เมื่องูเจียวสีขาวที่มีแผงคอสีแดงตัวนี้แสดงพลังอำนาจของัออกมา เสือดาวหางอสรพิษที่อยู่เบื้องล่างก็สั่นสะท้านด้วยความหวาดหวั่น
“โฮก”
งูเจียวสีขาวแผดเสียงคำรามขณะบินวนไปมาอยู่บนท้องฟ้าอย่างเริงร่า
“เสี่ยวเทียน!”
ทันทีที่มู่เฟิงะโเรียก งูเจียวสีขาวแผงคอสีแดงก็บินต่ำลงมาหามู่เฟิง เด็กหนุ่มขึ้นไปเหยียบยืนอยู่บนหลังของเสือดาวหางอสรพิษก่อนจะะโขึ้นสูงกว่าสิบเมตร และร่อนลงบนหัวของงูเจียวสีขาวอย่างพอดิบพอดี
มือข้างหนึ่งของมู่เฟิงคว้าเขาสีแดงโลหิตที่มีความยาวกว่าครึ่งเมตรเอาไว้ งูเจียวสีขาวพามู่เฟิงบินทะยานสูงขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับจะโบยบินไปยังสรรค์เก้าชั้น
งูเจียวสีขาวแผงคอสีแดงตนนี้คือเสี่ยวเทียน หลังจากที่มันได้ดูดซับแก่นโลหิตของงูเจียวไฟเข้าไป เสี่ยวเทียนก็วิวัฒนาการกลายเป็ั นอกจากนี้มันยังกลายเป็ัธาตุน้ำแข็งและธาตุไฟ ซึ่งัที่มีคุณสมบัติธาตุสองชนิดควบคู่กันเช่นนี้นับว่าเป็สิ่งที่หาได้ยากมาก และตอนนี้พลังของมันก็ได้บรรลุถึงระดับหนิงกังขั้นหนึ่งแล้ว ความแข็งแกร่งของมันเหนือกว่ามู่เฟิงเสียอีก
เส้นผมสีขาวยาวสลวยของเด็กหนุ่มปลิวไสวไปตามสายลม ทำให้เขาดูราวกับเทพเซียน เสื้อคลุมสีดำของเขาเองก็พลิ้วไหวไปตามสายลมเช่นกัน ขณะที่บินผ่านมวลเมฆ และกำลังมองูเาขนาดเล็กใต้ฝ่าเท้านั้น มู่เฟิงก็รู้สึกได้ถึงความองอาจ
มู่เฟิงแหงนหน้าขึ้นฟ้าก่อนจะแผดเสียงร้องออกมาเพื่อระบายความรู้สึกนี้
“โฮก…!”
งูเจียวสีขาวที่กำลังทะยานร่างอยู่กลางเวหา คล้ายกับว่ารับรู้ได้ถึงความภาคภูมิใจของมู่เฟิง มันจึงเปล่งเสียงคำรามของัออกมาเช่นกัน
ครืน ครืน!
แต่ทันใดนั้น ท้องฟ้ากลับถูกปกคลุมไปด้วยมวลเมฆสีดำอึมครึม และสายฟ้าก็ฟาดลงมาอย่างฉับพลัน ในขณะที่พวกเขายังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกฟ้าผ่าลงมาใส่ร่างเสียแล้ว
“อ๊าก...ให้ตายเถอะ บัดซบเอ๊ย!”
เมื่อสายฟ้าฟาดลงมา มู่เฟิงก็แผดเสียงร้องอย่างเ็ป ร่างของเขาล่วงตกลงมาจากฟ้า เส้นผมสีขาวของเด็กหนุ่มก็ปล่อยควันสีดำออกมา
ความรู้สึกองอาจในคราวแรก ตอนนี้ถูกสายฟ้าเส้นนั้นฟาดหายไปในพริบตา!
