“สิบกว่าปีก่อน เสด็จแม่ลงมือทำร้ายพระสนมชายาที่กำลังตั้งครรภ์หลายคนตอนนั้นเหตุการณ์เหล่านี้ถูกปิดเงียบทว่าตอนนี้กลับถูกคนอื่นนำหลักฐานออกมามัดตัวอย่างชัดเจน”
เขากล่าวเพียงเหตุการณ์ของเสด็จแม่ แต่ไม่ได้กล่าวถึงเื่ของตัวเองแม้แต่นิดเดียว
กงอี่โม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เป็พวกที่ทำให้เสียเื่จริงๆ หรือบางทีไม่ว่าอย่างไรฮองเฮาก็ไม่สามารถรอดพ้นจากการฆ่าตัวตายใช่ไหม? แม้นางจะเปลี่ยนเหตุการณ์บางอย่างแต่ผลลัพธ์ยังคงเหมือนเดิมอย่างนั้นหรือ?
“ถ้าเช่นนั้นฝ่าาลงโทษฮองเฮาเหนียงเหนียงอย่างไรหรือ?”
“วันนี้ข้าไปขอร้องแล้ว เสด็จพ่อสั่งกักบริเวณเสด็จแม่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะลงโทษเช่นไรบ้าง” กงเช่อถอนหายใจออกมาลึกๆ ทว่าเขากลับพยายามฝืนยิ้มพร้อมเอ่ยขึ้น
กงอี่โม่ได้ยินเช่นนี้ นางจึงยกมือขึ้นลูบหน้าผากที่บวมเล็กน้อยของกงเช่อ ตอนนี้เขาไม่ได้ใช้คำแทนตัวที่เป็คำเฉพาะสำหรับองค์รัชทายาทแล้วแต่เขามองว่านางเป็น้องสาวของเขา เป็คนที่เขาไว้ใจจริงๆ
“คงไม่ได้ง่ายดายเช่นนี้หรอกกระมัง?” กงอี่โม่เอ่ยอย่างกังวล
“เสด็จพ่อไม่ได้เป็คนใจดีเช่นนั้น ปกติจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาด แล้วเพราะเหตุใดจึงเลื่อนประกาศการลงโทษออกไปล่ะ? ท่านพี่รัชทายาททำอะไรหรือ? หรือว่าฝ่าาทำอะไรหรือเปล่า?”
ฝ่าา
กงเช่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตำหนักอย่างอดไม่ได้ท่าทางเ็าสูงส่งของฮ่องเต้ที่มองมายังตน แต่ละคำแต่ละประโยคที่กล่าวออกมาช่างสร้างความทุกข์ทรมานมากกว่าการปลดตำแหน่งองค์รัชทายาทของเขาโดยตรงเสียอีก
มุมปากของเขายกขึ้น เขาพยายามทำให้ตัวเองดูเหมือนไม่ได้เสียใจทว่าสิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ตอนนี้รอยยิ้มของเขาเศร้ายิ่งกว่าเวลาไม่ยิ้มเสียอีก
“เนื่องจากเสด็จพ่อรู้สึกว่า่นี้การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากตำแหน่งองค์รัชทายาทดังนั้น... ดังนั้น...” เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ แม้ว่าเขายังคงยิ้มตรงมุมปากทว่าดวงตากลับหมองลง มันไม่เหลือความสดใสอีกแล้ว
“ดังนั้นเสด็จพ่อตรัสว่า ราชบัลลังก์นี้ ผู้มีความสามารถเท่านั้นที่จะเป็ผู้ไม่ว่าจะเป็องค์รัชทายาทหรือพระโอรสต่างมีโอกาสกันถ้วนหน้าเป็การปฏิบัติอย่างเท่าเทียม”
สุดท้ายก็เกิดขึ้นจริงๆ ชาติที่แล้วก็เป็เพราะการตัดสินใจเช่นนี้ของฮ่องเต้ทำให้การแข่งขันระหว่างพระโอรสเกิดขึ้นดุเดือดอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนกลายเป็ความสับสนวุ่นวายทว่ากงเซิ่งกลับมองจากเบื้องสูงโดยไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์ทว่าการกระทำเช่นนี้ก็สร้างประโยชน์อยู่ไม่น้อยจริงๆ
มีพระโอรสจำนวนไม่น้อยที่้าสร้างผลงานจึงลงมือทำงานอย่างหนักจนเป็ผลดีต่อประชาชน
เพียงแต่การตัดสินใจเช่นนี้ สำหรับองค์รัชทายาทแล้วกลับถือเป็หายนะ
เวลานี้นางกำลังมองกงเช่อ เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าใจของนางกงเช่อกลับเป็ผู้ปลอบใจนางแทน “ไม่เป็ไรการกระทำของเสด็จพ่อเป็การทำเพื่อประชาชนในใต้หล้า เขากล่าวถูกต้องครอบครัวหนึ่งหากแต่งตั้งผู้นำครอบครัวผิดพลาดจะส่งผลต่อครอบครัวเดียวทว่าแคว้นหนึ่ง หากแต่งตั้งผู้นำผิดพลาดจะเป็ผลร้ายต่อผู้คนในใต้หล้าเขาไม่ผิดอะไร เขาไม่ผิดจริงๆ”
กงเช่ออธิบายด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าเป็การพูดอธิบายให้ตนเองยอมรับหรือ้าอธิบายให้กงอี่โม่ฟังกันแน่
กงอี่โม่ััได้ว่ามือของเขาเย็นเฉียบและกำลังสั่นระริกทว่าเขากลับพยายามรักษารอยยิ้มและปลอบใจตนเอง เขาเพิ่งอายุสิบหกปีเท่านั้นหากอยู่ในยุคสมัยที่กงอี่โม่จากมา เขายังคงเป็แค่เด็กน้อยคนหนึ่ง
ทว่าในยุคสมัยนี้ เขากลับต้องใช้บ่าของเด็กน้อยแบกรับภาระทั้งหมด
แต่ไหนแต่ไรอำนาจบารมีและทรัพย์สมบัติของเขาล้วนไม่อาจเทียบเคียงกับบุตรของหลิ่วเสียนเฟยและหลงกุ้ยเฟยตอนนี้แม้กระทั่งตำแหน่งองค์รัชทายาทที่พยายามแย่งชิงมาอย่างยากลำบากก็กลายเป็สิ่งที่ไร้ค่าดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าผู้คนข้างกายเขารวมทั้งความพยายามสิบกว่าปีของเขาจึงกลายเป็ฟองอากาศในชั่วพริบตา
เขาในฐานะที่เป็ความคาดหวังของทุกคนเวลานี้กลับถูกความเกรี้ยวกราดฟาดใส่หน้าจนถึงขั้นนี้ แต่อันที่จริงความกดดันความรู้สึกผิด ความเ็ปบนตัวของเขาก็ไม่ได้น้อยไปกว่าฮองเฮาเลยทว่าเขากลับต้องไปปลอบใจฮองเฮา ปลอบใจตัวเอง และปลอบใจตระกูลหลิว
ส่วนฮองเฮายังสามารถร้องไห้ ยังสามารถโวยวาย หรือแม้กระทั่งสามารถปลิดชีพตัวเองแต่เขาทำไม่ได้
กงอี่โม่ยกมือขึ้นลูบใบหน้าของเขา
“ทำไมหรือ?” กงเช่อนิ่งงัน เขากล่าวขึ้นด้วยใบหน้ายิ้ม
“หากไม่อยากยิ้มท่านก็ไม่ต้องฝืนยิ้มแล้ว”
กงอี่โม่รำพึงออกมา คำพูดของนางทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของกงเช่อพลันเกร็งค้าง
“ท่านเสียใจไหม? อยากร้องไห้ไหม? หากอยากร้องไห้ก็ร้องไห้ออกมาเถิด ร้องในอ้อมกอดของข้า ไม่มีใครเห็น” นางลุกขึ้นเดินเข้าไปกอดศีรษะของเขาเบาๆ
“เ้าพูดอะไร ทำไมข้าต้องอยากร้องไห้” กงเช่อนั่งอยู่บนเก้าอี้ถูกนางกอดศีรษะไว้ สุดท้ายเขายังคงยิ้ม
“ไม่อยากร้องไห้ก็ไม่เป็ไร ท่านหลับตาพักสักครู่เถอะนะ” กงอี่โม่ที่กำลังกอดศีรษะของเขาจึงตบบ่าของเขาเบาๆ
นางตบหลังเขาเบาๆ ราวกับกำลังปลอบเด็กน้อยกลิ่นหอมและความอ่อนโยนของนางกำลังโอบล้อมกงเช่อความอ่อนนุ่มและความอบอุ่นทำให้กงเช่อกอดกงอี่โม่อย่างอดไม่ได้เขาซุกใบหน้าอยู่ในอ้อมกอดของนางใกล้ชิดขึ้น
เขาเหนื่อยมาก เขาไม่อยากเป็องค์รัชทายาทเลย ทว่าเขาจำเป็ต้องเป็องค์รัชทายาท
แต่มีอยู่วันหนึ่ง เมื่อตำแหน่งองค์รัชทายาทกลายเป็สิ่งไร้ค่าแล้วเขาจึงไม่รู้จริงๆ ว่าเขายังสามารถทำอะไรได้อีกความคาดหวังของคนในตระกูลที่มีมาตลอดสิบกว่าปีมานี้ เขาสามารถตอบแทนได้เช่นไร?
เขารู้สึกว่าร่างของเขากำลังถูกเผาอยู่ท่ามกลางกองเพลิง ทั้งๆที่ญาติของเขาเป็ฝ่ายทำผิด แต่เขากลับไม่สามารถเอ่ยปากตำหนิได้เลยทุกคนต่างกล่าวว่าที่กระทำความผิดก็เป็การทำเพื่อเขาทั้งสิ้นเขาจึงทำได้เพียงก้าวออกมารับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่าง
แล้วจะทำเช่นไร? เขาก็อยากร้องไห้เหมือนเสด็จแม่บ้างเขาอยากตำหนิที่เสด็จพ่อลำเอียงโดยไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมหรือบางทีเขาอยากทำอะไรบางอย่างเพื่อตัวเองสักครั้ง
กงอี่โม่ััได้ถึงความเปียกชื้นตรงหน้าอกของตน กงเช่อยังคงควบคุมตัวเองเหมือนเช่นเคยแม้ว่าเขาจะร้องไห้ แต่กลับไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อย
กงอี่โม่อดคิดไม่ได้ว่า เหตุการณ์ในชาติที่แล้วนางก็ผิดด้วยเช่นกันหลังจากนางทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างแล้วนางก็ได้รับในสิ่งที่ควรทว่านางกลับทำตัวเก่งกล้าโดยไม่รู้จักเอาใจเขา
ดังนั้นกงเช่อจึงไม่ชอบนางกระมัง
เพียงแต่ถึงเขาไม่ชอบนาง เขาก็ไม่ควรทอดทิ้งนางหลังจากนางหมดประโยชน์แล้วทว่าวันนี้กงอี่โม่ตัดสินใจยกโทษให้เขาแล้ว
กงเช่อ ข้าไม่คิดเอาความเื่ความรักระหว่างเราในชาติที่แล้วอีกแล้ว ชาตินี้ข้าจะเป็น้องสาวของท่านอย่างว่าง่าย ข้าจะทำทุกอย่างอย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็ฮ่องเต้ที่มีความเมตตาและก็ถือว่าข้าจะได้ชดเชยความผิดจากการสังหารผู้คนมากมายในชาติที่แล้วเพียงแต่ครั้งนี้ หวังว่าท่านจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังอีก
วันถัดมาตอนที่กงเช่อตื่นขึ้นมานั้น เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นจึงพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องของตนเขาหรี่ตาคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานอย่างอดไม่ได้ฉากสุดท้ายที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ อ้อมกอดของกงอี่โม่และการปลอบใจของนางรวมทั้งเขาร้องไห้ในอ้อมกอดของนางจนหลับไป
กงเช่อหน้าแดงก่ำ เขาเพิ่งอายุสิบหกปีเท่านั้นแม้ว่าปกติเขาจะโตเป็ผู้ใหญ่มากเพียงใด แต่บางเื่เขายังคงไร้เดียงสาดุจกระต่ายขาวตัวน้อยๆตัวหนึ่ง
เขาพลิกตัวนอนตะแคงอยู่บนเตียง จากนั้นจึงพลิกกลับไปกลับมาเขาอยากลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้จนหมดสิ้นทำไมชีวิตของเขาจึงมีจุดด่างพร้อยเช่นนี้อีกทั้งอีกฝ่ายยังเป็น้องสาวที่เขารักและเอ็นดูมากที่สุด!!
เกิดอะไรขึ้นบนโลกใบนี้?! เมื่อคืนคนที่ร้องไห้ในอ้อมกอดของน้องสาวต้องไม่ใช่เขาอย่างแน่นอน!
เมื่อกงอี่โม่เดินเข้ามานางจึงเห็นกงเช่ออยู่ในสภาพเหมือนคนบ้า
“เป็อะไรหรือ?”
เมื่อได้ยินเสียงของนาง ใบหน้าของกงเช่อจึงเปลี่ยนจากสีแดงเป็สีม่วงหัวใจของเขาเต้นแรงอย่างประหลาด อาการของเขาใกล้กำเริบหรือเปล่า? อาการของเขาต้องใกล้กำเริบอย่างแน่นอน!
กงอี่โม่กลับไม่ได้สนใจความคิดที่ใกล้ถึงจุดะเิของกงเช่อหลังจากนางบิดผ้าเช็ดหน้าแล้ว นางจึงยื่นให้กับอีกฝ่ายกงเช่อรับมาเช็ดหน้าด้วยสภาพเหมือนท่อนไม้เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นราวกับเขาหลุดเข้าไปในก้อนเมฆา
เมื่อเห็นท่าทางของเขาเช่นนี้ กงอี่โม่จึงแอบหัวเราะอย่างอดไม่ได้ต่อไปไม่ว่าพวกเขาจะกลายเป็บุคคลยิ่งใหญ่ขนาดไหน ทว่าเวลานี้พวกเขายังคงละอ่อนนัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้