แม้ในตอนกลางวันจะไล่เหยียนิฮ่วนออกไป อิ้งหลีก็ถ่ายทอดคำพูดของเหยียนชิงไปยังจวนของท่านลุงใหญ่อย่างสุดความสามารถ ได้ยินว่าเหยียนเม่าตบเหยียนิฮ่วนและลงโทษด้วยการกักบริเวณ ฮูหยินใหญ่ถัง เซวียซื่อก็ถูกตำหนิไปด้วย เดิมทีคิดว่าเื่นี้จะจบ
แต่ใน่บ่าย สาวใช้ในเรือนของฮูหยินเหยียนก็มาส่งข่าวบอกว่าฮูหยินใหญ่ถังและสามีของนางมาที่จวนและเชิญเหยียนชิงกับเว่ยซูหานไปกินข้าวเย็นที่เรือน
คราวนี้เหยียนชิงไม่อาจปฏิเสธได้แล้ว ทำได้เพียงตอบตกลงเท่านั้น
เมื่อกลับมาถึงเรือนเซียวเหยาก็บอกกับเว่ยซูหาน เว่ยซูหานยกชาขึ้นมาจิบแล้วเงียบไป
เขาไม่อยากไป กลัวว่าหลังจากเห็นหน้าพวกเขาแล้วตนจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่ ชาติที่แล้วคู่สามีภรรยาเ้าเล่ห์คู่นี้ไม่ได้มองว่าเขาเป็มนุษย์ เพียงแต่มองว่าเขาเป็หินเป็ปูนที่จะทำให้เหยียนิฮ่วนยึดอำนาจของตระกูลเหยียนได้ทีละก้าวๆ เท่านั้น
แต่ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็เป็ลุงใหญ่และป้าของเหยียนชิง ถ้าเขาไม่ไปเกรงว่าจะดูไม่ดี ไม่อาจทำให้เสียหน้าของเหยียนชิงและฮูหยินเหยียนได้
เหยียนชิงเห็นเขานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง สีหน้าก็เริ่มเปลี่ยนไป รู้ว่าเขาไม่อยากเจอจึงเอ่ยว่า
“ซูหาน ถ้าเ้าไม่อยากเจอก็ไม่ต้องไป ข้าไปเองก็พอแล้ว”
มารยาทหรืออะไรทำนองนั้น ชาติที่แล้วเขาได้มอบให้แก่คนเ่าั้มาพอแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าอย่างไร เื่การประจบสอพลอเขาก็ไม่ได้สนใจแล้ว เขารับมือกับมารดาของเขาได้ ส่วนคนอื่น หากเขาอยากไว้หน้าก็จะทำ แต่ถ้าไม่ก็ไม่จำเป็ต้องไว้หน้า เขาแต่งงานกับเว่ยซูหาน เขาตัดสินใจแล้วว่าจะรับหน้าที่ที่หนักอึ้งของตระกูลเหยียน เขาไม่เชื่อ ว่าคนที่มีสองชีวิตมาแล้วจะสู้สามีภรรยาเ้าเล่ห์นั่นไม่ได้
“ข้าไปเอง ไม่เป็ไร”
เว่ยซูหานกลับส่ายหัวแล้วส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเทน้ำชาให้เขา
“ข้าไม่อยากพบพวกเขาเลย แต่สามีภรรยาย่อมต้องรับผิดชอบร่วมกัน อีกอย่าง คนที่ผิดก็คือพวกเขา การมาเยี่ยมเยียนในเวลานี้ ส่วนใหญ่ก็เพื่อเป็การขอโทษแทนเหยียนิฮ่วน พวกเราก็ควรจะยอมรับตามที่มันควรจะเป็ใช่หรือไม่?”
