“ได้”
เสิ่นเสวียนพยักหน้า เขาไม่ได้แปลกใจที่เสวียนหลิงเอ่อร์รู้เกี่ยวกับเสิ่นเสี่ยวเม่ย
ชั่วขณะที่โลงศพเข้าไปในมิติ นางคงเตรียมไม้ตายของตนเองเอาไว้แล้ว
เพราะผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกับผู้เฒ่าจี๋เล่อได้ รู้เื่นี้คงไม่แปลกอะไร
จากนั้นคลื่นพลังมิติพลันสั่นไหว ร่างของเสิ่นเสี่ยวเม่ยปรากฏขึ้นข้างๆ ส่วนเสิ่นเลี่ยนยังคงฝึกฝนอยู่ภายในมิติต่อไป
เสิ่นเลี่ยนคือไม้ตายของเสิ่นเสวียน จะเกิดผลลัพธ์สูงสุดเมื่อได้แสดงอานุภาพใน่เวลาที่สำคัญที่สุด
เสวียนหลิงเอ่อร์ดูมีอายุราวยี่สิบปี หน้าตางดงาม ผิวขาวเนียนละเอียด ดูอย่างไรก็เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ เสิ่นเสี่ยวเม่ยมีอายุเพียงสิบเอ็ดปี แม้นางจะเป็หญิงงามเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับเสวียนหลิงเอ่อร์แล้ว นางยังคงด้อยกว่ามาก
“พี่สาวคนนี้คือ?”
แม้จะเจอกันครั้งแรก แต่เสิ่นเสี่ยวเม่ยกลับไม่ได้รู้สึกแปลกหน้ากับเสวียนหลิงเอ่อร์เลย ในทางกลับกันนางรู้สึกสนิทสนมเป็อย่างมาก
“น้องเสี่ยวเม่ย เรียกข้าว่าพี่หลิงเอ่อร์ก็ได้ ข้าคือคนที่อยู่ในโลงศพโลงนั้นเอง”
เสวียนหลิงเอ่อร์กล่าวกับเสิ่นเสี่ยวเม่ยด้วยรอยยิ้ม
“หา! ในโลงศพ?”
เสิ่นเสี่ยวเม่ยใมาก อีกฝ่ายดูเหมือนคนมาก ทำไมถึงอยู่ในโลงศพได้
“จิติญญาของนางค่อนข้างเด่นชัดจึงไม่ต่างจากคนสักเท่าไร แต่นางคือิญญา”
เสิ่นเสวียนที่ยืนอยู่ข้างๆ อธิบาย เขาไม่ได้ใเลย
“พูดมากจริงๆ”
เสวียนหลิงเอ่อร์ปรายตามองเสิ่นเสวียน จากนั้นจึงหันมองเสิ่นเสี่ยวเม่ยพลางกล่าว “ข้าเป็ิญญาจริงๆ รังเกียจพี่หลิงเอ่อร์ไหม”
“ไม่ ไม่ ไม่ได้รังเกียจ”
เสิ่นเสี่ยวเม่ยส่ายหัวทันที นางจิตใจดีมาก แม้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็ิญญา แต่ก็มีเพียงความเห็นใจ
“พวกเรามีวาสนาต่อกัน ไปเถอะ พี่หลิงเอ่อร์จะพาเ้าไปด้านใน”
เสวียนหลิงเอ่อร์ล่องลอยไปตรงหน้าเสิ่นเสี่ยวเม่ย จากนั้นก็ดึงมือเสิ่นเสี่ยวเม่ยให้เดินเข้าไปยังูเาหินสีขาวเบื้องหน้า
เสิ่นเสวียนยืนอยู่ด้านหลัง มองสตรีเป็สิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์ ตนเองไม่ได้กล่าวอะไรเลย อีกฝ่ายเพิ่งพบหน้าก็กลายเป็มิตรสหายกันเสียแล้ว ทิ้งผู้มีบุญคุณอย่างเขาไว้ข้างหลัง
