การมาเยือนของชายชราทำให้เย่เฟิงอารมณ์เสียอย่างไม่ต้องสงสัยเขาเพิ่งกลับถึงบ้าน ้าจะพักผ่อนเสียหน่อย ยังจะมีคนตามมาหาเื่อีก แบบนี้จะไม่ให้อารมณ์เสียได้อย่างไร?
“น้าชูชู เดี๋ยวผมออกไปธุระครู่หนึ่งนะครับ”
เย่เฟิงหันไปพูดกับชูชู ก่อนเดินลงบันไดไป
“เอ๊ะ?”
ชูชูไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้รีบร้อนขนาดนั้น แม้จะแปลกใจ แต่แน่นอนว่าเธอไม่ได้ห้ามเขา
ขณะเดียวกันประตูห้องนอนถูกเปิดออก
“หว่านเอ๋อร์ เย่เฟิงเพิ่งลงไปเมื่อกี้เอง...”
ชูชูอธิบาย
“ค่ะ มีคนน่าสงสัยอยู่หน้าบ้าน เดี๋ยวหนูจะลงไปดูซักหน่อย”
หลงหว่านเอ๋อร์เปิดประตูออกมา เธอจิตหยั่งมีรัศมีถึงสองร้อยห้าสิบเมตร เธอจึงรับรู้ถึงตัวตนของชายชราชุดขาวก่อนเย่เฟิงเสียอีก
หญิงสาวหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับชุดนอนเนื้อบาง ก่อนวิ่งลงบันไดไป
“ฉันไปด้วย”
ซูเมิ่งหานตามหลังเธอมาอย่างร้อนใจ
“อะไรกัน...”
ชูชูงุนงงกับการกระทำของทั้งสามคน แต่เธอก็ฉลาดพอจะคาดเดาได้ว่ากำลังมีใครบางคนมาที่นี่
‘จากระดับพลังของฉัน หากลงปคงเป็การสร้างปัญหาให้พวกเขาเปล่าๆ...’
เมื่อชูชูคิดได้ดังนั้นจึงก้าวไปทางระเบียงชั้นบนของบ้านเพื่อคอยสังเกตสถานการณ์จากระยะไกล
......
“เ้าเด็กตระกูลเย่ โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้!”
ภายนอกตัวบ้าน ชายชราชุดขาวะโเสียงดังก้องจนได้ยินไปทั่วหมู่บ้าน
ยามหนุ่มที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลอึดอัดใจอย่างยิ่ง เขาพยายามขัดขวางชายชราคนนี้แล้วแต่ไม่สำเร็จ คาดไม่ถึงว่าชายชราคนนี้จะมาหาเื่เย่เฟิง
“สุนัขเฒ่าตัวไหนมาเห่าอยู่หน้าบ้านฉันกัน?”
เย่เฟิงเดินออกจากบ้าน เหลือบเห็นชายชราชุดขาวซึ่งประดับลวดลายหยินหยางราวกับพวกนักพรตลัทธิเต๋า
ในเมื่อชายชรามึคิดให้เกียรติเขา เดินเข้ามาหาเื่กันโต้งๆ ชายหนุ่มก็ไม่จำเป็ต้องให้เกียรติอีกฝ่ายเช้นกัน จึงได้ะโว่า ‘สุนัขเฒ่า’ ออกมาอย่างไม่ไว้หน้า
“ท่านอาจารย์?”
ทันใดนั้น ร่างโปร่งแสงก็ได้ลอยออกมาจากตัวบ้านพร้อมกับเปล่งเสียงออกมา ซึ่งมีเพียงเย่เฟิงเท่านั้นที่ได้ยิน
ร่างโปร่งแสงนั้นคือดวงิญญาของหลิงเฉิน ใบหน้าของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
อาจารย์งั้นเหรอ?
เมื่อเย่เฟิงได้ยินจึงรู้ว่าชายชราคนนี้เป็คนของตำหนักไท่จี๋ แต่เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาหาเขาเพื่ออะไร?
“เ้าเด็กตระกูลเย่ ฉันคือหลี่เสวียน ผู้าุโของตำหนักไท่จี๋ รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงมาหาแก?”
