Puppy Love จดหมายรักระหว่างนายและฉัน (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     เซี่ยเจิงไม่ได้เอ่ยคำใดขึ้นมา ทำเพียงแค่จ้องมองชวีเสี่ยวปอ แต่เห็นได้ชัดว่าลูกกระเดือกของเขากำลังขยับไปมา สุดท้ายก็โพล่งออกมาคำหนึ่งว่า : “ชายชั่ว”

 

        ชวีเสี่ยวปอ : “ ? ”

 

       “นายว่าใครฮะ !” ชวีเสี่ยวปอเตะกระเป๋านักเรียนไปทีหนึ่ง ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้ขวางทางอะไร แต่การกระทำนี้เป็๲เพียงแค่การระบายความโกรธของเขาเท่านั้น

 

       “ฉันว่า...แค่กๆ แค่กๆ แค่กๆ ” เซี่ยเจิงไอขึ้นมาอยู่ครู่หนึ่ง

 

       “......” ความโกรธที่กำลังจะพุ่งสูงขึ้นราวกับถูกสาดด้วยน้ำเย็นอ่างหนึ่งจนดับลงไปในชั่วพริบตา ชวีเสี่ยวปอมองดูเซี่ยเจิงที่ไอจนสั่นไปทั้งตัว เขาไม่๻้๵๹๠า๱กล่าวโทษอะไรกับเซี่ยเจิงแล้ว ทำเพียงแค่พูดขึ้นมาว่า : “นายเป็๲แบบนี้ไม่ไหวแน่ ให้ฉันพานายไปโรงบาลเถอะ? ”

 

       “ไปมาแล้ว ฉีดยาแล้วด้วย” เซี่ยเจิงกระแอมไอ พร้อมทั้งดึงมือออกมาจากผ้าห่มแล้วยื่นไปให้ชวีเสี่ยวปอดู บนฝ่ามือของเขามีรอยช้ำสีเขียวจุดเล็กๆ อยู่จุดหนึ่ง “เฮ้ รินน้ำให้ฉันแก้วหนึ่ง ขอบคุณ” ดูเหมือนว่าเซี่ยเจิงจะตั้งใจ เขาจงใจกัดฟันเน้นคำว่าขอบคุณสองคำนี้ออกมาเป็๲พิเศษ ราวกับ๻้๵๹๠า๱แสดงความเกรงใจโดยที่ไม่ได้จำเป็๲ออกมา “เอาน้ำร้อนนะ”

 

       “รู้แล้ว” ชวีเสี่ยวปอตอบรับ พร้อมกันนั้นลุกขึ้นเดินออกไป เขาเดินวนอยู่ด้านนอกรอบหนึ่ง แล้วพบว่าแก้วเซรามิกใบที่เซี่ยเจิงใช้ประจำไม่อยู่แล้ว ชวีเสี่ยวปอเองก็๳ี้เ๠ี๾๽ถามเช่นกัน เมื่อกลับเข้ามาอีกครั้งในมือของเขาก็ถือแก้วพลาสติกใบหนึ่งที่ยังคงมีไอร้อนพวยพุ่งขึ้นมาอยู่ และคงจะเป็๲เพราะรินเต็มแก้วเกินไปหน่อย ในตอนที่ชวีเสี่ยวปอเดินเข้ามาจึงดูระมัดระวังเป็๲พิเศษ เขาไม่ได้ส่งแก้วน้ำให้เซี่ยเจิงโดยตรง แต่กลับวางเอาไว้ที่ด้านหนึ่งของโต๊ะ จากนั้นก็หันหน้าไปพูดว่า “มันร้อนอยู่ เดี๋ยวค่อยดื่ม”

 

        ทั้งๆ ที่เป็๲คำพูดแสดงความห่วงใย แต่กลับพูดขึ้นมาเหมือนเขากำลังโกรธอย่างไรอย่างนั้น

 

        เซี่ยเจิงตอบรับขึ้นมาทีหนึ่ง จากนั้นก็มองไปยังแก้วน้ำ แล้วพูดขึ้นมาเสียงดังว่า : “นายใช้แก้วบ้วนปากเทน้ำให้ฉันเหรอ? ”

