“อื้มมม” อี้ิกอดอกลูบคางตัวเองไปมาอย่างใช้ความคิด เธอจะไม่ยอมอยู่ในสภาพแบบนี้ไปตลอดหรอกนะ ดูสิสาวสมัยใหม่อย่างเธอรับไม่ได้อย่างแรงกับเสื้อผ้ามอมแมมที่สวมใส่อยู่ตอนนี้ ไหนจะบ้านนี้ ไม่สิ! เรียกบ้านไม่ได้ด้วยซ้ำมันแค่เพิงหลังคามุงหญ้าไว้ใช้หลบนอนแค่นั้นเอง ไม่ได้การหล่ะ ไหนๆ ก็ต้องอยู่ที่นี้ล่ะ เธอต้องคิดหาลู่ทางก่อนละกันค่อยหาวิธีกลับไปยุคที่เธอจากมา แล้วนึกในใจเอ่ยกับเ้าของร่างที่เธออาศัยอยู่ และให้สัญญาว่าจะดูแลแม่นางเป็อย่างดี ๆ เธอจะไม่อธิบายเหตุผลใดๆ กับคนที่นี่ พูดไปก็ยากจะไม่มีใครเชื่อเธอ
“เอ่อ เฟิน เฟิน งั้นเธอ เอ๊ย เ้า พา ฉะ ข่ะ ข้า ไปดูรอบ ๆ หมู่บ้านได้หรือไม่ เผื่อข้าจะจำอะไรขึ้นมาได้บ้าง”
“ได้สิพี่ิอี้ เดี๋ยวข้าพาไปเอง รอบนี้พี่ไม่ต้องกลัวนะ ข้าจะไม่ปล่อยไอ้พวกอันธพาลนั่นมารังแกพี่ได้อีกแน่นอน เพราะข้ามีนี่!!”
เฟิน เฟิน ยกแท่งไม้ที่มีง่ามแยกออกสองง่ามขึ้นมา “อ่ออ ยุคนี้ก็มีหนังสติ๊กด้วยแฮะ”
“ข้านะกว่าจะหามาได้พี่รู้มั๊ยต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมมารยา และสมองอันชาญฉลาดของข้าเลยนะเนี่ย” สาวน้อยคุยโอ้อวด
“โอเค ๆ ป่ะไปกันเถอะ”
“ฮือ อะอะโอเค เ้าพูดอะไรของเ้ากันพี่ิอี้”
“ช่างเถอะ ๆ ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะค่ำมืดซะก่อน” อี้ิดันหลังสาวน้อยให้เลิกสงสัยตน แล้วเดินตรงไปบอกผู้ที่เป็มารดาตนในยุคนี้ก่อน
“เอ่อ ทะท่าน ข้าขอออกไปเดินเล่นกับเฟิน เฟิน ซักครู่นะเดี๋ยวข้ากลับมา”
“อย่าไปนะ ิอี้ แม่กลัว กลัวมันจะมาทำร้ายเ้าอีก” อี้เฟินรั้งไม่อยากให้ลูกสาวนางออกไปด้านนอก กลัวโดนเ้าพวกเด็กอันธพาลทำร้ายอีก
“ให้ข้าไปเถอะนะ เผื่อข้าจะจำแะไรขึ้นมาได้บ้างไง” อี้ิจับมือเหี่ยวย่นอย่างขอร้อง
“ท่านป้า ท่านไม่ต้องห่วงเลย เฟินเฟินมีนี่ รับรองใครหน้าไหนเข้ามาใกล้พี่ิอี้ไม่ได้แน่ๆ ”
สาวน้อยเฟิน เฟิน ยกมือขึ้นทำท่าก๋ากั่น จนอี้ิอดขำออกมากับท่าทางของสาวน้อยเสียไม่ได้
“เถอะนะท่าน ให้ข้าไปเถอะ ข้าอยู่แต่ในนี้หลายวันแล้ว เบื่อจะเเย่ ข้าสัญญาจะไม่เจ็บตัวกลับมาแน่นอน ข้าจะระวังนะนะ ทะท่านแม่” อี้ิเอ่ยเรียกแม่ตะกุกตะกัก ด้วยยังไม่ชิน
“อ่ะก็ได้ แต่พวกเ้าระวังตัวกันด้วยนะ” อี้เฟินเอ่ยอย่างอ่อนใจ
“ไปกันพี่ิอี้” สาวน้อยเฟินเฟินเมื่อได้ยินคำอนุญาติจากปากท่านป้าที่ตนเรียก ก็รีบดึงมืออี้ิวิ่งออกไปจากบ้านทันที
