ประตูเมืองภูดาว….หรือประตูมิติที่ชาวบ้านแถวบ้านไร่สวนนฤมลเรียกขาน ประตูมิติภูดาวจะเปิดต้อนรับพวกคนไม่ดี ที่คิดร้ายกับป่า คิดร้ายกับสัตว์สงวน พวกที่ชอบตัดไม้ทำลายป่า
แต่แท้ที่จริงแล้ว….มันไม่ใช่ประตูมิติภูดาวกลืนกินคนใจบาปอย่างที่ถูกเล่าขานกันต่อๆมา แต่มันคือประตูมรณะที่พรายเสือสมิงร่ายมนตร์สร้างประตูนี้ขึ้นมาเพื่อหาเหยื่อมาให้มันกลืนกินนั่นเอง…..
ประตูมิตินี้จะถูกเปิดออกเฉพาะวันพระใหญ่เท่านั้น นั่นคือวันขึ้น15ค่ำและแรม15ค่ำ โดยในวันพระใหญนั่นต้องมีวันสำคัญทางศาสนาประกอบอยู่ด้วย ได้แก่ วันมาฆบูชา, วันวิสาขบูชา, วันอาสาฬหบูชา, วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา
หนึ่งปี 365วันหรือ366วัน ประตูมิติจะถูกเปิดออกและถูกปิดแค่5ครั้งต่อหนึ่งปีเท่านั้น……
และประตูมิติภพนี่จะถูกทำลายและสูญสิ้นไปก็ต่อเมื่อ คนที่ร่ายมนต์เปิดประตูมิติภพได้ตายลงไปแล้ว….
…………………………………………………
“ไอ้เข้มมันออกไปล่าสัตว์…เย็นๆค่ำๆนู้นถึงจะกลับมา…”
“เอ็งก็อยู่ที่บ้านกับข้านี่แหละ…”
“อย่าเที่ยวออกไปเดินเพ่นพ่าน…”
“ถ้าไม่อยากโดนเสือขย้ำตาย…”สิ้นเสียงขำขันอย่างทีเล่นทีจริงของลุงสิงห์ผมก็ยิ้มแหยๆให้เขาไป
และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่เขาพูดมาเมื่อกี้เป็คำขู่หรือคำเตือนผมกันแน่
แต่ผมอยากกลับบ้าน อยากกลับไปรายงานให้พ่อของผมรับรู้
“ลุงไปส่งผมได้ไหมครับ…?”ผมเอ่ยบอกลุงสิงห์ไปอย่างขอร้อง แกก็เงยหน้าจากครกไม้ที่กำลังตำหมากอยู่เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม
“ได้สิ….แต่เอ็งต้องรออีกหลายเดือนเลยล่ะ…ถึงเอ็งจะกลับได้….”
“ทำไมกันครับ…ทำไมต้องรออีกหลายเดือน?”ผมเอ่ยถามลุงสิงห์ไปแต่เขากลับทำเพียงแค่กระตุกรอยยิ้มกริ่มให้ผมแทนคำตอบทุกคำถามที่ผมถามแกไป
ทำให้ผมกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก ใช่คนเดียวที่จะตอบผมได้ก็คือพี่เข้ม พี่เข้มคนเดียวเท่านั้น
พรึบ
“ผมอยากเข้าห้องน้ำน่ะครับ…”ผมเอ่ยบอกลุงสิงห์ไปแกหันมามองหน้าผมพร้อมกับยิ้มขำออกมา
พรึบ
“ไหนกันครับ…ห้องน้ำ..?”ผมเอ่ยถามลุงสิงห์ไปอย่างสงสัยที่แกชี้นิ้วไปทางหน้าบันไดบ้านพี่เข้ม ผมก็มองตามแกไปแต่ก็พบเพียงแค่จอบไม้อันเดียวที่วางอยู่ตรงนั้น
“ก็เอ็งปวดขี้ไม่ใช่หรือไง?”ลุงสิงห์ถามผมเสียงเข้ม ผมก็พยักหน้าเป็คำตอบให้แก
“ที่นี่ไม่มีห้องน้ำ…ใครปวดท้องหนักก็ถือจอบเข้าไปในป่าด้านนู้นกันทั้งนั้น….”
“จะจริงเหรอครับ?”
“ที่นี่มันบ้านป่านะ….ไม่ใช่เหมือนโลกสมัยใหม่ที่เอ็งมา…”
“โลกสมัยใหม่ที่ผมมาหรือครับ?”ผมขมวดคิ้วถามลุงสิงห์อย่างสงสัย กับคำพูดที่กำกวมของแก โลกสมัยใหม่กับบ้านป่า?
