เวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว เข้าสู่วันที่สิบสองแล้ว!
ในโลกเร้นลับที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็งแห่งนี้ กลุ่มสิบคนของสำนักรวมสมบัติิญญาต่างก็ยิ้มแย้มแจ่มใส!
ตลอด่เวลานี้ พวกเขาได้เก็บรวบรวมสมบัติมามากมาย ทั้งสมุนไพรและตัวยาวิเศษมากมาย อีกทั้งยังได้สังหารสัตว์อสูรระดับหนึ่งไปแล้วหลายสิบตัว แต่ก็ยังไม่พบสัตว์อสูรระดับสองเลย
“ดูสิ ดูนั่นสิศิษย์พี่หลินอิ๋ง มีถ้ำอยู่ข้างหน้า!” หญิงสาวคนหนึ่งร้องะโด้วยความดีใจ
หลินอิ๋งกับเฉาหมั่งเป็สมาชิกหลักของกลุ่มนี้ โดยเฉพาะหลินอิ๋งปู่ของนางเป็ถึงผู้าุโของสำนัก
แต่ท่านปู่เคยบอกว่า อย่าเข้าไปในถ้ำในโลกเร้นลับง่ายๆ หลินอิ๋งจึงมองไปรอบๆ อยู่ครู่หนึ่ง แต่ด้วยสมบัติที่ได้และความราบรื่นตลอดใน่เวลาที่ผ่านมานี้ ในที่สุดก็ข่มความลังเลในใจของตัวเองลงได้ และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “พวกเราเข้าไปสำรวจดูกันเถอะ แต่ระวังตัวเอาไว้ด้วยนะ!”
“กลัวอะไร ต่อให้มีสัตว์อสูรระดับสองอยู่ในถ้ำนี้ ก็คงไม่อาจต้านทานการโจมตีด้วยอาวุธวิเศษสิบกว่าชิ้นของพวกเราได้หรอก!” เฉาหมั่งตบหน้าอกของตัวเองอย่างมั่นใจ เดินนำเด็กหนุ่มสองคนซึ่งเป็ผู้ชายเพียงสามคนในกลุ่ม ทำหน้าที่เป็แนวหน้าของกลุ่มอย่างไม่ลังเล
แล้วกลุ่มสิบคนก็เดินเข้าไปในถ้ำทีละคน หลินอิ๋งที่เพิ่งเดินมาถึงปากถ้ำก็มีอาการสั่นไปทั้งตัว นางรู้สึกไม่ดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก นางเบิกตาโพลงและมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง แต่ก็ไม่พบอะไรเลย จึงได้แต่ส่ายหัวและย่างก้าวเข้าไปในถ้ำเป็คนที่หก
เด็กชายสองคนถือเทียนไขที่ลุกโชนอยู่คนละเล่ม เดินเคียงบ่าเคียงไหล่ไปข้างหน้า เฉาหมั่งเดินตามหลังห่างออกไปสองเมตร ส่วนที่ด้านหลังก็มีเด็กสาวเจ็ดคนเดินตามไปเป็คู่ๆ
ภายในถ้ำนั้นเย็นะเืมาก ผนังถ้ำก็ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งที่ไม่ละลายมาเป็พันปี ทุกหนแห่งจะมองเห็นแท่งน้ำแข็งขนาดเท่าถังน้ำห้อยลงมาจากเพดานถ้ำ หรือไม่ก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน หรืออาจวางขวางอยู่ตรงกลางถ้ำเลยก็ได้
โดยไม่มีใครที่สังเกตเห็นเลยว่า ภายใต้แสงไฟจากเทียนไขที่ลุกโชนสว่างไสวอยู่นั้น จะมีเงาจางๆ สามเงาเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ อยู่ที่สองฟากฝั่งของผนังถ้ำด้านหน้าและบนแท่งน้ำแข็ง
เงาสามเงาจางๆ นี้ราวกับกลมกลืนไปกับชั้นน้ำแข็งของถ้ำนี้ ดวงตาสีขาวหกดวงก็จ้องมองไปที่เหล่าผู้ใช้พลังิญญาหนุ่มสาวชาวมนุษย์สิบคนที่เดินช้าๆ อยู่เบื้องหน้า!
