หรูซื่อคิดว่าตนเองโชคดีนัก แต่งงานห้าปีไร้ทายาท สามีไม่แสดงท่าทีรังเกียจ ซ้ำยังดูแลเอาใจใส่อย่างดี
“แล้ว...แล้ว ครอบครัวของข้าเป็อย่างไรเ้าคะ พวกเขารักข้าหรือไม่ ดีกับท่านหรือเปล่า แล้ว...แล้วมารดาของท่าน เอ่อ แม่สามีของข้า รักใคร่เอ็นดูข้าหรือไม่เ้าคะ เอ๋...เหมือนว่าข้าจะได้ยินท่านพูดเื่อนุ”
คำถามของนางทำเอาดวงตาของเขาวูบไหวครู่หนึ่ง แต่กระนั้นเขาก็กักเก็บมันไว้ได้ทัน กลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มเอ็นดู
“บิดามารดาของเ้ามีบุตรชายสามคน เ้าเป็บุตรคนที่สี่เป็บุตรสาวคนเดียวและบุตรคนเล็ก เป็แก้วตาดวงใจของท่านราชครู ข้าได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลเ้าอย่างดีมิให้เ้าเจ็บช้ำน้ำใจ บิดาเ้ามีมารดาเพียงผู้เดียวไม่มีหญิงอื่น ข้าเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน เ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าไม่รับอนุมีไม่หลายภรรยาให้เ้าต้องปวดใจ ส่วนเื่รับอนุนั้น เป็ความใจร้อนของมารดาข้าเอง”
“ท่าน...ท่านพี่อย่าได้ตำหนิมารดาของท่านเช่นนั้น” นางรีบพูดขึ้น “แต่งงานกันห้าปีไร้ทายาท แม่สามีไม่ขับไล่ข้าก็นับว่าดียิ่งนัก หาก...หากว่าข้าไม่สามารถมีทายาทให้ท่านได้ ท่าน...ท่านสามารถมีอนุได้”
“ข้าไม่รับอนุ ไม่รับภรรยารอง จะมีเพียงเ้าคนเดียวเท่านั้น”
น้ำเสียงหนักแน่นมั่นคงทำให้หัวใจของหรูซื่อสั่นไหว นางเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาคมปลาบคู่นั้น พลันรู้สึกร้อนผ่าวทั่วไปใบหน้า ริมฝีปากคลี่ยิ้มอ่อนหวานอย่างไม่รู้ตัว
“เ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พักผ่อนเถิด อย่าลืมกินยาที่ท่านหมอสั่งไว้ด้วย”
“ข้าทราบแล้ว” เพียงคิดถึงรสขมในชามยานั้น นางก็เบ้ปากออกมา
“ระยะนี้ข้าต้องฝึกทหาร อาจไม่ได้มาหาเ้าทุกวัน รอให้ข้าจัดการเื่ในกองทัพเรียบร้อยแล้วจะมีเวลามาอยู่กับเ้ามากขึ้น หาก้าสิ่งใดก็บอกป้าหวงฝูให้นางจัดการให้ได้”
“เ้าค่ะ ท่านอย่าได้กังวลเลย ข้าจะไม่ทำให้ท่านลำบากใจ”
ซุนหลวนคุนใจลอยไปชั่วขณะ เขายื่นมือไปเกี่ยวไรผมที่ลงมาเคลียแก้มออกทัดใบหูให้นางแล้วลุกขึ้นยืน พยักหน้าให้นางเล็กน้อยแล้วเดินออกจากห้อง ไออุ่นจากฝ่ามือของเขาทำให้หรูซื่อยกมือขึ้นแตะแก้ม หัวใจยังคงหวามไหวกับถ้อยคำหนักแน่นที่เขายืนยันกับนาง