แม้ว่าจะเป็ผู้าุโ แต่เหยียนชิงเป็คุณชายสายตรง และในอนาคตก็ไม่มีใครกล้าล่วงเกินเขา
เหยียนชิงยกชาขึ้นมาจิบ คิดอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยขึ้นว่า
“ไม่เป็ไรจริงๆ หรือ? ข้าบอกว่าหากเ้าไม่อยากไปจริงๆ ก็ไม่ต้องไป ข้ารับมือได้ พวกเขาขอโทษก็สมควรแล้ว แต่เ้าไม่จำเป็ต้องไปพบพวกเขาจริงๆ ก็ได้ เ้าเป็ภรรยาชาย ต่อให้พวกเขาขอโทษ มารยาทที่มีต่อเ้าก็คงไม่สูงมาก ข้ากลัวว่าเ้าจะทนดูหน้าพวกเขาไม่ได้จนโกรธขึ้นมา”
“รอจนคุ้นเคยกับพวกเขาสักระยะหนึ่ง และเมื่อเ้าสามารถนั่งในตำแหน่งฮูหยินน้อยของตระกูลเหยียนให้มั่นคงให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาจัดการพวกเขา เมื่อถึงเวลานั้นที่เ้าควบคุมงานต่างๆ แล้วก็ไม่จำเป็ต้องให้เ้าชอบพวกเขา แต่พวกเราต้องคอยดูสีหน้าเ้าเวลาทำเื่อะไร”
ในใจของเขารู้สึกไม่ยุติธรรมอย่างบอกไม่ถูก ตราบใดที่ในชาติที่แล้วสองคนนี้มีจิตใจเมตตาสักนิด เว่ยซูหานก็คงไม่น่าเวทนานัก แม้ตอนนี้พวกเขาจะไม่ได้ทำอะไรเว่ยซูหาน แต่ในฐานะคนที่ได้เห็นแล้ว ในใจของเหยียนชิงก็ยังรู้สึกเอือมระอามาก ดังนั้นเมื่อคิดว่าเว่ยซูหานต้องไปอ่อนน้อมถ่อมตนต่อพวกเขา ก็รู้สึกไม่พอใจเช่นกัน
เว่ยซูหานใช้นิ้วลูบขอบถ้วยชา มองดูคนที่โกรธเคืองแทนตน หัวใจก็อบอุ่นจนแทบจะละลาย มีคนรักที่คิดเพื่อเขาเช่นนี้ สามีจะขอร้องอะไร ต่อให้ต้องไปเผชิญหน้ากับเทพสังหารที่ดุร้าย เขาก็กล้าหาญพอที่จะบุกเข้าไป ไม่ต้องพูดถึงคนต่ำต้อยที่เขามองไม่เคยให้อยู่ในสายตา
เมื่อคิดเช่นนี้ ก็กล่าวด้วยความเด็ดเดี่ยว
“ทำไมพวกเขาถึงจะทำให้ข้าโกรธได้? มีชิงเอ๋อร์อยู่ ไม่ว่าจะเป็มีดหรือหอกก็แทงไม่เข้า พิษร้อยพิษก็ไม่รุกราน ไม่เป็อันตรายใดๆ ทั้งสิ้น”
ั้แ่วินาทีแรกที่เกิดใหม่ เขาก็มีความเชื่อที่แน่วแน่ ไม่ว่าเส้นทางข้างหน้าจะยากลำบากเพียงใด เขาก็จะหาทางออกมาจากขุมนรกนี้ให้ได้ ตอนนี้หนทางข้างหน้าดีกว่าที่เขาคิดไว้ หากเขามีจุดอ่อน เหยียนชิงจะเป็เกราะคอยปกป้องเขาแน่นอน
คนรักของเขา เคารพเขา ปกป้องเขาไม่ให้ใครเหยียบย่ำ เขามีเหตุผลอะไรมาถอย! ต้องอดทนไม่ใช่หรือ เขาทำได้ เขาถูกลิขิตให้มือทั้งสองข้างเปื้อนเื แต่การฆ่าก็ต้องเลือกสถานที่ที่เหยียนชิงมองไม่เห็น
“แค่กๆ… หากเ้าคิดว่ารับมือได้ เช่นนั้นก็ไปเถอะ”
