บทที่ 12
‘ปู่แอบรักย่านานแค่ไหนครับ?’
‘นานอยู่นะ แอบรักเพื่อนก็แบบนี้แหละเ้ารัก ต้องเก็บไว้จนกว่าจะแน่ใจว่าใจตรงกันจริง ๆ ถ้าเขาไม่ชอบเราก็ต้องเก็บต่อไปเพื่อไม่ให้เสียเขาไป’
‘โชคดีนะครับที่ย่าใจตรงกับปู่’
‘จริง ๆ ย่าเรามาสารภาพกับปู่ตอนคบกันแล้ว ย่าบอกว่าเขาก็รู้สึกเหมือนกับปู่ แต่ที่ยังปล่อยไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมแสดงออกให้รับรู้ว่าเริ่มมีใจเหมือนกันก็เพราะอยากให้ตัวเองแน่ใจก่อนว่ารู้สึกแบบเดียวกับปู่ ไม่ใช่แค่หวั่นไหว่เวลาหนึ่งแล้วความรู้สึกทุกอย่างก็หายไป’
‘…’
‘ปู่ยังจำคำที่ย่าบอกได้อยู่เลยนะ…ย่าพูดว่าการที่เราอยากรู้ว่าใครแอบชอบหรือตกหลุมรักเรา นั่นแสดงว่าเราพร้อมจะรับผิดชอบความรู้สึกของเขาแล้ว ถ้ายังไม่มั่นใจว่ารู้สึกเหมือนเขาจริง ๆ ก็อย่าเพิ่งไปอยากรู้ ถามตัวเองให้แน่ใจก่อนว่ารู้สึกเหมือนเขาจริง ๆ หรือเปล่า ไม่อย่างนั้นเราอาจจะเสียใจที่ต้องเสียใครบางคนไป และคนนั้นก็จะเสียใจที่รู้ว่าไม่สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ไปได้ไกลมากกว่านี้’
‘แล้วถ้าเราไม่ได้ไปเค้นถาม แต่เขาสารภาพมาเองล่ะครับปู่’
‘อืม…กรณีนี้ย่าไม่ได้บอกไว้ แต่ถ้าเอาในความคิดปู่นะ ปู่คิดว่าคนที่กล้าสารภาพเขาคาดหวังว่าอย่างน้อยขอแค่คน ๆ นั้นได้รับรู้และเขาก็ได้ชนะใจตัวเอง แค่นั้นคงพอแล้ว’
‘แล้วถ้าย่าไม่ถามปู่ว่ารู้สึกยังไงกับย่า ปู่จะสารภาพรักกับย่าไหมครับ?’
‘คงไม่ เพราะปู่ไม่อยากเสียย่าไป…ย่าเราน่ะ เก็บอาการเก่งสุด ๆ แต่หนึ่งสิ่งที่เขาทำให้ปู่รู้ว่าตัวเองยังพอมีหวังก็คือย่าไม่เคยมองใครเลย มีคนมาจีบย่าก็ไม่สน และที่ทำให้ปู่พอจะหวังต่อไปได้คือการปฏิบัติที่แตกต่างของย่า ปู่จะได้รับอะไรแตกต่างจากเพื่อนคนอื่น ๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็รอยยิ้ม แววตา หรือความใส่ใจ มันทำให้เรารู้สึกเป็คนพิเศษ’
‘ความรักของคนสมัยก่อนนี่อบอุ่นหัวใจดีจังเลยนะครับ ค่อย ๆ ศึกษากันไป’
‘ใช่ มันเรื่อย ๆ ช้า ๆ แต่อิ่มหัวใจอย่างบอกไม่ถูก’
‘…’
‘ถ้าจะพูดให้ดูทันสมัยหน่อยก็คือ…ค่อย ๆ ก้าว แต่ทุกก้าวนั้นมั่นคง’
‘โอ้โฮ…ละครภาคค่ำทำให้ปู่คิดประโยคลึกซึ้งแบบวัยรุ่นสมัยนี้ได้เลยนะครับ’
‘ฮ่า ๆ ก็จำ ๆ มาบ้าง ละครเป็เพื่อนแก้เหงาของคนแก่นะเ้ารัก’
‘…’
‘เ้ารัก…ถ้าวันหนึ่งเกิดหัวใจเต้นแรงกับใครสักคน อย่าไปฝืนมันนะ ปล่อยให้มันเป็ไป แล้วค่อย ๆ ให้เวลาช่วยยืนยันความรู้สึก ให้เวลาช่วยบอกเราว่าความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้จะอยู่แค่่เวลาหนึ่งหรือตลอดไป…’
‘ครับ…ปู่’
บทสนทนาของที่รักกับปู่ตอนที่นอนคุยกันเมื่อคืนวนกลับมาอีกครั้ง เขาไม่รู้ว่าทำไมมันถึงได้กลับมาทั้งที่ไม่ได้เรียกร้อง และไม่ใช่เพราะเขาอยู่ในบรรยากาศที่เงียบสงบจนเกินไปเลยทำให้ความทรงจำบางอย่างแทรกเข้ามาได้เพราะพี่ดอมเปิดเพลงเสียงดังพอที่จะไล่ความเงียบออกไปจากรถ
แต่ก็นั่นแหละ…มันวนกลับมาให้คิดอีกครั้ง
พี่ดอมกำลังขับรถไปส่งเขาที่คอนโดหมื่นฟ้าเพื่อทำงานวิชาถ่ายภาพ เราออกมาจากบ้านั้แ่ตีสี่ครึ่งเพื่อจะได้ถึงที่คอนโดทันตีห้าครึ่ง พี่ดอมกับพี่เบบบอกว่าจะได้มีเวลาเตรียมตัว ถึงที่หมายไวกว่าเวลานัดดีกว่าไปสายแล้วพลาดถ่ายภาพแรก ที่รักคิดว่าเชื่อพี่ ๆ ที่มีประสบการณ์มาก่อนดีที่สุด
ภาพแรกที่ควรจะได้คือตอนพระอาทิตย์กำลังโผล่พ้นขอบฟ้าในเวลาหกโมงเช้า นั่นเป็สาเหตุที่ทำให้เขาได้นอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง
เอาจริง ๆ ต้องโทษตัวเองที่ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ
จนถึงตอนนี้ที่รักยังตื่นเต้นที่ต้องอยู่กับหมื่นฟ้าสองคนั้แ่หกโมงเช้าจนถึงหกโมงเย็น แน่นอนว่าเราเคยเจอและอยู่ด้วยกันสองคนบ่อยแล้ว แต่เขาไม่เคยอยู่กับหมื่นฟ้านานหลายชั่วโมงขนาดนี้ อาการปั่นป่วนที่เคยเป็จะเล่นงานร่างกายและหัวใจของเขาหนักขนาดไหนกัน เพราะเขาแทบไม่มีเวลาได้ห่างจากหมื่นฟ้าเพื่อถอยไปพักใจเลย
“ขอโทษนะรักที่พี่กับเบบอยู่เป็เพื่อนไม่ได้”
“ไม่เป็ไรครับพี่ดอม ก็พี่เบบไข้ขึ้นขนาดนั้น”
“เมื่อวานที่งานวันเกิดใกล้ยังดี ๆ อยู่เลย พี่คิดว่าหายสนิทแล้วนะ”
“พี่ดอมส่งรักเสร็จแล้วจะแวะไปรับพี่เบบไปหาหมอใช่ไหมครับ?”
“ใช่ ถ้าเบบดีขึ้นแล้วพี่อาจจะมาอยู่เป็เพื่อนเรานะ”
“พี่ดอมเฝ้าพี่เบบไปเถอะครับ รักจัดการตัวเองได้ รักก็คงไม่รบกวนพี่ฟ้ามากหรอก แค่มาขอถ่ายที่คอนโดเขาก็เกรงใจจะแย่แล้วครับ”
พี่ดอมหัวเราะเบา ๆ ขณะมองทางข้างหน้า “ไม่ต้องเกรงใจหรอก มันเต็มใจ เผลอ ๆ มันจะช่วยถ่ายด้วยน่ะสิ”
“ช่วยสอนเทคนิคดี ๆ ก็พอแล้วครับ ไม่ต้องลำบากช่วยถ่ายให้รักหรอก…”
ทันทีที่พูดจบรถก็เลี้ยวเข้าไปในคอนโดหรูแห่งหนึ่ง พี่ดอมโทรหาหมื่นฟ้าเพื่อบอกว่ามาถึงแล้วก่อนจะขับไปจอดรอที่ลานจอดรถ ไม่นานนักหมื่นฟ้าก็มาปรากฏตัว ที่รักเลยรีบคว้ากระเป๋ากล้องและกระเป๋าหนังสะพายข้างของตัวเองเพื่อเตรียมลงจากรถ
“ตั้งใจทำงานนะแก้มย้อย”
“ครับ พี่ดอม” พยักหน้ารับก่อนจะลงจากรถ ที่รักยืนโบกมือลาพี่ดอมที่เปิดกระจกชะโงกหน้าออกมาเล็กน้อย เ้าตัวโบกมือกลับแล้วชี้คนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา
“อย่าแกล้งน้องกูนะไอ้ฟ้า ดูแลดี ๆ ด้วย”
“เออ…ไม่ต้องห่วง”
พี่ดอมอมยิ้มพร้อมพยักหน้ารับหมื่นฟ้า ที่รักยืนมองจนรถ BMW หายลับไปจากสายตา ตอนนี้เหลือเพียงแค่เขากับหมื่นฟ้าเท่านั้น
“รักมาเช้าเกินไปใช่ไหมครับ?”
