ฉู่เมิ่งเอ๋อร์มองจ้าวซีเหอตาโตพร้อมกับส่ายหน้า “ไม่ใช่! ที่ท่านทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อหนิงมู่ฉือ! ท่านตั้งใจรับข้าเข้ามาในตำหนักเพื่อยั่วโมโหนาง! ซื่อจื่อ ท่านลองบอกข้ามาว่าข้าเทียบกับนางไม่ได้ตรงที่ใด หรือเป็เพราะนางเกิดในสกุลทหาร แต่ตอนนี้นางเป็แค่บ่าวที่มีความผิดติดตัว! ท่านไม่มีทางได้ลงเอยกับนาง!”
จ้าวซีเหอนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ แววตาแดงก่ำด้วยความกราดเกรี้ยว “เ้าพูดเื่ใดของเ้า!”
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไปแล้ว มองจ้าวซีเหออย่างเย้ยหยัน มุมปากยกขึ้นอย่างดูแคลน “ซื่อจื่อ ท่านช่างใจร้ายนัก ทำลายอนาคตของผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อผู้หญิงอีกคน เป็ข้าที่ประเมินท่านสูงเกินไปเอง”
“เช่นนั้นแล้วเ้าจะเอาอย่างไร” จ้าวซีเหอคาดไม่ถึงว่าฉู่เมิ่งเอ๋อร์จะพูดกับเขาเช่นนี้ ในแววตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ตอนแรกเขาคิดจะปล่อยนางไป ไม่เอาผิด คาดไม่ถึงว่านางจะกล้าพูดเช่นนี้กับเขา โดยไม่ดูฐานะตัวเอง
“ซื่อจื่อไม่จำเป็ต้องมาสงสารเมิ่งเอ๋อร์ เมิ่งเอ๋อร์จะออกไปจากที่นี่เอง เมิ่งเอ๋อร์รู้ดีว่าท่านให้คนไปตามเมิ่งเอ๋อร์มาที่นี่เพราะเหตุใด” ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ยกมือปาดน้ำตา น้ำเสียงเจือแววสะอื้น ถึงอย่างไรความรู้สึกที่นางเคยมอบให้อีกฝ่ายก่อนหน้านี้ก็เป็เื่จริง
จ้าวซีเหอถอนหายใจออกมา “ฉีอัน ไปที่ห้องผู้ดูแลบัญชี ไปเอาเงินมาให้ฉู่เมิ่งเอ๋อร์สามร้อยตำลึง”
ฉีอันนิ่งอึ้งอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้า จากนั้นวิ่งออกไปที่ห้องผู้ดูแลบัญชี ใช้เวลาเพียงไม่นานก็วิ่งกลับมา พร้อมทั้งลากหีบไม้ใบหนึ่งมาด้วย นำมาวางไว้เบื้องหน้าฉู่เมิ่งเอ๋อร์
จ้าวซีเหอเงียบอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะเอ่ยว่า “่ที่เ้าอยู่ที่ตำหนักอ๋องแห่งนี้ ข้าผิดต่อเ้านัก ในเมื่อเป็เยี่ยงนี้ข้าขอคืนอิสระให้แก่เ้า เงินสามร้อยตำลึงนี้ข้ามอบให้เ้า อย่างน้อยเ้าก็จะได้ไม่ต้องเป็ห่วงเื่อาหารการกินหรือเื่เสื้อผ้า ส่วนเื่อาการป่วยของท่านพ่อ ข้าจะไม่สืบสาวเอาเื่ นับจากนี้พวกเราทั้งสองคนถือว่าขาดกัน!”