แต่แล้วก็ลำแสงไร้สีที่คล้ายเส้นไหมพลันพุ่งออกมาจากเงาสามเงานั้นอย่างเงียบๆ ลำแสงที่แทบจะมองไม่เห็นเหล่านี้ไม่ได้พุ่งตรงไปที่พวกหลินอิ๋งทันที แต่กลับเล็งไปที่ด้านหน้าและด้านหลังแทน
จนกระทั่งเด็กชายสองคนที่ถือเทียนไขที่อยู่ด้านหน้าสุดพุ่งชนลำแสงที่เกิดจากเส้นไหมไร้สีนั้น ทั้งสามเงาจึงพุ่งเข้าโจมตีพร้อมกันทันที
“ฟิ่วๆๆ!” ลำแสงพุ่งไปหาพวกหลินอิ๋งและคนอื่นๆ ด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง
จนกระทั่งลำแสงเส้นไหมส่งเสียงแหวกผ่านอากาศ พวกหลินอิ๋งถึงได้รู้สึกตัว
จากนั้นแสงจากพลังิญญาก็สว่างวาบขึ้นมาทันที
แต่มีสี่ดวงที่ดับลงทันทีหลังจากที่ส่องแสง
เด็กหนุ่มทั้งสองคนที่อยู่ด้านหน้าที่จะกำลังโคจรพลังิญญาในกายเพื่อสร้างเกราะป้องกัน ต้องใเมื่อพบว่าร่างกายของตนเองชาไปทั้งตัวด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง ความรู้สึกด้านชาเช่นนี้ ทำให้พลังิญญาในกายของพวกเขาหยุดชะงักไปกลางคัน!
เด็กสาวอีกสองคนที่เคลื่อนไหวช้าไปครึ่งก้าว ก็ถูกโจมตีด้วยลำแสงหลายเส้น คนหนึ่งที่ข้อมือ อีกคนหนึ่งที่ใบหน้า! เมื่อลำแสงนั้นัักับข้อมือ เด็กสาวก็รู้สึกว่าที่ข้อมือของตนเริ่มเย็นก่อน จากนั้นก็มีอาการชาแผ่ซ่านไปทั่ว เด็กสาวใกลัวรีบใช้พลังิญญาเพื่อขับไล่ความรู้สึกชานี้ออกไป แต่ก็ต้องใเมื่อพบว่าพลังิญญาของตนไม่สามารถหยุดยั้งความรู้สึกชานี้ได้เลย
ด้วยเวลาเพียงสองชั่วอึดใจ ร่างกายครึ่งตัวของเด็กสาวก็ด้านชาไปทั้งซีก
ความทรงจำเกี่ยวกับบันทึกสัตว์อสูรที่นางเคยเห็นในสำนักเมื่อหลายปีก่อนผุดขึ้นมาในหัว ความกลัวอันไร้ที่สิ้นสุดหลั่งไหลเข้ามาในหัวใจ ก่อนที่คอจะชาตามอวัยวะส่วนอื่นจึงรีบะโออกไปสุดเสียง “หนีเร็ว เ้าพวกนี้คือ ‘แมงมุมเงาดูดิญญา’!”
เด็กสาวอีกคนหนึ่งที่ใบหน้าถูกโจมตีด้วยลำแสงล้มลงไปแล้ว เหลือแค่เพียงดวงตาที่เบิกกว้างซึ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและตื่นตระหนก!
แมงมุมเงาดูดิญญา!
เมื่อได้ยินชื่อนี้ หลินอิ๋ง เฉาหมั่ง และที่เหลืออีกสี่คนที่กางเกราะป้องกันและใช้อาวุธวิเศษสกัดกั้นการโจมตีของเส้นไหมไร้สีพากันสั่นไปทั้งตัว ความหนาวเย็นและความกลัวแผ่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
แมงมุมเงาดูดิญญาที่โตเต็มวัย!
พวกมันเป็สัตว์อสูรระดับสองขั้นสูงสุด สัตว์อสูรชนิดนี้แม้ว่าจะมีระดับไม่สูงมากนัก แต่กลับมีกลเม็ดเด็ดพรายอยู่สองอย่างที่ทำให้เหล่าผู้ใช้พลังิญญาจำนวนมากต้องหวาดกลัว
อย่างแรกคือสามารถอำพรางตัวได้ดี ผู้ใช้พลังิญญาที่ยังไม่มีจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์นั้นยากที่จะตรวจจับสัตว์อสูรชนิดนี้ได้ อย่างที่สอง เส้นใยที่มันพ่นออกมาจะมีฤทธิ์ทำให้เป็อัมพาต หากัักับิัจะทำลายระบบประสาทส่วนกลางของผู้ใช้พลังิญญาด้วยความเร็วที่น่ากลัวมาก ร่างกายจะอยู่ในสภาพเป็อัมพาต และจะคงอยู่ในสภาพนั้นเป็เวลานานกว่าสามชั่วยาม
ในระหว่างการต่อสู้ถึงชีวิตนี้ อย่าว่าแต่เป็อัมพาตสามชั่วยามเลย ต่อให้เป็อัมพาตแค่สามชั่วอึดใจก็ยังเป็อันตรายถึงชีวิตแล้ว
ด้วยลักษณะเฉพาะของแมงมุมเงาดูดิญญานี้ ต่อให้มีจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์แล้ว แม้แต่มหาปรมาจารย์ิญญาก็ยังเลือกจะหลีกเลี่ยงสัตว์อสูรชนิดนี้เฉกเช่นเดียวกับงูและแมงป่อง ไม่กล้าเข้าไปยุ่งด้วย
แต่แมงมุมเงาดูดิญญานี้มีจำนวนน้อยมากในอาณาจักรซินโยว ผู้บำเพ็ญเพียรเกือบเก้าสิบเก้าในร้อยคนแทบจะไม่เคยเจอเลย แต่เหตุการณ์ที่มีโอกาสน้อยมากขนาดนี้ กลับเกิดขึ้นกับพวกนาง
หลินอิ๋ง เฉาหมั่ง และคนอื่นๆ รู้สึกอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา!
