบอกเลิกซะ เข้าใจไหม”
เซี่ยหงเซี๋ยหาแฟนหนุ่มที่โรงเรียนไม่ได้ ทว่าครึ่งปีมานี้เธอหาได้อยู่ว่างๆ เพราะเธอได้แฟนหนุ่มเป็คนอำเภอเดียวกัน แม้อายุจะมากไปหน่อยแต่หน้าตาก็พอดูได้ และเซี่ยหงเซี๋ยเองก็ชอบเขามาก
ถ้าไม่มีเื่อะไรเกิดขึ้น เธอคงแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นอย่างแน่นอน
อยู่ๆ หวังจินกุ้ยก็บอกให้เธอเลิกกับเขา เซี่ยหงเซี๋ยอยากกรีดร้องเหลือเกิน หวังจินกุ้ยบีบแขนเธอแน่น “นังลูกคนนี้ไม่มีสมองหรืออย่างไร ลุงรองทำงานอยู่กับเถ้าแก่ฮ่องกง ลูกไม่อยากแต่งงานกับคนฮ่องกงหรือ!”
เถ้าแก่ฮ่องกงคงไกลเกินเอื้อม หวังจินกุ้ยจัดการให้เซี่ยหงเซี๋ยดูตัวมาตลอดครึ่งปี เธอย่อมรู้จักลูกสาวของตัวเองดี เซี่ยหงเซี๋ยไม่มีจุดเด่นตรงไหน หน้าตาธรรมดา ไม่มีงานทำ หากเทียบกับเซี่ยเสี่ยวหลานและเซี่ยจื่ออวี้แล้ว เซี่ยหงเซี๋ยยิ่งดูไร้จุดขาย
ไม่ได้แต่งงานกับเถ้าแก่ฮ่องกง ทว่าแต่งกับคนฮ่องกงก็ยังพอมีหวังมิใช่หรือ
เวลานี้สมองของหวังจินกุ้ยแล่นไปมาอย่างรวดเร็ว เซี่ยหงเซี๋ยเงียบไปสักพัก เธอเป็คนี้เี อีกทั้งยังรู้สึกเสียดายแฟนคนปัจจุบัน แต่ถ้าได้ไปอาศัยอยู่ที่ฮ่องกง ชีวิตของเธอคงดีกว่าอยู่ที่อันชิ่งเป็ร้อยเท่า!
สองแม่ลูกมีความเห็นที่ตรงกัน และอยากให้คนส่งข่าวเล่าเื่ของเซี่ยต้าจวินให้มากกว่านี้ ดังนั้นตลอดมื้ออาหารเซี่ยหงปิงจึงสามารถดื่มเหล้าเสียจนเมามายได้เพราะไม่มีใครห้าม
ทุกคนในบ้านล้วนเป็พวกฆ้องปากแตก เนื่องจากข่าวนี้ทำให้คนตระกูลเซี่ยรู้สึกตื่นเต้นกันไปหมด
หลังคนส่งข่าวกลับไปไม่นาน ทั้งหมู่บ้านต้าเหอก็รู้เื่ที่เซี่ยต้าจวินร่ำรวยแล้ว ตระกูลเซี่ยช่างมีบุญยิ่งนัก หลานสาวสองคนสอบติดมหาวิทยาลัย แม้แม่เฒ่าเซี่ยจะพึ่งพาพวกเธอไม่ได้แต่ก็ยังมีลูกชายสุดแสนกตัญญูอย่างเซี่ยต้าจวินอยู่อีกคน!
“โชคดีจริงๆ”
“ขนาดเซี่ยต้าจวินยังสามารถร่ำรวยได้?”
“เกาะเถ้าแก่ฮ่องกงได้แล้วน่ะสิ...”
แม้แต่รองเท้าผุพังอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานยังสามารถสอบได้คะแนนเป็อันดับหนึ่งของมณฑล สอบติดหัวชิง อีกทั้งยังได้ออกโทรทัศน์ตอนพิธีเดินขบวนฉลองวันชาติ แล้วทำไมเซี่ยต้าจวินจะร่ำรวยบ้างไม่ได้!
