ครั้นเห็นว่ากูเฟยเยี่ยนหลั่งน้ำตา กู้อวิ๋นหย่วนจึงประหลาดใจมาก “เ้า เ้า…เ้าร้องไห้ทำไม? ”
ในตอนนี้เองที่กูเฟยเยี่ยนตระหนักได้ว่าตนเองไม่เอาการเอางานเสียเลย นางจึงรีบปาดน้ำตาโดยไม่ตอบคำถาม แต่ถามกลับไปว่า “ท่านจะใช้เข็มแล้วหรือ? ข้าจะช่วยเอง”
ดวงตาขี้ขลาดตาขาวของกู้อวิ๋นหย่วนปรากฏถึงความเป็ห่วงเล็กน้อย “เ้า เ้าไม่เป็ไรใช่ไหม? ”
ครั้นเห็นว่าชายผู้นี้ที่มีใบหน้าเหมือนกันกับท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวแต่มีลักษณะท่าทางที่อ่อนแอและขี้กลัว กูเฟยเยี่ยนจึงอดใช้อารมณ์ไม่ได้ จู่ๆ นางก็โน้มกายลงมาพลางกล่าวด้วยความดุร้ายว่า “ข้าเป็ ข้ามีเื่สำคัญ ท่านรีบรักษาเฉิงอี้เฟยให้หายแล้วข้าจะพูดคุยเื่สำคัญกับท่าน! ”
กู้อวิ๋นหย่วนใจนร่างกายโน้มเอียงลงไปอีกทางหนึ่ง เขาจ้องมองนางด้วยความระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิมราวกับคิดว่านางสติวิปลาส “แพทย์หญิงกู พวกเราพบหน้ากันเป็ครั้งแรกใช่หรือไม่? พวกเราสามารถ…”
กูเฟยเยี่ยนะโออกมาด้วยความโกรธ “ช่วยรักษาเฉิงอี้เฟยก่อน! ”
ใบหน้าของกู้อวิ๋นหย่วนเต็มไปด้วยความน้อยใจแต่ก็ไม่กล้าโต้แย้ง “เ้า เ้า…การที่เ้าอยู่ที่นี่ทำให้ข้าไม่มีสมาธิ เ้าสามารถ…”
เขายังพูดไม่จบกูเฟยเยี่ยนก็ก้าวเดินออกไปก้าวใหญ่เพื่อเว้นระยะห่างจากเขา นางยืนกอดอกพิงกำแพงรอคอย
กู้อวิ๋นหย่วนเหลือบมองนางอีกครั้ง และเมื่อเห็นว่านางจะไม่รบกวนเขาแล้ว เขาจึงเริ่มจดจ่อ
เขาใช้เข็มทองชุบน้ำแกงสมุนไพรอย่างที่คาดไว้จริงๆ เข็มแต่ละเล่มถูกฝังลงอย่างเชื่องช้าและเป็วิธีการแปลกประหลาดที่กูเฟยเยี่ยนมองไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
กูเฟยเยี่ยนไม่กล้ามองมากเกินไปเพราะเกรงกลัวว่าเมื่อเห็นถึงใบหน้าด้านข้างของเขาแล้ว นางจะควบคุมความคิดและอารมณ์ของตนเองไม่ได้อีกครั้งหนึ่ง
จวบจนกระทั่งกู้อวิ๋นหย่วนทำการฝังเข็มครบทั้งหมดแล้วนางจึงมองไปแล้วถามว่า “ท่านยัง้ายาสมุนไพรอีกหรือไม่? ”
“ไม่จำเป็แล้ว ท่านแม่ทัพไม่เป็อะไรแล้ว”
กู้อวิ๋นหย่วนลุกขึ้นพลันชี้ไปทางประตูด้วยความเกรงกลัว “แต่ว่าข้าน้อยมีสิ่งที่ต้องกำชับต่อหน้าฟูเหรินผู้เฒ่า”
เห็นได้ชัดว่าเขา้าใช้โอกาสนี้ในการออกไปด้านนอกและไม่อยากจะพูดคุยกับนาง
กูเฟยเยี่ยนรีบเดินไปขวางหน้าประตูพลางเอ่ยออกมาในทันที “มีเื่อะไรก็กำชับข้าได้เหมือนกัน พูดมาเถอะ”
ใบหน้าของกู้อวิ๋นหย่วนเต็มไปด้วยความลำบากใจจึงไม่ได้พูดอะไรออกมาอยู่นาน
เขาไม่พูด กูเฟยเยี่ยนจึงถาม “ต้องสั่งยาหรือ? ”
กู้อวิ๋นหย่วนส่ายศีรษะไปมา
กูเฟยเยี่ยนค่อนข้างจะใ นางคิดในใจว่าชายผู้นี้สมกับที่เป็ “แพทย์รักษาที่ซ่อนเร้น” จริงๆ เพราะโรคกระเพาะของเฉิงอี้เฟยเป็โรคเรื้อรัง แต่เขาทำการฝังเข็มแค่ครั้งเดียวก็รักษาได้แล้ว! นี่มันจะไม่มหัศจรรย์เกินไปหน่อยหรือ?
