ตลอดทั้งบ่ายทุกคนกำลังจัดกลุ่มคุยกันั้แ่ผู้บริหารระดับสูงไปจนถึงพนักงานธรรมดาในเื่ของฉินเฟิงหลังจากที่รู้ว่าเขาเป็แค่พนักงานขายธรรมดาจากแผนกการขายที่ไม่มีพื้นเพหรืออิทธิพลใดๆพวกเขาต่างแสดงความคิดเห็นในการกระทำของเขาระหว่างมื้อเที่ยง
ในระหว่างบ่ายนี้ฉินเฟิงกลายเป็คนดังในหวงเจียกรุ๊ปไปแล้ว
ในฐานะพระเอกของงานนี้ฉินเฟิงไม่ได้สนใจตอนนี้เขาเลิกงานและพูดจาหยอกล้อกับสวี่รั่วโหรวขณะที่มองใบหน้าเขินอายของเธอและเดินไปยังทางออก
หลังจากออกจากตึกมาแล้วโทรศัพท์ของฉินเฟิงดังขึ้นทันทีเขาหยิบออกมาดูและเห็นว่าเป็เบอร์ของหยุนเซียว
สีหน้าของฉินเฟิงเปลี่ยนไปเขากล่าวอย่างขึงขัง “สบายดีไหมครับครูหยุนเซียว?”
หยุนเซียวในโทรศัพท์ฟังดูเร่งรีบนิดหน่อย“ฉินเฟิง เธออยู่ไหน เธอมาหาฉันที่บ้านหน่อยได้ไหม?”
หัวใจของฉินเฟิงกระเพื่อมเขาตอบกลับโดยพลัน “ได้เลยครับครูหยุนเซียว อาบน้ำรอเลยเดี๋ยวผมไปหา”
สีหน้าของหยุนเซียวบึ้งตึงเมื่อได้ยินเสียงตื๊ดตื๊ด ผ่านโทรศัพท์ เธอคิดในใจว่าฉินเฟิงยังคงไม่เปลี่ยน
“รั่วโหรว ฉันต้องไปเจอเพื่อนเก่าสักหน่อยรอให้อิ๋งอิ๋งมารับอยู่นี่และตามเธอกับประธานฉินกลับบ้านนะ”ฉินเฟิงพูดกับสวี่รั่วโหรวหลังจากวางสาย
“นะ...นั่นไม่ดีหรอกค่ะ ฉะ...ฉันกลับบ้านเองได้” สวี่รั่วโหรวกังวลนิดหน่อยมันกดดันเกินไปที่จะให้นั่งรถของประธานฉินกลับไป
“อย่าลีลาน่า แค่ทำตามที่ฉันพูดก็พอไม่งั้นถ้าเธอถูกลักพาตัวไปฉันจะไม่ช่วยเธอ” ฉินเฟิงหยิกแก้มสวี่รั่วโหรว
สวี่รั่วโหรวตัวสั่นขณะที่คิดถึงเื่ที่เธอถูกลักพาตัวครั้งล่าสุดตอนที่เธอถูกเหวยเสียวเหล่ยลักพาตัวเธอแค่ไปซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันเธอพยักหน้าอย่างแรง “ค่ะ งั้นฉันจะรอพี่อิ๋งอิ๋ง...ไม่สิ ผู้ช่วยหานและคนอื่นๆ”
ในที่สุดฉินเฟิงก็รู้สึกโล่งใจครั้งล่าสุดที่เขาแข่งรถกับเหวยเสียวเหล่ยเขาไปที่บ้านหยุนเซียวครั้งนี้เขาขี่จักรยานและพุ่งผ่านถนนไป...เขาสงสัยว่าครูหยุนเซียวอาบน้ำเสร็จหรือยัง
สวี่รั่วโหรวเป็เด็กดีจริงๆเธอรออยู่ที่ทางเข้าบริษัทและมองดูหลังของฉินเฟิงที่ค่อยๆ ห่างออกไปไม่นานหลังจากนั้นหานอิ๋งอิ๋งและฉินหวงก็มาด้วยกันสวี่รั่วโหรวเดินไปกับพวกเขาและอธิบายหานอิ๋งอิ๋งเกาะแขนของสวี่รั่วโหรวและเดินไปที่รถเบนซ์ด้วยกันทันที
หลี่อวี่เฉินเห็นฉากนี้พอดีั์ตาน่ารักของเธอฉายแววความใ ทำไม...สวี่รั่วโหรวถึงออกไปกับหานอิ๋งอิ๋งและรถของท่านประธานฉินล่ะ?