แม้หน้าตาของหมื่นฟ้าจะไม่ได้ดูเหมือนคนที่เพิ่งตื่นนอน และเรือนผมสีช็อกโกแลตไม่ได้ยุ่งเหยิง แต่การแต่งกายที่แตกต่างจากที่เคยเห็นทำให้ที่รักคิดว่าอีกฝ่ายคงยังไม่ได้อาบน้ำเตรียมตัวต้อนรับเขา หมื่นฟ้าใส่เพียงแค่เสื้อยืดคอกลมสีขาวกับกางเกงวอร์มสีเทาเท่านั้น ทว่าเ้าตัวยังคงดูดีไร้ที่ติเหมือนเดิม
ที่รักแอบอิจฉาในความหล่อของหมื่นฟ้าอีกแล้ว
หมื่นฟ้าไม่เคยหล่อน้อยลงเลย…ขนาดเพิ่งตื่นนอนนะเนี่ย
“ต่อให้เช้าแค่ไหน ถ้าคุณท้องทะเลจะมาหาก็ต้องตื่นครับ…”
ที่รักก้าวถอยหลังเล็กน้อยพอคนตัวสูงโน้มหน้าลงมาหากัน “…”
“เพราะพี่ฟ้ากลัวสึนามิครับ”
“พี่ฟ้า! ล้อกันอีกแล้วนะครับ”
“หึ ๆ …” หมื่นฟ้าหัวเราะในลำคอก่อนจะคว้ากระเป๋ากล้องที่อยู่ในมือเขาไปถือแทน เ้าตัวจะแย่งกระเป๋าหนังไปอีก แต่เขารั้งเอาไว้ก่อน
“ไม่เป็ไรครับพี่ฟ้า รักถือเองได้…กระเป๋ากล้องรักก็ถือเองได้ครับ” พูดพร้อมยื่นมือไปหาหมื่นฟ้าเพื่อขอคืน แค่เขามาขอทำงานที่คอนโดก็มากพอแล้ว ที่รักไม่อยากรบกวนหมื่นฟ้าไปมากกว่านี้
“ขึ้นห้องก่อน เดี๋ยวพี่ฟ้าคืน”
“พี่ฟ้า! ทำไมดื้ออย่างนี้ล่ะครับ”
ที่รักเบิกตาโตพอกระเป๋าหนังอีกใบที่ถืออยู่โดนคนตัวสูงฉกฉวยไปต่อหน้า ตอนนี้เขาทำได้แค่เดินตามหมื่นฟ้าที่ก้าวเดินเร็ว ๆ คล้ายกลัวเขาจะแย่งกระเป๋าคืน เป็ครั้งแรกที่หมื่นฟ้าเดินนำหน้าโดยไม่หันกลับมามองเขา แต่เ้าตัวยังใจดีถึงได้กดลิฟต์ไว้รอกัน
ทันทีที่เข้ามาในลิฟต์ที่รักก็หันไปจ้องเขม็งใส่หมื่นฟ้าคนดื้อที่กำลังกดเลือกชั้นอยู่ พอเ้าตัวหันกลับมาเห็นเขาก็หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเดินอ้อมไปด้านหลัง ที่รักขมวดคิ้วมองหมื่นฟ้าผ่านเงาสะท้อนที่ปรากฏอยู่บนประตูลิฟต์ คนตัวสูงก้าวเท้าเข้ามาประชิดด้านหลังก่อนจะเอาคางหนัก ๆ วางทับลงบนศีรษะของเขา
ดีนะอยู่กันแค่สองคน…
ที่รักเห็นทุกการกระทำของหมื่นฟ้าผ่านเงาสะท้อนตรงหน้า และตอนนี้ก็เห็นหมื่นฟ้าหัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งเขา ที่รักปฏิเสธไม่ได้เลยว่า…
หมื่นฟ้าน่ารักชะมัดเลย T_________T
“ส่วนสูงพอดีกันเลยครับตัวดื้อ…”
“…”
“พอดีให้พี่ฟ้าได้พักให้หายเมื่อย”
“พี่ฟ้าจะหลอกว่ารักเตี้ยก็พูดมาเถอะครับ”
“ตัวเล็ก…”
ที่รักขมวดคิ้วมองคนในเงาสะท้อน หมื่นฟ้าอมยิ้ม เ้าตัวไม่ยอมเอาคางออกจากศีรษะของเขาเลย “ไม่ต้องพูดปลอบใจรักหรอกครับ”
“พี่ฟ้าไม่ได้พูดปลอบใจ ตัวดื้อดูสิครับ…เตี้ยที่ไหน?” หมื่นฟ้าพูดพร้อมชี้ไปที่ประตูลิฟต์เพื่อให้เขามองภาพเราสองคนที่สะท้อนเด่นชัดอยู่ “ตัวเล็กกับตัวโต”
ไม่รู้เป็เพราะที่รักจ้องภาพสะท้อนตรงหน้านานจนเกินไปหรือประโยคคำพูดของหมื่นฟ้าที่ทำให้หัวใจเริ่มเต้นผิดจังหวะ เขารีบหลุบตาลงต่ำหวังไม่ให้หัวใจเต้นเร็วไปกว่านี้ แต่เสียงหัวเราะในลำคอของคนตัวสูงที่ยังหน้ามึนเอาคางวางไว้ที่เดิมเร้าให้หัวใจของเขาร้องโวยวายเสียงดัง
“พี่ฟ้า…เอาคางออกไปได้แล้วครับ”
“ตัวเล็กหนักเหรอครับ? พี่ฟ้าไม่ได้ทิ้งน้ำหนักมากเลยนะครับ”
“…” ตัวดื้อเขายังพอทน แต่ตัวเล็กเขาคิดว่ามันน่าเอ็นดูจนใจสั่นไปหมด บางทีหมื่นฟ้าควรจะหยุดเรียกกันด้วยถ้อยคำที่น่ารักสักที T____T
“สงสัยจะหนักจริง ๆ เงียบเลย”
หมื่นฟ้าเอาคางออกจากศีรษะของเขา เ้าตัวเอากระเป๋าทั้งสองใบสะพายที่แขนข้างเดียวก่อนจะใช้มือข้างที่ว่างอยู่ลูบจัดทรงผมให้เขา ที่รักถอนหายใจพลางคิดว่าตัวเองเหมือนลูกหมาของหมื่นฟ้าเลย
“วันนี้รักไม่ได้สระผมมานะครับ พี่ฟ้าไม่กลัวกลิ่นหัวเน่าติดมือเหรอครับ?”
“ไม่ครับ…”
คงเป็เพราะหมื่นฟ้าโน้มใบหน้าลงมาแล้วเอาจมูกััที่ผมของเขา ภาพเหตุการณ์วันนั้นที่อยู่ในกล้องวงจรปิดถึงได้วนกลับเข้ามาในหัวเหมือนหนังที่ฉายซ้ำ ที่รักเงยหน้ามองคนตัวสูงอย่างตั้งรับไม่ทัน
“ตัวดื้อขี้โม้…พี่ฟ้าไม่ได้กลิ่นหัวเน่าเลยครับ”
“…”
และเป็ในตอนนั้นเองที่เสียงของปู่ดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท หากเขาใจเต้นแรงกับใครสักคน สิ่งที่ควรทำคือปล่อยให้มันเป็ไปตามธรรมชาติโดยไม่ฝืน แล้วรอเวลาช่วยยืนยันความรู้สึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
หรือเขาไม่ควรฝืนมันอย่างที่ปู่บอก…
#กี่หมื่นฟ้า
หลังจากที่หมื่นฟ้าพาเขาเอาของไปเก็บที่ห้องแล้ว เ้าตัวก็พาขึ้นมาบนดาดฟ้าของคอนโดเพื่อตั้งกล้องเตรียมถ่ายท้องฟ้าตอนหกโมงเช้า บนดาดฟ้ามีสวนหย่อมขนาดเล็กไว้ให้นั่งพักผ่อน และเมื่อเดินไปจนถึงกำแพงกั้นที่มีความสูงเท่า่อกจะสามารถเห็นทัศนียภาพได้อย่างกว้างไกล ตอนนี้ที่รักไม่แปลกใจเลยที่พี่ดอมคะยั้นคะยอให้มาถ่ายงานที่คอนโดหมื่นฟ้า เพราะที่นี่เหมาะกับงานชิ้นนี้อย่างที่เ้าตัวพูดจริง ๆ
“เดี๋ยวเราตั้งกล้องตรงนี้นะครับ เสร็จแล้วเราก็ลงไปกินมื้อเช้ากันก่อน พอได้เวลาค่อยขึ้นมาถ่ายรูป”
“โอเคครับพี่ฟ้า…”
ที่รักหยิบขาตั้งกล้องออกมาจากกระเป๋า เขาวางมันให้อยู่ในตำแหน่งที่หมื่นฟ้าแนะนำ รุ่นพี่ที่มีประสบการณ์มากกว่าอย่างหมื่นฟ้าคอยช่วยเหลือเขาเป็อย่างดี ที่รักจึงสามารถจัดเตรียมทุกอย่างเสร็จได้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เมื่อตรวจเช็กความเรียบร้อยแล้ว เขาสองคนกลับลงไปที่ห้องเพื่อรอเวลา
ที่รักทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาหนังสีดำขนาดใหญ่ก่อนจะกวาดสายตาไปโดยรอบ ครั้งแรกที่เข้ามาเขารีบพอสมควรเพราะกลัวจะตั้งกล้องเตรียมถ่ายไม่ทันเลยไม่ได้สังเกตสิ่งต่าง ๆ ภายในห้องของหมื่นฟ้าสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้มีเวลาเหลือเฟือที่จะเก็บรายละเอียดทุกซอกทุกมุม
ห้องของหมื่นฟ้ากว้างพอสมควร ภายในห้องนี้มีห้องนอนแยกถึงสองห้อง ห้องน้ำสำหรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องซักล้าง และระเบียงที่เป็จุดชมวิวชั้นดี
ถ้าให้เลือกส่วนที่ชอบที่สุดในห้องนี้ ที่รักชอบตรงระเบียงเพราะมีโต๊ะไม้ที่วางต้นกระบองเพชรอยู่หลายต้น เขาไม่อยากเชื่อว่าหมื่นฟ้าจะมีมุมนี้ และคงเป็เพราะความไม่คาดคิดเลยทำให้ที่รักเกิดความประทับใจ
จริง ๆ มีหลายเื่ที่ประทับใจในตัวหมื่นฟ้า
แต่พอได้เห็นอีกมุมหนึ่งของเ้าตัวแล้ว…ก็ยิ่งทำให้ประทับใจเพิ่มขึ้นไปอีก
ต้นกระบองเพชร ทำให้หมื่นฟ้าคนดื้อน่ารักขึ้นเป็กอง :)
“พี่ฟ้าชอบต้นกระบองเพชรเหรอครับ?”