ทัเงสองเดินมาตามทางที่เป็พื้นหินเเผ่นใหญ่ที่นำมาต่อกันจนเป็ทาง เดินลัดเลาะตามคลองน้ำ ตามซอกบ้านดินโทรมๆ เหมือนบ้านที่ตนอยู่ เดินลัดเลาะไม่นานก็ปรากฎบ้านเรือนหลังใหญ่ ผู้คนเดินซื้อของไปมาอย่างคับคั่ง รถม้าเหมือนในละครที่หญิงสาวเคยดูผ่าน ๆ ในยุคปัจจุบันวิ่งผ่านหน้าไป สาวน้อย สาวใหญ่แต่งตัวสีสันฉูดฉาด ปักปิ่น ใส่ชุดจีนโบราณ เรียกว่าอะไรนะ
“ฮั่นฝู” อี้ิอุทานออกมา
“พี่ว่าอะไรนะ” เฟินเฟินที่ได้ยินไม่ถนัด หันมาถามอี้ิ
“เปล่า ทำไมที่นี่คนเยอะจัง ต่างจากที่ของเราเป็ไหน ๆ ผู้คนก็แต่งตัวสวยงามดูดีทั้งผู้หญิง ผู้ชายเลย”
“ตรงนี้คือถนนใหญ่ของแคว้นต้าหลี่ เ้าเห็นนั่นมั๊ย”
อี้ิมองตามนิ้วที่เฟินเฟินชี้
“คนนั้นคือ สาวงามล่มเมืองต้าหลี่ ชื่อ เ้าหลี่เหมย ดูนางมาเดินเลือกของแต่ละทีสาวใช้ตามเป็ขบวน นางเป็ลูกขุนนางใหญ่ของแคว้น สวยใช่ม่ะ ข้าก็อิจฉาเหมือนกันอยากใส่ชุดแบบนางบ้าง” เฟินเฟินพูดเสียงละห้อย
อี้ิก้มมองดูชุดที่ตนสวมกับมองสาวเ้านาม หลี่เหมย ก็ส่ายหน้ากับตัวเอง ฉันจะไม่ยอมใส่ชุดมอมแมมนี้ไปตลอดหรอกนะ ฮึ่ยย! คิดคนเดียวในใจอย่างหมายมาด
“ท่านหญิง ข้าขอเบี้ยหน่อยเถิด ท่านหญิงคนงาม ข้าหิวเหลือเกิน” ชายแก่คนหนึ่งเดินมาคุกเข่าต่อหน้าหญิงงาม
“หลี่เหมยชะงักกับชายตรงหน้า นางกำลังจะต่อว่าพลันนึกได้ว่าอยู่ต่อหน้าชาวบ้านมากมาย”
“หลีกไปนะ เ้าช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง อย่าหาขัดความเพลิดเพลินของคุณหนูข้า ไป หลบไปให้พ้น” เสียงสาวใช้ข้างกายหลี่เหมยตวาดชายแก่ ทำให้เป็ที่สนใจของชาวเมืองที่กำลังจับจ่ายใช้สอยอยู่
หลี่เหมยเห็นดังนั้นจึงแสร้งหันไปหาสาวใช้ “ฟ่านอิง หยุดเถอะ” แล้วแบมือไปด้านหน้า โดยไม่เอ่ยอะไร
ด้านสาวใช้เมื่อเห็นสัญญาณมือจากนายสาวก็รู้ทันทีล้วงลงไปในถุงปักลายสวยอย่างเลี่ยงไม่ได้ หยิบเงินออกมา 1 ตำลึงเงิน
แล้ววางบนมือเรียว
“นี่ ข้าให้ ข้าไปได้รึยัง”
“แฮะ แฮะ ขอบพระคุณคุณหนู” ชายสูงวัยก้มลงคำนับบนพื้น พลันเกิดเสียงซุบซิบจากชาวเมืองที่เดินจับจ่ายซื้อของเซ็งแซ่ ชื่นชมในความงามและใจบุญของคุณหนูเหมยหลี่ หลายเสียงต่างบอกว่าไม่แปลกที่โดนวางเป็ตัวเต็งว่าที่พระชายาขององรัชทายาทผู้งดงามของแคว้นต้าหลี่
“โอ้โห พี่ิอี้ เห็นรึไม่ 1 ตำลึงเงินเลยนะ ตาแก่นั่นช่างโชคดีเสียจริงเชียว”
“ป่ะ เฟิน เฟิน ไปต่อกันเถอะ” อี้ิเอ่ยชวนสาวน้อย
“ได้ ๆ นั่น ๆ วังหลวง”
“โอ้โหว เฟิน เฟิน ใหญ่มากเลย สวยมากด้วย โอ๊ะนั่นทหาร ทหารจริง ๆ เฮ้ย!”
