“เ้าหนุ่ม ข้าสาบานเลยว่าต้องฆ่าเ้าให้ได้ ในนี้มีพี่ชายข้า เ้าอยากก้าวหน้าในนี้งั้นหรือ เป็ไปไม่ได้หรอก เพราะพี่ข้ามีพลังระดับชีพมนุษย์เชียว ประเสริฐ ในเมื่อเ้าได้คืบเอาศอก อุตส่าห์ไว้หน้า เ้ากลับไม่เอาเอง เช่นนั้นข้าจะทำให้เ้ารู้ว่าจุดจบของตัวเ้าเป็อย่างไร”
ทุกคนต่างตกตะลึง ลั่วซางไม่จำเป็ต้องนับต่อไปแล้ว เพราะจำนวนหัวใจของหลงเหยียนมากกว่าน้องชายตน แน่นอนว่าต้องได้ที่หนึ่ง
พลังปราณมหาศาลถูกขับเคลื่อนออกจากมือลั่วซาง ลั่วซางคำราม จากนั้นก็เทหัวใจศพมารทั้งหมด ในถุงผ้าเฉียนคุนของหลงเหยียนออกมาด้วยความโมโห
หัวใจเทออกมาเป็กอง อย่าว่าแต่มากกว่าหัวใจจำนวนเจ็ดสิบดวงของลั่วซางเลย เกรงว่าหัวใจห้าสิบดวงของโอวหยางโพ่จินยังน้อยจนไม่อยากมอง เมื่อหัวใจเทออกมากองรวมกัน มันมากถึงสามร้อยดวง จำนวนที่มากจนน่าใทำให้คนที่อยู่ด้านล่างเวที รวมไปถึงชายวัยกลางคนหลายคนต่างก็นั่งไม่ติดเก้าอี้ เพราะปริมาณที่มากเพียงนั้นยังเยอะมากกว่าจำนวนทั้งหมดของผู้เข้าแข่งขันเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้หลงเหยียนทำลายสถิติของผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดได้แล้ว
ต่อให้เป็ปีก่อนๆ ผู้เข้าแข่งขันก็ไม่สามารถได้หัวใจที่มากมายเช่นนี้มาก่อน ทั้งผู้าุโ เมื่อก่อนในตอนที่พวกเขาต่อสู้กับหุ่นเชิดยังไม่ได้มากเท่านี้เลย อีกอย่าง หุ่นเชิดในปีก่อนๆ นั้นน่ากลัวไม่เท่าปีนี้
“ไม่อยากจะเชื่อ นึกไม่ถึงว่าเมืองอู่ตี้จะมีเด็กอัจฉริยะแบบนี้ปรากฏ” ชายวัยกลางคนเ่าั้ประหลาดใจมาก
ลั่วซางประกาศผลการแข่งขันของคนสุดท้าย
“หลงเหยียนได้หัวใจศพมารประมาณสามร้อยดวง! ดี ดียิ่ง เป็คะแนนที่ไม่เลวเลย!”
ขณะที่เขาพูดประโยคสุดท้าย เสียงก็เล็ดลอดออกจากฟันด้วยความโกรธ เขามองไปทางหลงเหยียน แววตาเต็มไปด้วยความแค้น ราวกับโกรธเกลียดเขายิ่งกว่าเดิมนัก เขาชิงชื่อเสียงน้องชายตนไป เื่น่ายินดีเช่นนี้กลับถูกคนจากป่าเขาเล็กๆ ชิงไป
ไม่รู้ว่าใครเป็คนพูด “หากข้าจำไม่ผิดละก็ เ้าหลงเหยียนนั่นมีอายุเพียงสิบหกปีเท่านั้น”
สิบหกปีก็มีพละกำลังมากขนาดนี้แล้วหรือ เหมาะแก่การถูกขนานนามว่าเหนืุ์จริงๆ คนส่วนมากต่างก็นับถือในความสามารถของหลงเหยียน เกรงว่าเื่ในวันนี้ ชื่อเสียงของหลงเหยียนต้องดังไปทั่วตระกูลอู่ตี้
ความเหนือชั้นของหลงเหยียนทำให้ลั่วเฉิงที่รู้สึกเย่อหยิ่ง ยืนไม่ติดพื้นขึ้นมาทันที ร่างกายเขาสั่นเทา เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าก่อนพวกเขาจะเข้ามา เขาและหลงเหยียนมีปัญหามาก่อน
ตอนนี้หลงเหยียนเก่งกาจมากยิ่งกว่า ทุกคนเริ่มเดาแล้วว่านี่คงเป็เหตุผลที่พี่ชายของเขาอยากตัดชื่อหลงเหยียนออกจากการแข่งขัน
ทุกคนเข้าใจแล้ว ความจริงพี่ชายเขาก็กำลังทำเพื่อลั่วเฉิงนี่เอง ด้านล่างเวทีเริ่มซุบซิบนินทา การแข่งขันด่านที่หนึ่งสิ้นสุดลง ลำดับผู้ชนะชัดเจนแล้ว สิบคนที่เข้ารอบยืนเรียงแถว ผู้คุมการทดสอบแห่งตระกูลตรวจสอบทุกคนอย่างละเอียด
หลงเหยียนได้ที่หนึ่ง ส่วนลั่วเฉิงได้ที่สอง!
