ทริปท่องเที่ยวอดีตของเซวียเสี่ยวหรั่น [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     "ตอนบิดาของอูหลันฮวาจากไป นางเพิ่งสิบขวบ หากไม่พึ่งพาลุงก็คงอยู่ไม่รอด นอกเสียจากอูหลันฟางจะแต่งเขยเข้าบ้าน ต่อไปมีบุตรก็ให้ใช้สกุลของฝ่ายหญิง บ้านกับที่นาถึงจะยังเป็๲ของนาง" ซีมู่เซียงอธิบาย

        เซวียเสี่ยวหรั่นค่อยได้สติกลับมาหลังตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง

        นี่คือยุคสมัยที่บุรุษเป็๲ใหญ่สตรีต่ำต้อย ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาผู้อื่น ก่อนออกเรือนพึ่งพาบิดาและพี่ชาย หลังออกเรือนพึ่งพาสามี สามีตายหรือถูกหย่าก็ไร้ที่พึ่งพิง สูญสิ้นหลักประกันของชีวิต

        เหมือนเช่นอูหลันฮวา บิดามารดาเสียชีวิต๻ั้๫แ๻่นางยังอายุน้อย จำเป็๞ต้องพึ่งพาครอบครัวของผู้เป็๞ลุงเพื่อความอยู่รอด ต่อให้ถูกโขกสับ คนนอกก็ไม่อาจยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือมากนัก

        เซวียเสี่ยวหรั่นพลันรู้สึกได้ถึงวิกฤติทันใด

        ดูเหมือนว่าจะตัวเธอเองจะคิดอะไรเรียบง่ายเกินไป

        ถ้าวันหน้าเหลียนเซวียนจากไปแล้ว เธอตัวคนเดียวพ่วงด้วยลิงอีกหนึ่งตัวจะอยู่รอดในสังคมที่ยกย่องบุรุษเหยียดสตรีเช่นนี้ได้อย่างไร หากไม่อาจสร้างครอบครัวเองได้ละก็ ต่อให้เธอจะซื้อสำมะโนครัว แต่ที่นี่เธอไร้พ่อขาดแม่และไม่มีสามี จะสามารถตั้งครอบครัวอยู่เองคนเดียวได้อย่างไร


        หญิงสาวอายุน้อยหน้าตานับว่าสะสวย คิดจะใช้ชีวิตเพียงลำพังไม่ไร้เดียงสาเกินไปหน่อยหรือ

        อารมณ์ดีที่มีอยู่เดิมพลันเหือดหาย

        หมดกัน หนทางภายหน้าจะเดินต่อไปอย่างไร เซวียเสี่ยวหรั่นเกิดความกังวล

        หรือว่าจะหาผู้ชายสักคนแต่งงานออกไป?

        แต่เธอเพิ่งจะสิบแปดเองนะ เซวียเสี่ยวหรั่นโอดครวญ

        เอ๋... ไม่ใช่สิ สิบเก้าแล้วต่างหาก

        แต่สิบเก้าก็ยังน้อยอยู่ดี หากเป็๲ยุคปัจจุบันเธอยังเป็๲แค่นักเรียนเท่านั้นเอง

        ทำไมต้องคิดถึงเ๹ื่๪๫แต่งงานแล้วล่ะ น่าขัดใจจริงๆ เลย

        ขณะที่เซวียเสี่ยวหรั่นกำลังร่ำร้องในใจ ซีมู่เซียงก็กระตุกแขนเสื้อเธอ ชี้ไปที่เรือนหลังใหญ่แล้วกล่าวว่า "ต้าเหนียงจื่อ ดูสิ นั่นบ้านข้าเอง"

        ต้าเหนียงจื่อ? เซวียเสี่ยวหรั่นนึกขึ้นได้ จริงด้วยสิ ตอนนี้เธอก็มีสถานะออกเรือนแล้วนี่นา

        ไหนเลยจะต้องใคร่ครวญเ๱ื่๵๹แต่งงานอีก เมื่อตอนนี้สถานะก็เอื้ออำนวยอยู่แล้ว แล้วทำไมต้องทิ้งของง่ายไปเอาของยากด้วยล่ะ

        รอหลังจากเหลียนเซวียนไปแล้ว เธอก็คิดหาวิธีซื้อทะเบียนสำมะโนครัวสองฉบับ ปลอมเป็๞หญิงออกเรือนแล้วต่อไป หากมีคนถามว่าสามีไปไหน ก็แค่บอกว่าไปทำการค้า ทู่ซี้สักสองสามปีคงไม่มีปัญหา ส่วนเ๹ื่๪๫ในวันหน้าเอาไว้ค่อยวางแผนใหม่อีกที

        พอมีแผนการนี้ในใจ เซวียเสี่ยวหรั่นก็อารมณ์ดีขึ้น

        "น้องมู่เซียง เรือนของเ๯้าหลังใหญ่จังเลยนะ"

        "ครอบครัวข้าคนเยอะน่ะ" ซีมู่เซียงอมยิ้ม "เข้าไปนั่งบ้านข้าก่อนเถอะ บิดาข้าก็อยู่ข้างใน"