ูเาหินสีขาวเบื้องหน้านี้ กล่าวกันตามตรงคือเขาหัวโล้นลูกหนึ่ง มันมีความสูงราวหนึ่งลี้ ไม่สูงไม่ต่ำเกินไป แต่กลับไม่มีต้นไม้ใบหญ้าขึ้นเลย มันเกิดขึ้นจากหินสีขาวทับถมกันเป็จำนวนมาก พื้นผิวที่ลาดเอียงอาณาเขตกว้างใหญ่เท่าไรไม่รู้ รู้เพียงมันกว้างใหญ่มาก
เสวียนหลิงเอ่อร์จับมือเสิ่นเสี่ยวเม่ยเดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วราวกับหายตัวได้ เสิ่นเสวียนที่ตามหลังอยู่แทบเดินตามไม่ทัน
เพียงแค่ความรวดเร็วนี้ก็เห็นได้แล้วว่าพลังของเสวียนหลิงเอ่อร์คนนี้ไม่ธรรมดาเลย
แต่ก็ถูกต้องแล้ว คนที่ทำให้จระเข้เขี้ยวดาบขั้นเจ็ดหวาดกลัวได้จะเป็คนอ่อนแอได้อย่างไร
“คุยกันก่อน ข้าเพียงแค่พาเ้าไปหาเด็กตัวน้อยคนนั้นเท่านั้น แต่ข้าไม่ได้บอกว่าจะช่วยเหลือเ้า หากเผชิญกับอันตรายเ้าต้องจัดการด้วยตนเอง”
เสียงของเสวียนหลิงเอ่อร์ดังขึ้นจากด้านหน้า
“อืม ข้าเข้าใจแล้ว”
เสิ่นเสวียนพยักหน้า เข้าใจความหมายของอีกฝ่าย
“เบื้องหน้าคือทางเข้า เดินเข้าไปในนั้น”
ขณะที่กล่าว อีกฝ่ายพาเสิ่นเสี่ยวเม่ยเดินไปถึงปากถ้ำแล้ว จากนั้นก็เดินเข้าไป
เสิ่นเสวียนไม่รอช้า ก้าวตามเข้าไปทันที โชคดีที่อีกฝ่ายอยู่ห่างไปได้มากสุดคือสามจั้ง ไม่อย่างนั้นคงโดนทิ้งไปแล้ว
เมื่อเข้าไปในถ้ำก็พบเส้นทางมากมายไม่รู้ไปที่ไหนบ้าง ถ้ำแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ ยังมีร่องรอยของการใช้ของมีคมอยู่เลย เมื่อลูบไปบนผนังคล้ายจะััได้ถึงการก่อสร้างถ้ำเมื่อพันปีก่อน
พวกเขาเดินตามเส้นทางสายหนึ่งเข้าไป แต่เพิ่งเข้าไปได้ไม่ไกลเสวียนหลิงเอ่อร์พลันหยุดเท้าลง
“น้องเสี่ยวเม่ย พี่หลิงเอ่อร์ต้องพักแล้ว เ้าเดินตามพี่ชายเ้าไปดีๆ เขาเป็คนดีใช้ได้เลย”
เสวียนหลิงเอ่อร์กล่าวกับเสิ่นเสี่ยวเม่ย
“เ้าเดินตามเส้นทางนี้เข้าไป หากเจอทางแยกให้เลี้ยวขวา หลังจากเลี้ยวไปแล้วห้าครั้ง เจอทางแยกอีกให้เลี้ยวซ้าย เดินตามวิธีการนี้ไปเรื่อยๆ แล้วเ้าจะหาเจอ ข้าออกมาข้างนอกนานนักไม่ได้ ต้องกลับไปพักก่อนแล้ว”
เมื่อกล่าวจบ ร่างของนางก็กลายเป็ลำแสงและสลายไปกลางอากาศ โดยที่เสิ่นเสวียนไม่ทันได้กล่าวอะไรเลย
“นี่?”