หมื่นฟ้าส่ายหน้าขณะเดินไปหยิบของในตู้เย็นเพื่อทำอาหารเช้า “ของพันลี้ครับ มันซื้อไปวางไว้ที่สวนหลังบ้าน แล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ไม่ยอมดูแล พี่ฟ้าสงสารก็เลยเอามาไว้ที่คอนโด”
“พันลี้นี่นะ ใช้ไม่ได้เลย ไว้เจอกันต้องอบรมหน่อยแล้ว”
“ตัวดื้อเอาไข่ดาวไหมครับ?”
“เอาก็ได้ครับพี่ฟ้า…”
ที่รักมองคนตัวสูงที่ยังอยู่ในชุดเดิม หมื่นฟ้าเอาผ้ากันเปื้อนสีเทามาผูก่เอวก่อนจะเริ่มทำอาหาร หากหมื่นฟ้าทำอะไรสักอย่างที่นอกเหนือจากการคุยกับเขา เ้าตัวจะมีสีหน้าเรียบนิ่งทันที อย่างเช่นตอนนี้ที่หมื่นฟ้าทำอาหารด้วยสีหน้าเดิม ที่รักเลยคิดสนุกอยากแกล้งแซวให้หมื่นฟ้าหลุดแสดงสีหน้าอื่นบ้าง
“พี่ฟ้ายังไม่อาบน้ำเหรอครับ?”
คนโดนถามละสายตาจากกระทะหันมองเขา “ครับ แต่ก่อนลงไปรับตัวดื้อ พี่ฟ้าล้างหน้าแปรงฟันแล้ว”
“รักว่าแล้ว ~ ที่แท้กลิ่นหัวเน่ามาจากพี่ฟ้านี่เอง…”
“หึ ๆ ”
ที่รักหัวเราะชอบใจพอเห็นอีกฝ่ายหลุดหัวเราะออกมา เขาย้ายจากโซฟามานั่งที่โต๊ะอาหารพอเห็นหมื่นฟ้าถอดผ้ากันเปื้อนเตรียมเอาอาหารเช้ามาให้ จานกระเบื้องสีขาวที่มีขนมปังสองแผ่น เบคอนทอด ไข่ดาวหนึ่งฟองถูกยื่นมาตรงหน้าก่อนที่คนตัวสูงจะเอาขวดซอสมะเขือเทศวางลงข้าง ๆ
หมื่นฟ้าจัดเตรียมทุกอย่างให้เขาเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปในห้องนอนก่อนจะออกมาพร้อมแมคบุ๊ก เ้าตัวเอามันมาวางทิ้งไว้ตรงข้ามเขาแล้วเดินกลับเข้าไปในครัวเพื่อชงกาแฟให้ตัวเอง ในระหว่างนั้นหมื่นฟ้าก็คุยโทรศัพท์กับเพื่อนเื่งานกลุ่มอะไรสักอย่างที่อาจารย์สั่ง ที่รักได้แต่มองคนตัวสูงเงียบ ๆ พลางคิดว่าหมื่นฟ้าเป็คนที่สมควรเอาเป็แบบอย่าง เ้าตัวมีภาระมากมายที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งเื่เรียนและงาน แต่หมื่นฟ้ายังคงบริหารเวลาได้เป็อย่างดี
“ไม่ชอบเหรอครับ?”
“ปะ เปล่าครับ”
“พี่ฟ้าไม่เห็นตัวดื้อกินเลย” หมื่นฟ้าทิ้งตัวนั่งลงตรงข้ามเขาก่อนจะเปิดแมคบุ๊ก เ้าตัวละสายตาจากหน้าจอสี่เหลี่ยมเพื่อมองเขาอีกครั้ง “ตัวดื้อไม่ชอบอาหารเช้าแบบนี้ใช่ไหมครับ เดี๋ยวพี่ฟ้าไปซื้ออย่างอื่นให้ไหม?”
“ไม่เป็อะไรครับ รักกินได้…แล้วพี่ฟ้าดื่มแค่กาแฟเหรอครับ?”
คนโดนถามที่เพิ่งวางแก้วกาแฟลงพยักหน้ารับ หมื่นฟ้าส่งยิ้มน้อย ๆ ให้เขา “พี่ฟ้าว่าจะกินมื้อเช้าตอนเราถ่ายรูปแรกเสร็จแล้ว ตอนนี้ตัวดื้อกินไปก่อนเลย…พี่ฟ้าขอแก้งานแป๊บนะครับ” พูดจบหมื่นฟ้าก็พรมนิ้วไปบนแป้นพิมพ์โดยไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องอยู่
“งานเยอะเลยเหรอครับพี่ฟ้า?” ที่รักถามขณะยัดขนมปังปิ้งใส่ปาก หมื่นฟ้าพยักหน้ารับพลางเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง แม้เ้าตัวจะให้ความสนใจกับงานมากกว่า แต่ที่รักไม่ได้รู้สึกว่าถูกเมินเฉยแม้แต่นิดเพราะหมื่นฟ้าคอยส่งยิ้มให้เขาตลอด เช่นตอนนี้ที่จับได้ว่าเขาแอบมองเ้าตัวทำงานอยู่
คนตัวสูงที่มีรอยยิ้มคล้ายแสงแดดในยามเช้าหัวเราะในลำคอเหมือนเคย ๆ เ้าตัวส่งมือหนามาลูบที่ศีรษะของเขาเบา ๆ ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“มองอะไรพี่ฟ้าครับตัวดื้อ?”
“…” คนโดนถามเอนตัวเล็กน้อยเพื่อให้ศีรษะของตัวเองหลุดพ้นจากการถูกัั เขาไม่ได้รังเกียจหมื่นฟ้าเพียงแต่หัวใจมันเริ่มเต้นแรงเพราะัันั้นจึงต้องถอยหนีเพื่อตั้งหลัก ที่รักก้มหน้ากินอาหารเช้าต่อโดยไม่ตอบอะไร เขาไม่มีคำตอบให้อีกฝ่ายหรอก เพราะที่รักก็เพิ่งรู้ตัวเองเหมือนกัน…เพิ่งรู้ว่ามองหมื่นฟ้าบ่อยเกินไปแล้ว
“เดี๋ยวพี่ฟ้าไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะครับ”
“ครับ”
ที่รักลอบมองคนตัวสูงที่ลุกออกจากโต๊ะแล้วหายเข้าไปในห้องนอน เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะอาหาร อาการปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในช่องท้องเริ่มลุกลามไปทั่วทั้งร่างจนทำให้รู้สึกตัวอ่อนยวบ เขาจะต้องทนกับอาการแบบนี้ไปตลอดทั้งวัน ทางเดียวที่จะทำให้ตัวเองกลับสู่สภาวะปกติคือออกห่างจากหมื่นฟ้า
แล้วตอนนี้ห่างกันได้ที่ไหนเล่า!! มีงานต้องทำนี่ T______T
ทว่าสักพักก็มีเสียงดังแกร๊กเกิดขึ้นทำให้คนตัวเล็กที่นอนฟุบหน้าอยู่รีบลุกขึ้นนั่งหลังตรงทันที แต่ภาพที่เห็นตรงหน้ากลับทำให้ที่รักอยากจะฟุบหน้าลงบนโต๊ะอีกครั้ง
หมื่นฟ้าที่ตัวหอมฟุ้งเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินออกมาจากห้องนอนด้วยการเปลือยท่อนบนจนเห็นรอยสักบนหน้าอกชัดเจน คนตัวสูงสวมเพียงกางเกงยีนส์สีซีดเท่านั้น ที่รักไม่มั่นใจว่าเ้าตัวลืมการมีอยู่ของเขาหรือเปล่าเพราะหมื่นฟ้ากำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ บางทีหมื่นฟ้าคงเคยชินกับการถอดเสื้ออยู่ที่ห้อง
แต่เ้าตัวช่วยยืนยันตัวตนของเขาด้วยการเดินมายกแก้วกาแฟขึ้นดื่มพร้อมยักคิ้วใส่ตอนที่เขาเงยหน้ามอง ที่รักจึงต้องถอยทัพโดยการหลุบตาลงต่ำเหมือนเคย ไม่ว่าหมื่นฟ้าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง เขาก็ต้องยกธงขาวยอมแพ้ทุกครั้งไป
เพราะความเป็หมื่นฟ้านั่นแหละที่ทำให้เขาแพ้
อาวุธแต่ละอย่างของหมื่นฟ้านั้นร้ายแรง
ยิ่งตอนที่หมื่นฟ้ายักคิ้วใส่…เขาใจเหลวไปหมดเลย T______T
ที่รักกลืนน้ำลายลงคอพร้อมกล่าวขอโทษไข่ดาวในใจที่ไม่สามารถเอามันลงไปอยู่ในท้องได้ มันคงต้องทนเหงาอยู่ในจานเหมือนเดิม ส่วนเบคอนกับขนมปังคงมีความสุขกันดีในกระเพาะของเขา ที่รักลอบมองเ้าของห้องที่รดน้ำต้นกระบองเพชรขณะคุยโทรศัพท์ไปด้วยพลางคิดว่าหมื่นฟ้ามีหุ่นดีอย่างที่คิดไว้จริง ๆ
หมื่นฟ้าหุ่นดีชะมัด…
กล้ามหน้าท้องแบบนั้น…ทำได้ยังไงนะ
ดวงตาเรียวรีหลุบมองพุงน้อย ๆ ของตัวเองสลับกับกล้ามหน้าท้องของหมื่นฟ้า ที่รักพยักหน้าพร้อมยกมือขึ้นลูบท้องเบา ๆ เพื่อปลอบใจตัวเอง
เราหิวก็ต้องกินเนอะ
ไม่เป็ไรนะเ้าพุงกะทิ…ถึงเราจะอยากมีกล้ามหน้าท้องเหมือนพี่ฟ้า
แต่เราก็ไม่ทิ้งนายหรอก…
เพราะว่าเขาตัดใจทิ้งเ้าพุงน้อยไม่ได้ ไข่ดาวที่โดนทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยวในจานก็ถูกตักใส่ปากอีกครั้ง ในเมื่อสร้างกล้ามหน้าท้องไม่ได้อย่างคนอื่น เขาก็ควรจะมีความสุขกับการกิน แต่ที่รักรู้ดีว่าควรกินในปริมาณที่พอดี ไม่ได้มากเกินจนทำร้ายสุขภาพ เพียงแต่เขาจะไม่ยอมอดอาหารเด็ดขาด
ในระหว่างที่ที่รักเคี้ยวไข่ดาวตุ้ย ๆ อยู่นั้น บทสนทนาของหมื่นฟ้ากับใครบางคนก็เล็ดลอดมาให้ได้ยิน ที่รักไม่ได้จะแอบฟังอีกฝ่าย แต่เพราะหมื่นฟ้าไม่ได้พูดเสียงเบาสักเท่าไร เขาเลยได้ยินทุกประโยคที่หมื่นฟ้าพูด
“เจ็บอยู่…กูเพิ่งไปสักตอนกลับจากสยาม”
“…”
“ก็ร้านประจำนั่นแหละ…”
“…”
“เออ…แค่นี้แหละ กูมีธุระต้องไปทำต่อ มึงเช็กงานที่กูช่วยแก้เสร็จแล้วก็นอนพักบ้าง เดี๋ยวได้น็อกตายเพราะอดนอน”
“…”
“เออ”
ที่รักไม่ได้หันกลับไปมองหมื่นฟ้าหลังจากที่เ้าตัวบอกลาคนในสาย ทว่ากลิ่นหอมประจำกายของหมื่นฟ้าทำให้รู้ว่าในเวลานี้คนตัวสูงยืนอยู่ข้างหลัง ที่รักนั่งตัวแข็งทื่อก่อนจะยกแก้วน้ำกระดกดื่มเพื่อคลายอุณหภูมิร้อนระอุที่เริ่มแผดเผาแก้มทั้งสองข้าง
แค่ได้กลิ่นน้ำหอมก็หน้าร้อนไปหมดแล้ว…
“กินหมดเลยเหรอครับ?”
