“งั้นหรือ? แล้วเ้าคิดอย่างไรกับพระสนมหวิน?” อวี้เสวียนจีกล่าวราวกับไม่ได้ตั้งใจ
แต่ซูเฟยซื่อขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้คราหนึ่งพระสนมหวิน?
หรือว่าอวี้เสวียนจีเพิ่งพูดกับนางมากมายขนาดนั้นเมื่อสักพักก็เพื่อให้นางต้องระวังพระสนมหวิน อย่าให้พระสนมหวินโจมตีกลายเป็คนอ่อนแอ?
“ผู้หญิงในวังหลังต่างไม่ธรรมดาพระสนมหวินก็เช่นกัน” ซูเฟยซื่อกล่าวตามจริง “แต่ศัตรูของศัตรูก็คือเพื่อนชั่วคราว นางคงไม่ได้คุกคามข้า”
ซูเฟยซื่อวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนอวี้เสวียนจีก็ไม่คุยประเด็นนี้ต่อแล้ว
เพียงเห็นมุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อยสวยงามแต่ดูโหดร้าย งดงามจนทำให้คนสำลักหายใจไม่ออก “ถ้าเช่นนั้นความรู้สึกของการล้างวงศ์ตระกูลสะใจกว่าการสังหารคนหรือไม่?”
แผ่นหลังของซูเฟยซื่อแข็งทื่อทันทีนี่จึงได้ตระหนักว่านางได้มุ่งจากการสังหารคนไปสู่การล้างวงศ์ตระกูลแล้ว
การสังหารคนเป็การลงมือที่โหดร้ายแต่การล้างวงศ์ตระกูลกลับเป็การใช้สมองวางแผน
ก็เหมือนเดินอยู่บนริมหน้าผามิอาจเกิดการผิดพลาดแม้สักครั้งเดียวมิฉะนั้นเป็หายนะอย่างมิอาจกู้คืนตลอดชั่วนิรันดร์
แต่ความรู้สึกของการได้มองดูวงศ์ตระกูลหนึ่งล้มล้างพินาศไปในมือของตนแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่การสังหารมนุษย์คนหนึ่งสามารถเปรียบเทียบได้อย่างสิ้นเชิง
ความรู้สึกสะใจชนิดนั้นแทบััเส้นประสาททุกเส้นของนาง
“ล้มล้างวงศ์ตระกูล”ซูเฟยซื่อกระตุกมุมปากขึ้นอย่างกระหายเื รอยยิ้มเหมือนปีศาจชั่วร้าย
เห็นแบบนี้ประกายแสงสายหนึ่งในดวงตาของอวี้เสวียนจีแวบผ่านไปอย่างรวดเร็วดูเหมือนพอใจมากกับผลลัพธ์นี้
ไม่เสียทีที่เป็คนซึ่งเขาเลือกไว้หัวใจซ่อนสัตว์ร้ายกินคนตัวหนึ่งไว้เหมือนเขาจริงๆ
“ข้าอุปราชยังมีงานสำคัญละครสนุกของจวนอัครมหาเสนาบดีก็มอบให้เ้าแล้ว” อวี้เสวียนจียิ้มอย่างมีเสน่ห์ชั่วร้ายแฉลบร่างจากไปทันที
ละครสนุกของจวนอัครมหาเสนาบดี?
ไม่รอให้ซูเฟยซื่อคิดมากรถม้าได้หยุดลงที่หน้าประตูของอัครมหาเสนาบดีอย่างช้าๆ
นางออกจากรถม้าลงมาเพิ่งเข้าประตูไปก็ได้ยินเสียงร้องไห้อย่างน่าสังเวชพักหนึ่งแล้ว ราวกับดังมาจากในเรือนของนางแซ่หลี่
เกิดเื่อะไรขึ้น? ซ่งหลิงซิวไม่ใช่พระราชทานแพรขาวสามฉื่อให้นางแซ่หลี่แล้วหรือ?
