เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉิงจื่อพูด แม้ว่าหั่วหยวนจะไม่พอใจกับการตัดสินใจ แต่มันไม่อาจขัดคำสั่งของฉิงจื่อได้ จึงทำได้เพียงแค่นเสียงเ็าออกมาแล้วกลับไปอยู่ข้างฉิงจื่อ
"ท่านผู้นำ เหตุใดท่านถึงยอมให้มัน?เหตุใดท่านถึงไม่ปล่อยข้าสังหารหยุนฉานก่อน จากนั้นก็ไปสังหารเจียงเฉิน?หากเจียงเฉินถูกมันฆ่าตาย นั่นไม่ได้หมายความว่า พวกเราจะไม่สามารถเอาดวงจิตอสูรหมูป่าหนามอัคคีคืนได้หรอกหรือ?"
หั่วหยวนพูดออกมาอย่างยโส
"วางใจได้ ก่อนเจียงเฉินตายข้าจะลงมือหยุดเอง จากนั้นข้าก็จะเอาดวงจิตอสูรหมูป่าหนามอัคคีคืนมา มันคงจะดีกว่าที่จะปล่อยให้ศิษย์หลักนิกายเทียนเจี้ยนเป็ผู้สังหารเจียงเฉิน มันสามารถช่วยพวกเราขจัดปัญหาอีกต่างหาก ยิ่งไปกว่านั้นหั่วหยวนเอ๋ย เ้ามั่นใจว่าเ้าสามารถสังหารหยุนฉานได้เช่นนั้นหรือ?"
ฉิงจื่อจ้องมองไปที่หั่วหยวน
ฮึ่ม!
หั่วหยวนแค่นเสียงเ็า จากนั้นมันก็หันหัวกลับไป แม้ว่ามันจะไม่เกรงกลัวหยุนฉาน แต่การที่จะสังหารหยุนฉานมันเป็ไปไม่ได้ ในฐานะศิษย์หลักของนิกายใหญ่มิใช่พวกอ่อนแอ
"ข้ามีข้อเสนอ ในเมื่อพวกเ้าทั้งคู่ต่างเดินทางมาไกล ทำไมพวกเ้าถึงไม่จู่โจมข้าพร้อมกันเล่า?ข้าจะสู้กับพวกเ้าทั้งคู่เพียงลำพังเอง เดี๋ยวจะมาตำหนิข้าภายหลังว่า ข้านั้นกลั่นแกล้งเ้า"
เป็อีกครั้งที่เจียงเฉิน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ถึงอย่างนั้นสิ่งที่เขาพูดได้แทบจะทำให้อัจฉริยะทั้งสองต้องตายจากความโกรธ
"ฮ่าฮ่า...ศิษย์พี่เจียงท่านนี่ใจร้ายจริงๆ หากว่าพวกมันสู้กันเองเช่นนี้ ข้ามั่นใจพวกมันทั้งสองไม่มีใครสักคน ที่สามารถต่อกรกับศิษย์พี่เจียงได้"
"ดูพวกมันสิทำเป็โกรธไปได้!เพียงแค่เห็นใบหน้าที่หยิ่งยโสของพวกมัน ข้าล่ะอยากฝากรอยเท้าไว้บนหน้าของพวกมันเสียจริง"
ศิษย์ทั้งหมดจากนิกายเซวียนอี้ะเิเสียงหัวเราะออกมา ทุกครั้งที่เห็นเจียงเฉินเผชิญหน้ากับศิษย์ต่างนิกาย ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นนัก
"ฮึ่ม..! จะให้พวกข้าสองคนสู้กับเ้าคนเดียวเนี่ยนะ? เ้าประเมินตัวเองสููงเกินไปไหม? ตัวเ้าเป็เพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์เท่านั้น แค่ฝ่ามือเดียวก็สามารถบดขยี้เ้าได้!"
หั่วหยวนแค่นเสียงเ็าออกมา มันหยิ่งยโสเสียจนแม้แต่บิดาของมันก็ไม่สามารถจดจำมันได้
"เจียงเฉิน เลิกพูดไร้สาระ เข้ามารับความตายซะ!"