“…”
ที่รักกำลังจะหันมองเ้าของเสียงที่อยู่ด้านหลัง แต่หมื่นฟ้ากลับโน้มตัวลงมาหากันแล้วเอาแขนทั้งสองข้างเท้าพนักเก้าอี้ไว้ เขาเพิ่งรู้ว่าตัวเองอยู่ในวงล้อมของหมื่นฟ้าก็ตอนที่เงยหน้าขึ้นมองเ้าตัว
เราไม่ได้สบตากันโดยตรงเพราะอยู่ในองศาที่แตกต่าง ที่รักเม้มริมฝีปากของตัวเองขณะจ้องมองริมฝีปากของหมื่นฟ้า เขาไม่ได้อยากมองทว่ามันยากจะหลีกเลี่ยงเพราะริมฝีปากของอีกฝ่ายเป็สิ่งเดียวที่อยู่ในระดับสายตา และที่รักคิดว่าหมื่นฟ้าคงจะเห็นเขาเม้มริมฝีปากแน่น เ้าตัวถึงได้เผยรอยยิ้มในแบบเดิมออกมา
รอยยิ้มที่คล้ายแสงแดดในยามเช้าอีกนั่นแหละ…
“เก่งมาก ๆ เลยครับตัวเล็กของตัวโต”
คงไม่ใช่เพราะประโยคคำพูดแสนน่ารักของหมื่นฟ้าที่ทำให้ที่รักเกือบหยุดหายใจ แต่เป็ในตอนที่ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนเข้ามาใกล้อีกนิดแล้วลบรอยยิ้มอบอุ่นด้วยการกัดริมฝีปากคล้ายกำลังหมั่นเขี้ยว การกระทำนั้นของหมื่นฟ้าพรากลมหายใจไปจากเขาชั่วขณะ แล้วหมื่นฟ้าก็คืนลมหายใจให้ด้วยการถอนตัวออกไป
“ใกล้ถึงเวลาแล้ว เดี๋ยวพี่ฟ้าไปใส่เสื้อก่อน ตัวดื้อเตรียมตัวรอพี่ฟ้าเลยนะครับ”
“…”
ที่รักไม่ได้เอ่ยตอบ เขาทำเพียงพยักหน้ารับอีกฝ่าย หมื่นฟ้าอมยิ้มก่อนจะเดินไปที่ประตูห้องนอน ในจังหวะที่เ้าตัวหันหลังให้เขา ที่รักเห็นตัวอักษรภาษาอังกฤษสีดำอยู่บนแผ่นหลังกว้าง รอยแดงที่ยังหลงเหลืออยู่บนผิวขาวซีดทำให้ที่รักคิดว่าเป็รอยสักใหม่ที่หมื่นฟ้าบอกคนในสายไป
ประโยคนั้นที่อยู่บนหลังหมื่นฟ้า
I’ m your Sky
&
You’ re my Sea
ทำให้เขารู้สึกบางอย่าง
#กี่หมื่นฟ้า
“โอเคไหมครับตัวดื้อ?”
“โอเคแล้วครับพี่ฟ้า”
“ขอพี่ฟ้าดูหน่อยครับ”
ที่รักถอยออกจากบริเวณตั้งกล้องเพื่อให้หมื่นฟ้าช่วยตรวจดูความเรียบร้อยของรูปภาพที่เพิ่งถ่ายไป ขณะที่หมื่นฟ้าดูรูปในกล้องอยู่ เขาก็ทอดสายตามองพระอาทิตย์ดวงโตที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้า หากเข็มนาฬิกาเดินเร็วอีกสักนิดดวงกลม ๆ สีส้มตรงหน้าก็จะหลุดพ้นจากการถูกบดบังแล้วลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า
เขาจำไม่ได้แล้วว่าเห็นพระอาทิตย์ขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ แต่สิ่งเดียวที่จำได้คือเขารู้สึกอบอุ่นตอนที่เห็นพระอาทิตย์ในตอนเช้า และแสงแดดอ่อน ๆ ที่กำลังโลมเลียผิวกายของเขาในตอนนี้ช่วยรื้อฟื้นความทรงจำขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ที่รักรู้ว่าความรู้สึกอบอุ่นที่เคยได้รับไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย
และรอยยิ้มของหมื่นฟ้าที่คล้ายแสงแดดในยามเช้าก็ไม่เกินจริงสักนิด…
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“โอเคครับพี่ฟ้า งั้นอีกครึ่งชั่วโมงเราค่อยขึ้นมาถ่ายใหม่”
“ตัวดื้อจะลงไปพักที่ห้องก่อนเหรอครับ?”
“ครับ รักจะพาคุณหมื่นฟ้าคนดื้อไปกินข้าวเช้าก่อนครับ”
“ลืมไปไม่ได้เหรอครับ?”
“ไม่ได้ครับ”
“แต่พี่ฟ้ายังไม่ค่อยหิวเลย”
“ไม่หิวก็ต้องกินครับ”
พูดจบที่รักก็คว้ามือหนาเพื่อชวนกลับห้อง หมื่นฟ้ายอมเดินตามเขามาง่าย ๆ โดยไม่ขัดขืน ทั้งที่ตอนแรกเ้าตัวแสดงอาการดื้อดึงไม่ยอมกลับมากินข้าวเช้า พอมาถึงห้องที่รักก็สั่งให้หมื่นฟ้าไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารก่อนจะเปิดตู้เย็นดูวัตถุดิบเพื่อทำอาหาร
“พี่ฟ้าครับ…ห้องพี่ฟ้ามีอะไรบ้างเนี่ย?”
“ตัวดื้อมานั่งเถอะครับ เดี๋ยวพี่ฟ้าทำเอง”
“อ๊ะ ๆ นั่งเลย ๆ ห้ามลุกนะครับ” ที่รักหรี่ตาพร้อมชี้นิ้วสั่งให้คุณหมื่นฟ้าคนดื้อที่ทำท่าจะลุกขึ้นนั่งลงเหมือนเดิม “ั้แ่รู้จักกัน รักมีแต่รบกวนพี่ฟ้า…ให้รักได้ทำอะไรตอบแทนพี่ฟ้าบ้างนะครับ”
“พี่ฟ้าไม่อยากให้ตัวดื้อลำบาก ไม่อยากให้เหนื่อย”
“การดูแลพี่ฟ้ามันไม่ลำบากและไม่เหนื่อยเลยสักนิด รักเต็มใจจะทำให้พี่ฟ้านะครับ”
“…”
ที่รักส่งยิ้มให้หมื่นฟ้าที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร เขารู้สึกอย่างที่พูดจริง ๆ หมื่นฟ้ายังไม่เคยแสดงออกว่าเหนื่อยหรือทำให้รู้ว่าการช่วยเหลือและดูแลเขาเป็เื่ลำบากเลยสักครั้ง แล้วจะให้ที่รักรู้สึกอย่างนั้นได้อย่างไร
“จากที่ดู ๆ ของในตู้เย็นแล้ว รักว่าทำได้แค่สองเมนูครับ”
“ทั้งสองเมนูคงเป็ไข่ทั้งหมด”
“ใช่ครับ”
“งั้นเอาอะไรก็ได้ครับที่ไม่ยุ่งยากสำหรับตัวดื้อ”
“ข้าวผัดไข่แล้วกันนะครับพี่ฟ้า…รักไม่ได้ทำเพราะมันไม่ยุ่งยากนะครับ แต่เพราะมันน่าจะดีที่สุด”
“…”
“คุณท้องฟ้าโอเคไหมครับ?”
