“เสี่ยวเฮย เร็วๆๆ!”
ใบหน้าที่ดำคล้ำของเย่ชิงหานพลันปรากฏแววยินดีขึ้น อาศัยการเชื่อมต่อทางิญญาเขาััได้ว่าเสี่ยวเฮยกำลังมุ่งหน้าตรงใกล้เข้ามาทางเขาเรื่อยๆ แม้จะรู้สึกได้พอรางๆ แต่ที่นี่ไม่ห่างจากหุบเขาัดำมากนัก ขอเพียงมาให้ถึงที่นี่ก่อนที่ัดำตัวผู้จะกลับมาถึง พวกเขาก็จะสามารถใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายทำการหลบหนีได้อย่างสบาย
“จี๊ดๆๆ! ลูกพี่ รวยแล้วงานนี้!”
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีในหัวของเย่ชิงหานมีเสียงของเสี่ยวเฮยดังขึ้น ไม่มีเวลาให้เย่ชิงหานคิดถึงความหมายที่แฝงอยู่ข้างในคำพูดนั้น ต่อมาเงาร่างของเสี่ยวเฮยที่ราวกับะุปืนใหญ่ก็พุ่งตรงเข้ามาหาเขา ในเวลาเดียวกันภายในหุบเขาัดำพลันบังเกิดเสียงร้องคำรามของัดำตัวผู้ดังขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด ดังสั่นะเืไปทั่วทั้งผืนฟ้าและปฐี
“ไปกันเถอะ!”
เสี่ยวเฮยกลายเป็เงาดำเลือนรางสายหนึ่งพุ่งเข้าไปยังอ้อมอกของเย่ชิงหาน เย่สือซานรีบร้องบอกออกมา ทั้งสี่คนะโเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้ายอย่างพร้อมเพรียงกัน แสงสีขาวลานตาภายในค่ายกลเคลื่อนย้ายพลันโอบล้อมหมุนวนรอบร่างกายของพวกเขา
“โฮก! โฮก! โฮก!”
ร่างกายที่ใหญ่โตของัดำตัวผู้ลอยขึ้นมาจากภายในหุบเขาปรากฏเด่นบนท้องฟ้า มันส่งเสียงร้องคำรามออกมาสามครั้งติดต่อกัน จากนั้นกลายเป็เงาเลือนรางลอยพุ่งมายังป่าที่พวกเย่ชิงหานอยู่ ในเวลาเดียวกันไฟพลังัขนาดใหญ่ก็พุ่งตรงมาทางค่ายกลเคลื่อนย้ายเช่นเดียวกัน
“ช้าไปแล้ว! ลาก่อนเ้าแมลงตัวใหญ่!”
เย่สือชีหัวเราแหะๆ ออกมา โบกมือให้กับัดำตัวผู้ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า จากนั้นร่างของทั้งสี่กลายเป็แสงสีขาวเลือนหายไปจากป่าแห่งนั้น
ปัง!
หลังจากที่ร่างของพวกเย่ชิงหานเลือนหายไป ไฟัขนาดั์ตกกระแทกลงกลางป่า ทำให้ทั่วทั้งป่าเกือบจะกลายเป็พื้นที่ราบเรียบไป เหลือแค่เพียงค่ายกลเคลื่อนย้ายเท่านั้นที่ยังตั้งโด่เด่อยู่ และภายในยังหลงเหลือแสงสีขาวอยู่ประปราย เป็แสงที่เพิ่งเกิดขึ้นจากการเคลื่อนย้ายคนทั้งสี่ไป
.................................
“เสี่ยวเฮย! เ้าไม่เป็อะไรใช่ไหม? ที่เป็พวงๆ บนมือเ้าคืออะไร? ฮะ! แหวนสัญลักษณ์?”
ทั้งสี่ถูกเคลื่อนย้ายมายังช่องเขาแห่งหนึ่ง หลังจากที่ถูกเคลื่อนย้ายมาเย่สือซานและเย่สือชีรีบออกไปสำรวจภูมิประเทศโดยรอบในทันที เมื่อแน่ใจว่าโดยรอบไม่มีศัตรูอยู่จึงได้กลับมาอย่างวางใจ เย่ชิงหานเริ่มสอบถามเสี่ยวเฮยเกี่ยวกับสิ่งที่มันได้มา แต่คิดไม่ถึงว่าบนมือของมันจะมีของสิ่งหนึ่งซึ่งใช้เถาวัลย์มัดรวมกันเป็พวงๆ ไว้ เมื่อพิจารณาดูอย่างถี่ถ้วนถึงได้รู้ว่าของที่ห้อยอยู่เป็พวงๆ นั้นล้วนเป็แหวนสัญลักษณ์
เย่ชิงอู่ถูกแหวนเป็พวงๆ ที่เสี่ยวเฮยนำมาทำเอาสะดุ้งใขึ้น อ้าปากค้างพูดออกมา “อ๊า! เป็แหวนทั้งหมดเลย! เสี่ยวเฮย อย่าบอกนะว่าที่เ้าใช้เวลาอยู่ในหุบเขาตั้งนานก็เพื่อเก็บรวบรวมแหวน? ์! มีแหวนสีน้ำเงินตั้งห้าวง แหวนสีเขียวอย่างน้อยก็มีไม่ต่ำกว่าสิบวงได้กระมัง!”