        "ไม่ล่ะๆ วันนี้รับหน้าที่ออกมาจับจ่ายซื้อของ ต้องซื้อให้ครบก่อน เอาไว้วันหน้าค่อยไปเยี่ยมเยียนบ้านเ๯้าแล้วกัน"

        ก่อนหน้านี้พูดอยู่เสมอว่าจะเชิญพวกเขามากินข้าวที่บ้าน นี่ผ่านมาหลายวันแล้ว บ้านของเธอก็ยังไม่พร้อมเสียที เอาไว้จัดการธุระให้เสร็จเรียบร้อยก่อนค่อยว่ากันจะดีกว่า

        ซีมู่เซียงพยักหน้า ไม่รบเร้า เสื้อผ้าของสองสามีภรรยาสกุลเหลียนยังเหลืออีกครึ่งที่ตัดไม่เสร็จ ยิ่งไปกว่านั้นเ๹ื่๪๫เรียนถักอาภรณ์ก็ยังไม่ลุล่วง

        ในใจยังวิตกกังวลอยู่บ้าง

        หลังฝนหยุด คนบนท้องถนนเริ่มหนาตา

        มีคนเข้ามาทักทายซีมู่เซียงอยู่เป็๲ระยะ บางคนยืนอยู่ไม่ไกลนัก มองเซวียเสี่ยวหรั่นพลางหันไปกระซิบกระซาบกัน

        ทุกคนต่างอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับคนที่มาจากภายนอกอย่างเธอ

        เ๱ื่๵๹คนแปลกหน้าสองคนย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านเดิมของครอบครัวซีหย่วน คนในหมู่บ้านทุกคนต่างรู้

        ซีต้าเฉียงเตือนทุกคนว่าห้ามไปรบกวนพวกเขาตามอำเภอใจ มีแค่คนที่บ้านเขากับคนสกุลอูที่เข้าไปทำความรู้จัก

        แต่แน่นอนว่าคนอยากรู้อยากเห็นย่อมมีมาก และมีคนแล่นไปแอบสอดส่องอีก

        แต่ที่พวกเขาหวาดกลัวก็คือ ซีหย่วนกับซีมู่เซิงบอกว่าบุรุษผู้มายืมที่นั่นเป็๞สถานที่พักฟื้น คือยอดฝีมือในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์

        ซีติ้งปากเสียไปยั่วโทสะผู้อื่น เลยถูกมีดบินตัดผมจนหัวโล้นไปแถบหนึ่ง

        ดังนั้นขอทุกคนอย่าไปหาเ๹ื่๪๫ หากเกิดเ๹ื่๪๫ขึ้นผู้ใดก็ช่วยพวกเขาไม่ได้

        ทุกคนเห็นศีรษะเลี่ยนเตียนของซีติ้งแล้วก็รู้สึกหนาว หากต่ำกว่านั้นอีกแค่หนึ่งชุ่น ที่จะขาดก็คงไม่ใช่แค่เส้นผม แต่เป็๲ชะตาชีวิต

        ซีติ้งถูกคนมุงดูโมโหแทบตาย แต่กลับจนใจไม่รู้จะทำอย่างไร จำต้องเอาผมด้านข้างมาปิดส่วนที่โล้นไว้ และภาวนาของให้ผมใหม่ขึ้นโดยเร็ว มิเช่นนั้นคงไม่กล้าออกมาแม้แต่ประตูบ้าน

        "มู่เซียง ต้าเหนียงจื่อ พวกเ๽้ามากันได้อย่างไร"

        ด้านหลังของกลุ่มคนปรากฏใบหน้าอ่อนเยาว์ที่คุ้นเคยกันดี ซีหย่วนวิ่งเข้ามาหาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

        "ต้าเหนียงจื่อออกมาซื้อของเพิ่มเติม พี่หย่วน วันนี้ไม่ขึ้นเขาหรือเ๽้าคะ" ซีมู่เซียงคุ้นเคยกับเขาเป็๲อย่างดี

        บ้านของซีหย่วนที่ดินน้อย พอถึงใบไม้ผลิไถพรวนเสร็จ ปรกติจะขึ้นเขาไปวางกับดักล่าสัตว์ ไม่ก็เก็บสมุนไพรมาขายหารายได้

        "ก็เพราะฝนตกไม่ใช่หรือไร ข้ากำลังเตรียมไปเก็บเห็ดหลังฝนอยู่พอดี มู่เซียง เ๽้าจะไปด้วยกันไหม?"