“โอเคครับ”
ทันทีที่คุณท้องฟ้าตอบรับ ที่รักก็ลงมือเตรียมวัตถุดิบทำข้าวผัดไข่ ในตู้เย็นของหมื่นฟ้ามีข้าวสวยหุงสุกที่ถูกเก็บใส่กล่องไว้อย่างดี และมีไข่อยู่เต็มตู้ ส่วนเบคอนที่เขาคิดว่าจะมีในตอนนี้หมดเกลี้ยงไปแล้ว หมื่นฟ้าคงจะเอามาทำอาหารเช้าให้เขาจนหมด
“ยังดีนะครับที่มีข้าว”
“แม่บ้านเพิ่งเอามาส่งให้พี่ฟ้าเมื่อวานครับ”
ที่รักละสายตาจากกระทะหันมองหมื่นฟ้าก่อนจะถาม “ปกติพี่ฟ้าไม่ได้กินข้าวที่ห้องใช่ไหมครับ?”
“ปกติจะกินที่ร้านครับ แต่่นี้พี่ฟ้ากินข้าวเช้าบ่อย ๆ แม่บ้านก็เลยหุงข้าวใส่กล่องมาไว้ให้พี่ฟ้าอุ่นกินตอนเช้าครับ”
“เห็นไหมครับ มีแต่คนอยากให้คุณหมื่นฟ้าคนดื้อกินข้าวเช้า ถึงขนาดหุงข้าวมาไว้ให้เลย…จะมีใครสบายเท่าพี่ฟ้าอีกเนี่ย”
ที่รักปรายตามองหมื่นฟ้าที่เดินมาเปิดตู้เย็นเพื่อหาน้ำดื่ม นอกจากสีหน้าเรียบนิ่งที่เป็เอกลักษณ์ของเ้าตัวแล้ว หมื่นฟ้าจะชอบทำหน้ามึนเวลาที่ไม่เห็นด้วยกับอะไรบางอย่าง
หน้ามึน ๆ แบบนี้จะกลับมาตอนที่หมื่นฟ้าอยากจะดื้อกับเขา…
“…”
“ต้องกินเช้าข้าวทุกวันนะครับ รู้ไหมครับคุณท้องฟ้า?”
“ไม่รู้ครับ…” หมื่นฟ้าตอบก่อนจะดันตัวขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ที่อยู่ด้านหลังเขา ท่าทางแสนดื้อของคนตัวโตทำให้ที่รักรู้สึกหมั่นไส้จนอยากจะหยิกแขนแรง ๆ ให้ร้องไห้
“คุณท้องฟ้า…ห้ามดื้อนะครับ!”
หมื่นฟ้าอมยิ้มพอเห็นเขากอดอกจ้องเขม็งใส่ สงสัยหมื่นฟ้าจะเสพติดการโดนดุถึงได้ชอบยั่วอารมณ์เขา เ้าตัวพยักหน้ารับแล้วขยับปากพูดโดยไม่ออกเสียง แต่ที่รักดันอ่านปากของอีกฝ่ายออก
‘จะไม่ดื้อแล้วครับ’
“ไม่ต้องมาทำทะเล้นเลยนะครับพี่ฟ้า”
หมื่นฟ้าหัวเราะร่าพอเขาพูดแบบนั้น ที่รักหัวใจเต้นแรงตอนที่เห็นหมื่นฟ้ายิ้มกว้าง มันเป็รอยยิ้มที่สดใสที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น ทุกคนชอบบอกว่ารอยยิ้มของเขาสดใสเหมือนพระอาทิตย์ ตอนนี้ที่รักเริ่มไม่แน่ใจว่ารอยยิ้มเขากับหมื่นฟ้าของใครสดใสกว่ากัน
แต่ถ้าให้เลือก…คงเป็รอยยิ้มของหมื่นฟ้านั่นแหละ
“ไม่ทะเล้นแล้วครับ ไม่ดื้อด้วย”
“…”
“พี่ฟ้าเลิกดื้อแล้ว ชมพี่ฟ้าหน่อยได้ไหมครับ”
ที่รักส่ายหน้าน้อย ๆ พร้อมกลั้นยิ้มไปด้วย แท้จริงแล้วหมื่นฟ้าเป็ตัวโตที่ขี้อ้อนสุด ๆ เลย “เก่งมากครับ คุณหมื่นฟ้าเด็กดี”
#กี่หมื่นฟ้า
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จแล้วก็กลับขึ้นมาบนดาดฟ้าอีกครั้งเพื่อถ่ายรูปต่อ เราสองคนนั่งตรงโต๊ะไม้ยาวในสวนหย่อมที่มีร่มเงาพอสมควร อากาศบนนี้ไม่ได้ร้อนอย่างที่คิด แต่กลับมีลมพัดผ่านให้รู้สึกเย็นสบาย ที่รักเลยตัดสินใจชวนหมื่นฟ้าอยู่บนนี้จนเวลาล่วงเลยมาถึง่บ่าย หัวข้อสนทนาใน่แรกมีแต่เื่เรียนกับงานที่มหา’ ลัย ที่รักได้ความรู้ในการทำงานแต่ละวิชาจากหมื่นฟ้าเยอะพอสมควร
ตอนแรกที่รักกังวลว่าจะไม่มีเื่คุยกับหมื่นฟ้า แล้วอาจจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเบื่อ แต่ดีที่เราสามารถคุยกันได้เรื่อย ๆ แม้บางครั้งเราสองคนต่างนิ่งเงียบเพื่อหาหัวข้อสนทนาต่อไป ทว่าในความเงียบนั้นไม่ได้สร้างความอึดอัดเลยสักนิด
“อีกสามสิบนาทีค่อยไปถ่ายรูปต่อไป”
“ครับ…พี่ฟ้าตั้งนาฬิกาไว้ให้แล้ว”
ที่รักหันมองกล้องที่ตั้งอยู่ที่เดิมพลางคิดหาหัวข้อสนทนาใหม่เพื่อชวนหมื่นฟ้าคุยขณะรอถ่ายรูปต่อไป ระหว่างนั้นก็มีบางอย่างแวบเข้ามาในหัว มันเป็เื่ที่ที่รักคิดว่าควรจะทบทวนดี ๆ ก่อนจะพูดออกไป แต่เมื่อไตร่ตรองอย่างดีแล้ว เขาจึงตัดสินใจเลือกเื่นี้มาเริ่มต้นบทสนทนาของเรา
“พี่ฟ้าครับ…”
“ครับ”
“รักคิดว่ารักควรจะเลื่อนขั้นให้พี่ฟ้าเป็คนสนิทของรักได้แล้ว…เพราะเราก็เจอกันตลอด คุยกันบ่อย ๆ ด้วย”
“…”
“แต่มันติดอยู่อย่างหนึ่งครับ”
“…”
“รักไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับพี่ฟ้าเลย…ทั้งที่พี่ฟ้ารู้เื่ของรักตั้งเยอะ”
“…”
“ถ้ารักอยากจะรู้เื่พี่ฟ้าให้เยอะขึ้นกว่าเดิม…พี่ฟ้าพอจะแชร์เื่ของพี่ฟ้าให้รักฟังได้ไหมครับ?”
“ได้สิครับ ตัวดื้ออยากรู้อะไรเกี่ยวกับพี่ฟ้าครับ”
ความจริงที่รักไม่อยากก้าวล้ำความเป็ส่วนตัวของหมื่นฟ้า การถามเื่ส่วนตัวบางอย่างอาจจะทำให้เ้าตัวรู้สึกโดนล้ำเส้นความเป็ส่วนตัว แต่ขึ้นชื่อว่าคนสนิทเขาควรจะรู้ข้อมูลพื้นฐานของอีกฝ่ายบ้าง เช่นหมื่นฟ้าชอบอะไรและไม่ชอบอะไร อย่างที่เ้าตัวรู้เื่ของเขาหลาย ๆ อย่าง
“ของโปรดของพี่ฟ้าคืออะไรครับ?”
“ไม่มีครับ แต่ถ้ากินบ่อยคือกะเพราหมูกรอบไข่เจียว”
“เหมือนรักเลยเหรอครับ?”
“ครับ”
ที่รักขมวดคิ้วสงสัย ก่อนจะถามต่อ “ทำไมถึงกินบ่อยครับ?”
“มันมีความคิดถึงเป็ตัวแปรครับ”
“หมายความว่าไงครับพี่ฟ้า?”
“หมายความว่าถ้าคิดถึงมากก็จะกินบ่อย ถ้าคิดถึงน้อยก็จะกินไม่บ่อย แต่ส่วนมากก็กินทุกวันเพราะไม่เคยคิดถึงน้อยลงเลย”
“อ๋อ คงเหมือนรักที่ชอบคิดก่อนนอนว่าพรุ่งนี้เช้าจะกินอะไร แล้วเมนูแรกที่คิดถึงก็คือกะเพราหมูกรอบไข่เจียว แบบนี้ใช่ไหมครับ?”
“ประมาณนั้นครับ”
“แล้วพี่ฟ้าไม่ชอบกินอะไรครับ?”
“ทุเรียนครับ ไม่ถึงกับกินไม่ได้ แต่ถ้าเลือกได้ก็จะไม่กินครับ”
“เพราะกลิ่นแน่ ๆ เลยใช่ไหมครับ?”
“ครับ”
“พี่ฟ้าชอบสีอะไรครับ?”
“สีเทาครับ”
“มีเหตุผลไหมครับ?”
“เพราะมันอยู่ตรงกลางระหว่างขาวและดำ เหมือนตัวพี่ฟ้าดี”
“รักชอบสีฟ้า…ฟ้าครามแบบนี้ เพราะมองแล้วสบายใจดี”
“…”
“ูเากับทะเล พี่ฟ้าชอบอะไรมากกว่ากันครับ?”
“ชอบทะเลครับ”
“คนแบบไหนที่พี่ฟ้าไม่ชอบมากที่สุดครับ?”
“คนที่ดูถูกความพยายามของคนอื่นครับ”
เขาอยากจะเลื่อนขั้นคนสนิทให้หมื่นฟ้าทันทีเพราะคำตอบนี้ แต่ต้องหยุดความคิดไว้ก่อนเพราะมีอีกหลายคำถามรออยู่ การได้เรียนรู้นิสัยและทัศนคติของหมื่นฟ้าจากการตอบคำถามทำให้ที่รักรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่เจอคนแบบหมื่นฟ้า
“ถ้าต้องติดเกาะ แล้วสามารถเอาอะไรไปก็ได้สามสิ่ง รวมถึงพาใครไปด้วยก็ได้นะครับ ไม่จำเป็ต้องเป็สิ่งของอย่างเดียว พี่ฟ้าจะเอาอะไรไปบ้างครับ?”
