"เดม่อนอยู่ไหน?"
เมื่อได้ยินคำถามจากดัมเบิลดอร์ ศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็รู้สึกหน้าเจื่อนขึ้นมาเล็กน้อย
"ฉันทิ้งเขาไว้ที่ห้องทำงานค่ะ"
เธอเพิ่งรู้สึกตัวว่า จริง ๆ แล้วเธอควรพาเดม่อนมาด้วย เพราะเขาเป็คนคิดทฤษฎีนี้ขึ้นมา และเป็คนที่เข้าใจมันดีที่สุด เธอตื่นเต้นเกินไป จนลืมเื่นี้ไปได้ยังไงกันนะ?
"โอ้? แล้วเขาว่ายังไงล่ะ" ดัมเบิลดอร์ถามด้วยแววตาลึกซึ้ง
แต่มักกอนนากัลไม่ได้สังเกตเห็นแววตานั้น พออารมณ์เย็นลงนิดหน่อย ก็ย้อนนึกถึงปฏิกิริยาของเดม่อน แล้วกลับรู้สึกว่ามันออกจะตลกเสียด้วยซ้ำ
"เขาบอกว่าเขาอยากได้แต้มค่ะ"
"แต้ม?" ดัมเบิลดอร์ชะงัก ก่อนที่แววตาจะใสแจ๋วขึ้นมาทันที "เธอกำลังจะบอกว่าเขาเขียนวิทยานิพนธ์นี้เพราะอยากได้แต้มให้บ้าน?"
"ใช่ค่ะ แต้มบ้าน เขาบอกให้ฉันคืนแต้มที่โดนหักไปให้เขา"
เมื่อเห็นดัมเบิลดอร์มีสีหน้าเหมือนอึ้งไป มักกอนนากัลเลยรีบปลอบว่า
"คุณก็คิดว่ามันน่าขันใช่ไหมคะ? เด็กคนนี้ยังไม่เข้าใจสถานการณ์เลยด้วยซ้ำ ใน่เวลาแบบนี้เขายังมัวแต่คิดถึงแต้มบ้าน เขาไม่รู้เลยว่าวิทยานิพนธ์ของเขายิ่งใหญ่แค่ไหน"
"แล้วทำไมเธอไม่ให้เขาล่ะ?"
"อะไรนะคะ?"
"แต้มบ้านทำไมเธอไม่ให้เขา?"
มักกอนนากัลที่เพิ่งคิดว่าตัวเองสงบลงแล้วถึงกับงงงัน
นี่เธอหูฝาดไปหรือเปล่า? ทำไมเธอรู้สึกว่าน้ำเสียงของดัมเบิลดอร์ฟังดูแปลก ๆ เหมือนจะตำหนิเธอด้วย?
"ฉันก็จะให้อยู่แล้วค่ะ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ คุณจะจัดการยังไงกับวิทยานิพนธ์ของเขา? จะให้ตีพิมพ์ลง Transfiguration Today จริง ๆ เหรอ? ฉันเกรงว่าจดหมายจากนกฮูกจะท่วมฮอกวอตส์แน่ ๆ"
"แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะ ถ้าเขาอยากเผยแพร่"
"จริง ๆ แล้ววิทยานิพนธ์ฉบับนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ส่วนหนึ่งในนั้นฉันเองยังไม่เข้าใจเลย แล้วถึงจะมีใครเข้าใจมันทั้งหมด ถ้าเดม่อนยอมปกปิดคาถาสองบทนั้นไว้ ต่อให้มีคนคิดร้ายก็ไม่มีทางใช้พลังในนั้นได้หรอก"
ดัมเบิลดอร์หันไปมองสัตว์เลี้ยงข้างตัวด้วยสายตาอ่อนโยน
"ฟอกส์ ช่วยไปตามเดม่อนมาหน่อยได้ไหม?"
ฟีนิกซ์พยักหน้า แล้วหายไปในเปลวเพลิง
"งั้นระหว่างรออยู่ มินเนอร์วา ฉันอยากให้เธอเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมระหว่างที่เธออยู่กับเขา เด็กคนนี้คิดไอเดียแบบนี้ออกมาได้ยังไงกัน?"
"จะว่าไปฉันก็ยังแปลกใจอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าเขาจะพัฒนาขึ้นเร็วมากก็เถอะ แต่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพูดเื่แบบนี้กับฉันเลยนะคะ..."