ผู้ลงโทษปะาชีวิตได้เดินทางกลับจวนอัครมหาเสนาบดีพร้อมซูเต๋อเหยียนตามเหตุผลกล่าวได้ว่ารอจนเวลาที่นางกลับมา นางแซ่หลี่ควรได้ตายไปแล้ว
แต่ตอนนี้เสียงร้องไห้...ไม่ใช่นางแซ่หลี่แล้วจะเป็ใครอีก
หรือว่านางแซ่หลี่ยังไม่ตาย?
คิดถึงตรงนี้ซูเฟยซื่อรีบวิ่งไปที่เรือนของนางแซ่หลี่ เพื่อดูว่าที่แท้เป็เื่ใด
“นายท่านข้าแต่งงานกับท่านมาหลายปีขนาดนี้ ดูแลจวนอัครมหาเสนาบดีมาเป็เวลาหลายปีขนาดนี้ไม่มีผลงานยังมีงานหนักทุกข์ยาก ท่านรีบไปวิงวอนฮ่องเต้ขอให้ฝ่าาปล่อยข้าไปเถิดเ้าค่ะ”
ทันทีที่เข้ามาในเรือนก็เห็นนางแซ่หลี่คุกเข่าร้องไห้ด้วยความเ็ปตรงหน้าซูเต๋อเหยียนส่วนผู้ลงโทษปะาชีวิตกำลังยืนอยู่รอบๆ ดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง
ซูเต๋อเหยียนส่งเสียงฮึ่มอย่างเ็าทันทีรีบเตะนางออกไปราวกับรังเกียจสิ่งสกปรก
นางแซ่หลี่ถูกเตะคว่ำไปคราหนึ่งกลับพอดีเห็นซูเฟยซื่อที่ยืนอยู่นอกเรือน รีบคลานราวกับสุนัขคลานเข้าไปหาซูเฟยซื่อขอร้องไปพลาง “เฟยซื่อ เป็แม่ใหญ่ทำผิดต่อเ้า แม่ใหญ่รู้ตัวว่าผิดไปแล้วเ้าก็ไว้ชีวิตแม่ใหญ่ครั้งนี้เถิดแม่ใหญ่รับประกันว่านับั้แ่นี้เป็ต้นไปไม่กล้าอีกแล้ว”
ตอนนี้จึงมาวิงวอนขอความเมตตาออกจะสายเกินไปแล้ว!
ซูเฟยซื่อสลัดมือของนางแซ่หลี่ที่ยื่นมาออกแววเสียดายเต็มสีหน้าไปหมด “แม่ใหญ่ เ้าพูดวาจาอะไรกันนี่เราเป็ครอบครัวเดียวกัน ข้าจะคิดเห็นเ้าไปตายได้อย่างไร? แต่น่าเสียดายคนที่ไม่ไว้ชีวิตท่านเป็ฮ่องเต้เป็คุณหนูหลัวทั้งครอบครัว ไม่ใช่เฟยซื่อคนเดียวพูดก็ใช้ได้ดังนั้นแม่ใหญ่ยังคงสงบใจไปดีเถิด”
น้ำเสียงของนางอ่อนโยนแต่กลับเหมือนน้ำแข็งเสียดแทงกระดูก เร้าจนนางแซ่หลี่ะโขึ้นจากพื้นทันทีก็คิดสู้สุดชีวิตกับนาง “ซูเฟยซื่อ นังสารเลวนี่ต่อให้ข้าตายก็ต้องลากเอาเ้าไปด้วยกัน”