พลังปราณของหยุนฉานพุ่งขึ้นจนถึงขีดสุด
"เฉินน้อย เสียเวลามากพอแล้ว รีบๆฆ่าพวกมันแล้วกลับไปดื่มกันดีกว่า"
หวงต้าพูดขณะที่ส่ายหัวของมัน คำพูดของมันยั่วโมโหเสียยิ่งกว่าเจียงเฉิน
"ได้"
เจียงเฉินผงกหัว เขาเคลื่อนไหว มาอยู่ตรงข้ามหยุนฉาน
"เ้าคือหยุนฉาน? วันนี้ข้าจะทุบตีเ้าจนเห็นดวงดารา!"
ดวงตาของเจียงเฉินเปล่งแสงออกมาอย่างดุร้าย ในเวลาเดียวกันพลังงานของเขาก็ทะยานสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
"พลังปราณแข็งแกร่งนี่มันอะไรกัน?มันทะลวงเข้าสู่แก่นแท้์ขั้นปลายแล้ว!"
หลิวหงที่อยู่ห่างไกลออกไปมีท่าทีเปลี่ยนไป
"เ้าเด็กนี่สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้นในตอนที่มันเป็เพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ขั้นกลาง และในตอนนี้มันทะลวงผ่านอีกครั้ง บางทีอาจจัดการมันไม่ง่าย"
ผู้าุโคนอื่นต่างตกตะลึงเช่นกัน พวกมันได้เห็นกับว่าเจียงเฉินแข็งแกร่งเพียงใด เมื่อตัดสินจากพลังปราณที่เจียงเฉินปลดปล่อยออกมา สิ่งที่ทำให้มันตกตะลึงก็คือเจียงเฉินก้าวหน้าขึ้นอีกขั้นแล้ว นั่นก็หมายความว่าเจียงเฉินนั้นแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และด้วยความสามารถที่น่าเหลือเชื่อของเด็กหนุ่มผู้นี้ บางทีหยุนฉานกับหั่วหยวนคงไม่มีใครสามารถเป็คู่ต่อสู้กับเด็กหนุ่มผู้นี้ได้
"เตรียมตัวตายซะ ฝ่ามือทลายปฐี!"
หยุนฉานปลดปล่อยทักษะยุทธอันทรงพลังออกมาในทันที ฝ่ามือทลายปฐี เพียงแค่ชื่อก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนหวาดกลัว มันเป็ทักษะยุทธที่ทรงพลังเป็อย่างมาก และเมื่อมันได้ถูกปลดปล่อยออกมา ด้วยพลังทำลายล้างของมันเป้าหมายของมันจะต้องแหลกเป็เสี่ยงๆ
เปรี้ยง!....
เสียงะเิดังออกมา และในวินาทีต่อมา ก็ปรากฏฝ่ามือั์สีเงินขนาดใหญ่หนึ่งจ้างขึ้นมา มันทำให้คลื่นลมได้กวาดผ่านสถานที่แห่งนั้นไม่หยุด พลังมหาศาลได้ส่งผลให้เกิดเสียงะเืฟ้าดินขึ้น ฝ่ามือทำลายล้างได้พุ่งไปยังเจียงเฉิน
"ทรงพลังนัก!นั่นเป็ทักษะยุทธระดับปฐีขั้นกลาง มันน่ากลัวยิ่งนัก!หากว่าข้าต้องเผชิญกับฝ่ามือนี้ ข้ามั่นใจว่าข้าจะถูกบดขยี้เป็ชิ้นๆและตกตายอนาถทันที!"
"อัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งนิกายเทียนเจี้ยนโดดเด่นจริงๆ!ข้าคิดว่าผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ขั้นกลางทั่วไปหากรับกระบวนท่านี้เข้าไปอาจได้รับาเ็สาหัส"
"ไม่รู้ว่าศิษย์พี่เจียงจะรับมืออย่างไร แต่ศิษย์พี่เจียงดูเยือกเย็นมาก...ข้าไม่เคยพบเห็นเขาร้อนรนมาก่อน..ไม่รู้ว่าเขาเอาความมั่นใจพวกนั้นมาจากไหนกัน"
.................................................