อี้ิอุทานด้วยความใที่เกือบจะโดนม้าตาย ถ้าเฟินเฟิน ไม่ดึงออกมาซะก่อน จะรีบไปไหนกัน มองตามอาชาสีดำเมี่ยมที่มีชายแต่งกายแปลกตาควบเร็ววิ่งเข้าราชวังที่เฟิน เฟินชี้ให้ดูเมื่อครู่
“เกือบแล้วมั๊ยละพี่ิอี้ พู่วว”
~ผักสวย ผักสวย จากสวน ใหม่ๆ ทางนี้จ้า ทางนี้ แม่นาง คุณหนูๆ แวะดูก่อนจ๊ะ ผักสวย ๆ แฮะ ๆ มา ๆ ดูก่อน~
~เหล่าป่าย กำเท่าไหร่~ เสียงชายกำยำเอ่ยถาม
~ไม่แพง ๆ ทนายท่าน ๆ กำนี้ลดแล้ว 5 เหวิน (อิแปะ) ~ เ้าของร้านยกนิ้ว 5 นิ้วบอก
~ทำไมแพงจังนะฮ่ะ เมื่อวานเมียข้ามาซื้อ 2 เหวินเองมิใช่รึ~
~แฮะผักปลูกยากนะท่าน น้ำท่าก็ไม่สมบูรณ์เหมือนแต่ก่อน ไหนจะโรคระบาด ไหนจะแมลงอีก ฝนก็ไม่ตก แค่นี้ถือว่าถูกแล้วนะท่านจ๊ะ แฮะๆ ไม่ซื้อไม่เป็ไรจ๊ะ~
~เอ้า! เอาก็เอา มากำนึง~
~ขอบคุณจ้า ไว้มาซื้ออีกนะ~
โหวววว อี้ิตาลุกวาว เอ่ยถามเฟิน เฟินอย่างตื่นเต้น
“เฟิน เฟิน 5 เหวินนี่แพงมั๊ย”
“แพงสิพี่ิอี้ นั่นเกือบเท่าราคาเนื้อเลยนะ”
“จริงอ่ะ”
“อื้อ” เฟินเฟินพยักหน้ารับ
“ดี ดี เลย!!”
~ซ่าาาา~
“อ๊ะ เฮ้ยอะไรว่ะ” อี้ิอุทานอย่างใ
“หลบไปเ้าพวกขอทานมอมแมม อย่ามาขวางหน้าร้านข้า ประเดี๋ยวลูกค้าข้าหนีหมด ไป ไป ชิ้ว ชิ้ว”
“เฮอะ!!” อี้ิเท้าสะเอวอย่างขบเขี้ยว ตอนนี้ตัวเธอเปียกไปทั้งตัว จากเ้าพ่อค้าผักที่สาดน้ำมาใส่
~อ่ะ ยังไม่ไปอีก เฮ้ยพวกแกไปไล่สิว่ะ!~ ชายอ้วนะโบอกลูกน้องที่กำลังขนผักขึ้นใส่ลังไม้
“เฮ้ยพี่ วิ่งเร็ว!!”
เฟิน เฟิน ดึงแขนร่างบางให้ออกวิ่ง ไม่งั้นมีหวังโดนตีอีกแน่แน่ ๆ อี้ิสับเท้าวิ่งตามแรงลากของเฟินทเฟินอย่างเสียไม่ได้
พร้อมเข็ญเขี้ยวลงบัญชีดำตาแก่อ้วนร้านผักไว้ในใจ อย่าให้ข้ารวยนะข้าจะเปิดร้านใหญ่ ๆ เอาให้เ้าขายผักไม่ได้เลยคอยดู ไอ้เ้าตาแก่อ้วนเอ๊ยย!!! อี้ิสบถคนเดียวในใจ
……………..
