องค์ชายใหญ่กระจายข่าวลือด้วยเจตนาร้าย จวินจิ่วเฉินก็หาเื่ให้ตัวเองเช่นกัน ในขณะเดียวกันพ่อลูกตระกูลฉีที่ถูกกักกันไว้ในเมืองก็ไม่ได้นิ่งดูดาย
ฉีอวี้ตั้งใจกำชับคนรับใช้ “จำไว้ว่าเื่นี้ต้องทำอย่างระมัดระวัง ห้ามทิ้งร่องรอยเอาไว้! ”
แม่ทัพใหญ่ฉีไม่วางใจจึงกำชับอีกครั้ง “ต้องระมัดระวังไว้ให้ดี! ”
สำหรับฉีอวี้แล้ว เื่ราวในครั้งนี้มีสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดอย่างการที่จิ้งหวางให้เขายอมรับว่าชื่นชอบองค์หญิงหวายหนิงในศาลพิจารณาคดี ภาพลักษณ์ที่เขาระมัดระวังรักษามานานหลายปีได้ถูกทำลายย่อยยับไปหมดแล้ว นี่จะเป็จุดด่างพร้อยของเขาไปชั่วชีวิต ไม่ว่าจะล้างอย่างไรก็ล้างไม่สะอาด อีกทั้งเหตุการณ์นี้ยังทำให้เื่ที่กูเฟยเยี่ยนเป็ชู้กับเฉิงอี้เฟยดูเหมือนจะเป็สิ่งที่สามารถเข้าใจและให้อภัยได้
ความคิดของแม่ทัพใหญ่ฉีแทบจะเหมือนกันกับแผนร้ายของอวิ้นกุ้ยเฟย พวกเขาหวังว่าจะใช้โอกาสนี้ในการทำให้ฝ่าาสงสัยจิ้งหวางเพื่อลดความผิดของตระกูลฉีลง แม้ว่าคนเราจะพลาดพลั้งไป ทว่าอิทธิพลก็ยังคงมีอยู่ ดังนั้นนับประสาอะไรกับตระกูลฉีที่เป็ครอบครัวใหญ่? บัดนี้สองพ่อลูกตระกูลฉีเพีียงแค่ถูกกักกันเท่านั้น แต่ หู ตา และช่องทางพวกเขายังคงกว้างขวางเช่นเคย
หลังจากที่คนรับใช้ออกไป สายลับก็เข้ามา
“รายงานท่านแม่ทัพ ท่านชายท่านแม่ทัพ ในวันนี้ฝ่าาได้ส่งข้าราชการกองกำลังรักษาพระองค์และกองกำลังทหารสองนายไปที่ชานเมือง โดยให้ไปที่ค่ายทหารฝั่งตะวันตก…”
สายลับยังเอ่ยไม่ทันจบ สองพ่อลูกตระกูลฉีก็รู้สึกตื่นตระหนกใแล้ว แม่ทัพใหญ่ฉีรีบเอ่ยถาม “ไปทำอะไร? ”
สายลับรายงานต่อ “ว่ากันว่าภายในค่ายมีการติดสินบนกันอย่างแพร่หลายจึงต้องสืบสวนให้ถึงที่สุด! ”
ไม่ช้าฉีอวี้ก็นึกขึ้นได้ว่าเป็เื่ที่ลูกพี่ลูกน้องของหลี่เก๋อฉุนถูกเลื่อนขั้น เขาอัดอั้นตันใจเสียจริงจึงกำมัดแน่นทุบลงไปบนโต๊ะแรงๆ “น่ารังเกียจ! เื่นี้เป็การใส่ร้ายกันชัดๆ ! ”
สีหน้าของแม่ทัพใหญ่ฉีเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาเอ่ยออกมาว่า “จะเอาเช่นนี้สินะ! ฝ่าาจะลงมือต่อตระกูลฉีแล้วสินะ! ”
ลูกพี่ลูกน้องของหลี่เก๋อฉุนได้รับการเลื่อนขั้นตามปกติ เพียงแต่ว่าถูกคนร้ายตัวจริงใช้งานเข้า ทว่าภายในค่ายทหารตระกูลฉี โดยเฉพาะค่ายทหารฝั่งตะวันตกมีสถานการณ์การติดสินบนเอาไว้ไม่น้อยเลยจริงๆ บางคนติดสินบนเพื่อเลื่อนตำแหน่ง บางคนติดสินบนเพื่อหลบหนีการรับราชการทหาร คดีนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีความสามารถระดับรองแม่ทัพหลายคน! ระยะเวลาครึ่งปีจะสามารถจับออกมาได้กี่คน? หากว่าถูกจับออกมาแล้วมันจะเรียกได้ว่าเป็โทษสถานหนักเชียวล่ะ! หากว่าเขาสูญเสียรองแม่ทัพเหล่านี้ไปมันจะเท่ากับว่าสูญเสียแขนซ้ายไหล่ขวา! นอกจากนี้คือเมื่อเปรียบเทียบกับเฉิงอี้เฟยแล้วเขาก็จะตกต่ำอยู่หนึ่งขั้น
เมื่อได้ยินบิดาวิเคราะห์ออกมาเช่นนี้ ฉีอวี้จึงตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของสถานการณ์
คดีย่าวซ่านยังไม่ปิดตัวลง โทษของท่านพี่ยังไม่ถูกกำหนด โทษของตระกูลฉีที่มีส่วนพัวพันก็ยังไม่ถูกกำหนด ทว่าฝ่าากลับเริ่มลงมือจากภายในค่ายเสียอย่างนั้น!