“ที่นี่ไม่ใช่หมู่บ้านภูดาวหรือครับ?”ผมถามลุงสิงห์อย่างสงสัย แกก็ยิ้มขำหัวเราะผมกลับมาก่อนจะปลายตามองผมด้วยแววตาเป็ประกาย
“ใช่…ที่นี่คือหมู่บ้านภูดาว…”ลุงสิงห์ตอบผมมา นั่นไงก็หมู่บ้านที่ผมเคยได้ยินชื่อ แต่เอ๊ะ?
“ภูดาวเป็เพียงแค่ชื่อหุบเขาหนิครับ…ไม่มีหมู่บ้านตอนที่ผมเดินสำรวจกับทางเ้าหน้าที่กรมป่าไม้?”ผมบอกลุงสิงห์ต่อ ลุงแกก็หัวเราะร่วนออกมาอย่างสิ่งที่ผมพูดเป็เื่เล่าตลกอย่างงั้นแหละ
“หึ….ไว้เอ็งจะรู้คำตอบในสิ่งที่เอ็งอยากรู้เอง…”
“เลิกหายปวดท้องแล้วหรือไง?”ลุงสิงห์ถามผมต่อ ผมก็ทำหน้าเหวอนั่นสิ เมื่อกี้ผมโกหกเขาไว้นี่น่าว่าปวดท้องหนักน่ะ
“เอ่อ…ใช่ครับ…งั้นผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ…”
“เอออ…รีบไปรับกลับจะได้มากินข้าว…ไอ้เข้มมันเตรียมไว้ให้เอ็งแล้ว…”
“ครับ…เดี๋ยวผมจะรีบไปรีบกลับนะครับ^_^”ผมบอกลุงสิงห์พร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและสวมใส่รองเท้าคอนเวิดของผมและเดินออกมาจากแคร่ไม้หน้าบ้านลุงสิงห์พ่อของพี่เข้มทันที พร้อมกับสอดส่องสายตามองไปรอบๆที่แห่งนี้ด้วย
มีบ้านไม้อยู่ไม่ถึงสามสิบหลังครัวเรือนแต่ละบ้านสร้างห่างกันพอสมควรมีก็แต่บ้านของพี่เข้มกับลุงสิงห์นี่แหละที่สร้างอยู่ใกล้กัน
และก็มีช้างใหญ่สองสามตัวถูกล่ามไว้กับเสาไม้ ผมก็เดินไปเรื่อยๆสายตาของชาวบ้านที่นี่ที่เดินผ่านผมก็มองมาที่ผมด้วยสายตาแปลกๆ
เหมือนผมเป็พวกสิ่งแปลกประหลาดที่ผิดแปลกไปจากพวกเขาอย่างงั้นแหละ
ผมก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มแหยๆให้เขากลับไปและรีบเดินออกไปทางป่าไม้ที่เป็แปลงผักสวนครัวของชาวบ้านที่นี่อยู่หลายแปลงอย่างรวดเร็ว
ชาวบ้านที่นี่ก็แปลกเหมือนกันนะ ใช้ชีวิตเหมือนคนหนึ่งร้อยกว่าปีก่อน ใช้ม้าใช้เกวียนเป็ยานพาหนะแทนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในสมัยนี้
หรือว่าหมู่บ้านนี่จะเป็หมู่บ้านที่ตกสำรวจจริงๆ ว่าแต่ที่หมู่บ้านนี่มันอยู่ตรงส่วนไหนของภูมิประเทศกันล่ะ
กลับไปคราวนี้ผมจะสืบดูและให้ทางการเข้ามานำพาความเจริญให้คนพวกนี้เพราะที่นี่ไม่มีน้ำไฟฟ้าเข้าถึงเลย
“หรือว่า…คนพวกนี้จะเป็ชาวบ้านที่หนีเข้าประเทศ?”ผมพึมพำออกมาอย่างสงสัย เพราะถ้าเป็พวกที่ลับลอบเข้าประเทศของผมผิดกฏหมายและคนพวกนี้จะต้องโดนทางการจับและส่งตัวกลับประเทศของพวกเขาเป็แน่
แต่พี่เข้มกับลุงสิงห์พวกเขาใจดีอุตส่าห์ช่วยชีวิตผมให้รอดพ้นจากเสือใหญ่ตัวนั้น ผมจะทรยศพวกเขาได้เหรอ
พรึบ
ซ่าาาาาาาาาา
“น้ำตก?”ผมพึมพำออกมาก่อนจะหยุดมองภาพเบื้องหน้าอย่างตกตะลึงให้ความสวย น้ำตกที่ไหลรินลงมาจากยอดูเาสองลูกที่อยู่ติดกันลงสู่พื้นน้ำหนองด้านล่างน้ำสีใสมองเห็นตัวปลา
ทำให้ผมละสายตาจากภาพสวยงามเบื้องหน้านี้ไปไม่ได้จริงๆ และที่ผมไม่ได้ถือติดมือมาเพราะผมไม่ได้ปวดท้องหนักอย่างที่โกหกลุงสิงห์ไปนั้นคือจอบ ลุงแกคงจะงงๆและสงสัยในตัวผมแน่