ขณะที่กล่าววาจานี้ในดวงตานางแซ่หลี่ถึงกับมีแววเศร้าโศกกับวางไม่ลงกระแสหนึ่งกะพริบผ่านไป
นางควรจะกังวลว่าหลังจากนางตายไปซูจิ้งเถียนควรทำอย่างไร
ประกายคมกริบในดวงตาซูเฟยซื่อแวบผ่านไปนางแซ่หลี่ยังเป็มารดาที่ดีคนหนึ่งจริงๆ
ไม่เลือกวิธีการเพื่อให้ลูกสาวตนสามารถก้าวสู่ตำแหน่งสูง
ตอนนั้นวางยาพิษทำร้ายตระกูลกู้ทั้งครอบครัวตอนนี้ถึงกับยังคิดฆ่านางเพื่อบรรเทาความกังวลที่จะมีมาในอนาคตให้ซูจิ้งเถียน
คิดถึงว่าตระกูลกู้ถูกล้มล้างทั้งตระกูลเป็เพราะแผนวางยาพิษของนางแซ่หลี่ตายโดยไม่มีแรงต่อต้านสักนิดซูเฟยซื่ออดไม่ได้ที่จะยกเท้าถีบไปท้องน้อยของนางแซ่หลี่อย่างหนักหน่วง
อย่างไรในมุมมองของบุคคลภายนอกการกระทำของนางครั้งนี้เป็เพียงสัญชาตญาณเพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น
เท้านี้ดูเหมือนซูเฟยซื่อใช้แรงทั้งหมดแล้ว
นางแซ่หลี่ไหนเลยรับไหวรีบกุมท้องล้มไปกับพื้นไร้เรี่ยวแรง กระทั่งร้องด้วยความเ็ปก็ร้องไม่ออกแล้ว
เมื่อผู้ลงโทษปะาชีวิตเห็นใบหน้าซีดขาวเหมือนกระดาษของนางหน้าผากยิ่งผุดเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น กลัวว่านางยังไม่ได้รับโทษก็ตายก่อนรีบเอ่ยปากว่า “ภรรยาของอัครมหาเสนาบดีท่านอ๋องมีเมตตาจึงบ่งชี้ชัดให้ท่านลงมือเอง ท่านก็อย่าให้บ่าวทั้งหลายลำบากเลยบ่าวทั้งหลายยังต้องกลับวังไปสนองพระบัญชานะขอรับ”
ไม่สงสัยเลยว่าทำไมตอนนี้นางแซ่หลี่ยังไม่ตายที่แท้เป็ลูกเล่นของอวี้เสวียนจี
แต่การให้นางแซ่หลี่ซึ่งเป็คนรักชีวิตของตนปลิดชีวิตตนเองยิ่งสนุกกว่ายืมมือคนอื่นจริงๆ
ทันทีที่ได้ยินคำว่าลงมือนางแซ่หลี่ก็ใจนตัวสั่นเทิ้มขึ้นมาทันที
ไม่นางไม่คิดตายนางเป็ภรรยาของอัครมหาเสนาบดีที่มีเกียรติยศรับความโปรดปรานมาชั่วชีวิตจะตายได้อย่างไร?