สิบห้านาทีผ่านไป เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
"เข้ามาได้"
เดม่อนเปิดประตูเข้ามา โดยมีฟีนิกซ์ฟอกส์ยืนอยู่บนไหล่ของเขา กำลังขะมักเขม้นกับการจัดขนของตัวเอง ทำเอาดัมเบิลดอร์ที่เตรียมใจไว้แล้วถึงกับใ
เขาไม่เคยเห็นฟอกส์เข้าหาใครก่อนเลย
แม้แต่นิวท์ สคามันเดอร์ ยังมีแค่ความผูกพันในระดับพื้นฐาน จะให้สนิทแบบนี้เป็ไปไม่ได้แน่
"ขอบใจนะเพื่อน ฉันมาถึงแล้ว"
ฟอกส์พยักหน้า ก่อนจะบินกลับไปเกาะที่เดิม
"ฉันไม่ค่อยเห็นฟอกส์เป็มิตรกับใครแบบนี้นะ"
"โอ้ มันบอกว่าฉันหอมดี ให้ความรู้สึกสงบแปลก ๆ"
ดัมเบิลดอร์คิดว่าเดม่อนแค่พูดเล่น จึงถามเปลี่ยนเื่
"อยากดื่มชาหรือฟักทอง?"
"ขอชาแดงครับ ขอบคุณ"
ดัมเบิลดอร์สะบัดไม้กายสิทธิ์ แล้วน้ำชากับขนมก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเดม่อน แม้ว่าเขาจะเพิ่งกินกับศาสตราจารย์มักกอนนากัลมาแล้ว แต่ด้วยมารยาท เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ
"งั้นเข้าเื่กันเลยดีไหม?"
"ผมไม่มีปัญหาครับ"
"เกี่ยวกับกฎการแปลงร่างของไวท์ที่เธอเสนอมา ฉันมีคำถามเล็กน้อย อยากให้ช่วยตอบ"
"ตั้งชื่อแล้วเหรอครับ? อาจารย์" เดม่อนยิ้มบาง ๆ "อยากรู้อะไร ถามมาได้เลยครับ"
"อะไรคือโมเลกุล อะตอม?"
"มันคือองค์ประกอบขนาดจิ๋วที่ประกอบขึ้นเป็วัตถุ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนประกอบจากสิ่งนี้ แม้แต่เราก็มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า"
เดม่อนชี้ที่ตาของตัวเอง
"จริง ๆ ไม่ต้องเข้าใจก็ได้นะครับ ผมแค่ยกมาเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ๆ ก็เท่านั้น ถ้าจะพูดให้ตรง แก่นของทฤษฎีก็คือ ‘การเข้าใจองค์ประกอบพื้นฐานของวัตถุ’ ในโลกมักเกิ้ล พวกเขาเรียกสิ่งของทั้งหลายว่า ‘วัตถุ’"
"ต่อให้ไม่เข้าใจอะตอมหรือโมเลกุลก็ไม่เป็ไรครับ คุณสามารถเข้าใจมันจากมุมมองของเวทมนตร์แทนก็ได้"
"เธอช่วยอธิบายเพิ่มเติมได้ไหม?"
ยิ่งฟังดัมเบิลดอร์ก็ยิ่งสนใจ เด็กคนนี้ดูเหมือนจะเข้าใจโลกมักเกิ้ลเป็อย่างดี ความคิดของสองโลกมาหลอมรวมกันถึงได้ก่อให้เกิดความคิดสุดยอดแบบนี้ได้
"แน่นอนครับ"
เดม่อนสะบัดไม้กายสิทธิ์เบา ๆ ทำให้กระดาษแผ่นหนึ่งลอยขึ้นมา แล้วถาม
"อาจารย์คิดว่า แก่นของเวทมนตร์คืออะไรครับ?"