น้ำเสียงของจ้าวซีเหอเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว และมันได้ประทับแน่นอยู่ในใจฉู่เมิ่งเอ๋อร์ นางหยิบเงินขึ้นมา น้ำตาไหลพรากขณะเอ่ยว่า “ขอบคุณเ้าค่ะ”
“ช่างเถิด เ้าไปเก็บของเสีย จะได้…ออกจากที่นี่” จ้าวซีเหอหันหลังให้ พร้อมทั้งถอนหายใจออกมาด้วยความไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับหญิงสาวอย่างไรดี
ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ยิ้มพร้อมกับลุกขึ้นยืน แม้น้ำตาจะไหลนองหน้า ทว่าก็ยังคงดูงดงามไม่เสื่อมคลาย “ซื่อจื่อ ข้ารู้ว่าท่านมีอคติต่อหญิงสาวในหอนางโลม แต่ข้าก็อยากจะบอกท่านว่า หญิงสาวในหอนางโลมไม่ได้สกปรกทุกคน พวกเราเองก็มีชีวิตของพวกเรา”
จ้าวซีเหอพยักหน้ารับรู้ “ข้าก็ไม่เคยคิดว่าเ้าสกปรก”
“หึๆ ถ้าเช่นนั้นข้าขอให้ท่าน…มีชีวิตที่ดี” ฉู่เมิ่งเอ๋อร์ต้องรวบรวมความกล้าอย่างมากในการพูดประโยคนี้ออกมา ก่อนจะบอกให้ฉีอันช่วยยกหีบไม้ไปที่เรือนของนาง จากนั้นนางถึงค่อยหมุนตัวเดินกลับไปที่เรือนสวนไผ่
ฉีอันรู้สึกว่าบรรยากาศในตอนนี้แลดูน่าอึดอัดอย่างมาก เขาเดินตามหลังฉู่เมิ่งเอ๋อร์ไปเงียบๆ ไม่กล้าพูดแม้แต่คำเดียว
พ่อบ้านเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าจ้าวซีเหอ “เมื่อสักครู่ท่านอ๋องฟื้นแล้ว ทั้งยังสามารถพูดได้แล้ว ซื่อจื่อ ท่านรีบไปเยี่ยมท่านอ๋องเถิดขอรับ”
คิ้วของจ้าวซีเหอที่ขมวดเป็ปมคลายออกในทันที พยักหน้าก่อนจะเดินไปที่เรือนของบิดา
หนิงมู่ฉือคอยดูแลท่านอ๋องอยู่ข้างเตียงไม่ห่าง มองท่านอ๋องที่แม้จะยังนอนหลับก็ยังไออย่างรุนแรงออกมา นางนึกเป็ห่วงท่านอ๋องยิ่งนัก ส่งเสียงปลุกท่านอ๋อง “ท่านอ๋องเ้าคะ?”
ท่านอ๋องกระพริบตาก่อนจะค่อยๆ ลืมตาแดงเรื่อขึ้น ครั้นเห็นหนิงมู่ฉือ ริมฝีปากยกเป็รอยยิ้ม ท่านอ๋องรู้สึกเจ็บที่ลำคอเหลือเกิน แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เท่าก่อนหน้านี้
“ท่านอ๋องท่านฟื้นแล้วหรือเ้าคะ รู้สึกอย่างไรบ้างเ้าคะ!” เห็นท่านอ๋องฟื้น หนิงมู่ฉือรู้สึกดีใจอย่างยิ่ง ค่อยๆ ประคองท่านอ๋องให้ลุกขึ้นนั่ง
ท่านอ๋องอ้าปากอยากจะพูด ซึ่งเดิมนึกว่าจะไม่มีเสียงออกมา “นางหนูหนิง เ้ากลับมาแล้วหรือ”
เสียงดูโรยแรง ทั้งยังแหบแห้ง แต่ก็สามารถได้ยินได้อย่างชัดเจน หนิงมู่ฉือยิ้มอย่างยินดีเมื่อได้ยินเสียงของท่านอ๋อง