บ่ายนี้เธอได้รับโทรศัพท์จากแม่อีกครั้งว่าให้รีบแต่งงานเนื่องจากเธอไม่ใช่เด็กสาวอีกแล้วดังนั้นเธอจึงตัดสินใจว่าั้แ่วันนี้เป็ต้นไปเธอจะไปเตร็ดเตร่แถวตำหนักฉินทุกวันหลังเลิกงานเธอไม่เชื่อว่าเธอจะไม่เจอนายน้อยฉินเลย
หลี่อวี่เฉินเชื่อว่าถ้าเธอพบกับนายน้อยฉินจังๆเธออาจจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเขาได้หากใช้ความสวยของเธอและรุกเพิ่มอีกนิดด้วยความคิดเช่นนี้หลี่อวี่เฉินจึงวิ่งออกจากออฟฟิศหลังทำงานเสร็จและเห็นเหตุการณ์ที่น่าตกตะลึงนี้ทันใดนั้นความเป็ไปได้ก็แวบเข้ามาในหัว
เป็ไปได้ว่าสวี่รั่วโหรวกับฉินหวงรู้จักกัน? งั้นเธอต้องรู้จักนายน้อยฉินแน่นอนถ้าเป็อย่างนั้นมันคงจะดีกว่าถ้าเธอลองโยนหินถามทางตอนที่สวี่รั่วโหรวกลับมาทำงานพรุ่งนี้
หลี่อวี่เฉินอดไม่ได้นอกจากถอนหายใจหวงเจียกรุ๊ปเป็แหล่งซ่อนเสือจริงๆ
ดูจากผิวเผินแล้วฉินเฟิงกับสวี่รั่วโหรวดูเหมือนพนักงานฝ่ายขายธรรมดา อย่างไรก็ตามใครจะรู้ว่าคนหนึ่งรู้จักผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบริหารส่วนอีกคนขึ้นรถของท่านประธานฉินโดยตรง
ไม่ถึง20นาทีต่อมา ฉินเฟิงมาถึงหน้าอพาร์ทเม้นท์ของหยุนเซียวแล้ว“ครูหยุนเซียว ครูอยู่ตึกไหนน่ะ? ผมถึงแล้วนะ”
“ไวจัง...ฉะ...ฉันอยู่ตึก 3 ห้อง 1102 เข้ามาเลย” หยุนเซียวในิดหน่อยเธอสงสัยว่าฉินเฟิงบังเอิญอยู่แถวนี้พอดีหรือเปล่า
นี่เป็ครั้งแรกที่เธอให้ผู้ชายเข้าบ้านด้วยเหตุผลแปลกๆ หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นหลังจากที่บอกที่อยู่ของเธอ
หลังจากได้ที่อยู่แล้วฉินเฟิงรีบวิ่งไปหาทันที เมื่อเขามาถึงหน้าห้อง 1102 ประตูได้ถูกเปิดออกแล้วหยุนเซียวยืนอยู่หน้าประตูและกำลังรอฉินเฟิง “ฉินเฟิง ธะ...เธอวิ่งขึ้นบันไดมาเหรอ?”
“ใช่แล้ว ลิฟต์มันช้าเกินไปผมกำลังคิดว่าครูหยุนเซียวเพิ่งอาบน้ำเสร็จและกังวลจนต้องมารอหน้าประตูผมเลยเร่งมาเลย...เอ๋? ครูหยุนเซียว ครูยังไม่อาบน้ำเหรอ?”