“เถียนเอ๋อร์รีบช่วยชีวิตแม่เร็ว พี่ใหญ่เ้าตอนนี้ต้องกำลังช่วยวิงวอนแทนแม่เ้ารีบไปช่วยวิงวอนขอร้องให้แม่กับพี่ใหญ่ด้วยกันครั้งที่แล้วขณะที่ฮ่องเต้ทรงเสด็จมายังจวนอัตรมหาเสนาบดีได้ทรงพระราชทานกู่ฉินเครื่องหนึ่งแก่เ้าด้วยฮ่องเต้ต้องชอบเ้ามาก ขอเพียงเ้าร่วมแรงร่วมใจกับพี่ใหญ่เ้าฮ่องเต้ต้องเก็บเอาพระบัญชาคืนแน่นอน...” เห็นซูเต๋อเหยียนกับซูเฟยซื่อไม่ยอมช่วยนางนางแซ่หลี่ได้แต่เบนเป้าหมายไปบนร่างซูจิ้งเถียน
ซูเฟยซื่อกลับหัวเราะคิกอย่างอดไม่ได้นางแซ่หลี่ยังคิดฝันขนานใหญ่ที่จะให้ซูจิ้งโหยวช่วยขอร้องให้นาง
ด้วยความเข้าใจของนางที่มีต่อซูจิ้งโหยวเกิดเื่ที่จะมีผลกระทบต่อการชิงตำแหน่งฮองเฮาของนางแบบนี้นางต้องหวังปัดสลัดทิ้งความสัมพันธ์กับนางแซ่หลี่ให้หมดไปจนแทบไม่ทันแน่คาดว่าตอนนี้กำลังเสแสร้งทำเป็ท่องสวดมนตร์ให้หลัวฉีลี่ในพระอุโบสถเป็ไปได้อย่างไรที่จะออกมาช่วยวิงวอนขอร้องให้นางแซ่หลี่อีก
ปฏิกิริยาตอบโต้ของซูจิ้งโหยวกลับไม่แปลกสักนิดแต่นางกลับยิ่งสงสัยว่าซูจิ้งเถียนจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไร
ั้แ่ที่นางก้าวเข้ามาในเรือนของนางแซ่หลี่ซูจิ้งเถียนก็รักษาความเงียบสงบมาตลอด ราวกับว่าทุกสิ่งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนางทำให้คนเดาไม่ออกว่าที่แท้นางกำลังคิดอะไรอยู่
เห็นซูจิ้งเถียนไม่พูดจานางแซ่หลี่อดไม่ได้ที่จะลนลานแล้ว
นี่เป็ลูกสาวที่ปกตินางรักมากที่สุดยิ่งเป็ความภาคภูมิใจของนาง ถ้ากระทั่งซูจิ้งเถียนไม่ยอมช่วยนาง...
ไม่น่ะซูจิ้งเถียนเป็ลูกสาวแท้ๆ ของนางเอง
คิดถึงตรงนี้นางแซ่หลี่รีบฝากความหวังทั้งหมดไปไว้บนร่างซูจิ้งเถียน “เถียนเอ๋อร์...”
แต่ไม่รอให้นางพูดจบจู่ๆ ซูจิ้งเถียนก็คุกเข่าโครมลงเสียงหนึ่งโขกศีรษะไปที่นางอย่างเคารพยำเกรงสามครั้งแล้ว “ท่านแม่ แผ่นดินมีกฎหมายครอบครัวมีกฎระเบียบ รัชทายาททำผิดรับโทษเหมือนประชาชนทั่วไป ยิ่งเป็ท่าน เถียนเอ๋อร์กราบขอบพระคุณการเลี้ยงดูที่ผ่านมาหลายปีนี้ของท่าน”
ซูจิ้งเถียนใช้แรงโขกศีรษะอย่างเฉียบขาดดูเหมือนคิดโขกสะบั้นตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับนางแซ่หลี่
โขกศีรษะดังสามเสียงผ่านไปบนหน้าผากของนางเริ่มมีเืซึมออกมาแต่เสียงของนางก็เปลี่ยนเป็เย็นเฉียบในทันใดด้วย “ด้วยความสัมพันธ์ข้าในฐานะเป็ลูกสาวต้องไม่สามารถที่จะเห็นแม่แท้ๆ ตายได้แต่โขกศีรษะดังสามเสียงเมื่อครู่ได้คืนความสัมพันธ์ของเราทั้งสองหมดแล้วเื่ขอร้องวิงวอนยังขอภรรยาอัครมหาเสนาบดีไม่ต้องพูดถึงอีกแล้ว ด้วยเหตุผล ท่านได้ทำเื่ผิดต่อฟ้า์ทำร้ายเหตุผลขนาดนี้ออกมาหน้าตาของจวนอัครมหาเสนาบดีล้วนให้ท่านทิ้งไปหมดแล้ว ถ้าท่านไม่ตายจวนอัครมหาเสนาบดีจะอธิบายให้ตระกูลหลัว ฮ่องเต้ และชาวประชาทั่วหล้าได้อย่างไร?”