นางเอ่ยออกมาว่า “่นี้ท่านอ๋องต้องพักรักษาตัวให้ดี มีอะไรที่ท่านอ๋องอยากทานเป็พิเศษหรือไม่เ้าค่ะ ฉือเอ๋อร์จะได้ทำให้ท่านทาน”
ท่านอ๋องถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้า ใบหน้าที่เคย เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลดูผ่ายผอมลงไปมาก แลดูน่าสงสารอย่างยิ่ง “ตอนนี้ข้าทานอะไรไม่ลงทั้งนั้น”
“ท่านอ๋องไม่ต้องเป็ห่วงนะเ้าคะ ข้าไปไม่นานเดี๋ยวกลับมา” นางลุกขึ้นยืน คิดอยากจะเดินไปที่ห้องครัวเพื่อทำอาหารให้ท่านอ๋องทาน นางเพิ่งจะเปิดประตูเดินออกไปก็พบกับจ้าวซีเหอเข้าเสียก่อน
ทั้งคู่ต่างก็นิ่งเงียบ
จ้าวซีเหอมองหนิงมู่ฉือด้วยแววตาลึกล้ำ ก่อนจะยื่นมือไปจับแขนหญิงสาว “ฉือเอ๋อร์”
หนิงมู่ฉือดึงแขนจ้าวซีเหอที่จับแขนนางเอาไว้ออก “ซื่อจื่อ ฉือเอ๋อร์จะไปที่ห้องครัวเพื่อทำอาหารมาให้ท่านอ๋องเ้าค่ะ”
จ้าวซีเหอรับคำในลำคอ ยิ้มพร้อมกับเอ่ยว่า “ไปเถอะ ข้าเองก็จะเข้าไปหาท่านพ่อเช่นกัน”
ทันทีที่เขาเข้ามาในห้อง ก็เห็นบิดาถลึงตามองเขาด้วยความโกรธเกรี้ยว “เ้าลูกไม่รักดี!”
ท่านอ๋องมองจ้าวซีเหออย่างขุ่นเคือง ประหนึ่งกำลังโกรธบุตรชายนักหนา ่ที่ตัวเองไม่สบาย เขาอยากให้บุตรชายมาคอยอยู่ข้างๆ คอยดูแล
จ้าวซีเหอยิ้มแห้งให้ท่านอ๋อง “ท่านพ่อ ลูกก็กลับมาแล้วมิใช่หรือขอรับ”
“ช่างเถิด ไม่กี่วันก่อนฉู่เมิ่งเอ๋อร์ไล่หมอออกจากตำหนักไปจนหมด เื่นี้ทำให้ข้ารู้สึกไม่พอใจนางยิ่งนัก เ้าจะจัดการกับเื่นี้อย่างไร”
จ้าวซีเหอยิ้มออกมา “ลูกให้นางออกจากตำหนักไปแล้วขอรับ ฉือเอ๋อร์เองก็ถือสากับเื่นี้เช่นกัน”
ท่านอ๋องยิ้ม “เช่นนี้พ่อก็วางใจ”
หนิงมู่ฉือเดินเข้าไปในห้องครัว นางขบคิดไปมา นางไม่รู้ว่าจะทำอาหารชนิดใดให้ท่านอ๋องทานดี
นางเดินไปเดินมาอยู่ในห้องครัว ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นตับหมูซึ่งวางอยู่ด้านข้าง นางคิดในใจว่า ทำโจ๊กตับหมูดีกว่า ท่านอ๋องกำลังไม่สบาย ต้องกินอาหารที่มีรสชาติอ่อน ทั้งร่างกายกำลังขาดเือย่างมาก เช่นนั้นทำโจ๊กตับหมูบำรุงร่างกายให้ท่านอ๋องน่าจะดี
นางเดินไปหยิบตับหมูมาล้างในน้ำสะอาด หยิบมีดจากข้างตัวขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยอย่างทอดถอนใจว่า “มีแต่มีดในตำหนักอ๋องเท่านั้นที่ข้าจับแล้วถนัดมือ”