"อืม คำถามนี้ยากพอตัวเลยนะ ถ้าให้ตอบแบบไม่เป็ทางการ ฉันคิดว่าคือ... ‘ความรัก’"
"ไร้สาระน่ะครับ"
เดม่อนกลอกตา เขาไม่เชื่อว่าดัมเบิลดอร์จะคิดแบบนั้นจริง ๆ
แต่คำตอบที่ได้รับกลับมา เป็เพียงรอยยิ้มตาหยีอย่างอารมณ์ดีของดัมเบิลดอร์
"ก็ถือว่าตอบถูกบางส่วนล่ะนะ แต่สำหรับผมแล้ว เวทมนตร์มีแก่นมาจาก ‘การรับรู้’ และ ‘เจตจำนง’ ของพ่อมดครับ"
"ในความเข้าใจของผม แผ่นกระดาษนี้ไม่ได้เป็แค่กระดาษ มันมีองค์ประกอบซับซ้อนภายในอีกมากมาย และถ้าเราสามารถเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบเ่าั้ได้ เราก็สามารถเปลี่ยนสิ่งนั้นได้จากแก่นแท้"
"แต่ความคิดของผมจะเป็ ‘ความจริงที่ถูกต้องเพียงหนึ่งเดียว’ ได้เหรอครับ? ผมว่าไม่ใช่"
"สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจ เป็เพราะการรับรู้ของผมสะสมมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็ศรัทธาแบบหนึ่ง ในโลกมักเกิ้ล เขาเรียกสิ่งนั้นว่า ‘วิทยาศาสตร์’ แต่ในมุมผม วิทยาศาสตร์ก็เป็ศาสนาที่คลั่งศรัทธาที่สุดบนโลก"
"และเมื่อศรัทธานี้ถูกนำมาใช้กับเวทมนตร์ มันก็จะกลายเป็ปาฏิหาริย์ที่ ‘จินตนาการแล้วเป็จริง’ ได้"
"สรุปคือ มันคือพลังของ ‘ความเชื่อ’ นั่นแหละครับ เพียงแต่ว่าความคิดลอย ๆ ถึงจะมั่นคงแค่ไหน ก็ยังเปราะบางเหมือนปราสาทลอยฟ้า แต่ถ้าเรามีความเชื่อที่ถูกเสริมด้วยเหตุผล ระบบคิด และตรรกะ มันก็จะกลายเป็ปาฏิหาริย์ได้จริง"
เดม่อนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ลำดับความคิดชัดเจน ดัมเบิลดอร์ฟังพลางพยักหน้าและยิ้มบาง ๆ อย่างพอใจ
"ความคิดยอดเยี่ยมมาก เห็นได้ชัดเลยว่าเธอมีมุมมองที่ชัดเจนของตัวเองเกี่ยวกับเวทมนตร์
ฉันไม่มีคำถามอะไรอีกแล้ว รู้สึกเป็เกียรติจริง ๆ ที่ได้ฟังความคิดของเธอในวันนี้"
ดัมเบิลดอร์หยุดเล็กน้อย ก่อนพูดต่อ
"งั้นเรามาคุยกันเื่การเปิดตัวทฤษฎีนี้ของเธอกันเถอะ ฉันได้ยินจากมินเนอร์วาว่า เธออยากส่งไปลงใน Transfiguration Today ใช่ไหม?"
"ครับ จริง ๆ แล้วแินี้ไม่ได้มาจากผมคนเดียวด้วยซ้ำ ผมได้แรงบันดาลใจจากบทความในเล่มก่อน ๆ ของวารสารนี้ พอผมได้รับอะไรจากที่นี่ ผมก็อยากตอบแทนกลับไปบ้าง"
"โอ้ ฉันชอบแิอบอุ่นแบบนี้ของเธอมาก"
รอยยิ้มของดัมเบิลดอร์สดใสขึ้นกว่าเดิม ดวงตายังหรี่ลงอย่างอารมณ์ดี
แม้ว่าเด็กคนนี้จะมีภูมิหลังเป็เด็กกำพร้าเหมือนทอม ริดเดิ้ล ฉลาดและมีมารยาทดีพอ ๆ กัน และต่างก็ใฝ่หาพลังเหมือนกัน แต่ อย่างน้อย เดม่อนตอนนี้ก็ยังอบอุ่นกว่าทอมมาก
"แต่ อย่างที่มินเนอร์วาว่าล่ะ รออีกสักหน่อยเถอะ ทฤษฎีที่ยิ่งใหญ่ระดับเปลี่ยนยุคสมัยแบบนี้ ควรมีเวทีที่คู่ควรกับมัน"
ดัมเบิลดอร์ลุกขึ้นมายืนข้างเดม่อน วางมือลงบนบ่าของเขาเพื่อแสดงความเคารพ
"ฉันจะเป็ผู้รับรองให้เธอ Transfiguration Today ฉบับหน้า และ The Daily Prophet จะเริ่มทำแคมเปญเปิดตัวล่วงหน้าเพื่อโปรโมตแิของเธอ อีกไม่นาน ชื่อของเธอจะดังก้องไปทั่วโลกเวทมนตร์
เธอพร้อมจะขึ้นเวทีนี้แล้วหรือยัง, เดม่อน?"
"เป็เกียรติของผมครับ อาจารย์"
หมายเหตุจากผู้เขียน:
เห็นบางคนบ่นว่าแปลงร่างได้แค่ภายนอกเปลี่ยนแก่นแท้ไม่ได้ ดูน่าผิดหวังมาก ผมเองตอนที่เห็นกฎการแปลงร่างของกัมป์ก็รู้สึกงั้นเหมือนกัน แค่เปลี่ยนเปลือก จะโม้ว่าเวทมนตร์แปลงร่างยิ่งใหญ่ทำไมกัน?
แต่ขอชี้แจงครับ ว่าผมอิงข้อมูลจากเนื้อเื่ ไม่ใช่คิดขึ้นมาเอง ส่วนที่เปลี่ยนแปลงตอนนี้ต่างหากคือสิ่งที่ผมแต่งขึ้นมาเอง
(จบบท)
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้