“ไฟแช็กหรือไม่ก็ไม้ขีดไฟ อาหารคงมีอยู่บ้างบนเกาะ…” หมื่นฟ้านิ่งเงียบ ขมวดคิ้วเล็กน้อยคล้ายกำลังครุ่นคิด ก่อนเอ่ยต่อ “นาฬิกาเรือนที่ใส่อยู่ กระเป๋าสตางค์”
“นาฬิการักเข้าใจว่าพี่ฟ้าอยากเอาไว้ดูเวลา แต่ว่ากระเป๋าสตางค์…พี่ฟ้าเอาไปทำไมครับ? ติดเกาะไม่ต้องใช้เงินแล้วนะครับ”
“เอาไว้ดูรูปครับ พี่ฟ้าพกรูปครอบครัวไว้ในกระเป๋าสตางค์”
“รักแอบคิดว่าพี่ฟ้าจะหาใครไปอยู่บนเกาะด้วยสักคนเป็เพื่อนแก้เหงา”
“แค่ได้ยินคำว่าติดเกาะพี่ฟ้าก็นึกถึงคำว่าลำบากขึ้นมาเลย เพราะฉะนั้นพี่ฟ้าไม่อยากเอาใครไปลำบากด้วยหรอกครับ”
“แต่มันเหงานะครับพี่ฟ้า”
“ปกติพี่ฟ้าก็ไม่ค่อยคุยกับใครอยู่แล้ว ไม่เหงามากหรอกครับ”
ที่รักหัวเราะจนปากบานพอได้ฟังคำตอบนั้น หมื่นฟ้าแอบเป็คนตลกเหมือนกันนะเนี่ย “แล้วถ้าขออะไรก็ได้หนึ่งอย่างบนโลก พี่ฟ้าจะขออะไรครับ?”
“ขอให้เส้นขอบฟ้ากับสุดขอบทะเลกันจริง ๆ สักที ไม่ใช่แค่เห็นด้วยสายตาว่ามันลงมากัน”
“จริงด้วยนะครับ ถ้าเรามองตาเปล่าจะเห็นว่าสองอย่างนี้มันัักัน แต่เื่จริงคือห่างไกลกันมาก ท้องฟ้าที่อยู่ข้างบนกับท้องทะเลที่อยู่ข้างล่าง”
“ใช่ครับ ไม่รู้ว่านานแค่ไหนถึงจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกันจริง ๆ สักที”
“ไม่ถึงนาทีหรอกครับ”
หมื่นฟ้าขมวดคิ้วใส่เขา ที่รักอมยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะขยับเข้าไปนั่งใกล้ ๆ คนตัวสูงจนแขนเราสองคนชิดติดกัน “กันแล้วครับ”
“…”
“รักเป็ท้องทะเล พี่ฟ้าเป็ท้องฟ้า…แค่นี้ท้องฟ้ากับท้องทะเลก็ได้ใกล้ชิดกันจริง ๆ สักที”
“…”
หมื่นฟ้าหัวเราะในลำคอก่อนจะยกมือขึ้นลูบศีรษะเขา พอที่รักเห็นหมื่นฟ้ายิ้มได้ก็ถอยออกมาอยู่ในระยะห่างกำลังดี เมื่อกี้ตอนที่เ้าตัวพูดถึงเื่ท้องฟ้ากับท้องทะเลที่ไม่สามารถมากันได้ เ้าตัวดูเศร้า ๆ ผิดปกติจนเขาพลอยรู้สึกไม่ดีไปด้วย แต่ตอนนี้หมื่นฟ้ายิ้มได้แล้ว เขาค่อยสบายใจขึ้นหน่อย
“รักได้ข้อมูลจากพี่ฟ้าไปพอสมควรแล้ว งั้นให้พี่ฟ้าแชร์เื่ของตัวเองบ้าง เอาเื่ที่พี่ฟ้าคิดว่าคนสนิทแบบรักควรจะรู้ไว้”
“เื่นี้ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย แต่พี่ฟ้าอยากเล่าให้ตัวดื้อฟัง”
“…”
“ที่มาของชื่อ หมื่นฟ้า…”
“…”
“ม้าเล่าให้ฟังว่าตอนที่ท้องพี่ฟ้าได้ห้าเดือน ป๊าก็ต้องกลับไปดูแลโรงแรมที่ฮ่องกงแทนอากงเพราะท่านเริ่มป่วย…ม้าอยู่ที่ไทยไม่ได้ไปกับป๊าด้วย เวลาคิดถึงก็ทำได้แค่โทรหากัน ม้าบอกว่าปกติตัวเองไม่ใช่ผู้หญิงขี้น้อยใจ แต่มีวันหนึ่งม้าถามป๊าว่ารักมากแค่ไหน คำตอบที่ป๊าจะตอบเสมอคือ รักเท่าฟ้า แต่วันนั้นม้ารู้สึกว่าเท่าฟ้ามันน้อยเกินไป เลยพูดเหมือนคนที่กำลังน้อยใจไปว่า…เท่าท้องฟ้าผืนเดียว น้อยจังเลยนะคุณ…”
“…”
“ป๊าเลยตอบกลับมาว่า…ถ้าท้องฟ้าผืนเดียวมันน้อยไป งั้นผมจะรักคุณให้เท่าหมื่นผืนฟ้า…ต่อจากนี้ผมจะรักคุณเท่าหมื่นฟ้า ให้มากกว่าที่ผมรักตัวเอง ม้าก็เลยจำคำนี้ได้ขึ้นใจ พี่ฟ้าก็เลยได้ชื่อว่า หมื่นฟ้า”
“รักฟังแล้วอดยิ้มไม่ได้เลยครับ ป๊ากับหม่าม้าน่ารักกันจังเลยนะครับ…แต่รักสงสัยอย่างหนึ่ง อากงของพี่ฟ้ามีโรงแรมที่ฮ่องกงแสดงว่า…”
“ครับ อากงของพี่ฟ้าเป็คนฮ่องกง ส่วนอาม่าเป็คนไทยเชื้อสายจีน ป๊าของพี่ฟ้าเป็ลูกครึ่ง ส่วนพี่ฟ้ากับพันลี้เป็ลูกเสี้ยว แต่พี่ฟ้าหน้าคล้ายม้ามากกว่า คนอื่นเลยไม่ค่อยรู้ว่ามีเชื้อสายจีน”
“นั่นสิครับ พี่ฟ้าไม่ได้หน้าตี๋ตาตี่เหมือนคนไทยเชื้อสายจีนคนอื่น พันลี้ยังดูรู้มากกว่าว่ามีเชื้อสายจีน”
“ม้าเป็คนไทยเชื้อสายจีนที่ตาโตพอสมควร พี่ฟ้าได้ม้ามาก็เลยต่างจากพี่น้องในตระกูล”
“อ๋อ แล้วนอกจากพี่ฟ้ากับพันลี้ ตระกูลพิสุทธิ์มีพี่น้องเยอะไหมครับ?”
“ก็เยอะนะครับ แต่ถ้าสนิทกันจริง ๆ มีไม่กี่ครอบครัว พี่ฟ้าจะสนิทกับลูกชายของลุงที่เป็ตำรวจ สองพี่น้องบ้านนั้นเป็ฝาแฝดกัน ชื่อเหมกับหิรัญ แต่พี่ฟ้าจะเรียกว่าเฮียทั้งคู่เพราะเขาอายุมากกว่า”
“เหมือนจะมีแต่ผู้ชายนะครับ”
“ผู้ชายซะส่วนใหญ่ครับ ผู้หญิงก็มีแต่จะน้อยกว่า”
“แล้วชื่อของพันลี้ มีเื่เล่าแบบชื่อของพี่ฟ้าบ้างไหมครับ?”
“ชื่อของพันลี้ก็คล้าย ๆ ตอนพี่ฟ้าเลย ตอนนั้นม้าใกล้คลอดพันลี้แล้ว แต่ป๊าต้องกลับไปฮ่องกงกะทันหันเพราะอากงป่วยหนักใกล้จะเสีย ตอนที่ห่างกันครั้งนั้นม้าบอกว่าคิดถึงป๊ามาก ตอนโทรคุยกันป๊าพูดกับม้าว่าความคิดถึงมันวัดไม่ได้หรอก แต่ถ้าให้เปรียบเทียบเป็ระยะทาง ความคิดถึงของป๊าคงยาวไกลเป็พันลี้…ม้าก็เลยเอาคำว่าพันลี้มาตั้งชื่อ”
“โห…จริง ๆ แล้วชื่อของพี่ฟ้ากับพันลี้มีที่มาลึกซึ้งมากเลยนะครับ ตอนแรกที่รักรู้จักพันลี้ใหม่ ๆ ก็คิดว่าพ่อแม่ของพันลี้อยากตั้งชื่อแปลก ๆ ไม่ให้ซ้ำใครแค่นั้น ไม่คิดว่าจะมีเื่ราวที่น่าประทับใจแบบนี้”
“จริง ๆ ม้าบอกว่าชื่อหมื่นฟ้าและพันลี้มีความหมายเหมือนกัน”
“…”
“ม้าให้ความหมายด้วยตัวเองว่า…รักที่มั่นคง”
“มั่นคงจริง ๆ ครับ หม่าม้าเป็ผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาก ๆ และป๊าก็มั่นคงต่อหม่าม้าสุด ๆ ”
“พี่ฟ้าก็คิดแบบนั้นครับ”
ที่รักรู้สึกอิ่มใจกับเื่เล่าของหมื่นฟ้า เขาไม่เคยคิดว่าชื่อของสองพี่น้องจะมีเื่ราวลึกซึ้งขนาดนี้ พอได้ฟังแล้วทำให้เขาอยากจะเจอความรักที่มั่นคงบ้าง ที่รักคิดว่าความรู้สึกนั้นคงพิเศษมาก ๆ
“ขอบคุณนะครับพี่ฟ้าที่เล่าเื่นี้ให้รักฟัง”
“ครับ”
หมื่นฟ้าพยักหน้ารับก่อนจะเคลื่อนมือมาลูบศีรษะเขาเบา ๆ ที่รักมองรอยสักที่ใต้ท้องแขนของหมื่นฟ้าอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยถาม
“ถ้ารักอยากรู้เื่รอยสักพี่ฟ้า…จะได้ไหมครับ?”