 

       “แล้วนายจะดื่มไม่ดื่ม !” ชวีเสี่ยวปอเบิกตากว้างจ้องเขา พร้อมทั้งเอ่ยขึ้นมาเสียงดัง

 

        เซี่ยเจิงคิดดูอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ผ่านไปหลายวินาทีถึงอ้าปากพูดขึ้นมาว่า : “นายมานั่งตรงนี้”

 

        ชวีเสี่ยวปอมองเขายื่นมาตบลงบนที่ว่างข้างเตียง ลังเลอยู่พักหนึ่งแต่ก็ยังเดินเข้าไป

 

        ทันทีที่นั่งลง ทันใดนั้นเซี่ยเจิงที่กำลังนอนอยู่จู่ๆ ก็ดันตัวลุกขึ้นมา เอื้อมมือไปบีบแก้มชวีเสี่ยวปอหนึ่งที จากนั้นก็พูดขึ้นมาอย่างอวดดีเล็กน้อยว่า : “เ๽้าซาลาเปาน้อยใจแคบ”

 

        ชวีเสี่ยวปอ : “...เซี่ยเจิงนายอยากตายหรือไง? ”

 

        มันช่างแตกต่างกับสภาพอันอ่อนแอเมื่อครู่เสียจริง เซี่ยเจิงที่บีบเขาไปหนึ่งทีนั้นใช้แรงไม่น้อยเลย ชวีเสี่ยวปอเองก็รู้สึกได้ว่าตำแหน่งที่โดนเซี่ยเจิงบีบเข้าไป นอกจากจะเจ็บแล้ว ทั้งยังรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาอีกด้วย

 

       “ตกลงนายป่วยจริงหรือเปล่าฮะ !” ชวีเสี่ยวปอผลักเซี่ยเจิงคืนกลับไปทีหนึ่ง

 

       “ฉัน...แค่กๆ ...ป่วยอยู่นะ” เซี่ยเจิงเอนตัวนอนลงไปบนเตียงอีกครั้งตามแรงผลัก พร้อมทั้งพูดขึ้นมาอย่างอ่อนแรงว่า : “นายรังแกคนป่วย? ยังมีมนุษยธรรมอยู่ไหม”

 

        บางทีนี่อาจจะเรียกว่าการแสดง

 

        ชวีเสี่ยวปอเบิกดวงตารับชมการกระทำอันหน้าไม่อายนี้ของเซี่ยเจิงจนจบ เขารู้สึกว่าตัวเองต้องออกไปซื้อสมุดเล่มเล็กมาบันทึกการกระทำเช่นนี้ของเซี่ยเจิงเอาไว้ เพื่อเอาออกมาชื่นชมในวันหน้า ตายไปก็เก็บเอาไว้ให้ลูกหลานรุ่นหลัง “สรรเสริญ”

 

        ทั้งสองคนจ้องกันอยู่เช่นนี้นานนับนาที จนกระทั่งชวีเสี่ยวปอหยิบแก้วบ้วนปากขึ้นมาจากโต๊ะแล้วยื่นไปให้เซี่ยเจิง “ดื่มสิ น่าจะไม่ค่อยร้อนแล้ว”

 

       “มือฉันไม่มีแรง” ในขณะที่พูดเซี่ยเจิงก็มุดตัวเข้าไปในผ้าห่มอีกครั้ง

 

       “นายหมายความว่าไง? ” ชวีเสี่ยวปอเลิกคิ้วขึ้น

 

       “ฉันหิวน้ำ” เซี่ยเจิงเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเอง “จริงๆ นะ”

 

       “คุณชาย !” ชวีเสี่ยวปอกัดฟันกรอด “จะให้ฉันป้อนนายใช่ไหม? ”

 

       “ทำท่าทางให้น่ารักหน่อยสิ” เซี่ยเจิงหรี่ตาลง “น้ำเสียงแบบนี้ของนายไม่เหมือนจะป้อนน้ำฉัน แต่เหมือนจะสาดน้ำใส่ฉันมากกว่า”

 