การฝังเข็มกับการใช้ยาสมุนไพรมีหลักการเดียวกัน นางอยากจะเรียนรู้ทักษะการฝังเข็มของเขามากทีเดียว เพียงแต่ในยามนี้นางไม่มีเวลามากนัก อีกทั้งอารมณ์ก็ไม่ได้ดีมากด้วย
นางตีหน้าขรึมถามต่อไป “แล้วอาหารการกินล่ะ? นอกจากคำพูดตามปกติที่ให้งดสุรา งดของเผ็ดร้อน งดทานจนอิ่ม และงดหิวจนเกินไปแล้ว ยังมีอะไรต้องงดอีกหรือไม่? ”
กู้อวิ๋นหย่วนส่ายศีรษะตามตรง “ไม่มี”
กูเฟยเยี่ยนถามอีกครั้ง “แล้วอาการาเ็ที่ขาล่ะ? เส้นเอ็นกับกระดูกต่างก็ได้รับาเ็ เช่นนี้จำเป็ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน? ”
กู้อวิ๋นหย่วนส่ายศีรษะอีกครั้ง หลังจากที่เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หยั่งเชิงด้วยความระมัดระวัง “แพทย์หญิงกู เ้ากับพวกเราตระกูลกู้…มีความแค้นต่อกันหรือ? ”
“ไม่มี! ”
กูเฟยเยี่ยนหันไปมองบนเตียง ครั้นแน่ใจว่าเฉิงอี้เฟยยังคงไม่ได้สตินางจึงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วถามออกไปตามตรง “ท่านคือกู้อวิ๋นหย่วนหรือกูอวิ๋นหย่วนกันแน่? ตกลงว่าท่านคือใคร? ”
กู้อวิ๋นหย่วนไม่เข้าใจ “แพทย์หญิงกู เ้า…คำพูดของเ้านั้นหมายความว่าอย่างไรกัน? ”
กูเฟยเยี่ยนก้าวเดินเข้าไปใกล้พลางใช้สายตาจับจ้องเข้าไปในดวงตาของกู้อวิ๋นหย่วน “ท่านไม่ต้องแกล้งทำแล้ว ท่านหลอกข้าไม่ได้! ทำไมท่านถึงส่งข้ามาที่ดินแดนเสวียนคง? ท่านหลอกข้ามาโดยตลอดใช่หรือไม่? ”
กู้อวิ๋นหย่วนไม่ได้หลบตากูเฟยเยี่ยน แต่เผยสีหน้าของความสับสนออกมาราวกับไม่ทราบว่าควรที่จะพูดอะไร
กูเฟยเยี่ยนหยุดอยู่ตรงหน้าเขาแล้วสูดหายใจพลันเอ่ยถามออกมาอีกครั้งหนึ่ง “ท่านอาจารย์ ท่านไม่ยอมรับข้า เป็เพราะ…เป็เพราะไม่้าข้าแล้วจริงๆ หรือ? ”
“อาจารย์? ”
กู้อวิ๋นหย่วนตกตะลึงครู่หนึ่งแล้วก้าวถอยสองสามก้าวด้วยความกังวล “แพทย์หญิงกู ในตอนแรกข้าคิดว่าสมองของเ้ามีปัญหา แต่ที่ไหนได้เป็เ้าเองที่จำคนผิดเสียแล้ว? ข้าน้อย…ข้าน้อยโตกว่าเ้าเพียงแค่สี่ถึงห้าปีเท่านั้น ดังนั้นข้าจะไปเป็ท่านอาจารย์ของเ้าได้อย่างไร? นี่เป็ครั้งแรกที่ข้าน้อยได้พบท่านนี่นา! ”
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วรีบพูดเสริมอีกหนึ่งประโยคด้วยความจริงใจ “แพทย์หญิงกู นับั้แ่รุ่นบรรพบุรุษจวบจนกระทั่งในตอนนี้ พวกเราตระกูลกู้ล้วนไม่เคยรับคนนอกมาเป็ลูกศิษย์! ”
อันที่จริงแล้วกูเฟยเยี่ยนไม่มีความมั่นใจเต็มร้อย นางเพียงแค่กำลังหยั่งเชิง
ในขณะที่นางถามคำถามทุกๆ ประโยค นางให้ความสนใจกับสายตาและสีหน้าของเขาเพื่อหวังว่าจะได้เห็นถึงความใจฝ่อของเขาเล็กน้อย แต่น่าเสียดายที่นอกจากความตื่นตะลึงกับความกระสับกระส่ายแล้ว นางไม่เห็นถึงสิ่งใดอีก
ชายคนนี้ไม่ใช่ท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวจริงๆ หรือ?
ใบหน้านี้กับรสชาติของลูกอมชะเอมที่คุ้นเคยล้วนเป็เื่บังเอิญหรือ?
