“ เ้าคิดว่าหากพวกเขาบรรลุเป็เซียนไปอยู่บน์หมดแล้ว จะไม่กลับมาบอกลูกหลานญาติมิตรบ้างรึ นี้เงียบหายไปตลอดกาล ”
“ไม่ได้แล้วข้าต้องรีบเดินทาง”พูดจบนางก็เร่งฝีเท้ามากกว่าเดิมไม่ได้ “เื่แบบนี้คนอย่างเราจะต้องไม่พบเจอให้มันเป็เื่ของตำนานเล่าขานไปเถอะ”
แต่!..นางและเ้ากบเดินทางอยู่แบบนั้นมาเป็เดือน ที่น่าแปลกใจคือไม่เจอสัตว์อสูรระดับสูงระดับต่ำ ก็แทบจะไม่เจอเลย เื่ที่เคยเป็ตำนาน เริ่มที่จะปรากฏเงาขึ้นมาในใจซีซีแล้ว “ จะอยู่ไหนก็บำเพ็ญเพียรได้ เพียงแต่ข้าจะไม่ได้ออกไปเจอ ท่านพ่อท่านแม่น้องรองน้องเล็ก ไม่…ไม่ได้ ”นางส่ายหัวเล็กน้อย
“คนโบราณอาจจะหาไม่เจอแต่ข้า ไม่ใช่คนยุคนี้มันต้องมีวิธี ” ระหว่างคิดนางก็สังเกตเห็นมด เดินทางขนผลไม้ที่ร่วงหล่นลงมาจากต้น “ มันไปที่ไหนกัน”
ซีซีเดินตามมดพวกนั้นไปประมาณหนึ่งชั่วยาม ก็เจอเข้ากับรังมดขนาดใหญ่ มันเหมือนเป็จอมปลวกหรือูเาลูกย่อมๆเลยทีเดียว นางเดินเข้าไปใกล้เขาลูกนั้น
พลันเกิดกระแสลมแรงพัดวูบขึ้นมา นางรู้สึกหายใจติดขัดมือจับหน้าอกพร้อมจะถอยหนี เกิดแสงประหลาด สว่างจ้าขึ้นมานางจึงหลับตาลง พอนางลืมตาขึ้นแสงสว่างเริ่มหายไปอาการเจ็บหน้าอกก็ไม่มีแล้ว
“มันเกิด อะไรขึ้นเ้ากบ”เงียบไม่มีเสียงตอบนางจึงมองหาไม่เห็นเ้ากบเชื่อมต่อจิตก็ไม่ได้ “ข้ามาอยู่ที่แห่งใดกันอีกแล้ว”
นางรองยกมือขึ้นมาแล้วดีดนิ้วปรากฏว่ามีไฟติดขึ้นมา แสดงว่าตรงนี้ใช้พลังปราณได้ เดินมาสักพักหนึ่ง เจอเข้ากับกลุ่มชาวบ้านกำลังเร่งเดินทาง ที่แปลกรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์แต่มีหัวกลมโตแขนและขาเล็ก ตัวสูงพอๆกับนางมีเด็กเล็กที่มีลักษณะเหมือนกันหมด ผิวพรรณซีดเซียว นางหยุดเดินพูดคุยกับพวก
“พวกท่านหยุดก่อนเ้าค่ะ ข้า้าจะถามว่าที่นี่ที่ไหนแล้วพวกท่านกำลังไปไหนกัน ”
พวกเขาไม่ตอบ แต่ชี้มือไปข้างหน้าให้นางดูถึงความแห้งแล้ง ของพื้นดินที่มีพืชเหี่ยวแห้งตายอยู่ตามข้างทางที่เดินผ่าน ด้วยเหตุอดอยากลำบากของพวกเขา และเป็สาเหตุที่ทำให้ต้องเร่งย้ายอพยพผู้คน ที่แปลกก็คือพวกเขาแค่ชี้มือ แต่นางกลับเข้าใจ ที่พวกเขา้าจะสื่อ
ซีซีเดินสวนกับชาวบ้านไป บ้านเรือนของที่นี่เป็บ้านดินรูปร่างเหมือนจอมปลวกทุกหลัง มองดูแล้วน่าจะมีหลาย พันหลัง “แล้วพวกเขาจะย้ายไปที่ไหนกัน ที่นี่เหมือนกับโลกใบเล็ก และเหมือนเป็รังขนาดใหญ่ แต่ว่ามดคงไม่ได้ทำไร่ทำสวนหรอกนะ แต่ชาวบ้านบอกว่าที่นี่ แห้งแล้งอดอยากกำลังอพยพไปที่อื่น หรือว่าไปสร้างโลกใหม่ที่อื่นอีก”