“ฮูหยิน”
“ป้าหวงฝู” หรูซื่อได้สติรีบขานรับ
นางหวงฝูเห็นอาการใจลอยของฮูหยินก็ป้องปากหัวเราะเบาๆ สามีเพิ่งเดินออกไป ภรรยาก็ใจลอยด้วยคิดถึงเสียแล้ว
“ฮูหยินอย่าได้ห่วงเลยเ้าคะ”
“ข้าไม่ได้ห่วงอะไรเสียหน่อย” นางหลุบตาลงซ่อนความเขินอายไว้
“ั้แ่ฮูหยินมาที่จวนนี้ ท่านแม่ทัพปลีกตัวมาเยี่ยมฮูหยินทุกวัน ตอนที่ท่านยังไม่ได้สติก็มาเฝ้าอยู่ใกล้ๆ ใครต่อใครก็พูดกันว่าท่านแม่ทัพรักฮูหยินมาก”
“จริงหรือ?” นางเงยหน้าขึ้น หัวใจพองโตด้วยความดีใจ เขา...ห่วงใยนางจริงๆ ใช่ไหม? มิใช่เพราะรับปากกับบิดาของนาง
“จริงสิเ้าค่ะ” นางหวงฝูหยิบหวีมาแปรงผมให้ นางชอบแปรงผมให้หรูซื่อ เส้นผมนุ่มสลวยไม่หยาบกระด้างเป็มันขลับ ทั้งที่ไม่ได้ใส่น้ำมันแต่อย่างใด แสดงว่าได้รับการดูแลเอาใจอย่างดี
“ป้าหวงฝู” นางเรียกอย่างเกรงใจ หรูซื่อขบริมฝีปากครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจเอ่ยออกมา “แม่สามีส่งข้ามาดูแลท่านพี่ ข้าเดินทางมาเพียงลำพัง ไม่รู้ต้องทำอย่างไรบ้าง ป้าหวงฝูแนะนำข้าได้บ้างหรือไม่ แต่งงานกันห้าปียังไร้ทายาท ข้าละอายใจยิ่งนัก”
“เื่นี้อาจเพราะท่านทั้งสองไม่ได้อยู่ใกล้กัน ว่ากันว่าท่านแม่ทัพห่วงชายแดนไม่ได้กลับบ้านมาหลายปี วันนี้ฮูหยินอยู่ตรงนี้แล้ว ก็ถือโอกาสนี้มีทายาทกับท่านแม่ทัพสิเ้าค่ะ”
“จะทำได้อย่างไร” นางถามอย่างงุนงง “ข้าต้องขึ้นเขาไหว้พระบูชาเ้าแม่กวนอิมประทานบุตรหรือ?”
นางหวงฝูหลุดเสียงหัวเราะออกมา ฮูหยินช่างน่ารักไร้เดียงสาเหลือเกิน
“ไม่ต้องทำเช่นนั้นหรอกเ้าค่ะ ฮูหยินแค่หาเวลาใกล้ชิดกับท่านแม่ทัพ อยู่ด้วยกันมากขึ้นกว่านี้”
“ป้าหวงก็พูดเองมิใช่หรือว่าท่านแม่ทัพปลีกตัวมาหาข้าทุกวัน” นางเอียงคอถามอย่างสงสัย เผลอวางมือลงบนท้อง แค่ใกล้ชิดกันนางก็จะมีทายาทให้เขาได้หรือ?
คราวนี้นางหวงฝูเข้าใจแล้วว่า เพราะฮูหยินไร้เดียงสาเพียงนี้ ท่านแม่ทัพถึงได้ทะนุถนอมดั่งวางนางในอุ้งมือ แต่เื่นี้ปล่อยให้เข้าใจผิดเนิ่นนานย่อมไม่ดี แต่งงานกันห้าปีไร้ทายาท จะยิ่งสั่นคลอนตำแหน่งฮูหยิน ของนางเอง
“เื่มีทายาทนั้น ท่านแม่ทัพจะสอนฮูหยินเองเ้าค่ะ แต่ฮูหยิน เองก็ต้องให้ความร่วมมือด้วยเช่นกัน”
“ได้แน่นอน”
นางพยักหน้ารับอย่างขันแข็ง เพื่อมีทายาทให้ตระกูลซุน นางต้องทำได้สิ!
....