เสิ่นเสวียนะโเรียกอีกฝ่าย แต่ไม่ได้ยินเสียงของนางอีก
ยิ่งเป็แบบนี้เขายิ่งรู้สึกกลัว
“พลังแข็งแกร่งจริงๆ!”
เสิ่นเสวียนกล่าวพึมพำ อีกฝ่ายสามารถเข้าไปในมิติได้ตามใจโดยไม่ต้องผ่านเขาเลย พลังระดับนี้แม้แต่เซียนทั่วไปยังทำไม่ได้เลยหรือเปล่า ทว่าอีกฝ่ายกลับทำได้
“ท่านพี่ แล้วพี่สาวคนนั้นล่ะ”
เสิ่นเสี่ยวเม่ยเห็นเสวียนหลิงเอ่อร์หายไปจึงถามเสิ่นเสวียน
“นางเข้าไปพักในโลงศพแล้ว นางออกมาข้างนอกนานนักไม่ได้ รอให้ตื่นอีกครั้งคงออกมาใหม่”
เสิ่นเสวียนกล่าวอธิบายกับเสิ่นเสี่ยวเม่ย
“พวกเราไปกันเถอะ”
เสิ่นเสวียนดึงเสิ่นเสี่ยวเม่ยให้เดินหน้าต่อไป
ภายในถ้ำแห่งนี้ค่อนข้างมืด ไอิญญาหนาแน่น ทว่าไอิญญาเช่นนี้เหมาะสมกับเสิ่นเสวียนและเสิ่นเสี่ยวเม่ยเป็อย่างมาก ตามที่เสวียนหลิงเอ่อร์กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ให้เลี้ยวขวาก่อนแล้วค่อยเลี้ยวซ้าย ค่อยๆ เดินเข้าไปด้านใน
ภายในถ้ำขรุขระและคดเคี้ยวเป็อย่างมาก ไม่รู้ว่าเดินไปนานแค่ไหนแล้ว เสิ่นเสวียนใช้พลังจิติญญาััเข้าไป พลันรับรู้ได้ถึงไอพลังของมนุษย์
หลังจากรับรู้ถึงไอพลังนั้น เสิ่นเสวียนก็ดึงเสิ่นเสี่ยวเม่ยเข้าหาตนเองทันที และพยายามเก็บซ่อนไอพลังอย่างสุดความสามารถ
“เสี่ยวเม่ย เ้าเข้าไปด้านในก่อน คนที่อยู่เบื้องหน้าคือจี๋เล่อน้อยคนนั้น เขามีพลังแข็งแกร่งมาก เ้าอยู่ข้างนอกคงไม่สะดวกเท่าไร”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับเสิ่นเสี่ยวเม่ยเบาๆ กลัวว่าหากเสียงดังไปแล้วอีกฝ่ายจะรู้ตัว
ตนเองมาถึงที่นี่เพราะการชี้นำของเสวียนหลิงเอ่อร์ คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายก็มาถึงที่นี่ด้วยเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายมาถึงที่นี่ได้ต้องมีการเตรียมตัวมาไม่น้อย
“อืม ท่านพี่ระวังตัวด้วย”
เสิ่นเสี่ยวเม่ยพยักหน้า นางรู้ดีว่าตนเองอาจทำให้เสิ่นเสวียนเป็ห่วงได้
คลื่นพลังมิติปรากฏขึ้นเบาๆ เสิ่นเสี่ยวเม่ยโดนดึงเข้าไปอยู่กับเสิ่นเลี่ยนและโลงศพสีแดงภายในมิติอีกครั้ง
ขณะที่เสิ่นเสวียนคิดจะเดินเข้าไปอีกสองก้าว พลังจิติญญาของเขาพลันััได้ถึงไอพลังของอีกคนหนึ่ง
“ผู้าุโจี๋เล่อน้อย ไม่เจอกันนาน สบายดีไหม!”