เมื่อผู้เชี่ยวชาญใช้ทักษะยุทธออกมา ทุกคนสามารถบอกได้ถึงความสามารถของคนผู้นั้น เมื่อหยุนฉานใช้ทักษะฝ่ามือทลายปฐีออกมา มันทำให้ทุกคนในที่นี้ตกตะลึงในทันที แม้แต่หั่วหยวนก็อดไม่ได้แต่เริ่มมองหยุนฉานอย่างจริงจัง
ดวงตาทั้งสองข้างของเจียงเฉินส่องประกายเจิดจ้า ตัวเขายังคงยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน หากสิ่งนี้เกิดขึ้นก่อนหน้าที่เขาจะทะลวงเข้าสู่แก่นแท้์ขั้นปลาย เจียงเฉินคงเลือกที่จะหลบการโจมตีของหยุนฉานและป้องกันตัวเองอย่างยากลำบากแน่นอน แต่ในตอนนี้เขาได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ขั้นปลายแล้ว มีตราประทับักว่าสี่ร้อยดวงในร่างกาย ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นกว่าก่อนหน้าหลายเท่าตัว ในตอนนี้เขาไม่ใช่ผู้ที่หยุนฉานจะมาตอแยได้
"ฮึ่ม!"
เจียงเฉินแค่นเสียงออกมา เขาไม่หลบหลีกแต่อย่างใด ในขณะที่ฝ่ามือขนาดใหญ่สีเงินใกล้ถึงตัวเขา ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยหมัดออกมา กำปั้นของเขาปกคลุมไปด้วยเกล็ดัสีแดงโลหิต และมีเงาัจำนวนมากบินอยู่รอบตัวเขา เขาได้ปลดปล่อยพลังมหาศาลออกมา
ปัง!
หมัดของเจียงเฉินนั้นทรงพลังอย่างมาก มันสามารถชกูเาให้แหลกเป็เสี่ยงๆได้ มันมีพลังหลายล้านจิน ไม่มีสิ่งใดที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ หมัดของเจียงเฉินได้เข้าปะทะเข้ากับฝ่ามือทลายปฐีในทันที
ปัง!...
ฝ่ามือขนาดใหญ่สีเงินเกิดเสียงแตกร้าวขึ้น จากนั้นเกิดรอยร้าวจำนวนนับไม่ถ้วนขึ้น และวินาทีต่อมามันก็แตกออกเป็ประกายไฟเล็กน้อยแล้วเลือนหายไปในอากาศ ส่วนเจียงเฉินยังคงอยู่ในท่าปล่อยหมัด โดยที่เขาไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียว
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฝูงชนเกิดความโกลาหลขึ้น ไม่มีใครสามารถใจเย็นอยู่ได้เมื่อได้เห็นสิ่งนี้ สายตาตกตะลึงจำนวนมากได้ตกไปยังเจียงเฉิน แม้แต่บรรดาศิษย์ที่มั่นใจในตัวเจียงเฉินก็ยังตกตะลึง พวกเขารู้ความแข็งแกร่งของเจียงเฉินดี แต่พวกเขาไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้ อีกทั้งคู่ต่อสู้ของเขาคือหยุนฉาน
"์ นี่ข้าเห็นอะไรน่ะ?เจียงเฉินทำลายฝ่ามือทลายปฐีด้วยมือเปล่า นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!"
"นี่เป็สัตว์ประหลาดประเภทไหนกันแน่?เขาเติบโตรวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?เขามายังนิกายเซวียนอี้เพียงแค่ไม่นานนี้เองนะ"
"ใช่ นี่คืออัจฉริยะที่แท้จริง เมื่อเทียบกับเจียงเฉินแล้ว คงไม่มีใครสามารถเรียกตัวเองว่าอัจฉริยะได้อีก ทั่วทั้งแคว้นฉี ข้าเกรงว่ามีเพียงหนานเป่ยเฉาเท่านั้นที่สามารถเทียบกับเขาได้"
.................................................
ทุกครั้งที่เจียงเฉินลงมือ เขาได้ทำให้ผู้คนตกตะลึง และมันได้กลายเป็เอกลักษณ์ของเขาไปเสียแล้ว และคนส่วนใหญ่นั้นชินชากับมันอยู่แล้ว
"ทรงพลังนัก นิกายเซวียนอี้มีสัตว์ประหลาดเช่นนี้ได้อย่างไร?"