ช้าก่อน นี่ฟ้ากันแกล้งกันอยู่หรือไม่ กลั่นแกล้งให้เขาถูกฟ้าผ่าหรือไม่
ร่างของมู่เฟิงล่วงตกลงมาจากท้องฟ้า ด้วยความสูงหลายร้อยเมตรนี้ย่อมเพียงพอที่จะบดขยี้ร่างของเขาให้กลายเป็เศษเนื้อได้
เสี่ยวเทียนคำรามออกมาอย่างกระวนกระวาย มันรีบร้อนบินลงไปรับร่างของมู่เฟิงอย่างรวดเร็ว ไม่นานมันก็สามารถคว้าจับร่างของมู่เฟิงเอาไว้ได้ทันก่อนที่ร่างของอีกฝ่ายจะกระแทกลงบนพื้นที่ห่างเพียงสิบกว่าเมตร
เมื่อเสี่ยวเทียนร่อนตัวลงมาถึงพื้นเบื้องล่าง มู่เฟิงก็ะโลงจากร่างของมัน ก่อนจะพ่นควันดำออกมาจากปาก
มู่เฟิงแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยความมึนงง เขากัดฟันอย่างคนมีโทสะ วันนี้อากาศแจ่มใสเป็อย่างยิ่ง เหตุใดจึงมีสายฟ้าผ่าลงมาอย่างกะทันหันเช่นนี้ได้?
แต่เมื่อเขามองไปบนท้องฟ้าในเวลานี้ เขากลับต้องใ
คาดไม่ถึงว่าเหนือท้องฟ้าสูงขึ้นไปจะมีสายฟ้าสีม่วงจำนวนมากกำลังแล่นอยู่บนนั้น นอกจากนี้คล้ายมีเงาร่างสองร่างกำลังปะทะกันอยู่้า เสียงฟ้าคำรามดังกึกก้องขึ้นมาทันใด
“ตาเฒ่า หากเ้ายังไม่ยอมมอบอสนีบาตย่ำแปดทิศมาให้ข้า เช่นนั้นก็อย่าได้โทษว่าข้าไม่เกรงใจเลย”
“หึ เ้าลูกทรพี ข้าเลี้ยงดูเ้าจนเติบใหญ่ นึกไม่ถึงว่าเ้าจะลอบคิดร้ายกับข้า ชั่วช้ายิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน”
บนความสูงเหนือพื้นดินหลายพันเมตร ปรากฏเงาร่างสองร่างกำลังพุ่งเข้าปะทะกัน ก่อนจะผละออกจากกันหลายสิบเมตร และยืนค้างอยู่กลางอากาศ
คนผู้หนึ่งคือชายชราในชุดคลุมสีเทา ส่วนอีกคนคือชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาว
ชายชรามีใบหน้าแข็งทื่อ มีเคราสีขาวยาวหนึ่งฉื่อ ในยามนี้ดวงตาของเขากำลังหม่นแสง ทั่วทั้งร่างถูกโอบล้อมไว้ด้วยสายฟ้าสีม่วง และสิ่งนี้ทำให้เขาดูราวกับเทพเซียนผู้สูงส่ง
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเขากลับมีเืไหลออกมาจากมุมปาก และกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากร่างของอีกฝ่าย ก็ทำให้เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับาเ็สาหัส
ส่วนชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามนั้นมีใบหน้าหล่อเหลาชวนมอง แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความโหดร้ายเ็า ทำลายภาพลักษณ์ของชุดสีขาวบริสุทธิ์ที่เขากำลังสวมใส่เป็อย่างยิ่ง ร่างกายของเขากำลังถูกโอบล้อมไว้ด้วยสายฟ้าสีขาวประกายเงิน
การที่คนทั้งสองสามารถลอยตัวอยู่กลางอากาศได้นั้น หมายความว่าพวกเขาต้องมีวรยุทธ์ระดับหยวนตานขึ้นไป
ส่วนด้านล่างมู่เฟิง เสี่ยวเทียนและเสือดาวหางอสรพิษกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าขณะแหงนหน้าขึ้นเพื่อลอบมองสถานการณ์้า
“ข้าจะถามเป็ครั้งสุดท้าย เ้าจะมอบมันมาหรือไม่?”
ชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาวกล่าวอย่างเ็า
“เดิมทีข้ามองว่าเ้าเป็เสมือนบุตรชายของข้า ไม่ว่าอย่างไรในอีกร้อยปีข้างหน้าข้าก็จะมอบอสนีบาตย่ำแปดทิศให้เ้าอยู่แล้ว นึกไม่ถึงว่าเ้าจะใจร้อนเช่นนี้ กล่าวแล้วก็น่าขันนัก ไม่คาดคิดเลยว่าข้าหลิ่วเชียนเย่ผู้นี้จะเลี้ยงดูคนให้กลายเป็คนเนรคุณ”
ชายชราในชุดคลุมสีเทากล่าวด้วยใบหน้าเศร้าหมอง
“รอให้เ้าตายน่ะรึ เหตุใดข้าต้องรอไปอีกร้อยปี ข้าทนรอต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว ข้า้าเรียนรู้สิ่งนั้น และข้าจำเป็ต้องบรรลุอสนีบาตย่ำแปดทิศให้ได้เสียก่อน ฉะนั้นเ้าจงมอบมันมาให้ข้าเสีย”
ชายหนุ่มเริ่มมีโทะจึงแสดงท่าทางดุร้ายออกมา ทันใดนั้นสายฟ้าสีขาวเงินสายหนึ่งก็ถูกควบแน่นขึ้นก่อนจะฟาดไปทางชายชราในทันที เมื่อสายฟ้าพุ่งทะยานออกมา มันก็แผ่อำนาจอันน่าเกรงขามออกมาด้วย
เมื่อสายฟ้าสีขาวเงินพุ่งทะยานเข้ามา ชายชราก็อดทนฝืนต่ออาการาเ็ของตน ก่อนจะแผดเสียงคำรามและชกหมัดออกมาทันที
ฉับพลันนั้นสายฟ้าสีม่วงขนาดใหญ่ก็พุ่งทะลวงเข้าหาสายฟ้าสีขาวเงินอย่างรวดเร็ว
ปัง...!
เมื่อสายฟ้าทั้งสองสายพุ่งเข้าปะทะกันคลื่นพลังก็เกิดการะเิขึ้นอย่างรุนแรง โดยคลื่นพลังนี้ได้สาดซัดออกไปไกลหลายร้อยเมตร และมีบางส่วนที่ลอยไปไกลมากกว่านั้น
เมื่อครู่ตตอนที่มู่เฟิงบินทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับเสี่ยวเทียน เขาก็โดนลูกหลงจากคลื่นพลังการโจมตีระหว่างสองฝ่ายด้วยเช่นกัน
อานุภาพพลังการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นทรงพลังมากจนน่าอัศจรรย์ ตอนนี้มู่เฟิงที่อยู่ด้านล่างไม่กล้าแม้แต่จะลุกขึ้นมาด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าจะเป็การดึงดูดความสนใจจากคนทั้งสอง
“หงูว...”
เสือดาวหางอสรพิษหวาดกลัวจนหมอบตัวลงกับพื้นและร้องโอดครวญออกมา ในขณะที่เสี่ยวเทียนก็หดขนาดตัวลงกลายเป็งูขาวความยาวสามฟุตพันรอบแขนของมู่เฟิงเช่นกัน
ครืน ครืน!
เปรี้ยง...!
สายฟ้าสีขาวเงินพุ่งทำลายหมัดอันแข็งแกร่ง ก่อนจะทะลวงผ่านชั้นพลังป้องกันและเข้าโจมตีร่างของชายชราโดยตรง ทำให้ร่างของชายชราผู้นั้นปลิวกระเด็นออกไปไกลหลายร้อยเมตร และกระอักเืออกมาทันที
“ในเมื่อเ้าไม่ยอมมอบมันมาดีๆ เช่นนั้นข้าจะสังหารเ้าและแย่งมันมาเอง!”
ชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาวแสยะยิ้ม กระบี่สีเงินเล่มยาวพลันปรากฏขึ้นในมือของเขา ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าโจมตีชายชราอย่างดุดัน
“ฝันไปเถอะ ตาแก่อย่างข้าจะสู้กับเ้าเอง จะทำให้เ้าได้ััถึงอานุภาพพลังที่แท้จริงของอสนีบาตย่ำแปดทิศ!”
ท่าทีของชายชราพลันเปลี่ยนเป็มุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว ทันใดนั้นพลังสายฟ้าอันแข็งแกร่งก็ปะทุออกจากร่างของเขา เพียงเขาชูมือข้างหนึ่งขึ้นกลางอากาศ มวลพลังปราณสายฟ้าก็พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าในทันที
“ครืน ครืน เปรี้ยง!”
เสียงฟ้าคำรามดังขึ้นฉับพลัน มวลเมฆสีดำทะมึนแผ่ปกคลุมทั่วบริเวณ สายฟ้าแลบแปลบปลาบจนมองเห็นเป็เส้นแสงอันน่ากลัว บรรยากาศน่าพรั่นพรึงราวกับฟ้ากำลังพิโรธ
“อสนีบาตจงมา!”
เมื่อชายชราแผดเสียงคำราม สายฟ้าที่กำลังวิ่งแล่นแปลบปลาบอยู่บนท้องฟ้าก็ฟาดลงมายังร่างของชายชราครั้งแล้วครั้งเล่าทันที กระทั่งฟาดลงมาทั้งหมดแปดครั้ง และทุกครั้งที่สายฟ้าฟาดลงมา อำนาจพลังของชายชราก็เพิ่มขึ้นเป็เท่าตัว ในขณะที่อาการาเ็ภายในร่างกายของเขาก็หนักขึ้นเป็เท่าตัวเช่นกัน
“ตาเฒ่า เ้าไม่้าชีวิตแล้วรึ!”
เมื่อเห็นฉากนั้น ชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาวก็ตื่นตระหนกและคิดที่จะรีบหนีไปทันที
เมื่อสายฟ้าทั้งแปดสายฟาดลงมาที่ร่างกาย อานุภาพพลังก็เพิ่มขึ้นถึงแปดเท่า!
“อสนีบาตย่ำแปดทิศ!”
ชายชราแผดเสียงคำราม ก่อนจะย่ำเท้าขึ้นไปกลางอากาศแปดก้าว ระหว่างนั้นเสียงฟ้าร้องคำรามก็ดังสนั่น หลังจากครบแปดก้าวแล้ว พลังสายฟ้าก็ควบแน่นเป็ัที่มีความยาวกว่าร้อยเมตรขึ้นมาจำนวนแปดตัว ัทั้งแปดแผดเสียงคำรามออกมาดังลั่น จากนั้นพวกมันก็พุ่งทะยานเข้าหาชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาวทันที
“ไม่นะ!”
ชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาวแสดงท่าทางหวาดผวาออกมา เขาเร่งกางโล่สีทองทันใด จากลายเส้นิญญาบนโล่ เห็นได้ชัดว่านี่คือเครื่องมือิญญา
เมื่อโล่สีทองปรากฏ ขนาดของมันก็ขยายใหญ่ขึ้นทันที จากนั้นมันก็ปกคลุมข้างหน้าปกป้องร่างของชายหนุ่มไว้เื้ั ทำให้ัสายฟ้าทั้งแปดตัวพุ่งกระแทกใส่โล่ิญญานี้โดยตรง
เปรี้ยง!
โล่ิญญาถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นพลังอันน่าสะพรึงกลัวของสายฟ้าก็พุ่งเข้าใส่ร่างของชายหนุ่มผู้นั้นในทันที
“อ๊าก!”
ชายหนุ่มกรีดร้องโหยหวนออกมาอย่างน่าสมเพช เขาถูกพลังะเิโจมตีจนเืไหลออกมาเป็สาย จากนั้นเขาก็บินหนีขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความหวาดกลัว ร่างกายของเขาได้รับาเ็สาหัสจนไม่มีแรงจะต่อสู้แล้ว
“อัก!”
พลังสายฟ้าพลันสลายไปในอากาศ ชายชรากระอักเืออกมาเต็มปาก พลังปราณภายในร่างของเขาถูกใช้จนแห้งเหือดแล้ว จากนั้นร่างกายของเขาก็ล่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าราวกับนกตัวใหญ่ที่ปีกหัก
ตู้ม!
ร่างกายของชายชราตกลงไปในทะเลสาบบนูเาแห่งหนึ่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้