คนที่กล่าวคือบุรุษหนุ่มที่าามารทิศเหนือส่งมา ก่อนหน้านี้เสิ่นเสวียนสังเกตเขาอยู่ เขามีอายุสิบแปดสิบเก้าปีแต่กลับมีพลังยุทธ์ขั้นบรรพบุรุษระดับสูงสุดแล้ว นับเป็หนึ่งในผู้แข่งขันที่มีพลังแข็งแกร่งมาก
แล้วก็เห็นว่าบุรุษหนุ่มผู้นั้นเดินเข้ามาในถ้ำจากอีกด้านหนึ่ง เขาอยู่ห่างจากจี๋เล่อน้อยไปเพียงสามจั้ง เขายืนอย่างสง่างามอยู่ตรงนั้น ไม่รู้สึกกดดันต่อพลังอำนาจของจี๋เล่อน้อยเลย
“คุณชายน้อยซูก็มาด้วย”
จี๋เล่อน้อยเห็นบุรุษหนุ่มเดินเข้ามาจึงยิ้มให้น้อยๆ เดิมทีเขาคิดว่าจะได้เจอกับเสิ่นเสวียนก่อน คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับคุณชายน้อยซูก่อน
บุรุษหนุ่มผู้นี้แซ่ซู มีชื่อว่าซูเหยียน ผู้คนเรียกเขาว่าคุณชายน้อยซู คุณชายน้อยซูเป็ผู้ที่โดดเด่นท่ามกลางคนอายุน้อยในหุบเขาสุขาวดี ภายหน้าเขาต้องได้กลายเป็ผู้ยิ่งใหญ่เหมือนาามารทิศเหนืออย่างแน่นอน แต่ในสายตาของจี๋เล่อน้อย แม้คุณชายน้อยซูจะมีพร์โดดเด่น แต่คงยิ่งใหญ่ได้ในภายหน้า ไม่ใช่ตอนนี้
เขาในตอนนี้ยังไม่เห็นอีกฝ่ายในสายตา หรือกล่าวได้ว่าไม่เห็นอีกฝ่ายเป็คู่ต่อสู้เลยด้วยซ้ำ
“ท่านพ่อเคยบอกว่า หากได้พบเจอผู้าุโจี๋เล่อน้อยให้ร่วมมือกับท่าน มิอาจคิดเป็ศัตรูได้ ไม่ทราบว่าผู้าุโจี๋เล่อน้อยคิดเห็นอย่างไร”
ซูเหยียนกล่าวกับจี๋เล่อน้อย
“ไม่ต้องหรอก ข้าคุ้นชินกับการไปไหนมาไหนลำพัง เ้าไปเถอะ”
จี๋เล่อน้อยโบกมือปฏิเสธน้ำใจของซูเหยียน แล้วเดินหน้าต่อไป
ซูเหยียนไม่ได้โกรธ แต่เขากลับยิ้มน้อยๆ พลางเดินตามจี๋เล่อน้อยเข้าไปด้านใน
ทุกเส้นทางที่นี่ล้วนแล้วแต่แลกเปลี่ยนมาด้วยเืและชีวิตของคนรุ่นก่อน พวกเขาจึงเดินเข้ามาได้อย่างสะดวกสบายเช่นนี้ ไม่อย่างนั้นอันตรายที่แอบซ่อนอยู่ภายในถ้ำคงทำให้หลายคนต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่
เสิ่นเสวียนเดินตามหลังไป ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น ค่อยๆ ย่างเท้าไปทีละน้อย
ขณะที่เขากำลังระแวดระวังอยู่นั้น พลังจิติญญาของเขาก็ััไปรอบๆ และมีอีกคนหนึ่งเข้ามาอยู่ในอาณาเขตััของเขา