ท่าทีของฉิงจื่อเปลี่ยนไป ด้วยประสบการณ์ของมัน มันสามารถบอกได้อย่างง่ายดายถึงพลังของฝ่ามือทลายปฐี แม้ว่ามันจะคิดว่าเจียงเฉินสามารถรับกระบวนท่านี้ได้ แต่มันต้องทำให้เจียงเฉินใช้ความพยายามอย่างมาก ถึงอย่างนั้นมันไม่เคยคาดคิดว่าเจียงเฉินสามารถทำลายการโจมตีนี้ได้เพียงแค่ชกเท่านั้น ฝ่ามือทลายปฐีอันทรงพลังไม่อาจทำอันตรายใดๆต่อเขาแม้แต่น้อย และสิ่งนี้เองที่ทำให้ฉิงจื่อทึ่งจริงๆ
"ความแข็งแกร่งร่างกายของมันสูงมาก! ขัาสามารถััได้ถึงพลังปราณจำนวนมากและโลหิตของมัน ความแข็งแกร่งของมันราวกับั มันเป็สัตว์ร้ายในร่างมนุษย์ชัดๆ!"
ดวงตาหลิวหงเบิกกว้างด้วยความกลัว สองวันก่อน มันยังสามารถจัดการเจียงเฉินได้ แต่ในตอนนี้มันกลับรู้สึกว่าหากมันต้องสู้กับเจียงเฉินอีกครั้ง บางทีมันอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีก
กระทั่งหั่วหยวนก็มีท่าทีเปลี่ยนไป ความหยิ่งยโสของมันลดลงมาเล็กน้อย
ข้างบนท้องฟ้าในนิกายเซวียนอี้ นักพรตเซวียนอี้ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาตกตะลึงเช่นกัน แต่ในขณะเดียวกันบนใบหน้าเขาปรากฎรอยยิ้มสดใสขึ้น
ผู้ที่ตื่นตระหนกมากที่สุดคือหยุนฉาน ดวงตาของมันเปลี่ยนเป็สีแดง มันเริ่มประเมินเจียงเฉินใหม่ ฝ่ามือทลายปฐีเป็ทักษะยุทธที่หยุนฉานมั่นใจที่สุด มันคิดว่าด้วยกระบวนท่านี้ มันสามารถฟาดเจียงเฉินให้กลายเป็เนื้อบดได้ ไม่คิดเลยว่า ไม่เพียงแค่เจียงเฉินไม่ได้เป็เนื้อบด แต่เจียงเฉินยังทำลายกระบวนท่าของมันได้อีกด้วย
"เป็แค่ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ กลับมีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ดูเหมือนว่าข้าจะดูถูกเ้าไปหน่อย"
หยุนฉานพูดอย่างประหลาดใจ
"หยุนฉาน เ้าอย่าพูดว่าข้าไม่ให้โอกาสเ้า รีบๆแสดงทักษะยุทธที่ทรงพลังที่สุดของเ้าออกมา เมื่อข้าลงมือ วันนี้จะเป็วันตายของเ้า ก่อนที่ข้าจะสังหารเ้า ข้าจะให้โอกาสเ้าได้แสดงทุกสิ่งที่เ้ามี"
ภาพลักษณ์ของเจียงเฉินดูยิ่งใหญ่ ร่างกายของเขาเปล่งแสงสีทองเจิดจ้า ทำให้เขาดูราวกับเทพาจุติ
"โอ้อวดไร้ยางอาย!"
จิตสังหารของหยุนฉานทะยานสู่์ ทันใดนั้นมันเอาดาบยาวเปล่งแสงวิบวับออกมา มันเป็ยุทธภัณฑ์ระดับสูงที่หายาก ตัวดาบปกคลุมไปด้วยอักขระลึกลับ ทำให้มันดูน่าเกรงขามมาก
หลังจากการจู่โจมครั้งแรก หยุนฉานเลิกที่จะดูถูกเจียงเฉิน เตรียมที่จะปลดปล่อยกระบวนท่าที่ทรงพลังที่สุด เพื่อที่จะสังหารเจียงเฉิน
"เจียงเฉิน รับนี่ไปซะ กระบี่์ทะยานฟ้า!"