ชายชราเค้นเสียงถามเย่เฟิงอย่างตรงไปตรงมา
“โทษทีนะ ผมจำไม่ได้ว่าเคยไปมีเื่กับตำหนักไท่จี๋ตอนไหน แต่ถ้าคิดจะมาหาเื่กันจะก็ลองดูก็ได้”
เย่เฟิงหรี่ตา จิตหยั่งรู้ของเขาค้นพบว่าชายชรานามหลี่เสวียนคนนี้มีระดับวรยุทธ์ถึงเก้าสิบปี ซึ่งด้อยกว่าเย่เวิ่นเทียน หากเกิดการปะทะกันเย่เวิ่นเทียนย่อมรับมือได้
ยิ่งกว่านั้นตอนนี้เย่เฟิงยังมีหลงหว่านเอ๋อร์และพรรคพวกคนอีกอยู่ด้วย
แต่จุดสำคัญอยู่ที่ชายชราผู้นี้คงเป็คนที่เคยช่วยชีวิตหลิงเฉินไว้จากเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อก่อน ถ้าเป็ไปได้เย่เฟิงก็ไม่อยากขัดแย้งกับอีกฝ่าย
“หึ”
หลี่เสวียนแค่นเสียง “ตำหนักไท่จี๋ของฉันไม่เคยมีเื่กับแกอยู่แล้วแต่ตอนที่อยู่ทะเลตะวันออกแกใช้ศิษย์ของฉันเป็โล่จนเขาต้องตาย เื่นี่ฉันยอมไม่ได้!”
เย่เฟิงได้ยินดังนั้นก็นึกแปลกใจ ใช้เป็โล่งั้นเหรอ?
เห็นได้ชัดว่าหลิงเฉินตั้งใจเข้ามารับกระบี่เพื่อช่วยเขาเอง ซ้ำตอนนี้ยังกลายเป็ผู้ฝึกิญญาและล่องลอยอยู่ข้างกายเขา ข้อกล่าวหาพวกนี้บางทีอาจเป็พวกผู้ฝึกวรยุทธ์ที่อยู่ในเหตุการณ์ปล่อยข่าวออกไปงั้นเหรอ?
แม้จะเป็เหตุการณ์คล้ายกัน แต่การถูกใช้เป็โล่หรือการยอมเป็โล่ด้วยตัวเองต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ฟ้าดินเป็พยาน เย่เฟิงไม่มีทางทำเื่สกปรกอย่างการใช้คนอื่นเป็โล่เหมือนที่หลงโม่หรานทำแน่!
“ผู้าุโ ผมเสียใจที่ต้องบอกว่า สิ่งที่คุณได้ยินมานั้นเป็เพียงการใส่ร้าย”
เย่เฟิงหรี่ตา “อีกสองเดือนข้างหน้า ผมจะพิสูจน์ให้คุณดู”
อีกสองเดือนข้างหน้า หลิงเฉินจะสามารถสร้างกายหยาบขึ้นมาได้เขาจะให้เด็กหนุ่มไปเล่าเื่ราวแก่ผู้าุโหลี่เสวียนด้วยตัวเองนอกจากวิธีนี้คงไม่มีวิธีการอื่นที่จะสามารถแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ได้
“หึ อีกสองเดือนงั้นเหรอ แกจะพิสูจน์ยังไง?”
หลี่เสวียนไม่คิดเชื่อคำพูดเขา น่าเสียดายที่ชายชราคนนี้ไม่สามารถมองเห็นดวงิญญาของหลิงเฉินที่โบกมือให้อย่างร้อนใจ ชายชรารู้สึกเพียงว่าบรรยาการรอบข้างดูหม่นหมองอย่างประหลาด
“แค่ให้หลิงเฉินปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าคุณ ความจริงทุกอย่างก็จะปรากฏ”
เย่เฟิงโบกมือให้หลิงเฉินสงบลง สภาพของเขาในตอนนี้ มีเพียงผู้ฝึกวิถีเซียนที่มีพลังบ่มเพาะสิบปีขึ้นไปเท่านั้นจึงจะสามารถใช้จิตหยั่งรู้ในการรับรู้ถึงการคงอยู่ของเขาได้
ไม่ว่าหลิงเฉินจะะโอาจารย์เขาเสียงดังเพียงใด หลี่เสวียนก็ไม่มีทางได้ยิน
“เหลวไหล”
หลี่เสวียนสีหน้ามืดครึ้ม ศิษย์ของเขาตายไปแล้ว กระทั่งศพก็ยังถูกส่งไปที่ตำหนักไท่จี๋ เย่เฟิงยังจะบอกว่าให้หลิงเฉินมาหาเขาด้วยตัวเอง มันไม่เหลวไหลเกินไปหน่อยเหรอ?
“ผมของถามได้ไหมว่าใครบอกคุณว่าผมใช้น้องหลิงเฉินเป็โล่?”
เย่เฟิงรู้ว่าอีกฝ่ายไม่เชื่อ เขาเพียงยิ้มออกมา “คนของสำนักอิ่นเซียน? สำนักหมัดเทวา? หรือวิหารดาบ์? นี่ผู้าุโหลี่ คนเหล่านี้ล้วนมีเื่บาดหมางกับตระกูลเย่ แล้วคุณยังจะเชื่อคำพูดใส่ร้ายของพวกเขางั้นเหรอ?”
