“ช่วยเล่าเื่ที่เกิดขึ้นในบ้าน่นี้ให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม? ” คดีความของไป๋หลิงฮัวนั้นมีการสืบสวนมาราวๆ หนึ่งเดือน ซึ่งในหนึ่งเดือนนี้ นอกจากตำรวจกับนักข่าวแล้ว ไป๋หลิงฮัวก็ไม่ได้พบเจอใครอีกเลย
หร่านซวี่จือพูดคุยเล่าเื่สัพเพเหระเกี่ยวกับที่บ้านให้เธอฟัง อย่างเช่นไป๋เหมยจะถามทุกวันว่าหลิงฮัวจะได้กลับมาเมื่อไหร่ ส่วนไป๋ซวงก็เอาแต่ร้องไห้ด่าว่าไป๋หลิงฮัวนั้นโง่เขลาไร้เดียงสาเพียงใด ส่วนตนเองก็ดันตาบอดไปหลงรักเฉิงจวิ้น
ไป๋หลิงฮัวตั้งใจฟังเขาพูดตลอดจนเมื่อหร่านซวี่จือหยุดพูด ไป๋หลิงฮัวถึงเริ่มเอ่ย “เสี่ยวหลิง นายคิดว่าเฉิงจวิ้นกับจ้าวผิงสมควรตายไหม? ”
หร่านซวี่จือที่ได้ยินคำนี้ถึงกับตกตะลึงแล้วเขาก็หันขวับไปมองกล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงมุมซ้าย้า
ส่วนไป๋หลิงฮัวกลับไม่ได้กังวลแต่อย่างใด เธอจ้องมองหร่านซวี่จืออย่างจริงจัง โดยที่ไม่คิดจะเรียกคืนคำพูด
“พี่ครับ” หร่านซวี่จือเอ่ย “จ้าวผิงกับเฉิงจวิ้น…”
“พวกเขาเดาไม่ผิดหรอก” ไป๋หลิงฮัวเอนหลัง มองต่ำไปที่พื้น “ฉันอยากฆ่าพวกเขาจริงๆ ”
ไป๋หลิงฮัวฉีกปากแล้วยิ้ม เธอไม่ได้ทาลิปสติกทำใหริมฝีปากของเธอค่อนข้างซีด “พวกเขาเป็คนเลว”
“อีกอย่าง” ไป๋หลิงฮัวขยับใบหน้าเข้ามาแล้วมองไปที่หร่านซวี่จืออย่างตั้งใจ เอ่ยเสียงค่อย “หวังเฉิงเองก็ใช่”
หร่านซวี่จือมองไป๋หลิงฮัวและนิ่งเงียบราวกับรูปปั้นแกะสลัก
ไป๋หลิงฮัวถูกพิจารณาตัดสินโทษให้ถูกยิงเป้าในวันพุธของอีกหนึ่งอาทิตย์ให้หลัง
มีผู้คนมามากมาย มีทั้งร้องห่มร้องไห้ มีทั้งดีใจ มีทั้งคนด่าทอสาปแช่ง แล้วก็มีคนที่ไม่เป็เดือดเป็ร้อน หร่านซวี่จือสวมชุดสูทสีดำตัวเก่าของพ่อที่ทิ้งไว้ เขายืนนิ่งๆ อยู่ด้านนอก มองดูคนเดินเข้าออกและยืนดูตะวันขึ้นลง
ได้ยินว่าตอนที่ไป๋หลิงฮัวเสียชีวิตนั้นสงบนิ่งอย่างมาก ไม่พูดจาอะไรทั้งสิ้น ไม่เหมือนกับนักโทษคนอื่นที่ร้องไห้โอดครวญหรือบางทีก็ต่อสู้ดิ้นรนสุดชีวิต เหมือนว่าตนเองยังพอมีโอกาสรอดครั้งสุดท้าย แต่ไป๋หลิงฮัวนั้นกลับว่าง่าย ราวกับคาดคิดไว้แต่เนิ่นแล้วว่าตนเองจะเหยียบย่ำสู่เส้นทางนี้
หวังเฉิงเดินออกมาจากประตูพลางโอบไหล่ของหร่านซวี่จือไว้ “อยากร้องก็ร้องเถอะ”
หร่านซวี่จือไม่ได้ร้องไห้ เขามองดูใบหน้าด้านข้างของหวังเฉิง “พี่หวัง เราจะกลับไปเมื่อไหร่ครับ? ”
หร่านซวี่จือเหนื่อยมากแล้ว ตอนนี้เขาเพียงแค่อยากพักผ่อนสักครู่
หลังจากกลับถึงบ้าน หร่านซวี่จือถอดเสื้อผ้าแล้วปีนขึ้นนอนลงบนเตียง เขาหลับตาลงแต่กลับนอนไม่หลับ