หยุนฉานปรับพลังงานของมันให้อยู่ระดับสูงที่สุด ดาบในมือมันเริ่มส่งเสียงเสียดแทงออกมา และดาบยาวเจ็ดฉื่อได้กลายเป็ดาบยาวสิบจ้าง
ตัวดาบดูเหมือนกับสายรุ้งที่พาดผ่านท้องฟ้า อักขระลึกลับของมันได้เปล่งแสงสีต่างๆออกมา ทันใดนั้น มันก็ฟาดฟันใส่เจียงเฉินอย่างรุนแรง
"ใช้ได้นี่"
เจียงเฉินผงกหัวยอมรับ ทักษะยุทธนี่ถือว่า 'ไม่เลว' เขาเตรียมที่จะตอบโต้ด้วยหกดัชนีสุริยัน ในตอนนี้เจียงเฉินสามารถปลดปล่อยดัชนีออกมาได้ห้าดัชนี ด้วยพลังของมัน สามารถเอาชนะหยุนฉานได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเจียงเฉินเปล่งแสงขึ้น เขาตัดสินใจที่จะไม่ใช้หกดัชนีสุริยัน
"ข้าสามารถใช้โอกาสนี้ทดสอบความสามารถดั้งเดิมของหมูป่าหนามอัคคี ให้ข้าดูหน่อยเถอะว่าการป้องกันที่ทรงพลังเป็เช่นไร"
เจียงเฉินพูดออกมา ผิวกายของเขาเปล่งแสงสีทองออกมา ม่านพลังสีทองได้เกิดเสียงดัง 'แกร้กๆ' ออกมา และทันใดนั้นเองก็ปรากฏหนามขนาดั์บนม่านพลัง หนามขนาดั์ทั้งหมดถักทอจนกลายเป็เกราะที่มีหนามแหลมคม
ชุดเกราะนี้ได้ปกคลุมแม้กระทั่งหัวของเจียงเฉิน มันเปล่งแสงสีทองเจิดจ้าออกมา เจียงเฉินได้รับความสามารถดั้งเดิมนี้หลังจากที่ดูดซับไข่ทองคำ แต่ในเมื่อไม่มีข้อมูลใดๆเกี่ยวกับความสามารถนี้ เจียงเฉินเลยตั้งชื่อให้มันว่า เกราะยุทธหนามอัคคี
"ทักษะยุทธนั่นมันอะไรกัน? เหตุใดมันถึงดูคุ้นเคยเช่นนี้?"
ณ สถานที่ห่างไกลจากที่นี่ ท่าทีของฉิงจื่อได้เปลี่ยนไป ทักษะของเจียงเฉินให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยแก่มัน แต่มันไม่สามารถบอกได้ว่ามันเคยเห็นที่ไหนมาก่อน อันที่จริงแล้ว นี่เป็ความสามารถดั้งเดิมของหมูป่าหนามอัคคี แน่นอนว่าฉิงจื่อคุ้นเคยกับมัน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ามันจะพยายามคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ มันไม่สามารถนึกถึงหมูป่าหนามอัคคีได้ มันไม่คาดคิดว่าจะมีมนุษย์ที่ใช้ความสามารถดั้งเดิมของสัตว์อสูรได้
"เข้ามา!"
เจียงเฉินะโออกมาด้วยความฮึกเหิมอย่างมาก เขายืนนิ่ง ไม่ได้หลบหรือปัดป้องการโจมตี เขาถ่ายพลังทั้งหมดของเขาเข้าสู่เกราะยุทธหนามอัคคี เจียงเฉินปะทะกับกระบวนท่าของหยุนฉานโดยตรง
เปรี้ยง..!
ยุทธภัณฑ์ระดับสูงปะทะเข้ากับเกราะยุทธหนามอัคคีของเจียงเฉิน ประกายไฟที่เกิดจากการปะทะทำให้สถานที่แห่งนั้นอยู่ท่ามกลางทะเลเพลิง
เกราะยุทธหนามอัคคีของเจียงเฉิน ไม่เพียงแต่มีการป้องกันที่แข็งแกร่งเหลือเชื่อ มันยังมีความสามารถในการโจมตีที่รุนแรง เมื่อมันปะทะเข้ากับกระบี่์ทะยานฟ้า พลังโจมตีที่รุนแรงของเกราะยุทธหนามอัคคีได้สะท้อนพลังส่วนใหญ่ของกระบี่์ทะยานฟ้าออกไป แรงที่เหลือทำได้เพียงสร้างรอยเลือนลางไว้บนเกราะเท่านั้น มันไม่อาจทำอันตรายใดๆแก่เกราะแม้แต่น้อย