นางเดินสำรวจอีกสักพักหนึ่ง ถึงรู้ว่าพวกเขาอยู่แบบชาวบ้านทั่วไป เพียงแต่ไม่รูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดเท่านั้น มีการทำไร่ทำสวนที่มองเห็นพืชพรรณแห้งตายทั้งที่ยังไม่โต
ซีซีจึงรีบวิ่งกลับไปหาชาวบ้านกลุ่มแรกที่นางเจอ และบอกพวกเขาว่าถ้านางสามารถทำให้ที่นี่อุดมสมบูรณ์ได้ พวกเขายังจะย้ายหรือไม่ พวกเขาทั้งหมดไม่พูดจาต่างคุกเข่าลงกับพื้นเอาหัวโขกพื้นชี้นิ้วมือขึ้นบนฟ้า
คงแปลว่านางมาจากข้างบนหรือชั้นฟ้าก็ คาดเดาไม่ได้เพราะว่าพวกเขาไม่พูด ซีซีลองทำให้พวกดู นางวางค่ายกล ฟ้าฝนขนาดเล็ก แต่ก็กว้างประมาณหนึ่งหมู่ ให้ชาวบ้านดูและให้พวกเขาไปอยู่ในค่ายกล โดยนางยืนรอบอยู่นอก เพื่อสังเกตการณ์
พอมีฝนโปรยปรายลงมา พวกเขาทางกู่ร้องะโด้วยความดีใจทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ พวกเขาหันหน้ามาทางนางและคุกเข่าคำนับนางอีกครั้งหนึ่งพร้อมชี้ขึ้นฟ้า คงจะขอบคุณเทพเซียนที่มาจากชั้นฟ้า นางเดาเอาเอง
มีชาวบ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาหานาง เป็ผู้หญิงอายุประมาณ สามสิบต้นๆ
“ข้าขอบใจเ้ามาก ที่ช่วยประชาชนของข้า พวกเราลำบากมานานจนทนไม่ไหว จึงคิดว่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่นแต่บางคนก็รักที่นี่เพราะเราอยู่มาหลายพันปีแล้ว ”
“ท่านพูดได้เหรอเ้าค่ะ”ซีซีถามด้วยความแปลกใจ
“เพราะข้าพูดกับชาวบ้าน ไม่มีใครตอบข้าเลย จึงคิดว่าพวกท่านพูดกันไม่ได้ ”
“ในที่แห่งนี้มีข้าที่สามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ ที่นี่คือเมืองมดถ้าอยู่นอกพื้นที่ พวกเขาจะกลายเป็มดตัวหนึ่งเท่านั้น ถ้าอยู่ในอาณาจักรของเราทุกคน ก็จะคล้ายกับมนุษย์คนหนึ่ง พวกเรากำลังลำบากไม่สามารถแก้ไขความแห้งแล้งของที่นี่ได้ ถ้าย้ายไปอยู่ที่อื่นเราก็จะเป็แค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น เราไม่สามารถสร้างอาณาจักรให้ทุกคนได้กลายเป็มนุษย์คนหนึ่งอย่างที่เ้าเห็นได้อีก” ซีซีคิดในใจนางคงเป็ราชินีมด เป็แน่ถึงสื่อสารกับมนุษย์รู้เื่ได้
“ข้าช่วยพวกท่านได้เื่ความแห้งแล้ง แต่ข้า! ก็ขอความช่วยเหลือจากท่าน คือข้าหลงทางมา้าไปยังหุบเขาเซียน ท่านพอจะช่วยข้าได้หรือไม่ ”
“ย่อมได้แม่นางน้อย หากเ้าทำสำเร็จ”
“ตอนนี้เ้าไปพักอยู่กับข้าก่อน ไว้ข้าจะไปส่งเ้ากลับเอง” ซีซีดินตามผู้นำมดเข้ามาพักใน บ้านหรือจอมปลวกที่หลังใหญ่กว่าเพื่อน