กูเฟยเยี่ยนนิ่งเงียบ กู้อวิ๋นหย่วนจึงรีบถอยหลังไปหนึ่งก้าวแล้วกางแขนทั้งสองข้างออกพร้อมกับพูดด้วยความจริงจัง “แพทย์หญิงกู เ้าเข้าใจผิดแน่ๆ เ้ามองข้าน้อยดีๆ ข้าน้อยเหมือนกับอาจารย์เ้าตรงไหนกัน?”
“เหมือนทุกอย่าง เหมือนทุกประการ แม้กระทั่งเสียงก็ยังเหมือน ข้าจำไม่ผิดแน่ๆ ”
กูเฟยเยี่ยนยังคงดื้อรั้น ทันใดนั้นจึงนำหวางเป่าติงยื่นไปด้านหน้าของเขา “ท่านจำข้าไม่ได้แต่ถึงอย่างไรก็ต้องจำมันได้แน่! ”
กู้อวิ๋นหย่วนมองไปที่หวางเป่าติงด้วยความประหลาดใจ “นี่…นี่คืออะไร? ”
ั์ตาของกูเฟยเยี่ยนเปลี่ยนเป็ความลึกซึ้งราวกับเด็กน้อยที่ถูกทอดทิ้ง แต่จู่ๆ ก็ได้พบกับบิดามารดา นางทั้งเคืองทั้งคิดถึง ทั้งดื้อดึงทั้งอยากจะร้องไห้
ในตอนแรกกู้อวิ๋นหย่วนยังคงมองนาง แต่แล้วก็ค่อยๆ ขี้ขลาดกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนตอนที่อยู่ในเยนอวิ๋นเจี้ยน เขาหลบสายตาของนางราวกับอยากจะหลบหนีไป
ทว่าทันใดนั้นกูเฟยเยี่ยนก็คว้านิ้วมือของเขามากัดอย่างรุนแรงจนเกิดเป็าแขนาดใหญ่ ไม่ช้าหยดเืก็ไหลรินลงบนหวางเป่าติง
กู้อวิ๋นหย่วนใช้แรงสลัดออกแล้วหนีไปยืนไกลๆ เขากดนิ้วมือเพื่อห้ามเืและด่าทอด้วยความโกรธ “เ้า นังหนู เ้าสติวิปลาสไปแล้วหรือ? เ้าเกิดปีจอหรือ? บนโลกใบนี้มีผู้คนที่ละม้ายคล้ายคลึงกันมากมาย เหตุใดเ้าถึงพูดไม่รู้เื่ล่ะ? ”
กูเฟยเยี่ยนไม่สนใจ หญิงสาวจ้องมองไปที่หวางเป่าติง
ในปัจจุบันนี้นางเป็เ้าของหวางเป่าติง นอกจากนางเสียชีวิตลงหรือนางเป็ผู้เริ่มยกเลิกพันธสัญญากับหวางเป่าติง หวางเป่าติงไม่มีทางทำพันธสัญญากับคนอื่นได้ แต่หากว่าหวางเป่าติงได้พบกับเืของผู้ทำพันธสัญญาคนก่อนก็ยังคงสามารถดูดซับเข้าไปได้
เืสีแดงเข้มไหลรินปกคลุมไปทั่วหวางเป่าติง กูเฟยเยี่ยนจ้องมองตาไม่กะพริบ แต่ใครจะไปทราบว่าเืเหล่านี้จะไม่ถูกดูดซึมเข้าไป และพอผ่านไปไม่นานก็แข็งตัวกลายเป็รอยเื
เป็แบบนี้ได้อย่างไรกัน!?
กูเฟยเยี่ยนส่ายศีรษะด้วยความคาดไม่ถึงและไม่เต็มใจที่จะเชื่อ แต่ว่าความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้า หวางเป่าติงไม่รู้จักเืของชายคนนี้! ชายคนนี้ไม่ใช่ท่านอาจารย์อาภรณ์ขาว!
กู้อวิ๋นหย่วนยังคงโกรธเคืองจึงพูดอีกว่า “นี่เป็ของที่ทำพันธสัญญาใช่หรือไม่? ครั้งนี้เ้าควรเชื่อแล้วใช่ไหม! ”
กูเฟยเยี่ยนก้มหน้าลงด้วยความนิ่งเงียบ นางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดรอยเืบนหวางเป่าติงอย่างรุนแรง
หญิงสาวกัดริมฝีปากโดยพยายามกลั้นน้ำตาของตนเองเพื่อไม่ให้ไหลรินลงมา และพยายามปลอบใจตนเองว่าการที่ชายคนนี้ไม่ใช่ท่านอาจารย์อาภรณ์ขาว นางก็ควรมีความสุขและไม่ควรร้องไห้สิ เพราะอย่างน้อยท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวก็ไม่ได้ไม่ยอมรับในตัวนาง!
แต่ว่านางแทบจะกัดริมฝีปากจนเืออกแล้ว น้ำตาเม็ดใหญ่ก็ยังคงไหลออกมาจนทำให้หวางเป่าติงเปียกชื้นอยู่ดี!