ค่านิยมของคนหมู่บ้านต้าเหอล้วนแต่มีปัญหา ชาวบ้านขี้นินทาและชอบการพนัน ดังนั้นไม่ว่าบ้านใครมีเื่อะไรย่อมรู้กันทั่ว ไม่นานข่าวของเซี่ยต้าจวินก็แพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้าน
บ้านเกิดของจางชุ่ยอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านต้าเหอนัก ความจริงจางชุ่ยและเซี่ยฉางเจิงกลับมาถึงที่อันชิงแล้ว แต่เซี่ยฉางเจิงอ้างว่าเพราะมือของเขาขาดเลยไม่อยากกลับหมู่บ้านต้าเหอ สองสามีภรรยาจึงอาศัยอยู่ที่บ้านจาง
ถึงอย่างไรพวกเขาก็ฝากฝังลูกชายไว้กับคนตระกูลจาง จางชุ่ยบอกว่าไม่อยากกลับบ้านเซี่ย เซี่ยฉางเจิงจึงไม่คิดที่จะคัดค้าน ไม่นานก็มีข่าวลือแพร่มาถึงบ้านเกิดของจางชุ่ย ว่ากันว่าเซี่ยต้าจวินได้ไปทำงานกับเถ้าแก่ฮ่องกงที่เผิงเฉิงจนร่ำรวยเงินทอง จางชุ่ยได้ยินดังนั้นก็ไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อย
“คนอย่างเขาน่ะหรือจะสามารถร่ำรวยได้?”
เซี่ยฉางเจิงเองก็ไม่อยากเชื่อเช่นกัน เดิมทีเขากับจางชุ่ยคือคนที่มีชีวิตที่ดีที่สุด และเซี่ยต้าจวินคือคนที่ทำงานหนักที่สุดเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ทว่าหลังเซี่ยต้าจวินหนีออกจากโรงพยาบาลไป เขาก็ไม่เคยส่งข่าวกลับมาที่บ้านเซี่ยอีกเลย เซี่ยฉางเจิงนึกว่าน้องชายคนนี้ของเขาตายไปแล้ว
สองผัวเมียไม่อยากเชื่อสักนิด แต่คนจากหมู่บ้านต้าเหอพูดอย่างมั่นใจว่า คนบ้านเซี่ยกำลังเก็บของเตรียมเดินทางไปที่เผิงเฉิง ่ตรุษจีนแบบนี้แต่กลับไม่อยู่เฝ้าบ้าน หากเจอเซี่ยต้าจวินเมื่อไรพวกเขาอาจจะไม่กลับมาที่หมู่บ้านต้าเหออีกแล้ว จางชุ่ยจึงจำใจเชื่อในที่สุด
เธอชักนั่งไม่ติดจึงส่งโทรเลขไปหาเซี่ยจื่ออวี้ที่ปักกิ่ง ถามเซี่ยจื่ออวี้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป
แม้เซี่ยจื่ออวี้จะไม่ใส่ใจพ่อแม่มากมายนัก แต่ก็ฉลาดกว่าเธอและเซี่ยฉางเจิง ถึงอย่างไรเซี่ยจื้ออวี้ก็เป็ถึงนักศึกษา จางชุ่ยจึงค่อนข้างเชื่อมั่นและมักจะพึ่งพาเซี่ยจื่ออวี้อยู่เสมอ
หลังเซี่ยจื่ออวี้ได้รับโทรเลขก็พูดอะไรไม่ออก
คนที่เธอคิดว่าคงจะได้กลายเป็คนใหญ่คนโต จู่ๆ กลับถูกย้ายไปทำงานที่สำนักประวัติศาสตร์พรรคคอมมิวนิสต์ ส่วนอารองอย่างเซี่ยต้าจวินที่เธอนึกว่าชาตินี้คงไม่มีวันประสบความสำเร็จ ตอนนี้กลับร่ำรวยขึ้นมาอย่างนั้นหรือ?
พวกคนบ้านนอกไม่เคยเห็นโลกภายนอก เซี่ยต้าจวินหาเงินได้ไม่เท่าไรก็ถูกพวกเขาลือกันว่าร่ำรวยแล้ว สิ่งเดียวที่เซี่ยจื่ออวี้หวั่นไหวคือคำว่าเถ้าแก่ฮ่องกง... ถ้าอยากทำธุรกิจเธอควรมีเงินทุนเสียก่อน เช่นนั้นอารองมีเงินอยู่เท่าไรกันแน่ เขาจะสามารถช่วยเหลือเธอได้หรือเปล่า?
เซี่ยจื่ออวี้ไม่คิดว่าเซี่ยต้าจวินจะปฏิเสธเธอ
มนุษย์ก็เหมือนกับสัตว์ที่ฝึกกันได้ เธอใช้เวลาหลายปีในการพยายามควบคุมคนบ้านเซี่ยให้อยู่ภายใต้อาณัติ เซี่ยต้าจวินนั้นเชื่อฟังเธอมาตลอด ต่อให้เซี่ยเสี่ยวหลานเป็ฝ่ายถูกเอาเปรียบ เขาก็จะทำตามคำสั่งของเธออย่างไร้ข้อโต้แย้ง... พอถึงเวลาแบบนี้ทีไร เซี่ยจื่ออวี้มักจะรู้สึกภูมิใจในตัวเองอย่างยากที่จะอธิบายอยู่เสมอน่ะสิ