ฉินเฟิงผิดหวังนิดหน่อยที่เห็นหยุนเซียวใส่ยูนิฟอร์มสีดำและถุงน่องที่ใส่ทำงาน
หยุนเซียวรู้จักนิสัยของฉินเฟิงดีเธอจ้องฉินเฟิงและแกล้งทำเป็โกรธ “ฉินเฟิง ฉันเป็ครูของเธอนะทำตัวให้เหมาะสมหน่อย อย่าคิดสัปดน...เอาล่ะ รีบเข้ามาเร็ว”
ฉินเฟิงตามหยุนเซียวเข้าไปในห้องขณะที่ชื่นชมบั้นท้ายที่อยู่ภายใต้กระโปรงสั้นสีดำ
ห้องที่หยุนเซียวเช่าเป็1ห้องน้ำ 2 ห้องนอน และ 2 ห้องนั่งเล่นพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า เธออยู่คนเดียวและมันกำลังพอดีมันรู้สึกค่อนข้างสบาย เนื่องจากนี่เป็ครั้งแรกที่เธอพาผู้ชายเข้าบ้านเธอจึงอึดอัดนิดหน่อย เมื่อพวกเขาเข้ามาในห้องนั่งเล่น เธอให้ฉินเฟิงนั่งบนโซฟา
ทั้งสองนั่งข้างกันบนโซฟาหัวใจของหยุนเซียวซู่ซ่า เธอเขยิบห่างจากฉินเฟิงเมื่อเธอเขยิบห่างออกไปฉินเฟิงก็เขยิบตาม เธอเขยิบถอยอีกครั้งฉินเฟิงก็ตาม
“ฉินเฟิง...ยะ...อย่านั่งใกล้ฉันมากนัก มันค่อนข้างร้อนน่ะ”หยุนเซียวหน้าแดงและกล่าวอย่างเหนียมอาย
“โอ้ พอดีตัวของครูหยุนเซียวหอมเกินไป เลยช่วยไม่ได้ที่ผมอยากจะดมใกล้ๆ”ฉินเฟิงมองหยุนเซียวด้วยรอยยิ้มครั้งนี้เขาไม่เขยิบเข้าใกล้เธออีกครั้งสีหน้าของเขาเปลี่ยนทันทีและกล่าวอย่างจริงจัง“ครูหยุนเซียว ทำไมถึงเรียกผมมาล่ะ?”
ฉินเฟิงรู้ว่าหยุนเซียวจะไม่ติดต่อเขาถ้าไม่มีเหตุผลมันต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่
ฉินเฟิงเปลี่ยนท่าทีอย่างฉับพลันหยุนเซียวจึงวางตัวไม่ทันเธอทำให้ตัวเองใจเย็นลงและกล่าวอย่างจริงจัง “ฉินเฟิง ระยะหลังนี้ทำไมเธอถึงไม่มามหา’ลัย?”
“มีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านและเข้ามาแทรกการเรียนของผม...ผมควรจะหาเวลาบอกครูหยุนเซียวเป็การส่วนตัวแต่ผมก็ยุ่งมากจนถึงตอนนี้ ผมต้องขอโทษจริงๆ” ฉินเฟิงบอก
หยุนเซียวส่ายหัวและยิ้ม“ในเมื่อมีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้าน งั้นฉันก็ตำหนิเธอไม่ได้ ฉันเชื่อว่าพ่อของเธอน่าจะแจ้งทางมหา’ลัยไว้แล้ว แต่จากอายุเธอแล้วหน้าที่หลักของเธอคือเรียนถ้าเื่ครอบครัวของเธอจบแล้ว มันก็ยังเป็การดีที่สุดที่จะต้องมาเรียน”
หยุนเซียวกลับมาทำหน้าที่เป็ครูของฉินเฟิงและสอนเขาเธอรู้จักพื้นหลังครอบครัวของฉินเฟิง แม้ว่าจริงๆ แล้วเขาจะไม่ไปมหาวิทยาลัยมันก็ไม่เป็ไรหลังจากที่นายน้อยเ้าสำราญคนนี้ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยเขาจะต้องสืบทอดกิจการของครอบครัวและให้ลูกหลานใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายต่อไป
เมื่อเธอคิดถึงความเป็ไปได้ที่ฉินเฟิงจะไม่เข้าเรียนอีกแล้วหยุนเซียวก็รู้สึกผิดหวังแบบไม่ทราบสาเหตุ
“ครูหยุนเซียวอย่าเศร้าไปเลย เมื่อเวลานั้นมาถึงผมจะไปเยี่ยมที่มหา’ ลัยเองผมรู้ว่าไม่มีผมอยู่แล้วครูอาจจะคิดถึงผมมาก จริงๆ แล้วตอนที่ครูหยุนเซียวคิดถึงผมครูจะเรียกผมมานั่งที่บ้านอย่างวันนี้ก็ได้...แน่นอนว่าปกติผมจะว่างแค่ตอนกลางคืนเท่านั้นดังนั้นจะดีกว่าถ้าครูหยุนเซียวเรียกผมมาตอนกลางคืน”