หลี่เสวียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “งั้นแกจะบอกว่าไม่ได้เอาศิษย์ฉันไปเป็โล่งั้นเหรอ? แล้วศิษย์ฉันตายได้ยังไง?”
“อีกสองเดือน เขาจะไปเล่าความจริงให้คุณฟังเอง”
เย่เฟิงยังคงกล่าวตามเดิม “คุณคงไม่เชื่อว่าตอนนี้เขากำลังมองมาที่คุณสินะ? หลิงเฉิน ใช้เคล็ดสายลมิญญาพัดใบไม้มาเรียงเป็ชื่อของนายสิ”
เคล็ดสายลมิญญาเป็ทักษะแรกของผู้ฝึกิญญา หากฝึกจนเชี่ยวชาญมันสามารถพัดิญญามนุษย์หลุดจากร่างได้เลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยระดับวรยุทธ์ของหลิงเฉินในตอนนี้ ยังไม่สามารถทำถึงขั้นนั้นได้
อย่างมากก็เพียงพักใบไม้ให้ร่วงหล่อนจากต้น
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เฟิง หลี่เสวียนก็มึนงง เ้าเด็กนี่บ้าไปแล้วเหรอหรือมันกำลังแสร้ง?
แต่เพียงไม่นานก็มีเื่ให้เขาต้องตกตะลึง
เขาเห็นเพียงว่ามีสายลมพัดผ่านอย่างรวดเร็ว เศษใบไม้หลายสิบใบมาร่วงลงมาพร้อมๆ กันตรงหน้าประตู ก่อนจะเรียงกันเป็เป็คำว่า ‘ซานเอ๋อร์’
การใช้ลมพัดเศษใบไม้เพื่อเรียงเป็ตัวอักษร ไม่ใช่เื่แปลกแต่อย่างใด หลี่เสวียนได้ยินว่าเย่เฟิงสามารถปลดปล่อยพลังภายในออกมาได้ ดังนั้นการทำสิ่งนี้ล้วนง่ายดาย
แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงคือ ตัวอักษรสองตัวที่เรียงต่อกัน ‘ซานเอ๋อร์’ นี่ไม่ใช่ว่าเป็ชื่อในวัยเด็กของหลิงเฉินหรอกเหรอ? เย่เฟิงไม่มีทางที่จะรู้เื่นี้ได้!
เื่จริงงั้นหรือ?
ใบหน้าของหลี่เสวียนเต็มไปด้วยความตกตะลึง เขารีบหันไปมองรอบๆ แต่ก็ไม่พบสิ่งน่าสงสัยแต่อย่างใด
“ผมรู้ว่าเื่นี้มันยากที่จะเชื่อ คุณจะไม่เชื่อก็ได้”
เสียงของเย่เฟิงเยียบเย็นลง “แต่หากคิดสร้างปัญหาให้กับผม ปู่ของผมอยู่ข้างบ้าน ถ้าคุณคิดจะจัดการผม เกรงว่าคุณต้องชดใช้ให้กับเื่นี้ไม่น้อยนะ สู้รออีกสองเดือนข้างหน้าหลังจากที่ผมพิสูจน์ให้คุณดูจะไม่ดีกว่าเหรอ? ”
สายตาของหลี่เสวียนฉายแววลังเล ราวกับว่าเขากำลังขบคิดอะไรบางอย่าง
ชายชราเงยหน้ามองระเบียงบ้านข้างๆ จึงเห็นเย่เวิ่นเทียนที่สวมชุดคลุมสีขาวยืนเอามือไขว้หลังอย่างสงบ ท่าทางองอาจน่าเกรงขามราวกับปรมจารย์ผู้ยิ่งใหญ่
“หึ ก็ได้ ฉันจะให้เวลาแกสองเดือน”
ในที่สุดหลี่เสวียนก็ยอมถอย เขาหมุนตัวจากไป แต่ก็ไม่ลืมทิ้งคำพูดเอาไว้ “อีกสองเดือนข้างหน้า ถ้าแกยังพิสูจน์ไม่ได้ หากมีตำหนักไท่จี๋จะไม่มีตระกูลเย่!”
“ตามนั้น”
เย่เฟิงกล่าวอย่างไม่เฉยเมย ในที่สุดเขาก็สามารถไล่ชายชรากลับไปได้
ในที่สุดเขาก็จะได้กลับไปนอนหลับพักผ่อนเสียที...
เย่เฟิงก็รู้สึกใจชื่นขึ้นมาไม่น้อยเมื่อนึกถึงเื่นี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้