เมื่อปิดคดีลง ์ทราบดีว่าฝ่าาจะทรงตัดสินโทษพวกเขาอย่างไรบ้าง! ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้วเห็นได้ชัดว่าท่าจะเกิดเื่ไม่ดีแล้ว ฉีอวี้กำหมัดแน่นพลางกระซิบแ่เบา “ท่านพ่อ ไม่อย่างนั้น…”
เขาไม่ได้เอ่ยออกมาทั้งหมด ทว่าแม่ทัพใหญ่ฉีก็เข้าใจความหมายของเขาดี ตระกูลฉีเคยเป็หนึ่งในตระกูลศิลปะการต่อสู้แห่งดินแดนเสวียนคง เมื่อสิบปีก่อนที่ดินของดินแดนเสวียนคงทางเหนือเป็สถานที่ของตระกูลฉี ส่วนตระกูลจวินนั้นเป็ตระกูลที่ซ่อนเร้นจากโลกมาโดยตลอด อันที่จริงที่ดินของพวกเขาคือแดนหิมะทางตอนเหนือ
เมื่อปิงไห่เกิดการเปลี่ยนแปลง ตระกูลศิลปะการต่อสู้เกิดความตกต่ำ ครอบครัวตระกูลที่ซ่อนเร้นก็ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นมาแข่งขันกับตระกูลอื่นๆ เพื่อแย่งชิงอาณาเขตของดินแดนเสวียนคง ในตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะว่าท่านผู้เฒ่าที่เป็ผู้นำตระกูลได้หายตัวไปอย่างกะทันหัน เขาก็คงไม่ถึงกับต้องยอมอยู่ใต้อำนาจและถวายความจงรักภักดีต่อตระกูลจวิน พร้อมกับมอบที่ดินทางเหนืออันอุดมสมบูรณ์ของดินแดนเสวียนคงให้!
หลายปีมานี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิดที่จะก่อฏ เพียงแต่ว่าเขารอมาโดยตลอด รอให้รัชทายาทสืบทอดราชบัลลังก์ เขาจะไปทราบได้อย่างไรว่าเมื่อสามปีที่แล้วจวินจิ่วเฉินจะกลับมา!
ั์ตาของแม่ทัพใหญ่ฉีทอประกายถึงความหนาวเหน็บพลันกระซิบแ่เบา “อวี้เอ๋อร์ อดทนเอาไว้ เื่นี้พ่อมีแผนอยู่ในใจ! ”
ฉีอวี้รู้สึกไม่พอใจ “ท่านพ่อ พวกเราจะรอให้คนมาทำร้ายเช่นนี้หรือ? ”
แม่ทัพใหญ่ฉีมองไปที่เขาสักพักก่อนจะตอบว่า “จับตามองศาลต้าหลี่ไว้ให้ดี! สำหรับแผนการในวันนี้มีเพียงแค่ให้ศาลต้าหลี่หาตัวคนร้ายตัวจริงให้เร็วที่สุด จบคดีนี้ให้เร็วที่สุด แล้วเ้ากับข้ากลับไปที่ค่ายทหารจึงจะสามารถสกัดกั้นคนของกองกำลังทหารได้! ”
แม้ว่าฉีอวี้จะไม่พอใจ ทว่าก็เข้าใจความสัมพันธ์ดี เขาพยักหน้าขึ้นลงก่อนจะรีบส่งคนไปสืบข่าวที่ศาลต้าหลี่ทันที
วันรุ่งขึ้นฉีอวี้ก็ทราบข่าวความคืบหน้าของคดีนี้ว่าศาสตราจารย์แพทย์้าขอความช่วยเหลือจากกูเฟยเยี่ยน เพื่อวินิจฉัยลิ่วตันซางลู่ทั้งสามต้นนั้นต่อไป แต่ว่าทางฝั่งของกูเฟยเยี่ยนยังไม่ได้ให้คำตอบ
เดิมทีเป็คดีโยนความผิดให้กูเฟยเยี่ยน แต่ท้ายที่สุดกลับจำเป็ต้องให้กูเฟยเยี่ยนมาช่วยเหลือในการจับตัวคนร้ายตัวจริง นี่เป็การเยาะเย้ยถากถางเสียจริง!