นอนอยู่อย่างนั้นราวครึ่งชั่วโมง หร่านซวี่จือก็พลิกผ้าห่มแล้วลุกขึ้น ชายหนุ่มคลุมตัวด้วยเสื้อแขนยาวแล้วเดินไปตรงหน้าต่าง มองดูกิ่งไม้ที่พลิ้วไหวตามแรงลมจากูเา
มีเสียงสะอื้นไห้ของไป๋เหมยกับไป๋ซวงดังขึ้นเนืองๆ จากห้องรับแขกทำให้บรรยากาศวังเวงเป็อย่างมาก สายลมเย็นของฤดูใบไม้ผลิปะทะตรงเข้าช่องว่างตรงคอเสื้อของหร่านซวี่จือ หร่านซวี่จือตัวสั่นแล้วรีบกำเสื้อแขนยาวให้คลุมรัดกุมขึ้น
หร่านซวี่จือจดจ้องด้านนอกพร้อมกับเหม่อลอยอยู่ชั่วครู่ จากนั้น เขาก็สูดลมหายใจลึกแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง และล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าชุดสูท ค้นหาเอกสารอีเมล์ของบริษัทที่หวังเฉิงส่งให้เขาเ่าั้ แล้วเริ่มเปิดดูทีละฉบับใหม่อีกครั้ง
เช้าวันรุ่งขึ้น หร่านซวี่จือไปหาเสี่ยวจางและบังเอิญพบกับยายจ้าวด้วยความบังเอิญ
หร่านซวี่จือชะงักเล็กน้อย ทำไมแม่ของจ้าวผิงถึงมาอยู่ที่นี่?
ครั้งก่อนที่งานศพของจ้าวผิง ยายจ้าวตบหน้าเสี่ยวจางในห้องเก็บของ นี่คือสิ่งที่หร่านซวี่จือแอบเห็น แต่เขาก็ไม่รู้ถึงสาเหตุที่แน่ชัด พูดตามหลักแล้วหลังจากที่จ้าวผิงตายไป เสี่ยวจางกับจ้าวผิงก็ไม่น่าจะมีความสัมพันธ์อะไรต่อกันอีก แต่ทำไมสองคนนี้ถึงยังติดต่อกัน
หร่านซวี่จือเดินไปตรงหน้าประตู ได้ยินเพียงเสียงที่ดังจากด้านใน เสียงของยายจ้าวนั้นดังมาก แม้ว่าจะอายุปูนนี้แล้วแต่เสียงของเธอยังคงแหลม เมื่อหร่านซวี่จือได้ยินถึงกับขมวดคิ้ว
“แกมันไอ้สารเลว! ช้าเร็วต้องลงนรกสักวัน! แกมันไอ้สารเลว! ” ยายจ้าวเดือดดาลใช้ไม้เท้ากระทุ้งประตูจนเปิดออก ทำให้ประตูไม้เหวี่ยงมากระแทกกับหร่านซวี่จือ
หร่านซวี่จือรีบหลบมาด้านหลังบานประตู มองเห็นเสี่ยวจางวิ่งพรวดพราดออกมา เขาเหลียวซ้ายแลขวาแล้วมองเงาด้านหลังของยายจ้าว จากนั้นก็สบถออกมา “ยัยเฒ่าหนังเหี่ยว! ” แล้วปิดประตูเหมือนเดิม
หร่านซวี่จือมองดูประตูที่ปิดแน่นแล้วมองไปที่เงาของยายจ้าวที่จ้ำอ้าวออกไป พินิจอยู่นานสุดท้ายก็เลือกเดินตามยายจ้าวไป
ทิศทางที่ยายจ้าวเดินไปแลดูคุ้นเคยเหมือนเป็สุสานของจ้าวผิง เมื่อถึงที่หมาย หร่านซวี่จือก็เห็นป้ายหลุมศพของจ้าวผิงซึ่งก็เป็ไปตามคาด
หร่านซวี่จือหลบอยู่หลังต้นไม้แล้วแอบฟังเสียงจากทางนั้นด้วยความระมัดระวัง
“ลูกแม่ทำกรรมอะไรไว้นี่ เฮ้อ” ยายเฒ่าถอนหายใจยาว จากนั้นเธอก็โก่งหลังโน้มตัวลงแล้วแหวกหญ้าตรงเหนือหลุมฝังศพออก มีก้อนหินอยู่ก้อนหนึ่งจึงนั่งพัก “เด็กน้อย เลิกแอบดูได้แล้ว ออกมาเถอะ”
หร่านซวี่จือเก้อเขินพร้อมกับใช้นิ้วถูวนรอบคาง จากนั้นก็เดินออกมาจากหลังต้นไม้
ยายจ้าวกวักมือเรียกเขา “มานี่สิ”
หร่านซวี่จือจึงได้แต่เดินไป
“เธอคือ เด็กบ้านแซ่ไป๋สินะ? ” ยายเฒ่าสำรวจมองชั่วครู่แล้วเอ่ยถาม