ข้างในมีผู้รับใช้เป็หญิงวัยกลางคนอยู่ห้าคน ยกอาหารมาให้ก็คือผลไม้ที่หล่นจากต้น ที่พวกมดขนมา ตอนที่นางเดินตามนั่นเองนาง นางปฏิเสธไปและมอบผลไม้ ที่มีปราณิญญาและขนมบางส่วน ให้แก่ผู้นำมดให้ไปแจกจ่าย ให้กับชาวบ้าน ผู้นำมดดีใจเป็อย่างมาก
“ข้าขอขอบใจเ้ามากที่ช่วยเหลือพวก เราอาหารพวกนี้จะทำให้เรามีชีวิตที่ดีไปอีกหลายปี โดยเฉพาะผลไม้ที่มีปราณิญญาเมล็ดมัน ข้าจะให้ชาวมดเอาไปปลูก ”
พูดแล้วนางก็สั่นกระดิ่ง ที่มีเสียงดังไม่มากแต่กังวานไปทั่วพื้นที่เป็สัญญาณเรียก ให้มดส่งตัวแทนมาพบนางที่แห่งนี้ นางแจกจ่ายเสบียงที่ ซีซีมอบให้แก่ชาวบ้าน
ชาวบ้านดีใจจนน้ำตาซึมบางคนร้องไห้จนหัวกลมๆสั่นคลอน ซีซีรู้สึกอุ่นวาบในใจ อาจเป็เพราะนางดีใจที่สามารถช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก จึงรู้สึกตื้นตันใจ
หลังจาก แจกจ่ายข้าวของเสร็จแล้ว ซีซีได้เข้ามาพัก โดยนางแจ้งกับผู้นำมดว่า คืนนี้นางจะทำพิธีให้เสร็จ พรุ่งนี้นางต้องรีบเดินทางแล้วเพราะนาง ติดอยู่ที่นี่มานานเกินไปเดี๋ยวจะไปที่หุบเขาเซียนไม่ทัน ซึ่งผู้นำมดก็รับปากว่าพรุ่งนี้เช้าจะไปส่งซีซีด้วยตัวเอง คืนนั้นซีซีออกมายืนหน้าบ้านจอมปลวก แล้วยกชูคฑาขึ้นฟ้าสาปแช่งทันที
“ค่าขอสาปแช่ง ณ…ที่แห่งนี้ จงเป็พื้นที่อุดมสมบูรณ์ปลุกพืชผักผลไม้ออกลูกออกผลได้ดี ั้แ่บัดนี้และตลอดกาล”หลังจากที่สาปแช่งเสร็จก็กลับเข้ามาในห้องพักพ่อน
ข้างนอกเริ่มมีฝนโปรยปรายลงมา เป็สัญญาณว่าชาวบ้านจะได้เริ่มการเพราะปลูกกันแล้ว นางเตรียมเมล็ดพันธุ์ไว้จำนวนหนึ่งไว้พรุ่งนี้ก่อนเดินทาง จะได้มอบให้แก่ผู้นำมด
เช้าวันรุ่งขึ้นซีซีได้มอบเมล็ดพันธุ์ให้แก่ ผู้นำมดก่อนการออกเดินทาง ผู้นำมดพานางเดินมาตามใต้ดิน ใช่มันเป็เมืองใต้ดินนั้นเอง
“ข้าขอถามท่านหน่อย ข้างบนเป็หุบเขากินคนใช่หรือไม่ ที่แปลกคือไม่สามารถใช้อาวุธเวทและพลังปราณได้”
“เื่นี้ ข้าก็ไม่กระจ่างนัก มันเป็แบบนี้มานานแล้วเพราะพวกข้าทุกคน ที่ขึ้นไปบนดินก็จะกลายร่างเป็มด ถ้าไม่จำเป็ ข้าจะไม่ส่งพวกเขาขึ้นไป ”
“พวกเราอาศัยแต่ใต้ดินอยู่และช่วยกันขุดดิน จนไปถึงแม่น้ำแห่งหนึ่ง ตรงนั้นเลยหุบเขากินคนไปแล้ว เ้าน่าจะเดินทางต่อได้”ระหว่างทางเดิน ซีซีสังเกตเห็นมุกสีขาววางทิ้งไว้ อย่างไร้ค่าตามผนังทางเดิน
ผู้นำมดสังเกตเห็นจึงพูดกับซีซี “เ้าสนใจของพวกนี้รึ ถ้าเ้าใช้ทำประโยชน์ก็เอาไป”