“…”
“แต่ถ้ามันเป็เื่ส่วนตัวมาก ๆ ก็ไม่เป็ไรนะครับ รักเข้าใจ ๆ”
“เล่าได้ครับ…รอยสักแรกเป็ตรงนี้ครับ…” หมื่นฟ้าชี้ที่หน้าอกของตัวเองก่อนจะแหวกเสื้อเชิ้ตสีขาวให้เห็นประโยคภาษาอังกฤษข้างใน “เป็ชื่อจริงของป๊าม้าพี่ฟ้าครับ…ส่วนตัวอักษรภาษาจีนเป็รอยสักที่สอง…” หมื่นฟ้าลูบที่ตัวอักษรภาษาจีนบริเวณใต้ท้องแขนของตัวเอง “ชื่อจริงของพี่ฟ้าคือ ประดิพัทธ์ หนึ่งในความหมายของชื่อมีคำว่า ความรัก อยู่ด้วย พี่ฟ้าเลยสักคำนี้ และอีกเหตุผลคือตอนนั้นพี่ฟ้ากำลังหมดศรัทธาในความรัก น่าจะเป็่ปีสองเทอมหนึ่ง แต่ดีที่สักมาได้ไม่กี่อาทิตย์รอยสักนี้ก็ทำให้พี่ฟ้าเริ่มกลับมาศรัทธาในความรักอีกครั้ง”
“ดีจังเลยนะครับที่พี่ฟ้ากลับมาศรัทธาในความรักอีกครั้ง…ตอนนี้คงจะไม่หมดศรัทธาอีกแล้วใช่ไหมครับ?”
“ครับ ไม่หมดแล้ว”
“ดีแล้วครับ รักเป็กำลังใจให้อยู่ตรงนี้นะครับ คุณท้องฟ้าห้ามหมดศรัทธาในความรักเด็ดขาด”
หมื่นฟ้าอมยิ้มพอเห็นแววตาเป็กังวลของอีกฝ่ายกลับมาเป็ประกายเหมือนเดิมในตอนที่รู้ว่าตัวเองกลับมามีศรัทธาในความรักอีกครั้ง “ส่วนรอยสักที่สามคือข้างหลัง เพิ่งไปสักหลังกลับจากงานวันเกิดใกล้…มันเป็ประโยคที่มีความหมายกับพี่ฟ้ามาก ๆ ”
“…”
“ทุกรอยสักผ่านการตัดสินใจมาเป็อย่างดี และมีความหมายในตัวของมัน แต่พี่ฟ้าไม่ค่อยได้เล่าให้ใครฟังเท่านั้นเอง”
“พี่ฟ้าอาจจะเบื่อที่ได้ยินคำว่าขอบคุณจากรักซ้ำ ๆ แต่อย่าเพิ่งเบื่อกันเลยนะครับ…เพราะรักอยากขอบคุณพี่ฟ้าจริง ๆ ที่ไว้ใจยอมเล่าเื่ส่วนตัวแบบนี้ให้รักฟัง ขอบคุณนะครับพี่ฟ้า”
“พี่ฟ้าไม่เบื่อหรอกครับ”
“รักคิดว่าตอนนี้ถึงเวลาแล้วครับ”
“ยังไม่ครบสามสิบนาทีเลยครับตัวดื้อ”
“ไม่ใช่ ๆ ครับ ไม่ใช่เื่ถ่ายรูป”
“…”
ที่รักสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะเอ่ย “รักขอเลื่อนขั้นให้คุณประดิพัทธ์ พิสุทธิ์ เป็คนสนิทของ รัก นิรันดร์…”
“ขอบคุณนะครับ”
“แหะ ๆ พิธีเลื่อนขั้นดูจริงจังดีใช่ไหมครับพี่ฟ้า…หัวเราะซะน่ารักเชียว”
หมื่นฟ้าหัวเราะในลำคอเหมือนเคย ทว่าสีหน้ากับแววตาของเ้าตัวในตอนนี้น่ารักชะมัด ใบหน้าเรียบนิ่งที่เป็เอกลักษณ์ถูกพิธีเลื่อนขั้นเป็คนสนิทของเขาลบล้างไปจนหมดเหลือเพียงแค่รอยยิ้มที่คนอื่นไม่คุ้นตา
แต่เขาคุ้นชิน
:)
#กี่หมื่นฟ้า
[เหลือแค่โค้กกระป๋องเดียว ตัวดื้อดื่มได้ไหมครับ? ไม่งั้นพี่ฟ้าจะลงไปซื้อที่ซุปเปอร์ให้]
“ไม่เป็ไรครับพี่ฟ้า รักดื่มได้…แล้วพี่ฟ้าล่ะครับ”
[เดี๋ยวพี่ฟ้าดื่มน้ำเปล่าครับ]
“โอเคครับพี่ฟ้า รีบ ๆ ขึ้นมานะครับ ใกล้เวลาถ่ายรูปสุดท้ายแล้ว”
[ครับ เดี๋ยวพี่ฟ้ารีบขึ้นไป]
ที่รักวางสายจากหมื่นฟ้าที่ขอตัวลงไปเข้าห้องน้ำและอาสาจะหาเครื่องดื่มมาให้เขา ในตอนแรกที่รักจะลงไปเอาน้ำให้หมื่นฟ้าเพราะเ้าตัวบ่นว่ากระหายน้ำ แต่หมื่นฟ้าอยากเข้าห้องน้ำพอดีก็เลยขอจัดการเอง
ตอนนี้เป็เวลาห้าโมงกว่าแล้ว เหลืออีกไม่กี่นาทีก็จะเข้าสู่ชั่วโมงสุดท้ายของการถ่ายงานชิ้นนี้ ที่รักไม่อยากเชื่อว่าวันนี้จะผ่านไปได้ทั้งที่ตอนแรกเหมือนจะไปไม่รอด การได้อยู่กับหมื่นฟ้าสองคนไม่ได้ยากอย่างที่คิด เขารู้สึกว่าตลอดระยะเวลาที่อยู่กับหมื่นฟ้ามีแต่ความสบายใจ ที่รักยอมรับว่ามีบางครั้งที่เผลอใจเต้นแรงกับอีกฝ่าย แต่ไม่นานก็จะกลับสู่สภาวะปกติ
“นี่ครับ…”
“ขอบคุณครับพี่ฟ้า” ที่รักรับกระป๋องโค้กที่ถูกเปิดแล้วมาจากคนตัวสูงที่เพิ่งนั่งลงข้าง ๆ เราสองคนเปลี่ยนมานั่งที่โต๊ะไม้ยาวใกล้บริเวณจุดตั้งกล้องเพราะแดดไม่จัดแล้ว เขายกกระป๋องสีแดงขึ้นกระดกดื่มพลางลอบมองคนข้างกายที่กำลังดูนาฬิกาอยู่
“อีกห้านาทีก็ถ่ายรูปสุดท้ายแล้วนะครับตัวดื้อ”
“ครับ พี่ฟ้า”
“ตอนที่ถามตอบกัน ตัวดื้อให้พี่ฟ้าขออะไรก็ได้หนึ่งอย่างบนโลก…ตอนนี้พี่ฟ้ายังเปลี่ยนทันไหมครับ?”
แม้จะรู้ว่าทุกอย่างที่หมื่นฟ้าขอไม่มีทางเป็ไปได้ แต่ที่รักก็เลือกจะพยักหน้าตอบรับ “ได้สิครับ เผื่อว่ารักจะทำให้มันเป็จริงได้เหมือนตอนที่ทำให้ท้องทะเลกับท้องฟ้ามากัน”
“พี่ฟ้าขอขโมยพระอาทิตย์ไปซ่อนได้ไหมครับ?”
ที่รักหลุดหัวเราะออกมาเพราะคำขอของหมื่นฟ้า “ยากจังเลยครับ ข้อนี้รักอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยเพราะต้องหาวิธีช่วยพี่ฟ้าขโมยพระอาทิตย์”
“คงไม่ทันครับ เพราะพี่ฟ้าต้องขโมยไปซ่อนก่อนจะถ่ายรูปสุดท้าย”
ที่รักขมวดคิ้วจ้องมองคนข้างกายที่หลุดยิ้มออกมา “…”
“ก็ถ้าไม่มีรูปพระอาทิตย์ตกตอนหกโมง…ตัวดื้อก็จะต้องอยู่กับพี่ฟ้าอีกหนึ่งวันเพื่อรอถ่ายพระอาทิตย์ตกในวันถัดไป”
“…”
“พี่ฟ้าอยากให้ตัวดื้ออยู่เป็เพื่อนกันก่อน เรากำลังคุยกันสนุกเลย”
“…”
ที่รักนิ่งเงียบจ้องมองกระป๋องสีแดงในมือ ประโยคคำพูดของหมื่นฟ้ามักจะแทรกซึมเข้าไปในความรู้สึกเขาเสมอ และสิ่งที่หมื่นฟ้าพูดเมื่อกี้ทำให้ที่รักกลายเป็คนบ้า
บ้าที่คิดหาวิธีขโมยพระอาทิตย์จริง ๆ ทั้งที่รู้ว่าเป็ไปไม่ได้
แต่ถ้ามันจะทำให้หมื่นฟ้ายิ้มต่อได้อีกสักนิด…เขายอมบ้าก็ได้
“ได้เวลาแล้วครับตัวดื้อ”
“ครับ”
เขาลุกขึ้นเดินตามคนตัวสูงไปที่จุดตั้งกล้องที่อยู่ข้างหน้า ที่รักเข้าประจำที่เตรียมกดชัตเตอร์ถ่ายรูปเหมือนเดิม ดวงอาทิตย์กลมโตที่อยู่ตรงหน้าสาดแสงสีแดงอมส้มผ่านเลนส์กล้อง ภาพท้องฟ้าหลากสีสันทำให้รู้สึกหลากหลายตามไปด้วย ที่รักเพิ่งรู้ว่าท้องฟ้าในทุก่เวลา…มีอิทธิพลทางความรู้สึก
เมื่อรู้เช่นนั้นเขาก็ถอนตัวออกจากจุดเดิมโดยยังไม่กดชัตเตอร์ หมื่นฟ้าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถามถึงสาเหตุที่เขาไม่ถ่ายรูป ที่รักรู้ว่าการถ่ายภาพนี้มีความสำคัญและมีเวลาที่จำกัด แต่เขามั่นใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะไม่พลาดเพราะมีหมื่นฟ้าอยู่ด้วย
“ขโมยพระอาทิตย์คงเป็ไปไม่ได้ แต่ถ้าพี่ฟ้าช่วยถ่ายรูปนี้ให้…รักจะต่อเวลาอยู่เป็เพื่อนพี่ฟ้าอีกหนึ่งชั่วโมง”
หมื่นฟ้าอมยิ้มแล้วรีบประจำตำแหน่งเพื่อถ่ายภาพพระอาทิตย์ตก เ้าตัวใช่เวลาไม่นานก็ถ่ายภาพสุดท้ายได้สำเร็จ
ที่รักเดินเข้าไปดูภาพที่หมื่นฟ้าเป็คนถ่ายก่อนจะเอ่ย “อย่าบอกอาจารย์นะครับว่ารักให้พี่ฟ้าถ่ายรูปสุดท้ายให้…”
“กลัวโดนหักคะแนนเหรอครับ?”