ส่วนโอวหยางโพ่จินที่เมื่อครู่ภาคภูมิใจนัก เวลานี้ถูกตัดออกจากหนึ่งในสิบแล้ว ผลไม้ระดับมายาของตระกูลอู่ตี้สูญเปล่า เขาไม่มีสิทธิ์เข้าสอบด่านต่อไปด้วยซ้ำ และแน่นอนว่าไม่มีสิทธิ์อยู่ในตระกูลอู่ตี้ ต่อให้เป็แค่ตำแหน่งปลายแถวในตระกูลก็ไม่ได้
ลั่วซางมองคนที่ถูกตัดออกจากการแข่งขันอย่างหัวเสียแล้วประกาศเสียงดัง “จบแล้ว ที่นี่ไม่มีเื่ของพวกเ้าแล้ว แยกย้ายกันไปเอาของของตน จากนั้นก็ออกจากที่นี่เถอะ บางคนมีพละกำลังไม่เลว หวังว่าหลังจากกลับไป พวกเ้าจะตั้งใจฝึกฝนแล้วเข้ามาแข่งขันใหม่ในปีหน้า”
คนเ่าั้จากไปอย่างอาลัยอาวรณ์ ส่วนโอวหยางโพ่จินถูกคนอุ้มจากไป เมื่อเขาถูกคนแบกออกไป ดวงตาที่หรี่ลงก็มองเห็นหลงเหยียนที่ยืนยืดอกผ่านช่องตาเล็กๆ
จนถึงตอนนี้ ในที่สุดเขาก็รู้แล้ว แท้จริงเ้าหมอนั่นเสแสร้งมาตลอด หลงเหยียนยิ้มเล็กน้อย คล้ายเป็การตบหน้าเขาเข้าอย่างจัง ทำให้เขาแทบหายใจไม่ออก
ไม่อยากคิดเลยว่ามันเป็อารมณ์โมโหที่มากเพียงใด!
ลั่วซางะโเสียงดัง “ต่อจากนี้ พวกเ้าสิบคนกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ พักฟื้นตนให้ดี เตรียมพร้อมสำหรับการทดสอบในวันพรุ่งนี้ สุดท้ายแล้วมีเพียงห้าคนเท่านั้นที่จะได้อยู่ตระกูลอู่ตี้ ส่วนคนที่แพ้ หากไม่อยากกลับไป สามารถเป็สมาชิกตระกูลอู่ตี้ ทำงานเล็กๆ ในนี้ได้ ไม่แน่อนาคตอาจเป็วันของเ้า”
ไม่ว่าอย่างไร คนที่เหลืออยู่ในวันนี้ ทุกคนล้วนรู้สึกชื่นมื่น ต่อให้ได้เพียงเท่านี้ พวกเขาก็พอใจมากแล้ว
แค่นี้ก็สามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่วงศ์ตระกูลได้แล้ว หลงเหยียนกับคนที่เหลือพยักหน้า กำลังจะจากไป ทว่าใต้เท้าซือถูหม่าก็วางมือใหญ่ลงบนไหล่หลงเหยียน
“เด็กน้อย ข้าชื่นชอบเ้านัก ไม่เลวเลย จงพยายามต่อไป รอรับการต่อสู้ในวันพรุ่งนี้เถิด”
หลงเหยียนพูดกับซือถูหม่าอย่างเคารพ “วางใจเถิด พี่ซือถู ข้าต้องทำให้ดีที่สุด”
“ฮ่าๆๆ เด็กน้อย เ้านี่น่าสนใจไม่เบา เกรงว่าข้าคงอายุมากกว่าพ่อเ้าเสียอีก” เมื่อพูดจบ ซือถูหม่าก็เอามือไพล่หลังและเดินจากไป