“ เ้าสามารถเอาไปได้เลยของพวกนี้ไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเรา มีแต่จะเกะกะทางเดินเท่านั้น”ซีซีตาโตไม่สนใจจะสอบถามอะไรแล้ว วิ่งเก็บขยะให้พวกเขาทันที “ของดีทั้งนั้นไม่เอาได้อย่างไร ทิ้งไว้ก็เสียของ ต้องเก็บมีแม้กระทั่งมุกสีขาว ”นางกวาดเรียบ
ผู้นำมดเห็นดังนั้นจึงสั่งให้สมุน ที่ตามมาคุ้มกันเกือบสิบคนช่วยกันเก็บมาให้นาง
ซีซีรู้สึกว่าทางเดินนี้ไม่ได้ไกลมาก เพราะมัวแต่เก็บทุกอย่างที่ขวางหน้า มีสีมันวาวหรือมีประกายสีทอง บางอย่างก็เป็สีดำที่นางเก็บ ตำลึงทั้งนั้น
ประมาณสองชั่วยามก็มาถึงทางออก นางยังเสียดายน่าจะไกลได้อีก นางไม่ได้โลภนะแต่ยิ่งเยอะยิ่งดี มีใครบ้างไม่ชอบนอกจากมด ก่อนจากลากันซีซีได้หยิบยาแก้เจ็บไข้ทั่วไปให้กับผู้นำมด นางอธิบายให้ฟังผสมน้ำยาหนึ่งสวนส่วน น้ำห้าส่วน ให้กับคนเจ็บป่วยที่เป็ผู้ใหญ่ถ้าเป็เด็กก็ให้ลดปริมาณลง ทั้งหมดแยกย้ายกันกล่าวอำลาแค่ไม่กี่คำ
เหมือนผู้นำมด จะรีบกลับเพราะหลังจากกล่าวลา นางรีบเดินนำหน้าสมุนเดินอย่างไว ซีซีอดแปลกใจไม่ได้ เพราะหลังหันกลับไปอีกที ทางเดินที่นางเดินออกมาหายไปเหลือเพียงจอมปลวกเล็กๆเท่านั้น
“มันน่าสงสัยจริงๆเหมือนพวกเขาจะกลัวอะไรที่อยู่ข้างนอกนี่ คงไม่พาเรามาปล่อยทิ้งไว้ใช่ไหม ”
“ เ้าไม่ต้องแปลกใจ เมืองที่พวกเขาอยู่ มีสิ่งที่ปกป้องพวกเขาอยู่ ข้าเป็ศัตรูโดยธรรมชาติของพวกเขา จึงตามเ้าเข้าไปที่นั่นไม่ได้ และถูกกดพลังลงจนไม่สามารถติดต่อกับเ้าได้”เสียงกบดังขึ้น
“เ้าได้สังเกตอะไรหรือไม่ นอกจากนั้นเก็บของมีค่า ”
“ข้าไม่ได้สังเกตอะไรจริง หลังจากช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว ตอนเช้าก็กลับเลย ขากลับอย่างที่เ้าเห็น ข้าวิ่งเก็บสิ่งของมีค่าที่พวกเขาทิ้งเท่านั้น เห็นแต่ผนังทางเดินไม่ได้มีกลไกอะไร ”
“ เฮ้อ ! มนุษย์หนุ์”
“พวกเขารู้ว่ามนุษย์อย่างพวกเ้าชอบ ของตบแต่งสวยงามเอาไปขายก็ได้ตำลึงทอง พวกเขาจึงหลอกล่อเ้าด้วยสิ่งนี้เพื่อที่เ้าจะได้ไม่สังเกต ทางเดินเข้าออกของพวกเขา เ้าไม่สังเกตแม้การกระทั่งทำไมผู้นำมด นางเป็ถึงราชินีต้องมีบัลลังก์มีของมีค่ามากกว่านี้ แต่นางให้เ้านอนบ้านดินกับนาง เพื่อว่าที่นางและสมุนจะได้เฝ้าเ้า ”
“โชคดีที่เ้าไม่ใช่คนชั่วร้ายเหมือนกับคนอื่นที่หลงเข้าไป แล้วไม่มีใครได้กลับออกมา เพราะแต่ละคนมีความโลภ อยากได้ทรัพย์สมบัติมากมาย ของราชินีมดบางคนถึงกับฆ่าเหล่ามด ที่นางหลงเชื่อใจคนเ่าั้ จึงเป็เหตุให้นางระแวงจึงไม่พาเ้าไปเที่ยวชมเมืองและวังที่สวยงามของนาง และรีบส่งเ้ากลับออกมา ”