หลังจากพูดอย่างจริงจัง จู่ๆ ก็เปลี่ยนอารมณ์เป็เสน่หา เหยียนชิงกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ช่างเถอะ ในเมื่อเขาพูดเช่นนี้ เช่นนั้นก็ไปด้วยกัน เว่ยซูหานไม่เหมือนกับเขา เพราะความรู้สึกชาติที่แล้วมันเข้ามาแทรกเยอะเกินไป
เมื่อเหยียนชิงมาถึงเรือนหลานถิง ฮูหยินเหยียนก็รออยู่ที่ห้องรับประทานอาหารกับลุงใหญ่ของเหยียนชิง เหยียนเม่า และภรรยาเซวียซื่อ บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารหลากหลายชนิด
เหยียนเม่ามีท่าทางที่สง่างาม ใบหน้าหล่อเหลา ตอนหนุ่มก็เป็คุณชายเ้าชู้ ดังนั้นในจวนมีภรรยา และอนุเรียกได้ว่าเป็ฝูง ดังคำกล่าวที่ว่าบุตรชายก็เหมือนบิดา เหยียนิฮ่วนก็ดูจะสอดคล้องกับคำกล่าวนี้
แต่หลังจากเซวียซื่อผู้งดงามได้เข้าจวน ก็รับมือได้ดีมาก ประกอบกับภูมิหลังที่แน่นแฟ้นกับทางบ้านสกุลเดิม จึงใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี อนุภรรยาเ่าั้ล้วนถูกทุบตีทีละคน แม้แต่ลูกหลานของพวกนางก็ไม่เว้น
อาจเป็เพราะตอนหนุ่มๆ ถูกทรมานจนเหนื่อยล้า ต่อมาเหยียนเม่าก็ยอมจำนนต่อเซวียซื่อ หลังจากบ้านสะอาดสะอ้าน สตรีที่ทำตัวหยิ่งยโสก็มีคุณธรรมขึ้นมา หลังจากสองสามีภรรยาแสดงละครเื่รักๆ ใคร่ๆ กันมาหลายปี จนตอนนี้ก็แก่ชราแล้ว แต่ก็ถูกคนนอกเล่าลือว่าเป็คู่ที่รักใคร่กลมเกลียวได้ทั้งชีวิต ทำชื่อเสียงดีงามมักทำให้คนรอบข้างอิจฉา
แน่นอนว่าคำพูดดีๆ เหล่านี้ย่อมเป็คำประจบสอพลอ ในใจของทุกคนกลับตรงกันข้าม
ตอนนี้เหยียนเม่าอายุเกินครึ่งร้อยแล้ว แม้รูปร่างจะอ้วนขึ้นกว่าตอนหนุ่มๆ แต่ท่วงท่า และกิริยาท่าทางยังคงทำให้สตรีมากมายหลงใหล เซวียซื่ออายุราวสี่สิบต้นๆ ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน ความคิดนับวันยิ่งเ้าเล่ห์เ้าแผนการละเอียดอ่อน บีบประตูชีวิตของเหยียนเม่าจนมั่นคง
หลังจากเหยียนชิงและเว่ยซูหานเข้ามาในเรือน ก็ทักทายเหล่าผู้าุโอย่างสุภาพ เหยียนชิงยิ้มเว่ยซูหานก้มหน้าเดินข้างๆ เขา เอ่ยทักทายเหยียนเม่า และภรรยาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไม่มีการแสดงออกใดๆ นี่เป็ท่าทีที่เป็มิตรที่สุดที่เขากระทำได้ โชคดีที่เหยียนิฮ่วนไม่อยู่
เมื่อนั่งลง เหยียนชิงก็อาสาสนทนากับเหล่าผู้าุโ ช่วยรินสุราให้พวกเขา และอธิบายคร่าวๆ ว่าตนเอง และเว่ยซูหานดื่มสุราไม่ค่อยเก่ง หวังให้พวกเขาเข้าใจ เพื่อหลีกเลี่ยงการดื่มสุรา
เว่ยซูหานฟังอยู่ด้านข้างเงียบๆ ตอนที่ฮูหยินเหยียนคีบอาหารให้เขาถึงกล่าวขอบคุณอย่างนอบน้อมจากนั้นก็สนทนากันอีกสองสามประโยค