“แหะๆ! นางคิดว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์อย่างข้าหายไปตั้งนานเพื่ออะไร? ลูกพี่ ข้ารู้ว่าท่าน้าคะแนนสะสมจำนวนมาก พอดีในหุบเขาัดำมีแหวนกระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด ถ้าไม่เอาก็เสียดาย! แต่ของพวกนี้เป็แค่เพียงผลพลอยได้เล็กๆ น้อยๆ เพียงเท่านั้น ผลประโยชน์ใหญ่จริงๆ ข้ากลืนมันลงท้องไปแล้ว ไม่ไหวแล้ว...พลังงานมหาศาลจนเกินไปข้าต้องรีบกลับเข้าไปหลอมผลึกัเพื่อดูดซับพลังงานทั้งหมดเหล่านี้ก่อน ฮ่าๆ! โชคดีจริงๆ ไม่รู้ว่าหลังจากที่ดูดซับพลังงานเหล่านี้แล้วข้าจะสามารถผ่านเข้าสู่่ระยะโตเต็มวัยได้หรือไม่!”
เสี่ยวเฮยส่ายหัวของมันอย่างภาคภูมิใจ ยื่นแหวนที่อยู่ในมือมาให้เย่ชิงหาน จากนั้นร่างของมันสั่นวูบทีหนึ่งก่อนจะกลายเป็เงาเลือนรางหายเข้าไปภายในร่างของเย่ชิงหาน
ฮะ! คะแนนมากมายขนาดนี้เลย?
เย่สือซานและเย่สือชีมองตากันครั้งหนึ่ง สีหน้าปรากฏแววปลื้มปีติยินดี พวกเขาลำบากลำบนล่าสังหารอยู่หลายเดือนกว่าจะได้คะแนนสะสมมาไม่กี่พัน แต่เสี่ยวเฮยไปมารอบเดียวนำคะแนนกลับมาตั้งพันสองพันคะแนน เย่สือซานพูดขึ้นด้วยอารมณ์เบิกบาน “ไปกันเถอะ เดินไปนับคะแนนไป สือชีตรวจสอบดูหน่อยว่าตอนนี้พวกเราอยู่ตำแหน่งไหนของแผนที่กัน?”
เย่สือชีหัวเราะแหะๆ ด้วยความสุขใจที่รู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ บวกกับเสี่ยวเฮยที่กลับมาอย่างปลอดภัยพร้อมกับแหวนคะแนนเป็กอง อามรมณ์จึงดีขึ้นมารีบหยิบแผนที่ออกมาเปรียบเทียบดูกับภูมิประเทศโดยรอบ จากนั้นวิ่งออกไปสำรวจทั้งสี่ทิศอีกครั้งถึงค่อยกลับคืนมาแล้วพูดขึ้น “อืม! ต้องรีบออกเดินทางแล้วละ ครั้งนี้พวกเราถูกส่งออกมาไกลไปหน่อย ตอนนี้พวกเราอยู่ทุ่งหญ้าสีเื หากจะกลับออกไปสนามรบตะลุมบอนที่ใกล้ที่สุดก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยประมาณสิบวัน”
“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ! สือชี เ้าไปสำรวจทางข้างหน้า!” เย่สือซานพยักหน้าแล้วพูดขึ้น
ทั้งสี่คนล้วนอารมณ์ค่อนข้างดี เผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนถูกหมาป่าจันทราสีเงินสองหัวและัดำบดขยี้ไปถึงสองครั้ง าเ็ล้มตายไปเป็จำนวนมาก แม้พวกเขาไม่แน่ใจว่าเยาขาข่าและหมันก้านได้นอนหลับใหลชั่วนิจนิรันดร์อยู่ภายนอกหุบเขาัดำด้วยหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ถือว่าได้กำไรกลับมาให้พวกเย่อีไม่น้อย!
“อืม! นายน้อยหาน หยุดก่อนสักครู่” เย่สือซานนึกอะไรขึ้นมาได้พลันหยุดลงในทันทีพร้อมกับพูดขึ้น
“มีอะไรอย่างนั้นรึ?” เย่ชิงหานหยุดชะงักลงอย่างแปลกใจ มองดูเย่สือซานอย่างงุนงง เย่สือชีและเย่ชิงอู่ก็หยุดลงพร้อมๆ กัน ต่างส่งสายตาหันไปมองทางเย่สือซาน
“เอาแมลงออกมา บีบมันให้ตายให้หมด เหลือแค่ซากมันไว้เป็หลักฐานก็เพียงพอแล้ว! ไม่อย่างนั้นละก็ความเคลื่อนไหวของพวกเราคงได้ถูกเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนรับรู้ได้อีก ข้ากลัวว่าพวกมันจะมาโอบล้อมสังหารพวกเราอีก!”