“ ข้าก็รีบช่วยรีบกลับเหมือนกัน กว่าจะเดินทางไปหุบเขาเซียนไม่ทันเวลาเปิดรับสมัคร นี้ก็ใกล้เข้ามาแล้ว แค่นางมาส่งก็ดีมากแล้วดีกว่าเราจะเดินวนอยู่ในป่านั่น"
“แล้วเ้ารู้เื่พวกมดได้อย่างไง และตามข้าพบตรงทางออกได้พอดี เหมือนจะรู้ว่าข้าจะออกมาตรงนี้”
“ข้าก็ติดตามด้วยเ้าอยู่ห่างๆ แค่เ้าออกจากรังมดได้ ข้าก็รู้ว่าเ้าอยู่ที่ไหน ส่วนเื่เมืองมดข้ารับรู้ผ่านเ้า ข้าเปลี่ยนสีแล้วน่ะ ตะบะข้าก็เพิ่มขึ้นด้วย ”
ซีซีขึ้นพรมบินอักขระเวททันที ไม่มีเวลาแล้วต้องรีบเดินทาง นางบินบ้างพักโคจรพลังบ้างใช้เวลา ร่วมเดือนก็เดินทางมาถึงเขตเขาูเาเซียน ซึ่งผู้ที่มารอสมัครคับคั่งจนแน่นไปหมด
ผู้คนมารอสมัครไปลูกศิษย์เขาเซียนที่หนึ่งร้อยปี จะเปิดรับสมัครหนึ่งครั้งและ แต่ละครั้งรับแค่หนึ่งร้อยคน
ซีซีมองผู้คนละลานตาไปหมดคนสมัครเป็ หมื่นคนรับแค่หนึ่งร้อยคนน้ำตาจะไหล
ที่ตีนเขามี ใบประกาศติดไว้ รอบแรกนี้ให้ทุกคนเดินขึ้นเขาเซียนรับแค่ห้าร้อยคนแรก หลังจากผู้คนอ่านประกาศที่ติดไว้ก็เริ่มออกเดินทางทันทีเพราะรับห้าร้อยคนแรก บางคนกระหยิ่มยิ้มย่องว่าตัวเองต้องชนะเพราะมีพลังปราณที่สูง แต่!…พวกเขาใช้พลังปราณไม่ได้ รวมถึงสัตว์อสูรพันธสัญญา ต้องใช้กำลังขาเดินขึ้นไปเท่านั้น
่แรกทุกคนเป็เหมือนกัน ไม่ย่อท้อทางเดินขึ้นเขายังตั้งหน้าตั้งตา พอผ่าน่ที่สองทุกคนต่างเริ่มหมดแรงเพราะูเาสูงชันขึ้นเรื่อยๆบ้างก็ล้มกลิ้งลงจากเขา มาถึงครึ่งทางคนหายไปเกือบครึ่ง
พอถึง่ที่สามคนเริ่มบางตาเพราะเหนื่อยเดินกันไม่ไหวแล้ว สี่ชั่วยามผ่านไป คนเป็หมื่นเหลือไม่ถึงพัน ทุกคนแทบจะคลานขึ้นเขา เหลืออีกไม่ไกลที่จะถึงยอดเขา ต่างรีบเร่งเพื่อไปให้ถึงห้าร้อยคนแรก แม้จะต้องคลานก็ยอม
ต่างจากซีซีนางมีวิชาก้าวดารา จึงไม่รู้สึกเหนื่อยมาก แต่ก็ทำทีเป็นั่งพักเหนื่อยเพื่อไม่ให้ เป็จุดสนใจของใคร ่เย็นพวกเขาจึงมาถึงบนเขาเซียนกัน ใครขึ้นมาหลังจากครบห้าคนแล้ว คนที่เหลือจะถูกส่งกลับไปยังตีนเขาทันที ส่วน ห้าคนมีที่พักให้ โดยแยกเป็ห้องสร้างจากอักขระเวทชั้นสูง เพื่อพรุ่งนี้ทุกคนจะต้องแข่งขันกันต่อ
บนเขาเซียนพลังปราณหนาแน่น ทุกคนได้ที่พักแล้วต่างนั่งโคจรพลังกัน เพราะพลังที่เข้มข้น แบบนี้ หาไม่ได้จากข้างล่าง ไม่มีใครสนใจใครเพราะว่าถือว่ายังอยู่ใน่แข่งขัน ขอแค่ได้มาโคจรพลังที่เขา เซียนก็ถือว่าคุ้มแล้ว