“รักรู้ว่ามันไม่ควร ความจริงเป็เื่ผิดเลยแหละครับที่ให้รุ่นพี่ช่วยถ่ายให้ แต่พอมาคิด ๆ ดูแล้ว รักอยากให้พี่ฟ้าเป็ความทรงจำในงานชิ้นนี้…ถึงจะรู้สึกผิดกับอาจารย์ แต่ถ้ามันทำให้รักนึกถึง่เวลานี้ทุกครั้งที่ได้เห็นภาพ รักคิดว่ามันคุ้มค่า”
“…”
“แค่ภาพเดียวเองเนอะ ไม่เป็ไรหรอก” ที่รักกำลังปลอบใจตัวเองอยู่ เด็กที่ไม่ชอบทำผิดหรือออกนอกกฎระเบียบอย่างเขากำลังเป็กังวลอยู่
“เื่นี้มีแค่คุณท้องฟ้ากับคุณท้องทะเลที่รู้…ไม่เป็ไรหรอกครับ”
“ครับ” จากที่กังวลมาก ๆ ตอนนี้ที่รักยิ้มได้แล้วเพราะหมื่นฟ้าช่วยพูดปลอบใจด้วย
“ตัวดื้อจะอยู่ต่ออีกหนึ่งชั่วโมงใช่ไหมครับ?”
“ครับ จะอยู่เป็เพื่อนพี่ฟ้าก่อน แต่รักต้องโทรไปบอกพี่ดอมก่อนนะครับ เพราะพี่ดอมจะมารับตอนหกโมง”
“เดี๋ยวพี่ฟ้าไลน์ไปบอกดอมให้เองครับ”
“โอเคครับ”
ที่รักกลับมานั่งรอหมื่นฟ้าที่โต๊ะไม้ยาว เขามองคนตัวสูงที่ยืนกดโทรศัพท์สลับกับพระอาทิตย์ที่กำลังหายลับไปจากขอบฟ้า ภาพตรงหน้าทำให้เขาหลุดยิ้มออกมาพลางคิดว่าที่จริงแล้วหมื่นฟ้าก็ขี้อ้อนและขี้เหงาเหมือนคนอื่น ๆ
“พี่ฟ้าบอกดอมแล้วนะครับ”
“พี่ดอมไม่ได้ว่าอะไรใช่ไหมครับ?”
“ไม่ครับ พี่ฟ้าบอกว่าจะไปส่งตัวดื้อเองด้วยครับ”
“จริง ๆ รักกลับเองก็ได้นะครับ เผื่อพี่ฟ้าอยากพักผ่อน”
“ไม่เป็ไรครับ พี่ฟ้าไปส่งได้”
ที่รักพยักหน้ารับก่อนเอ่ย “หนึ่งชั่วโมงที่เหลือ…รักยกให้พี่ฟ้าหมดเลยครับ”
หมื่นฟ้าหัวเราะ เ้าตัวคงนึกถึงตอนนั้นที่เราเจอกันครั้งแรก ที่รักก็หลุดยิ้มออกมาเช่นกันเพราะเขาตั้งใจรื้อฟื้นความทรงจำให้อีกฝ่าย
“หนึ่งชั่วโมงที่เหลือทำอะไรดีครับ จริง ๆ พี่ฟ้าแค่อยากคุยกับตัวดื้อไปเรื่อย ๆ แต่กลัวตัวดื้อจะเบื่อ”
“ไม่เบื่อหรอกครับ แต่ถ้าพี่ฟ้าอยากเปลี่ยนจากคุยกันเฉย ๆ …งั้นเรามาแชร์เพลงกันไหมครับ?”
“…”
“แชร์เพลงที่ตัวเองชอบให้อีกคนฟัง รักชอบทำแบบนี้กับพันลี้เวลาไม่มีอะไรทำ”
“ก็ได้ครับ…”
“เอาเพลงที่ชอบฟังตอนนี้นะครับ”
“ครับ”
“ตอนนี้รักชอบฟังเพลง รัก ของ infamous”
“พี่ฟ้าชอบฟังเพลง รักนิรันดร์ ของ Scrubb ครับ”
“เพลงนี้รักเคยฟังครับ”
“ป๊าร้องเพลงนี้ให้ม้าฟังวันงานครบรอบแต่งงานเมื่อปีที่แล้ว พี่ฟ้าก็เลยฟังมาตลอด”
“ป๊ากับม้าหวานกันตลอดเลยนะครับ”
หมื่นฟ้าอมยิ้มก่อนเอ่ย “ตัวดื้ออยากฟังไหมครับ?”
“อยากครับพี่ฟ้า”
หมื่นฟ้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดอะไรสักอย่างก่อนที่เพลง รักนิรันดร์ จะค่อย ๆ ดังขึ้น เพียงแค่ทำนองก็ทำให้ที่รักเผยรอยยิ้มออกมา เขาเคยฟังเพลงนี้กับปู่เมื่อปีที่แล้ว หลังจากนั้นก็ไม่ได้ฟังอีกเลย
“ตัวดื้อครับ…”
“ครับ พี่ฟ้า”
“พี่ฟ้าขอดื่มโค้กหน่อยได้ไหมครับ?”
“ดะ ได้สิครับ”
ที่รักยื่นกระป๋องสีแดงให้หมื่นฟ้า เ้าตัวอมยิ้มก่อนจะรับมันไป ที่รักลอบมองหมื่นฟ้าที่จ้องกระป๋องโค้กอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกระดกดื่ม เป็ในตอนนั้นที่เขาใจเต้นแรงอีกครั้งหลังจากที่สงบไปครึ่งวัน ยิ่งตอนที่หมื่นฟ้าหันมาสบตากัน ก้อนเนื้อสีแดงยิ่งเต้นแรงจนรู้สึกสั่นสะท้านไปหมด
‘ใจส่งถึงใจเธอ มือจับกันไว้ มองตาแล้วเข้าใจ ไม่ต้องเอ่ยคำ’
“…”
‘เดินเกี่ยวแขนกันไป ถ่ายทอดความรัก จงอย่าสนใจใคร ฉันอยู่ใกล้เธอ เปี่ยมด้วยความรัก... ต่อเธอ...’
“…”
เราสองคนไม่ได้เอ่ยคำใด ๆ คล้ายปล่อยให้ตัวเองได้อยู่ในห้วงเวลาหนึ่ง และเป็่ที่ทำให้ความรู้สึกบางอย่างที่กำลังก่อตัวปรากฏขึ้น ที่รักรับรู้ได้แล้วว่ามีบางอย่างเกิดกับเขา
ตอนนี้คำบอกของปู่ลอยวนกลับมาอีกครั้ง ที่รักคิดว่าสิ่งที่ย่าพูดนั้นถูกต้อง เขาควรถามตัวเองให้แน่ใจก่อนจะอยากรู้ความรู้สึกของคนอื่น แล้วไม่ควรฝืนตัวเองอย่างที่ปู่บอก แม้ตอนนี้ยังไม่มั่นใจว่าความรู้สึกนี้จะอยู่เพียงชั่วเวลาหนึ่งหรือตลอดไป
แต่ที่รักอยากลองปล่อย…
ปล่อยให้หัวใจเต้นแรงได้เท่าที่้า
ปล่อยให้เวลาช่วยยืนยันว่าความรู้สึกหวั่นไหวในครั้งนี้จะกลายเป็ความรู้สึกที่เป็นิรันดร์ได้หรือไม่…
เขาไม่คิดเลยว่าการเลื่อนขั้นเป็คนสนิทในวันนี้จะทำให้บางความรู้สึกพัฒนาตามไปด้วย และสุดท้ายไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็อย่างไร หมื่นฟ้าจะรู้สึกเหมือนกันหรือไม่ ที่รักก็พร้อมรับผิดชอบความรู้สึกของตัวเอง
ที่รักหันมองคนตัวสูงที่นั่งทอดสายตามองพระจันทร์ที่กำลังขึ้นมาแทนที่พระอาทิตย์ ไม่นานนักคนข้างกายก็ละสายตาจากท้องฟ้าตรงหน้าแล้วสบตากับเขา
“พอเอาชื่อเพลงมารวมกันแล้วมันวนกลับไปเป็ตัวดื้อหมดเลยนะครับ”
“คะ ครับ”
‘ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นอยู่ตลอดกาล ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นเป็รักนิรันดร์’
“รัก…รักนิรันดร์”
‘ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นอยู่ตลอดกาล ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นเป็รักนิรันดร์’
“จริงด้วยครับ เป็รักทั้งหมดเลย”
TBC
#กี่หมื่นฟ้า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้