ลั่วเฉิงมองหลงเหยียนด้วยสายตาอำมหิต “ไอ้หนุ่ม เ้าบัดซบ รู้จักสานสัมพันธ์กับคนอื่นเหมือนกันนี่ ถึงอย่างไรก็อย่าเพิ่งได้ใจไปเล่า คาดว่าวันพรุ่งนี้เ้าต้องยิ้มไม่ออกแน่” ลั่วเฉิงจำได้ดี ตอนที่พวกเขาทั้งสองสู้กันในเนินดารา เ้าหมอนี่ใช้วิชาระดับทองคำเท่านั้น ตอนนั้นตนไม่ได้ใช้พละกำลังที่มีทั้งหมดเพราะไม่อยากเสียพลังปราณไปกับหลงเหยียนมาก
หลงเหยียนไม่กลัวคำข่มขู่ของลั่วเฉิงแล้วพูดโต้ตอบ “หากข้ายิ้มไม่ออก เช่นนั้นคงถึงเวลาร้องไห้ของเ้าแล้ว” เมื่อพูดจบหลงเหยียนก็เดินจากไป
ลั่วซางยืนนิ่ง มองหลงเหยียนเดินจากไป ความเกลียดในใจเขาไม่จางหายไป หันไปพูดกับลั่วเฉิง “เ้ามั่นใจใช่ไหมว่าจะไม่แพ้ให้เขา?”
“ท่านพี่โปรดวางใจ ก่อนหน้านี้ข้าเคยสู้กับเขาที่เนินดารา ข้ารู้ดีว่าเขามีพละกำลังมากเพียงใด แค่ในถ้ำครั้งนี้เ้าหมอนั่นโชคดีไปหน่อย จึงทำให้เขาได้ที่หนึ่ง”
ขณะที่พูด ในใจเขาเองก็ยังรู้สึกเคว้ง เพราะจำนวนหัวใจที่หลงเหยียนได้นั้นมากเกินไปจริงๆ มากกว่าตนเกินสามเท่า
ลั่วซางประกายความเืเย็นออกมาทางสายตา สีหน้าดูชั่วร้าย ก่อนเขาจะหยิบหนอนิญญาออกมาจากเสื้อที่หน้าอก
“น้องชาย กลับไปคืนนี้เ้าหลอมมันซะ มันจะทำให้พลังปราณเ้าเพิ่มมากขึ้น พละกำลังก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ที่สำคัญ พลังการต่อสู้เทียบเท่าระดับชีพมนุษย์ขั้นแรก วันรุ่งขึ้นข้าจะเตรียมการด้วยตัวเอง ให้เ้าสู้กับหลงเหยียน เ้าหมอนั่นต้องตายแน่ ไม่อย่างนั้น หากมันได้อยู่ในนี้ มันต้องก้าวหน้าได้เร็วมากแน่”
“พี่ชาย นี่มัน… นี่มันหนอนพันตราหรือ?”
“รีบเก็บไว้ อย่าให้ผู้าุโเห็นเข้าละ หากเป็เช่นนั้น เราสองพี่น้องจบเห่แน่”
เพื่อกำจัดหลงเหยียนให้สิ้นซาก ดูเหมือนลั่วซางลงแรงไปไม่น้อย ลั่วเฉิงที่เห็นแบบนั้นก็เข้าใจความหมายพี่ชาย ตอนนี้ซือถูหม่าและคนอื่นๆ เริ่มชื่นชอบหลงเหยียนแล้ว จึงปล่อยเขาไว้ไม่ได้อีก
เขาต้องทำให้สำเร็จ
“น้องชาย เ้าต้องจำไว้ ในสนามต่อสู้มีซือถูหม่ากับคนอื่นๆ ดูอยู่ ข้าในฐานะพี่คงช่วยเ้าได้เท่านี้ วันรุ่งขึ้นเ้าต้องรีบลงมือให้เร็ว คร่าชีวิตเ้าหมอนี่ในกระบวนท่าเดียวให้ได้ ข้ากังวลว่าจะมีใครมาห้าม ช่วยชีวิตมันอีก หากเป็แบบนั้น โอกาสที่เราจะกำจัดมันก็คงลดน้อยลงแล้ว”
--------------------