ซุนหลวนคุนเดินเข้าในจวน ดวงตาดุจพญาเหยี่ยวตวัดสายตามองทหารยามที่ก้มหน้าหลบสายตาของเขา แม่ทัพหนุ่มรับรู้ได้ว่ามีสิ่งผิดปกติ แต่ไม่มีใครกล้ารายงาน
“จะพูดเองหรือให้ข้าถาม”
“คือ...” ทหารต่างยามอึกอักใช้ศอกกระทุ้งกันไปมาไม่กล้าเอ่ยปาก
“ปิดบังผู้บังคับบัญชา มีโทษทางวินัยอย่างไร”
“เรียนท่านแม่ทัพ” ทหารคนหนึ่งรีบพูดออกมาด้วยความกลัว “ไฟไหม้ที่ห้องครับขอรับ”
“ไฟไหม้ห้องครัว?” เื่สำคัญขนาดนี้ทำไมไม่มีใครมารายงานเขา
“แต่ไหม้นิดเดียว แล้วก็ดับแล้วขอรับ”
ซุนหลวนคุนไม่รอให้ทหารรายงานจบ เขาเปลี่ยนเส้นทางเดินมุ่งหน้าไปยังห้องครัวทันที หากเป็กองทัพ คลังเสบียงเป็จุดสำคัญที่ต้องดูแลอย่างดี นี่ในจวนของเขาแท้ๆ แต่กลับเกิดไฟไหม้ขึ้นได้ ทว่าเมื่อเขาเดินไปถึงต้องชะงักเท้าจนเสียจังหวะไปเล็กน้อย เมื่อสายตาเห็นร่างบอบบางของหรูซื่อยืนอยู่หน้าห้องครัว แม้ไฟไหม้ไม่ได้เสียหายอะไรมากนัก เห็นเพียงควันขโมงและเหล่าทหารที่หิ้วถังน้ำมาดับไฟ
“ท่าน...ท่านแม่ทัพ”
เสียงทหารคนหนึ่งพูดทำให้หรูซื่อหันไปมอง ซุนหลวนคุนหรี่ตามอง ทำให้นางได้แต่กัดริมฝีปากไม่รู้จะอธิบายเื่เหล่านี้อย่างไรดี
“เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่มีอะไรเ้าค่ะ เื่เล็กน้อยเท่านั้น” ป้าหวงฝูรีบพูดขึ้น นางเองก็กลัวท่านแม่ทัพไม่ต่างจากคนอื่น
“เื่-เล็ก-น้อย” เขาพูดย้ำที่ละคำทำเอาบรรดาคนที่ได้ยินต่างสะดุ้งแล้วก้มหน้างุดจนคางแทบชิดอกกันเลยทีเดียว
หรูซื่อเห็นท่าไม่ดี นางรีบสาวเท้าเข้าไปหา แต่เพราะรีบร้อนจึงสะดุดก้อนหินเสียหลักเซถลาไปด้านหน้า ซุนหลวนคุนรวดเร็วพอที่จะยื่นมือไปรับนางไว้ได้ทัน แต่ทำให้นางได้ซุกในอกกว้างของเขาแทน การใกล้ชิดนี้ทำให้ใบหน้างามแดงระเรื่อ คงน่าดูกว่านี้แต่ถ้าไม่มีเขม่าดำเปื้อนแก้มอย่างนี้ มือใหญ่ยกขึ้นเช็ดคราบดำที่เปื้อนแก้มเบาๆ หญิงสาวได้สติรีบยกมือขึ้นเช็ดแก้มตัวเอง แต่มันยิ่งเลอะเทอะจนชวนขบขัน
“ท่าน...ท่านพี่อย่าได้โกรธผู้อื่น ล้วนเป็ความผิดของข้าเอง”
“ฮูหยินไม่ได้ตั้งใจ ขอท่านแม่ทัพโปรดเมตตาเ้าค่ะ” แม้จะกลัวมากเพียงใดแต่ก็อดสงสารฮูหยินไม่ได้ นางหวงฝูจึงชิงพูดเสียก่อน “เป็ความผิดของบ่าวที่ดูแลฮูหยินไม่ดีเอง”
“ไม่ใช่ๆ เป็ความผิดของข้าเอง ข้าดื้อรั้นจะทำไก่ตุ๋นเครื่องยาจีนเอง ทั้งที่ทุกคนห้ามปรามแล้ว แต่ข้าก็ยัง...ยังก่อเื่อีก”
“เ้าจะทำไก่ตุ๋นเครื่องยาจีน?” เขาถามอย่างประหลาดใจ “ข้าเคยพูดแล้วหากเ้า้าอะไรให้สั่งผู้อื่นทำได้ หรือหากเ้าอยากกินอะไรก็บอกพวกเขาได้ คนของข้าก็เหมือนคนของเ้า คำสั่งของเ้าก็เหมือนคำสั่งของข้า”
“ไม่ใช่ๆ” นางโบกมือไปมา “เป็ข้าที่อยากทำให้ท่านเอง ตำรับเครื่องยาจีนนี้บำรุงตับ,ไต, ปรับการไหลเวียนของเื ข้าอยากลงมือตุ๋นไก่ให้ท่านเอง แต่ข้าไม่เคยเข้าครัว...เกรงว่าจะเร่งไฟแรงไปหน่อย ไฟจึงไหม้ครัวอย่างนี้”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้