หร่านซวี่จือพยักหน้า
“ฉันเคยได้ยินผิงจื่อพูดถึงเธอ” ยายเฒ่าเอ่ย “คนที่แอบอยู่หลังประตูห้องเก็บของวันนั้นก็คือเธอสินะ? ”
หร่านซวี่จือเก้ๆ กังๆ กว่าเดิม เพราะเขาคิดไม่ถึงว่าจะถูกจับได้ั้แ่ทีแรกแล้ว
“ก่อนหน้านี้ฉันไม่อยากจะพูดหรอก แต่ตอนนี้ เห็นทีจะไม่ได้แล้ว” ยายเฒ่าถอนหายใจ “ในหมู่บ้านนี้มีแต่คนตาย ทำให้มีแต่กลิ่นอายที่มืดมน ใจฉันเองก็อยู่ไม่สุข หลิงฮัวที่เป็เด็กดีขนาดนั้นก็ต้องมาตายไปเมื่อวาน”
ยายจ้าวไม่ได้เกลียดชังไป๋หลิงฮัวหรอกหรือ? นี่น่าแปลกใจเหลือเกิน การกระทำของไป๋หลิงฮัวในสายตาของผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน ล้วนไม่น่าชื่นชม ยายจ้าวกลับบอกว่าไป๋หลิงฮัวเป็เด็กดีซึ่งดูแล้วเสมือนคนที่เข้าใจในการมองโลก
“ยายกับเสี่ยวจาง ก่อนหน้านี้เป็…” หร่านซวี่จือเอ่ย
เมื่อเอ่ยถึงเสี่ยวจาง ยายจ้าวก็ใช้ไม้เท้าเคาะพื้นอย่างเคืองโกรธ “ต้นตอก็ล้วนมาจากเขานั่นแหละ! ”
หร่านซวี่จืออึ้งไป “ต้นตออะไรหรือครับ? ”
“ต้อตอของการตาย! ”
ยายเฒ่าเอ่ย “ควรโน้มน้าวให้เขารักกันไม่ใช่เลิกกัน ตอนนั้นที่เฉิงจวิ้นกับเซียวหงทะเลาะกัน หากว่าเสี่ยวจางไม่เข้าไปยุ่งเื่นี้! ก็คงไม่เกิดเื่มากมายเช่นนี้! ”
หร่านซวี่จือใ “ยายครับ ยายรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง? ”
“ฉันรู้แน่นอนอยู่แล้ว! ” ยายจ้าวเอ่ยด้วยความโมโห “หากไม่ใช่เพราะลูกชายฉันอ้ำอึ้งไม่ยอมพูด เื่ราวคงไม่บานปลายมาถึงจุดนี้หรอก! ”
“เ้าคนชั่วร้ายนั่น เพราะว่าอยากได้เงินไปเล่นพนัน ดังนั้นก่อนหน้าที่จะมาหาลูกชายฉัน เขาเคยไปหาเฉิงจวิ้นมาก่อน! ” ยายเฒ่าเอ่ย “ฉันคิดว่าเธอก็น่าจะรู้ เฉิงจวิ้นสมองไม่ดี ซื่อบื้อใครขออะไรก็ให้ จนเซียวหงทนไม่ไหวและไปเตือนเขาบ่อยๆ พอเสี่ยวจางเห็นก็เลยไม่ชอบใจเธอ”
พูดถึงตรงนี้ ยายเฒ่าก็ส่ายศีรษะพร้อมกับถอนหายใจแล้วลุกขึ้น พูดเองเออเองขณะที่เดินอยู่ “เ้าคนสารเลวนั่น ยั่วยุความสัมพันธ์ระหว่างเซียวหงกับเฉิงจวิ้น แล้วตอนนั้นก็ยังยั่วยุให้ลูกชายฉันทำลายเ้านายของพวกเขา ตอนนี้เขาเป็ิญญามาแก้แค้นแล้ว เป็ความผิดเ้าคนชั่วคนนี้แท้ๆ …”
หร่านซวี่จือเบิกตากว้าง
ทำลายเ้านาย?
เ้านายของเสี่ยวจางก็คือพ่อของหวังเฉิงไม่ใช่หรือ?
หรือว่า แท้จริงแล้วหวังเจี้ยนไม่ได้ค้ายาเสพติด? แต่มีคนใส่ความเขา?
เมื่อคิดถึงความเป็ไปได้ข้อนี้ หร่านซวี่จือถึงกับหัวใจบีบรัด
หร่านซวี่จือ: “สองสามสาม ช่วยฉันหน่อย”
ระบบ: “คุณรัน ว่ามาได้เลยครับ”
หร่านซวี่จือ: “คืนนี้ฉันจะไปหาเสี่ยวจาง นายช่วยฉันหน่อย”
ระบบ: “เข้าใจแล้วครับ จำเป็ต้องใช้แต้มสะสมนะครับ”
หร่านซวี่จือ: “ตกลง”