ต้วนอวิ๋นหลานขมวดคิ้วแน่น พลางครุ่นคิด “อา! คงจะเป็ลูกพี่ลูกน้องของข้า ต้วนหงอวี้ เขาบังเอิญได้รับาเ็จากไฟในครัวของข้าเมื่อไม่กี่วันก่อน”
โจวชิงหวาจึงโพล่งขึ้นมาว่า “าเ็จากการเข้าครัว! แต่เท่าที่ข้ารู้ ต้วนหงอวี้ผู้นี้ เป็ทหารใต้บังคับบัญชาของเว่ยฉีหรานมิใช่หรือ?”
หนีเจียเอ๋อร์ลอบมองต้วนอวิ๋นหราน ด้วยความเคลือบแคลงใจ
แต่เขายังคงมีท่าทีสงบนิ่ง “พี่ชิงหวาอาจจะไม่รู้ เพราะไม่เคยไปเยี่ยมจวนของข้า เื่การชงชาอะไรพวกนี้ เขามักจะเป็คนจัดการ”
ด้านโจวชิงหวา เมื่อเห็นว่าหญิงสาวมิได้กล่าวอันใด ก็รู้ว่านางคงจะเชื่อคำพูดของอีกฝ่ายเป็แน่ จึงเสนอให้ไปตรวจสอบจวนแม่ทัพเสียเลย ว่ามีผู้ต้องสงสัยหรือไม่
ซึ่งต้วนอวิ๋นหลานก็ตอบตกลง โดยมีหนีเจียเอ๋อร์ติดตามมาด้วย
พอมาถึง แม่ทัพหนุ่มก็เรียกทหารทั้งหมดออกมา แล้วสั่งให้พวกเขาถอดเสื้อ เพื่อให้โจวชิงหวาตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง แต่สุดท้าย นอกจากต้วนหงอวี้แล้ว ก็ไม่พบใครอื่นอีก
เมื่อเห็นเช่นนั้น หนีเจียเอ๋อร์ก็เกรงว่าต้วนอวิ๋นหลานจะโกรธเคืองโจวชิงหวา จึงออกหน้าขอโทษขอโพยเสียยกใหญ่ ขณะที่โจวชิงหวามิได้เอ่ยอันใด
แม้ผลจะปรากฏออกมาเช่นนี้ แต่ลึกๆ แล้วชายหนุ่มก็ยังเชื่อมั่น ว่าต้วนอวิ๋นหลานจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องเป็แน่ เขาจึงสั่งให้สือหวู่จับตาดูจวนแม่ทัพต้วนไว้ มิให้คลาดสายตา
…
จวนสกุลหนี
หมอประจำตระกูลคนใหม่ ได้เข้ามาตรวจชีพจรของสวีซื่อ เนื่องจากนางมีอาการไม่อยากอาหาร ทั้งยังรู้สึกวิงเวียน ไม่สู้ดี เมื่อตรวจอาการไปสักพัก หมอผู้นั้นก็มองนางด้วยสายตาแปลกๆ ก่อนจะลงมือตรวจสอบอีกครั้ง ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เมื่อเห็นท่าทีเช่นนั้น สวีซื่อก็เริ่มใจเสีย แล้วถามด้วยความหวั่นใจ “ทำไม ข้าเป็โรคร้ายหรือ?”
ดูเหมือนหมอจะไม่แน่ใจ จึงขอตรวจสอบอีกครั้ง
หลินมามาที่อยู่ข้างๆ เริ่มร้อนใจ ด้วยเกรงว่านายหญิงของตนจะเป็อันตราย “หมายความว่าอย่างไร ทำไมเอาแต่อ้ำอึ้งเล่า หากเ้าไร้ความสามารถก็ออกไปเสีย ข้าจะได้ตามหมอคนอื่นมาตรวจแทน...”
“หุบปาก ให้หมอเขาตรวจสอบก่อน” สวีซื่อตะคอก
หลินมามาจึงสงบคำไปทันที
หลังตรวจอย่างถี่ถ้วนแล้ว หมอจึงลุกขึ้น แล้วกล่าวแสดงความยินดี “ขอแสดงความยินดีกับสวีซื่อ นายท่านหนีกำลังจะมีบุตรอีกคนแล้วขอรับ”
สวีซื่อเบิกตากว้าง รีบถามหมอประจำตระกูลด้วยความตื่นเต้น “จริงหรือ? ตรวจสอบอีกครั้งเพื่อความแน่ใจเถอะ!”
หมอส่ายหน้า ก่อนเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางๆ “นายหญิง ข้าตรวจสามครั้งแล้ว ไม่มีอะไรผิดพลาดแน่ขอรับ”
จากนั้น ก็จ่ายยาบำรุงครรภ์ให้ก่อนจากไป
ด้านสวีซื่อ ก็ฉีกยิ้มกว้างด้วยความตื่นเต้นยินดี ด้วยฝันอยากจะมีบุตรชายมานาน และในที่สุด มันก็เป็จริงแล้ว...
ปัง!
พอหลินมามาปิดประตูแล้ว ก็รีบวิ่งเข้ามาหานายหญิงด้วยความดีใจ “นายหญิง นี่บ่าวมิได้ฝันไปใช่หรือไม่เ้าคะ? นายหญิง ท่านตั้งครรภ์แล้ว!”