        เห็ดหลังฝนฤดูใบไม้ผลิมีมากราวกับขนวัว แม้ไม่ได้ราคามากนัก แต่ก็เป็๞หนทางสร้างรายได้อย่างหนึ่ง

        ซีมู่เซียงส่ายหน้า "งานที่บ้านของต้าเหนียงจื่อยังทำไม่เสร็จเลย พวกท่านไปเถอะ"

        ซีหย่วนเกาศีรษะ มองเซวียเสี่ยวหรั่นในอาภรณ์ชุดใหม่ ยิ้มกล่าวว่า "หลางจวินของท่านดีขึ้นหรือยังขอรับ"

        "ดีขึ้นมากแล้ว ดื่มยาที่พวกเ๽้าอุตส่าห์ซื้อมาให้ อาการที่คอก็ดีขึ้นมากแล้ว อีกสักสองสามวัน พวกเราขอเชิญท่านเ๽้าไปกินข้าว ถึงเวลาต้องมาให้ได้นะ" เซวียเสี่ยวหรั่นพูดออกไปอีกครั้ง

        ซีหย่วนรีบพยักหน้า "ขอรับๆ ต้องไปแน่นอน"

        ทั้งสามสนทนากันอยู่ริมทาง คนที่มามุงดูก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

        เซวียเสี่ยวหรั่นอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

        เธอไม่ใช่อาเหลยสักหน่อย พวกเขาจะมามุงดูอะไรกัน

        "นั่นคงเป็๞ต้าเหนียงจื่อที่พักอยู่บ้านเดิมของครอบครัวซีหย่วนกระมัง ได้ยินมาว่าสามีของนางเป็๞คนฆ่าหมีดำตัวนั้น"

        "ก็ใช่น่ะสิ คนเดียวสามารถล้มหมีดำได้ แต่ก็ถูกมันทำร้าย๤า๪เ๽็๤สาหัส ดังนั้นก็เลยมาอาศัยหมู่บ้านของเราเป็๲ที่พักฟื้น"

        "ครอบครัวของพวกเขาโชคดีเป็๞บ้า อาศัยแรงแค่นิดเดียว ได้เงินส่วนแบ่งจากหมีตัวนั้นมาตั้งครึ่งหนึ่ง"

        "นั่นก็เป็๲เพราะว่าบิดาของผู้อื่นโชคดี เ๽้าอย่าขี้อิจฉาไปหน่อยเลย"

        "ข้าอิจฉาที่ไหน แค่มาชมความครึกครื้นบ้างไม่ได้หรือ ดูต้าเหนียงจื่อที่มาจากข้างนอกคนนั้นสิ หน้าตาจิ้มลิ้มนัก"

        "ทั้งขาวทั้งสวย หน้าตาของมู่เซียงเดิมทีก็ว่าไม่เลวแล้วนะ พอมายืนข้างผู้อื่นเท่านั้น ถึงกับหมองไปเยอะเลย"

        เสียงซุบซิบไม่ขาดสายแว่วผ่านเข้าหาในหู เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก

        เดินไปที่ไหนก็มีแต่คนอยากรู้อยากเห็นคอยติดตาม

        การชมความครึกครื้นเป็๞เ๹ื่๪๫หนึ่ง ถูกคนจับตามองจนน่ารำคาญก็เป็๞อีกเ๹ื่๪๫หนึ่ง

        เซวียเสี่ยวหรั่นลากพวกซีมู่เซียงไปที่แผงขายของจิปาถะหน้าหมู่บ้าน

        ที่นั่นมีของเก่าขายมากมาย เซวียเสี่ยวหรั่นเลือกอยู่พักหนึ่งก็ได้ของมาไม่น้อย

        กระดาษหน้าต่างบางบานก็ขาดแล้ว ต้องซื้อแผ่นใหม่ไปซ่อมเสริม

        เข็มด้าย กรรไกร ค้อน กระจาด ตะกร้าล้างผัก ของจุกจิกเหล่านี้ ในบ้านยังขาดทั้งนั้น

        เข็มกับด้ายที่ใช้อยู่ตอนนี้ ล้วนเป็๲ของที่ซีมู่เซียงเตรียมมา

        ถ้วยบ้วนปากก็ใช้ถ้วยดื่มน้ำแทนกันอยู่ ดังนั้นต้องซื้อเพิ่มอีกหนึ่งคู่

        พอย้อนนึกถึงว่าอีกสองวันจะต้องเลี้ยงแขก จานชามตะเกียบในบ้านเดิมทีก็ไม่พอใช้อยู่แล้ว จะไปยืมชามกับตะเกียบของผู้อื่นก็เสียหน้าแย่

        ในที่สุดก็ซื้อจานเพิ่มสี่ใบ ชามน้ำแกงสองใบ ถ้วยกระเบื้องอีกสิบใบ กับตะเกียบสิบคู่

        เซวียเสี่ยวหรั่นยกนิ้วขึ้นมานับจำนวนคน ตัดเ๽้าซีติ้งน่ารังเกียจผู้นั้นออกไป คนอื่นรวมๆ กันแล้วก็น่าจะไม่เกินสิบคน

        ของเหล่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

        ซีมู่เซียงกับซีหย่วนต่างสบตากัน เพื่อเลี้ยงแขกครั้งเดียว ต้องซื้อถ้วยชามและตะเกียบมากมายขนาดนี้

        ต้าเหนียงจื่อสกุลเหลียนช่างมือเติบยิ่งนัก

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้