“อาบน้ำสักหน่อยดีกว่า^^”ผมพูดขึ้นอย่างดีใจก่อนจะค่อยๆเดินลัดเลาะไปตามโขนหินเพื่อไปให้ถึงตัวของลำธาร
พรึบ
จ๋อม
ผมเดินลงน้ำไปด้วยที่ท่อนบนเปลือยเปล่าแต่ท่อนล่างมีกางเกงขาสั้นที่คาดว่าพี่เข้มน่าจะเป็คนเปลี่ยนให้ผม
ผมก็ยิ้มร่าก่อนจะดำผุดดำว่ายอยู่ในลำธารแห่งนี้อย่างสบายอารมณ์ น้ำใสเย็นเฉียบทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายเป็ที่สุด
ผมไม่เคยเห็นน้ำที่ไหนใสขนาดนี้มาก่อนเลยนะ^_^
พรึบ
“เห้ย!…แสงเดือน!!”เสียงเข้มที่ฟังดูคุ้นหูของผมเอ่ยขึ้นมาอย่างใเป็จังหวะเดียวกับที่ผมดีดตัวขึ้นมาสู่เหนือผิวน้ำพอดี เลยทำให้ได้ยินเสียงของผู้ชายที่ร้องอุทานออกมาอย่างในั่นได้อย่างชัดเจน
จนทำให้ผมรู้ทิศทางของเสียงได้ ผมจึงค่อยๆว่ายน้ำอย่างเเผ่วเบาเพื่อไปยังทิศทางของเสียงที่อยู่ด้านซ้ายมือของผม และผมก็พบเข้ากับผู้ชายที่ท่อนบนเปลือยกายหน้าท้องเต็มไปด้วยหมัดกล้ามแน่นผิวสีน้ำผึ้งบึกบึนล่ำสันสมเป็ชายชาติไทย
เขากำลังอึ้งใกับภาพเบื้องหน้าของเขาอยู่ นั่นคือร่างของผู้หญิงขาวนวลเปล่งปลั่งวัยแรกแย้มที่หน้าอกของเธอใหญ่โตประดับไปด้วยยอดปทุมถันสีชมพูและไหนจะความเป็สาวที่มีเนื้อโหนกนูนอวบอิ่มของเธออีก
อย่าว่าแต่พี่เข้มเลยที่ใ ผมเองก็ใไม่ต่างจากเขา
พรึบ
“เอ็งทำอะไรของเอ็งเนี่ยนางเดือน!”พี่เข้มรีบหันหลังให้ผู้หญิงคนนั้นทันทีที่เขาตั้งสติได้ และเขาก็เอ่ยถามเธอไป ผมเองก็ค่อยๆพาตัวเองไปแอบหลังโขดหินเพื่อสังเกตสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ผู้หญิงคนนั้นทั้งสวยทั้งขาว ผู้ชายหล่อแมนทั้งแท่งอย่างพี่เข้มก็คงจะหลงใหลในเรือนร่างของเธอ
ที่เธอมาเชื้อเชิญเขาขนาดนั้น ผู้ชายที่ไหนจะกล้าปฏิเสธผู้หญิงที่แก้ผ้าต่อหน้าแบบนี้ล่ะจริงไหม เธอเปิดทางให้ขนาดนี้แล้ว คงจะเป็พวกโง่เท่านั้นแหละที่ปล่อยของดีแบบนี้หลุดมือไป
พรึบ
“เดือนรักพี่เข้มนะจ้ะ…”
“รักมานานแล้ว…”เสียงหวานของเธอเปล่งออกมาพร้อมกับร่างเล็กที่อวบอั๋นที่ขาวโพลนของเธอเดินไปซ้อนหลังของพี่เข้มพลางใช้หน้าอกที่ใหญ่โตของเธอถูเสียดสีไปกับแผ่นหลังกว้างของพี่เข้ม
ทำไมผมรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจแบบนี้ ทำไมผมรู้สึกหวงพี่เข้มอย่างงั้นเหรอ
“อีเดือน…เอ็งอย่าทำแบบนี้…”
“ทำไมล่ะจ้ะ…ฉันยินดีที่จะเป็เมียของพี่…”
“ยอมเป็ของพี่เข้มแค่คนเดียว…”
ร่างเล็กใช้หน้าอกของเธอถูเสียดสีไปกับร่างเปลือยท่อนบนของพี่เข้มไปอย่างยั่วยวนพร้อมครวญครางเสียงกระเส่านั่นออกมา ผมรีบหันหลังให้สองคนนั้นอย่างไว
ผมทำใจดูแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว….
ผมเจ็บ ผมเจ็บเหลือเกิน….
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้