ตอนแรกบรรยากาศโดยรวมก็ดูกลมกลืนกันดี ไม่มีใครพูดถึงทิวทัศน์
จนกระทั่งผ่านไปครึ่งทาง เซวียซื่อเห็นว่าเว่ยซูหานเอาแต่ก้มหน้ากินข้าว พูดกับฮูหยินเหยียนเป็ครั้งคราว แต่เว่ยซูหานกลับไม่สนทนากับพวกเขาก่อน แววตาฉายวาวโรจน์ เท้าก็ถีบเหยียนเม่า
เหยียนเม่าเข้าใจดี เขาวางตะเกียบลงแล้วยกจอกสุราขึ้นจิบ กวาดสายตามองคู่สามีภรรยาที่อยู่ตรงหน้าพลางยิ้ม เขาเป็ฝ่ายที่เอาจุดประสงค์ของการมาในวันนี้ขึ้นมาพูด
“หลานชายชิงเอ๋อร์ ท่านลุงใหญ่กับท่านป้าใหญ่มาในวันนี้ คาดว่าเ้าก็คงเดาออกว่า ข้าขังพี่ิฮ่วนไว้แล้ว ยิ่งโตก็ยิ่งไม่รู้ความ ล้วนแต่เคยชินกับการเที่ยวเตร่อยู่ข้างนอก ท่านลุงใหญ่จะชดใช้ให้เ้า”
พูดจบก็มองเว่ยซูหานที่เงียบมาตลอดก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ยังมีหลานเขย ปกติิฮ่วนเคยชินกับคนในครอบครัว จึงไม่ได้ใส่ใจเื่ขั้นตอนที่ซับซ้อนเหล่านี้มากนัก บวกกับเป็บุรุษกันทั้งหมด จึงไม่จำเป็ต้องระวังตัวมากเกินไป ิฮ่วน ไม่ได้ตั้งใจล่วงเกิน หวังว่าหลานเขยจะไม่เอามาใส่ใจ”
พูดจบก็มองไปที่ฮูหยินเหยียน มุมปากของอีกฝ่ายโค้งขึ้นเป็รอยยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ
“อันที่จริงแล้ว คู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามันก็ไม่สะดวกอยู่แล้ว สามวันก่อนที่ิฮ่วนจะพาเพื่อนมาที่บ้านเพื่อ้าพบฮูหยินคนใหม่ ก็ไม่เหมาะสมจริงๆ”
เหยียนเม่าพยักหน้า “สิ่งที่น้องจะพูดก็คือ เื่นี้ิฮ่วนทำไม่ถูก”
เมื่อกล่าวจบก็มองไปที่ชิงเหยียน และเว่ยซูหาน
แต่เหยียนชิงกับเว่ยซูหานยังไม่ทันได้ตอบ เซวียซื่อที่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกลับเห็นฮูหยินเหยียนรับคำ
“เด็กคนนั้นก็เลอะเลือนไปชั่วขณะ บอกว่ามีน้องสะใภ้เป็บุรุษ ความระมัดระวังในใจค่อนข้างน้อย แค่คิดจะมาทำความรู้จักก็ไม่มีอะไรต้องกังวล หากในใจไม่ได้คิดร้าย ท่านรู้ดี”
หลังจากพูดจบสายตาก็หันไปมองซูเว่ยหาน
“หลานเขยก็มาจากตระกูลที่มีชื่อเสียง คิดดูแล้วก็เป็คนที่มีเหตุผล เื่เล็กเช่นนี้ไม่มีทางเก็บมาคิดเล็กคิดน้อยหรอก ไม่อย่างนั้น คงทำให้ครอบครัวเสียหาย และโกรธทันทีที่แต่งเข้าจวน”
แม้ว่าน้ำเสียงของจะดูสบายๆ แต่คำพูดและแววตาในตอนนี้กลับแฝงไว้ด้วยความเ็าที่ทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจ