ห้องประชุมใตู้เาคุนหลุนเป็อุโมงค์กว้างที่ถูกขยายและตกแต่งอย่างประณีต ผนังหินแกะสลักเป็ภาพัพันเกี่ยวกับรูปทรงคล้ายดวงดาว โต๊ะไม้แข็งรูปวงรีตั้งอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยเก้าอี้สิบกว่าตัว บนโต๊ะมีแผนที่และเอกสารวางกระจาย
หลิวซิน ยืนพิงผนังด้านหนึ่ง สายตาเป็ประกายเมื่อมองมาที่ หลินเว่ย บนใบหน้าของเขามีรอยแผลเป็ใหม่พาดจากหางตาขวาถึงมุมปาก หลักฐานของการต่อสู้ที่เขาผ่านมา
"สวัสดีเพื่อนเก่า" หลิวซินทักทาย เสียงของเขาแหบแห้งกว่าที่หลินเว่ยจำได้ "ฉันไม่คิดว่าเราจะได้พบกันอีก"
หลินเว่ยเดินเข้าไปกอดเพื่อนเก่าแน่น รู้สึกว่าร่างของหลิวซินแข็งแกร่งขึ้นจากการฝึกฝนและการต่อสู้ "ฉันคิดว่านายตายแล้ว"
"ฉันก็เกือบตายหลายครั้ง" หลิวซินหัวเราะเบาๆ ก่อนจะสบตากับ ลี่ชิง ที่ยืนข้างๆหลินเว่ย "ยินดีที่ได้พบคุณอีกครั้ง"
ลี่ชิงพยักหน้า น้ำตาคลอด้วยความตื้นตัน
อาจารย์เฉินหลง ขอให้ทุกคนนั่งลงรอบโต๊ะ พร้อมกับ เมิ่งหลิง และผู้นำคนอื่นๆ ของชุมชนใต้ดิน
"เล่าเื่ของนายให้พวกเราฟังสิ" หลินเว่ยเอ่ยขึ้น
หลิวซินถอนหายใจลึก ก่อนเริ่มเล่า "หลังจากที่เราพลัดพรากกันในฐานฉางชา ฉันถูกะเิเหวี่ยงไปอีกทางหนึ่ง แรงะเิทำให้ฉันสลบไป และเมื่อตื่นขึ้นมา ฉันถูกกลุ่มฏใต้ดินช่วยเหลือไว้"
"กลุ่มฏ?" หลินเว่ยขมวดคิ้ว
"ใช่ พวกเขามีชื่อว่า 'คณะเงาั'" หลิวซินตอบ "เป็กลุ่มต่อต้านองค์กรเทียนซื่อที่ก่อตั้งมานานกว่ายี่สิบปี ประกอบด้วยทหารและนักวิทยาศาสตร์ที่แปรพักตร์ ผู้รอดชีวิตจากการทดลอง และสมาชิกตระกูลโบราณที่เคยศึกษาพลัง ชี่"
หลิวซินชี้ไปที่แผนที่บนโต๊ะ "พวกเขามีเครือข่ายทั่วประเทศ ทั้งในเมืองใหญ่และพื้นที่ห่างไกล ทำงานแทรกซึมและเก็บรวบรวมข้อมูล"
"และนายได้เข้าร่วมกับพวกเขา" เมิ่งหลิงเสริม
"ใช่ ฉัน้าช่วยพวกนาย แต่ไม่รู้ว่าพวกนายอยู่ที่ไหน" หลิวซินตอบ "ฉันจึงช่วยภารกิจของพวกเขา หวังว่าสักวันจะได้ข่าวของพวกนาย" เขาหยุดชั่วครู่ "จนกระทั่งเราได้ยินข่าวเื่การต่อสู้ที่เสวี่ยเฟิง มีรายงานว่ามีชายหนุ่มใช้พลัง ชี่ ที่แข็งแกร่งต่อสู้กับกองกำลังองค์กรเทียนซื่อ"
"มันเป็การต่อสู้หนักมาก" หลินเว่ยนึกย้อนกลับไป "แต่พวกเราก็หนีออกมาได้"
"และพวกนายมาที่นี่" หลิวซินพยักหน้า "ถึงจุดที่สองกลุ่มต่อต้านมากัน"
อาจารย์เฉินหลงเอ่ยขึ้น "คณะเงาัและชาวชีหลงของเราได้ร่วมมือกันมาสักระยะแล้ว แต่ก็ต้องระวังสายลับ เหมือนที่พวกเ้าเพิ่งเห็น"
"นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมด" หลิวซินเสริม "เรามีข่าวว่าองค์กรเทียนซื่อกำลังพัฒนาไวรัสระลอกใหม่ เรียกว่า 'ฟีนิกซ์-โอเมก้า' ซึ่งสามารถควบคุมจิตใจของผู้ติดเชื้อได้โดยสมบูรณ์"
เมิ่งหลิงสะดุ้ง "ยิ่งกว่าพวกคลุ้มคลั่งที่เราเคยเห็นด้วยซ้ำ?"
"ใช่" หลิวซินตอบเสียงเครียด "พวกคลุ้มคลั่งเป็เพียงเวอร์ชั่นต้นแบบที่ไม่สมบูรณ์ แต่ 'ฟีนิกซ์-โอเมก้า' จะทำให้ผู้ติดเชื้อยังคงรักษาความสามารถในการคิดและทักษะต่างๆ ไว้ได้ แต่จะถูกควบคุมโดยสมบูรณ์"
หลินเว่ยรู้สึกถึงความหนาวเยือกฉาบผ่านร่างกาย "เป็กองทัพมนุษย์ที่ถูกควบคุม"
"ถูกต้อง" หลิวซินพยักหน้า "และแผนของพวกเขาใกล้สำเร็จแล้ว"
"แต่ยังมีบางอย่างที่นายไม่ได้บอกเรา ใช่ไหม?" หลินเว่ยถาม สังเกตเห็นความลังเลในดวงตาของเพื่อน
ห้องประชุมตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะ หลิวซินมองไปที่อาจารย์เฉินหลง ราวกับขออนุญาต ชายชราพยักหน้าเบาๆ
"มีหลายสิ่งที่ฉันค้นพบระหว่างแทรกซึมเข้าไปในองค์กรเทียนซื่อ" หลิวซินหลับตาลงชั่วครู่ ราวกับกำลังรวบรวมความกล้า "โครงการฟีนิกซ์ไม่ได้เริ่มขึ้นเพื่อต่อสู้กับนักล่าจักรวาลโดยตรง แต่เพื่อเปลี่ยนมนุษยชาติให้อยู่ภายใต้การควบคุมของผู้บัญชาการหวัง"
"แล้วนักล่าจักรวาลล่ะ?" หลินเว่ยถามเสียงเครียด "ไม่ใช่ภัยคุกคามจริงหรือ?"
"เป็ภัยคุกคามจริง" หลิวซินตอบ "แต่ผู้บัญชาการหวังไม่ได้วางแผนต่อสู้... เขาวางแผนร่วมมือกับพวกมัน"
ทั้งห้องประชุมส่งเสียงอุทานด้วยความใ
"เขาเชื่อว่ามนุษยชาติไม่มีทางเอาชนะนักล่าจักรวาลได้ และการร่วมมือกับพวกมันคือทางเดียวที่จะทำให้มนุษย์บางส่วนอยู่รอด" หลิวซินอธิบาย "เขาจะส่งมอบโลกและมนุษย์ส่วนใหญ่ให้กับพวกมัน แลกกับการที่เขาและกลุ่มที่เลือกสรรจะได้รับอำนาจปกครองมนุษย์ที่เหลือ"
หลินเว่ยรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น ความโกรธและความกลัวผสมปนเปกัน "การทรยศต่อมนุษยชาติทั้งมวล"
"และนั่นไม่ใช่ทั้งหมด" หลิวซินเสริม น้ำเสียงลดต่ำลง "มีบางอย่างเกี่ยวกับตัวนาย หลินเว่ย... นายไม่ใช่แค่โคลนของนักรบโบราณ"
"หมายความว่ายังไง?" หลินเว่ยขมวดคิ้ว
หลิวซินสบตากับเพื่อนอย่างจริงจัง "นายถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็ภาชนะรองรับิญญาของหลงฉี แต่ยังมีอีกส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอที่ถูกใช้ในการสร้างตัวนาย... ดีเอ็นเอของผู้บัญชาการหวังเอง"
เสียงอุทานดังขึ้นทั่วห้อง ลี่ชิงจับมือหลินเว่ยไว้แน่น
"นายคือลูกชายทางชีวภาพของเขา หลินเว่ย" หลิวซินกล่าวในที่สุด "และนั่นอาจเป็เหตุผลที่เขาไม่ได้พยายามฆ่านายอย่างเต็มที่ เขา้าให้นายอยู่เคียงข้างเขา"
หลินเว่ยนั่งนิ่งงัน รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหมุนวนรอบตัว ภาพใบหน้าของผู้บัญชาการหวังปรากฏในความคิด ทุกอย่างเริ่มมีความเชื่อมโยงกัน ความลังเลในการโจมตีเขา คำพูดปริศนาที่ว่าเขาเข้าใจผิดเกี่ยวกับจุดมุ่งหมายที่แท้จริง...
"แต่เราสามารถใช้ข้อมูลนี้ให้เป็ประโยชน์ได้" หลิวซินกล่าวต่อ "เรารู้แผนการของศัตรู เรารู้จุดอ่อนของพวกเขา และเรามีนายอยู่ฝ่ายเรา" เขาหันไปมองหลินเว่ยด้วยความมั่นใจ "ตัวนายอาจจะเป็ลูกของเขา แต่ิญญาของนายเป็ของหลงฉี—ผู้พิทักษ์มนุษยชาติ"
เมิ่งหลิงเอ่ยขึ้นว่า "แล้วแผนของพวกเราล่ะ? เราจะต่อสู้กับองค์กรเทียนซื่อและนักล่าจักรวาลได้อย่างไร?"
อาจารย์เฉินหลงลุกขึ้น "พวกเรามีแผนที่วางไว้นานแล้ว... แต่ตอนนี้ที่หลินเว่ยมาถึง ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว" เขาหันไปมองหลินเว่ย "เรา้าฝึกฝนพลัง ชี่ ของนายให้ถึงขีดสุด"
"แต่นั่นจะใช้เวลา..." ลี่ชิงทักท้วง
"ใช่" หลิวซินพยักหน้า "แต่เรามีวิธีเร่งรัด... วิธีโบราณที่อันตรายแต่มีประสิทธิภาพ"
"อันตรายมากแค่ไหน?" หลินเว่ยถาม
"อาจถึงตาย" อาจารย์เฉินหลงตอบตรงๆ "แต่ถ้าสำเร็จ นายจะมีพลังมากพอที่จะเผชิญหน้ากับผู้บัญชาการหวังได้"
หลินเว่ยหลับตาลง คำพูดของหลิวซินยังก้องในหู ความจริงที่ว่าเขาเป็ลูกของศัตรูที่เขาเกลียดชัง แต่เมื่อลืมตาขึ้น เขาเห็นความหวังในดวงตาของทุกคน
"ฉันจะทำ" เขาตอบ เสียงหนักแน่น "เพื่อมนุษยชาติ"
ภายในห้องฝึกฝนใตู้เาคุนหลุน หลินเว่ยนั่งขัดสมาธิบนพื้นหินเย็น แสงเทียนหลายสิบดวงส่องสว่างรอบห้อง ก่อให้เกิดเงาระบำไปตามผนังถ้ำที่มีภาพสลักโบราณ ด้านหลังเขาคือ หลิวซิน ที่คอยประคองพลัง ชี่ ของหลินเว่ยให้สมดุล ส่วน อาจารย์เฉินหลง นั่งประจำทิศหลักทั้งสี่ของห้อง
"จิตใจต้องว่างเปล่า ร่างกายต้องพร้อมรับ" อาจารย์เฉินหลงแนะนำ เสียงทุ้มลึกก้องสะท้อนไปทั่วห้อง "พลัง ชี่ ของนายมีศักยภาพมหาศาล แต่ถูกปิดกั้นโดยองค์กรเทียนซื่อ ด้วยกระบวนการที่พวกเขาใช้สร้างนาย"
หลินเว่ยสูดหายใจลึก พยายามทำจิตใจให้ว่างเปล่า แต่ความคิดมากมายยังวนเวียนในหัวเขา—ความจริงที่ว่าเขาเป็ลูกของผู้บัญชาการหวัง ภัยคุกคามจากนักล่าจักรวาล และชะตากรรมของเพื่อนๆ ของเขา
"ปล่อยวางความคิด" หลิวซินกระซิบข้างหูเขา "ร่างกายนายถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับพลังของหลงฉี แต่ความทรงจำของเขายังถูกฝังอยู่ลึกๆ ในตัวนาย"
หลินเว่ยพยายามอีกครั้ง ค่อยๆ ปล่อยวางความคิด ปล่อยให้ลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ จิตใจเริ่มสงบนิ่ง และเขารู้สึกถึงความเย็นจากพื้นหินค่อยๆ แผ่ขึ้นมาตามร่างกาย
อาจารย์เฉินหลงและผู้ช่วยอีกสามคนเริ่มสวดมนต์โบราณเป็ภาษาที่หลินเว่ยไม่เคยได้ยิน แต่กลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เสียงสวดสะกดให้จิตใจเขาจมลึกลงไปอีก
ทันใดนั้น ภาพแฟลชเริ่มปรากฏในความคิดของเขา:
ห้องทดลองสีขาว... เด็กชายในชุดกระดาษสีฟ้า... ผู้ชายในชุดกาวน์สีขาวหลายคนล้อมรอบ... เ็ป... กลัว...
รหัสบนแฟ้ม: "Phoenix-Alpha"
เด็กชายในท่อกระจกสีเขียว... สารละลายบางอย่างไหลเข้าสู่ร่างกาย... เจ็บแสบเหมือนไฟเผา... แต่เขาไม่สามารถร้องได้...
ภาพผู้ชายในชุดกาวน์ พูดกับกล้อง: "การทดลอง Phoenix-Alpha เข้าสู่ระยะที่ 3 การฝังความทรงจำของหลงฉีจะเริ่มในสัปดาห์หน้า..."
"อาาาาาาาา!" หลินเว่ยร้องออกมาด้วยความเ็ป ร่างของเขาสั่นสะท้าน พลัง ชี่ แผ่ออกมาเป็คลื่นกระแทกทุกคนในห้องให้เซถอยหลัง
ลี่ชิง และ เมิ่งหลิง ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่นอกวงพิธีรีบวิ่งเข้ามา แต่อาจารย์เฉินหลงยกมือห้ามไว้
"นี่เป็ส่วนหนึ่งของกระบวนการ" เขาบอก "ความทรงจำที่ถูกปิดกั้นกำลังถูกปลดปล่อย"
หลินเว่ยสงบลงหลังจากผ่านไปสองนาที เหงื่อท่วมตัว แต่สายตาเขากลับสว่างวาบด้วยความตระหนักรู้
"ผมจำได้แล้ว..." เขาพูดเสียงสั่น "ผมถูกสร้างขึ้นในโครงการที่เรียกว่า 'Phoenix-Alpha' ฉันเป็การทดลองแรกที่สำเร็จ"
เมิ่งหลิงยื่นน้ำเปล่าให้หลินเว่ย เขาดื่มอย่างกระหาย
"มีอะไรอีกไหมที่นายจำได้?" หลิวซินถาม ใบหน้าจริงจัง
"โครงการนี้ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว" หลินเว่ยนึกย้อนความทรงจำที่เพิ่งกลับมา "มีเด็กคนอื่นอีก เด็กที่ถูกทดลองเหมือนผม แต่พวกเขาล้มเหลว... พวกเขา..." เขาหยุดพูด ภาพความทรงจำที่น่าสยดสยองทำให้เขาสั่นสะท้าน
ลี่ชิงนั่งลงข้างหลินเว่ย จับมือเขาไว้แน่น "ไม่เป็ไร ค่อยๆ นึก"
"Phoenix-Alpha ไม่ใช่แค่การโคลนนักรบโบราณ แต่เป็การสร้างมนุษย์พิเศษที่สามารถควบคุมไวรัสได้" หลินเว่ยเล่าต่อ "ผมถูกออกแบบให้เป็ผู้ควบคุมหลักของโครงการฟีนิกซ์ ไม่ใช่แค่เป้าหมาย"
หลิวซินและอาจารย์เฉินหลงสบตากัน
"นั่นอธิบายว่าทำไมนายถึงไม่ติดเชื้อเมื่อัักับไวรัส" เมิ่งหลิงพูดอย่างตื่นเต้น "นายไม่ใช่แค่ต้านทานได้ แต่นายมีความสามารถในการควบคุมมัน!"
"แล้วถ้าอย่างนั้น ทำไมองค์กรเทียนซื่อถึงปล่อยให้หลินเว่ยหลุดออกมา?" ลี่ชิงถาม ยังคงจับมือหลินเว่ยไว้
"เพราะผมไม่ได้หลุดออกมา..." หลินเว่ยตอบ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตระหนักรู้ "ผมถูกปล่อยออกมาโดยเจตนา เป็ส่วนหนึ่งของแผนการ"
"แผนการอะไร?" หลิวซินถาม
"ผมไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ผมจำอะไรได้มากขึ้น..." หลินเว่ยหลับตาลง พยายามดึงความทรงจำที่ยังเลือนราง "มีคนในองค์กรเทียนซื่อที่ไม่เห็นด้วยกับผู้บัญชาการหวัง พวกเขาปล่อยผมออกมาพร้อมกับฝังข้อมูลบางอย่างไว้ในความทรงจำของผม... ข้อมูลที่จะช่วยหยุดแผนการของเขาได้"
อาจารย์เฉินหลงพยักหน้า "พวกฏในองค์กรเทียนซื่อ... เราได้ติดต่อกับพวกเขาบ้าง แต่ไม่เคยรู้ว่าพวกเขามีแผนลึกขนาดนี้"
"แผนของผู้บัญชาการหวังคือการควบคุมมนุษยชาติทั้งหมดผ่านโครงการฟีนิกซ์" หลินเว่ยเล่าต่อ "และเมื่อนักล่าจักรวาลมาถึง เขาจะส่งมอบมนุษย์ส่วนใหญ่ให้พวกมัน แลกกับการที่เขาจะได้รับสิทธิ์ปกครองมนุษย์ที่เหลือ"
"แล้วเขาจะใช้นายยังไง?" เมิ่งหลิงถาม
"ผมถูกออกแบบให้เป็สื่อกลางระหว่างเขากับนักล่าจักรวาล... เพราะดีเอ็นเอของหลงฉีในตัวผมสามารถสื่อสารกับพวกมันได้..." หลินเว่ยตอบ เสียงเบาลง "นั่นคือเหตุผลที่เขา้าผมกลับไป... ไม่ใช่เพราะผมเป็ลูกชายของเขา แต่เพราะผมคือกุญแจในการเปิดประตูให้นักล่าจักรวาล"
ความเงียบงันปกคลุมทั่วห้อง ทุกคนพยายามประมวลข้อมูลที่ได้รับ
"มีอะไรอีกที่นายจำได้ไหม?" อาจารย์เฉินหลงถามอย่างนุ่มนวล "อะไรก็ได้ที่อาจช่วยเราต่อสู้กับพวกเขา?"
หลินเว่ยพยายามนึก ความทรงจำที่ยังคลุมเครือค่อยๆ กลับมาทีละน้อย "มีระบบป้องกันบางอย่าง... การปิดประตูมิติถาวร... รหัสที่ซ่อนอยู่ในตัวผม..."
"เราต้องหาทางเข้าถึงรหัสนั้น" เมิ่งหลิงพูดอย่างตื่นเต้น "มันอาจเป็อาวุธที่เรา้า"
ผู้บัญชาการหวังเริ่มแสดงท่าทียอมให้ข้อมูลบางอย่าง แสดงสีหน้าวิตก "เรายังมีเวลาไม่มาก ตามข้อมูลล่าสุดที่เรารวบรวมได้ องค์กรเทียนซื่อจะปล่อยไวรัส 'ฟีนิกซ์-โอเมก้า' ในอีกสองสัปดาห์ และนักล่าจักรวาลจะมาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน"
"เราต้องฝึกฝนพลัง ชี่ ของคุณให้แข็งแกร่งที่สุดในเวลาอันสั้น" อาจารย์เฉินหลงมองหลินเว่ยอย่างจริงจัง "และต้องกู้คืนความทรงจำของคุณทั้งหมด"
"ผมพร้อม" หลินเว่ยตอบ เสียงหนักแน่น
เมื่อทุกคนออกจากห้องไปพักผ่อน ลี่ชิงยังคงอยู่เคียงข้างหลินเว่ย "คุณรู้สึกยังไงบ้าง?" เธอถามอย่างเป็ห่วง "กับทุกอย่างที่รู้มา"
หลินเว่ยมองลงที่มือของตัวเอง "รู้สึกเหมือนผมไม่รู้จักตัวเองเลย... แต่ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกเหมือนได้พบส่วนที่หายไปของตัวเอง"
ลี่ชิงกอดเขาแน่น "ไม่ว่าคุณจะเป็ใคร ผ่านมาอย่างไร หรือถูกสร้างขึ้นมายังไง... คุณคือหลินเว่ยที่ฉันรู้จัก คนที่ช่วยเหลือผู้อื่นแม้ตัวเองจะตกอยู่ในอันตราย คนที่มีความเมตตาและความกล้าหาญ"
หลินเว่ยสบตากับลี่ชิง ค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้าหาเธอ ริมฝีปากของทั้งสองแตะกันในท่ามกลางความมืดของถ้ำที่มีเพียงแสงเทียนเป็พยาน ใน่เวลาแห่งความโกลาหลนี้ พวกเขาพบความสงบในอ้อมกอดของกันและกัน