หลินอิ๋งรู้สึกเสียใจจนอยากจะตบหน้าตัวเองสักสองครั้ง หากรู้เช่นนี้ก็ควรฟังคำเตือนของท่านปู่ ไม่เข้ามาในถ้ำนี้ั้แ่แรก แต่ตอนนี้ก็สายเกินไปเสียแล้ว หลินอิ๋งตัดสินใจอย่างเด็ดขาด มือซ้ายหงายขึ้นมา แผ่นยันต์สีแดงเข้มปรากฏขึ้นในมือนาง
“รีบมาหาข้าเร็ว” หลินอิ๋งะโอย่างเร่งรีบ จากนั้นพลังิญญาก็หลั่งไหลเข้าไปในแผ่นยันต์สีแดงเข้มด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง! แล้วแผ่นยันต์สีแดงเข้มก็เปล่งแสงสีแดงสว่างจ้า พ่นลูกไฟที่ร้อนแรงออกมา จากนั้นลูกไฟที่พุ่งออกมาก็วิ่งไปรอบๆ ด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง กลายเป็ลำแสงสายธารเพลิงหลายเส้น
ด้วยเวลาเพียงชั่วอึดใจ หกสายธารเพลิงก็มารวมตัวกันอยู่หน้าหลินอิ๋ง
หกสายธารเพลิงปล่อยเปลวไฟที่ร้อนแรงออกมา พัวพันกันไปมา กลายเป็อาคมเปลวไฟปรากฏอยู่รอบตัวหลินอิ๋งและเฉาหมั่งที่เข้ามาหานางเป็คนแรก รวมถึงเด็กสาวอีกสามคนที่อยู่ตรงกลาง มีเพียงเด็กสาวคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังซึ่งช้ากว่าเล็กน้อย จึงไม่สามารถเข้าไปในอาคมเปลวไฟได้!
“ศิษย์พี่อิ๋ง อย่าสนใจข้า รีบหนีไปเถอะ!” แม้ว่าใบหน้าของเด็กสาวมีกระที่อยู่ด้านหลังจะแสดงอาการตื่นตระหนก แต่นางก็ยังเร่งเร้าให้เพื่อนร่วมทีมของนางหนีเอาตัวรอดอย่างเด็ดเดี่ยว ในขณะเดียวกัน มือซ้ายของนางก็โปรยทรายละเอียดที่เปล่งประกายแสงเรืองรองอ่อนๆ ออกไปทางด้านซ้าย
“จี๊ด!” เสียงร้องแหลมคมดังมาจากด้านซ้าย!
ภายใต้การโจมตีของทรายพิษที่เปล่งประกายแสงเรืองรองอ่อนๆ ที่แผ่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว ร่างที่แท้จริงของแมงมุมเงาดูดิญญาที่อยู่บนผนังถ้ำด้านซ้ายก็เผยตัวออกมา
รูปร่างของมันคล้ายกับแมงมุมทั่วไปมาก หากจะพูดถึงความแตกต่างก็คือจำนวนขา แมงมุมทั่วไปมีขาแปดข้างและหนวดสองเส้น แต่แมงมุมเงาดูดิญญานี้มีขาถึงสิบสองข้าง หนวดสองเส้นบนหัวก็หดจนสั้นมาก แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจต้องเต้นแรงก็คือดวงตาทั้งแปดนั้นเบียดเสียดกันอยู่บนหัว แทบจะมองไม่เห็นดวงตาสีดำแม้แต่น้อย ทั้งหมดล้วนเป็สีขาวอย่างน่ากลัว
ทำให้ผู้คนที่ได้เห็นต้องรู้สึกขนลุกขนพองเมื่อเห็นมัน
สิ่งที่ทำให้พวกหลินอิ๋งต้องรู้สึกเย็นะเืจากก้นบึ้งของหัวใจมากที่สุดก็คือ ภายในปากที่อ้าออกมาเพราะถูกโจมตีด้วยทรายพิษนั้น มีเขี้ยวที่ทั้งยาวและแหลมคมที่ดูน่ากลัวอย่างที่สุดอัดแน่น!