สวีซื่อน้ำตานอง ยกมือขึ้นกุมหน้าท้องของตนด้วยความยินดี “ใช่! ผ่านมานานหลายปี ในที่สุดข้าก็ตั้งท้องลูกของนายท่านอีกครั้ง ์ช่างเมตตาข้าโดยแท้”
ด้วยนางมีหนีจวิ้นหว่านเป็บุตรสาวเพียงคนเดียว เื่นี้จึงเป็ดั่งหนามทิ่มแทงใจมาตลอด ทุกครั้งที่เห็นหนีเจียเฮ่อ นางก็มักจะอิจฉาอยู่ร่ำไป
เพราะไร้บุตรชาย นายท่านหนีจึงไม่เคยเห็นตนอยู่ในสายตา ไม่เคยรักนางเช่นที่รักเว่ยอี๋เหนียง
แต่ตอนนี้ นางจะมีบุตรชายให้นายท่านหนีแล้ว นางมิได้เป็รองเว่ยอี๋เหนียงอีกต่อไป!
สวีซื่อจึงเอาแต่พูดซ้ำไปซ้ำมา “ข้ากำลังจะมีลูกชายแล้ว...”
ได้ยินเช่นนั้น หลินมามาก็ยกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ
ขณะกำลังปีติยินดีกับข่าวที่ได้รับ แต่จู่ๆ สวีซื่อก็ขมวดคิ้วแน่น
“หลินมามา ข้าทำร้ายหนีเจียเอ๋อร์หลายครั้งหลายครา หากนางรู้เื่นี้เข้า จะไม่กลั่นแกล้งบุตรของข้าหรอกหรือ? ในอนาคตลูกชายของข้าต้องเป็อันตรายแน่ ข้าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อความปลอดภัยของเขา”
หลินมามาก็พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่เ้าค่ะ! เราจะต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อปกป้องนายน้อยของเรา”
หลังคิดวางแผนกันอยู่นาน หลินมามาก็เริ่มแผนการด้วยการปลอมลายมือของโจวชิงหวา เขียนจดหมายมานัดพบหนีเจียเอ๋อร์
…
ตอนเช้าตรู่ มีจดหมายฝากเสี่ยวเสวียน มาส่งให้ถึงมือหนีเจียเอ๋อร์ ซึ่งนางก็ไปตามนัดหมายโดยไม่รีรอ
ณ ชานเมือง
ท้องฟ้าโปร่ง บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี เหมาะยิ่งนักในการพักผ่อนคลายร้อน
หนีเจียเอ๋อร์ยืนอยู่ใต้ต้นไผ่กอใหญ่ นางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างเพลิดเพลิน
แต่ตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงะโดังลั่น
หนีเจียเอ๋อร์หันขวับไปมองอย่างรวดเร็ว พบว่ามีปลายกระบี่แหลมคมกำลังพุ่งตรงเข้ามา จึงเบนตัวหลบได้อย่างฉิวเฉียด
แต่บุรุษสวมหน้ากากไม่หยุดเพียงแค่นั้น หันกลับมาโจมตีอีกครั้ง
หนีเจียเอ๋อร์รีบเข้าไปหลบหลังกอไผ่ “ผู้ใดส่งเ้ามา?”
บุรุษปริศนาผู้สวมหน้ากากยืนนิ่ง จ่อปลายกระบี่ไปที่นาง “ไม่รู้! ข้าแค่ทำงานตามคำสั่งของผู้ว่าจ้างเท่านั้น”
หนีเจียเอ๋อร์สอดมือเข้าไปในแขนเสื้อ แล้วดึงกริชเล่มเล็กออกมากระชับไว้มั่น “อา… แล้วคนผู้นั้นให้เงินเ้ามากเพียงใดกัน?”
แต่มือสังหารไม่คิดจะต่อความยาวสาวความยืด จึงตวาดเสียงกร้าว “นั่นหาใช่เื่ของเ้า”
พูดจบ ก็กระโจนเข้าใส่อีกครั้ง
หนีเจียเอ๋อร์รอจนเขาเข้ามาใกล้ จากนั้นก็ใช้กริชที่ซ่อนไว้แทงสวนไปทันที ก่อนฉวยโอกาสกระชากหน้ากาก แล้วสาดผงสีขาวใส่หน้าอีกฝ่าย
ทว่าคนผู้นั้นไหวตัวทัน รีบกลั้นหายใจก่อนะโหนี แต่กระนั้นก็ยังช้าไป จึงดูจะซวนเซอยู่เล็กน้อย
เขารีบคว้าผ้าดำมาคาดปิดจมูกเอาไว้ “แม่นาง ดูเหมือนข้าจะประเมินเ้าต่ำเกินไป!”
เมื่อแผนการรับมือล้มเหลว หนีเจียเอ๋อร์ก็จนปัญญาจะต่อสู้ หันหลังวิ่งหนีในทันใด
เห็นเช่นนั้น บุรุษสวมหน้ากากก็ไล่ตามไปติดๆ
หนีเจียเอ๋อร์พยายามวิ่งหนีอย่างสุดกำลัง ณ จุดที่ไกลออกไป นางเห็นใครบางคนกำลังฝึกกระบี่อยู่... สวีเพ่ยหราน? ดวงตาของหญิงสาวเปล่งประกายไปด้วยความหวัง
“เสี่ยวเอ๋อร์?”
หนีเจียเอ๋อร์ร้องเรียกทันควัน “สวีเพ่ยหราน!”
ส่วนมือสังหาร พอเห็นชายหนุ่ม เขาก็ชะงักฝีเท้า แล้วพุ่งตัวหนีไปอีกทาง...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้