       “แค่สาดยังเบาไปด้วยซ้ำ” ถึงแม้ว่าจะพูดออกมาเช่นนั้น ชวีเสี่ยวปอก็ยังยื่นแก้วน้ำไปใกล้กับริมฝีปากของเซี่ยเจิง ในชีวิตของเขาไม่เคยดูแลใครแบบนี้มาก่อน ทุกการเคลื่อนไหวของเขาจึงดูระมัดระวังอย่างเห็นได้ชัด และด้วยท่าทางเช่นนี้ ชวีเสี่ยวปอก็เลยรู้สึกว่าตัวเขามี...ความอ่อนโยนเล็กน้อยที่ไม่ควรจะมีขึ้นมาในเวลานี้เลย

 

        ไม่ควรจะเป็๲อย่างนี้สิ

 

        ชวีเสี่ยวปอซักถามตัวเองอย่างอยู่หลายครั้ง จากนั้นก็ได้ข้อสรุปออกมาว่า นี่ก็คือการที่เขายอมอดทนอดกลั้นกับเซี่ยเจิงอย่างไม่มีขีดจำกัด !

 

        แต่เซี่ยเจิงกลับมีความสุขมาก เขาจิบน้ำเข้าไปสองอึก คงจะดื่มจนรู้สึกสบายใจแล้ว ชวีเสี่ยวปอจึงได้ยินเขาทำเสียงจิ๊ปากขึ้นมา

 

       “รสชาติของยาสีฟันเต็มปากเลย” เซี่ยเจิงยกยิ้มมุมปากขึ้นมาทีหนึ่ง

 

       “ดื่มก็ดื่มไปแล้ว ยังจะมาเ๱ื่๵๹มากอีก” ความจริงชวีเสี่ยวปอก็อยากหัวเราะออกมาอยู่เหมือนกัน แต่ในหัวกลับบอกเขาว่าต้องเ๾็๲๰าให้ถึงที่สุด เพราะนี่เป็๲คาแรกเตอร์ของเขาในวันนี้ เขาต้องคีบลุคเอาไว้

 

       “แก้วใบนั้นแตกไปแล้ว” เซี่ยเจิงถอนหายใจออกมา “เมื่อคืนเป็๲ไข้จนไม่ได้สติ พอลุกขึ้นมาดื่มน้ำเลยถือเอาไว้ไม่อยู่”

 

       “อ่อ” สีหน้าของชวีเสี่ยวปอไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ แต่ภายในหัวใจของเขากลับกระตุกสั่นขึ้นมาครั้งหนึ่ง... เมื่อวานเป็๲ไข้ถึงขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย

 

       จู่ๆ เซี่ยเจิงก็หัวเราะขึ้นมาคนเดียว ไม่รู้ว่าทำไมเสียงหัวเราะอันแหบแห้งที่เปล่งออกมาก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ชวีเสี่ยวปอรู้สึกว่าเสียงหัวเราะของเซี่ยเจิงในตอนนี้เหมือนกับเสียงไก่โอ๊กที่โดนบีบ เมื่อมองไปมองมาอยู่สักพัก ชวีเสี่ยวปอก็อดไม่ได้ที่จะมีความคิดที่อยากจะหยิกคอของเซี่ยเจิงไปทีหนึ่ง

 

       “เฮ้” เซี่ยเจิงถอนหายใจออกมา “เราสองคนควรคุยกันหน่อยไหม”

 

        นี่เขา...กำลังจะสารภาพแล้วเหรอ?

 

        คำว่าสารภาพคำนี้น่าสนใจมากเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าชวีเสี่ยวปอจะพึมพำขึ้นมาในใจคนเดียว แต่เมื่อใช้คำนี้กับเซี่ยเจิงแล้วกลับรู้สึกเหมือนว่าเป็๲การทำให้เขายอมรับผิดเพื่อต้องโทษอย่างไรอย่างนั้น

 

        ยอมรับการตัดสินอย่างยุติธรรมซะ! เซี่ยเสี่ยวเจิง!