“อืม!” เย่ชิงหานเข้าใจได้ในทันที หยิบกระปุกชนิดหนึ่งออกมาจากภายในหน้าอก จากนั้นเทแมลงอำพรางที่อยู่ภายในออกมา ใช้กริชัเขียวกรีดลงไปยังลำตัวของพวกมันจนขาดออกเป็สองซีก แล้วก็จับใส่กระปุกเก็บคืนไว้ภายในหน้าอกดังเดิม หลังจากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเย่ชิงหานจึงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เสร็จเรียบร้อย คาดว่าครั้งนี้คงไม่ถูกติดตามแล้วละ ไปกันเถอะ! จากที่นี่กว่าจะถึงสนามรบตะลุมบอนก็ต้องใช้เวลาเป็สิบวัน คิดว่าพวกเฟิงจื่อ เยว่ชิงเฉิงคงรอย่างกระวนกระวายใจแล้วตอนนี้!”
“คิกๆ เย่ชิงหาน ข้าว่าเ้ากลัวเยว่ชิงเฉิงรอจนกระวนกระวายใจมากกว่ามั้ง!” เย่ชิงอู่มองกลอกตาขาว พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หึงเล็กน้อย
“ใครรอก็เหมือนกันนั่นแหละ ล้วนไม่ต่าง!” เย่ชิงหานพูดออกมาอย่างเขินอาย ภายในหัวปรากฏร่างที่อ้อนแอ้นอรชรของเยว่ชิงเฉิงพร้อมกับดวงตาที่งดงามมีเสน่ห์ของนาง ทำเอาเย่ชิงหานรู้สึกเคลิบเคลิ้มขึ้นมาทันที
“ไปกันเถอะ!”
เย่สือซานตบไปที่หลังของเย่ชิงหานเพื่อดึงความคิดของเขากลับมายังปัจจุบัน จากนั้นก้าวเท้าทะยานออกไปเบื้องหน้า เย่ชิงหานสะดุ้งใแต่มุมปากกลับปรากฏรอยยิ้มอ่อนหวานขึ้นแล้วพุ่งตัวตามออกไป
.................................
เขตพื้นที่รวมพลชั่วคราวของเขตปกครองเทพาภายในสนามรบตะลุมบอน
วันนี้หลงไซ้หนานได้เรียกรวมพลเหล่าผู้นำกองกำลังขนาดเล็กทั้งหลายให้มาประชุมกันภายในถ้ำอีกครั้ง
“ข้าเพิ่งได้รับข่าวใหม่ล่าสุดมา ตอนเช้าของวันนี้เยาขาข่าและหมันก้านบุกโจมตีเข้าไปในหุบเขาัดำ แต่คิดไม่ถึงว่าข่าวกรองของพวกเขาจะเกิดผิดพลาดขึ้นมา หุบเขาัดำกลับกลายเป็ว่ามีัดำอยู่ถึงสองตัว กองกำลังที่เยาขาข่าและหมันก้านยกไปล้วนเสียหายยับเยิน นักรบระดับขอบเขตราชันย์ปีศาจและราชันย์คนเถื่อนถูกสังหารเสียชีวิตอย่างน้อยสี่ถึงห้าคน ตอนนี้กองกำลังที่เหลือกำลังทำการหลบหนีกันอย่างหัวซุกหัวซุน ข่าวกรองนี้ได้รับการยืนยันจากหน่วยสอดแนมจำนวนหลายคนรับรองได้ว่าไม่ผิดพลาดแน่นอน”
“อ๊า!”
เมื่อหลงไซ้หนานพูดจบเหล่าผู้นำของกองกำลังขนาดเล็กทั้งหลายราวกับถูกฟ้าผ่าฉันนั้น ทำสีหน้ามึนงงราวกับคนโง่ พวกเขาคิดว่าเยาขาข่าและหมันก้านที่เป็ถึงผู้นำทัพของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนคงไม่ใช่คนโง่เขลาเป็แน่แท้ ในเมื่อเลือกที่จะไปสังหารัก็น่าจะมีความเชื่อมั่นมากพอที่จะทำได้สำเร็จ ใครจะไปคาดคิดเล่าว่าเพิ่งไปถึงได้ไม่กี่วันก็กลายมาเป็ฝูงมดให้ัดำไล่บดขยี้เสียแล้ว
“แม่นางหลง ท่านแน่ใจหรือ?” เสว่อู๋เหินเมื่อได้ฟังหน้าเปลี่ยนสีไปในทันที เขารู้เป็อย่างดีว่าทำไมเยาขาข่าและหมันก้านถึงต้องไปสังหารั และรู้เป็อย่างดีอีกว่าทั้งเยาขาข่าและหมันก้านไม่เพียงแต่จะไปสังหารั ที่สำคัญที่สุดคือถือโอกาสสังหารเย่ชิงหานด้วย ตอนนี้เมื่อได้ยินข่าวสารที่หลงไซ้หนานพูดออกมา แล้วหวนคิดไปถึงจุดแดงที่อยู่บนลูกแก้วผลึกที่เลือนหายไปอย่างฉับพลัน เขารู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นมาทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้