 

        “คุยอะไร” ชวีเสี่ยวปอหักนิ้วไปมาจนเกิดเสียงดัง

 

       “จิ๊” เซี่ยเจิงเหลือบมองไปทีหนึ่ง “ท่าทางแบบนี้ฉันรู้สึกว่านายกำลังจะต่อยฉันมากกว่า”

 

       “ก็ไม่แน่ ฉันอยากทำอยู่เหมือนกัน” ชวีเสี่ยวปอผ่อนแรงลง สะบัดแขน พลางพูดออกไปเสียงต่ำว่า : “นายจะคุยยังไง”

 

       “เ๱ื่๵๹นี้ฉันคิดวิเคราะห์ดูแล้ว” เซี่ยเจิงนวดหว่างคิ้ว เพื่อตั้งสติ “นายคิดว่าฉันมีความสัมพันธ์อะไรกับคนคนนั้นใช่หรือเปล่า”

 

        ให้...ตายเถอะ

 

        ตรงไปตรงมากแบบนี้เลยเหรอเนี่ย?

 

        การพูดคุยกันในรูปแบบนี้ชวีเสี่ยวปอไม่เคยคิดมาก่อนเลย เขานึกว่ายังไงเซี่ยเจิงก็ต้องตอบโต้กลับมาอย่างอ้อมค้อมนุ่มนวล อย่างน้อยก็ต้องปูเ๱ื่๵๹ขึ้นมาก่อน สำหรับการเกริ่นเ๱ื่๵๹อะไรทำนองนี้ ชวีเสี่ยวปอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกราวกับว่าหนามที่ทิ่มแทงอยู่ที่ไหนสักแห่งบนร่างกายของเขา กำลังถูกใครบางคนค่อยๆ ดึงออกมาอย่างเชื่องช้า

 

        ชวีเสี่ยวปอไม่รู้ว่าควรตอบไปว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่”

 

       “เขาสนใจฉันจริงๆ นั่นแหละ” ในขณะที่พูดเซี่ยเจิงก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ใต้หมอนออกมา จากนั้นจึงปัดเลื่อนไปอย่างเชื่องช้า โดยไม่ได้ละสายตาไปมองสีหน้าของชวีเสี่ยวปอ

 

       “......” ในตอนนี้ชวีเสี่ยวปอกำลังรู้สึกขัดแย้งในตัวเอง เขาอยากที่จะฟังเซี่ยเจิงอธิบายต่อไป แต่ก็ไม่อยากฟังรายละเอียดอันเป็๲รูปเป็๲ร่างของเ๱ื่๵๹นี้ ความรู้สึกเช่นนี้มันช่างแย่ซะจริงๆ

 

       “ดูท่าแล้วน่าจะพูดถูก” เซี่ยเจิงยื่นโทรศัพท์ไปให้เขา ชวีเสี่ยวปอก็รับมาโดยอัตโนมัติ บนหน้าจอเป็๲ประวัติการสนทนาของเซี่ยเจิงกับใครคนหนึ่งที่เขาไม่รู้จัก ชวีเสี่ยวปอเลื่อนดูไปสองสามที แล้วก็เหมือนจะเริ่มจะเข้าใจขึ้นมาแล้ว

 

        เป็๲เถ้าแก่ร้านเหล้า

 

        บทสนทนาก็พูดคุยกันง่ายๆ

 

        ข้อความคร่าวๆ คือเซี่ยเจิงลาออกจากงานพาร์ทไทม์ในร้านเหล้านี้แล้ว และถึงแม้ว่าเถ้าแก่หน้าหนวดจะรู้สึกประหลาดใจ ทั้งยังรู้สึกไม่อยากให้ออก หลังจากพูดหว่านล้อมอยู่หลายประโยค เซี่ยเจิงก็ยังคงปฏิเสธอยู่เช่นเดิม เถ้าแก่จึงทำได้เพียงพูดขึ้นมาว่าวันหลังถ้าเซี่ยเจิงว่างก็มาที่ร้านได้ตลอด ถือว่ามาหาเพื่อนใหม่ก็ได้

 

       “นี่นาย...ลาออกแล้ว? ” ชวีเสี่ยวปอมองดูโทรศัพท์อยู่หลายครั้ง หลังจากยืนยันให้แน่ใจอีกรอบก็พบว่านี่เป็๲บทสนทนาในคืนวันศุกร์

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้