อย่าว่าแต่ฉีอวี้เลย เพราะแม้กระทั่งแม่ทัพใหญ่ฉีก็รู้สึกไม่พอใจ! เขาเริ่มเสียใจแล้ว เขาคิดว่าในตอนแรกตนเองไม่ควรที่จะดูถูกกูเฟยเยี่ยน เขาควรที่จะให้บุตรชายโอหังอวดดีของตนเองยอมถอยสักก้าว รับกูเฟยเยี่ยนเข้ามาเป็อนุภรรยา เื่ราวมันก็จะได้ไม่กลายมาเป็เช่นนี้ ในตอนนี้หากว่ายอมถอยยังทันหรือไม่? ไม่ใช่รับเข้ามาเป็อนุภรรยา แต่เป็การแต่งเข้าบ้านหลักโดยตรงเลย?
วันที่อยู่ในศาลพิจารณาคดี ถึงแม้ว่ากูเฟยเยี่ยนกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเหมือนจะมีความคลุมเครือต่อกัน แต่ความจริงเป็อย่างไรก็มิอาจทราบได้ เขาไม่คิดว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะทรงสนใจหญิงสาวที่ไม่ระมัดระวังตนและยังมีสัญญาหมั้นหมายอยู่ในตัว
ด้วยการคาดเดาเช่นนี้ พ่อลูกตระกูลฉีจึงได้แต่รอคอยด้วยอารมณ์ที่มีแต่ความว้าวุ่น
สามวันต่อมา ทางด้านของศาลต้าหลี่มีความคืบหน้าใหม่แล้ว ใต้เท้ากงได้รับข่าวที่ส่งกลับมาจากนักสืบในหุบเขาเสินหนง นักสืบไม่ได้ข่าวคราวของการประมูลลิ่วตันซางลู่ในสนามประมูล เมื่อผ่านไปอีกสามวันใต้เท้ากงก็ได้รับข่าวที่ส่งกลับมาจากนักสืบในสนามประมูลสมุนไพรอื่นๆ ว่าไม่มีการบันทึกถึงลิ่วตันซางลู่
ศาสตราจารย์แพทย์ลูบเคราพลางพึมพำออกมา “ของที่ล้ำค่าเช่นนี้ หากว่าได้รับแล้วน้อยคนมากที่จะปล่อยมันออกมา ดูเหมือนว่าลิ่วตันซางลู่อาจจะเป็ของรางวัลที่คนร้ายตัวจริงได้รับในหุบเขาเสินหนง ไม่ก็เป็ของคนร้ายตัวจริงอยู่แล้ว”
การคาดเดาทั้งสองอย่างนี้ล้วนยากที่จะตรวจสอบต่อไป ใต้เท้ากงไร้หัวคิดจึงเอ่ยถามว่า “ใต้เท้าหนานกง ทางด้านของแพทย์หญิงกู…มีความคืบหน้าอะไรบ้าง? ”
ใบหน้าของศาสตราจารย์เกิดความจำใจ เขาโต้ถามกลับไป “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยส่งข่าวมาหรือไม่? ”
เดิมทีเขาคิดว่ากูเฟยเยี่ยนจะไปพบเขา เพียงแต่ว่าผ่านมานานแล้วกูเฟยเยี่ยนก็ยังไม่ได้ไปพบ เป็ไปได้หรือไม่ว่านางเองก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร? ดังนั้นนางจึงไม่ได้ไปที่ห้องยาสำนักหมอหลวง และจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยก็ไม่ได้เสด็จมาที่ศาลต้าหลี่?
ศาสตราจารย์แพทย์ปรึกษาหารือกับใต้เท้ากง ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจว่าจะสืบข่าวต่อไปในระหว่างที่รอ
พวกเขาไม่อาจคาดเดาความคิดของจิ้งหวางได้ พวกเขาไม่อยากจะหาเื่ให้ตนเองเกิดความเดือดร้อน จากอุปนิสัยใจคอของจิ้งหวางแล้ว หากยังจับตัวคนร้ายตัวจริงไม่ได้พระองค์ก็จะไม่ยอมแพ้ยกเลิกกลางคันง่ายๆ การที่พวกเขารอต่อไปนั้นเป็สิ่งที่ถูกต้องแล้ว
เฉิงอี้เฟยก็กำลังรอคอย จากอุปนิสัยใจคอของเขาแล้ว ต่อให้เป็ฝ่าาเขาก็กล้าที่จะบุกเข้าไปถาม แต่เมื่อเผชิญหน้ากับจิ้งหวางแล้วเขายอมอดทนโดยไม่ลังเล
ทางด้านขององค์หญิงหวายหนิงก็กำลังรอคอยเช่นกัน ยิ่งรอยิ่งร้อนรน
พ่อลูกตระกูลฉีกังวลยิ่งกว่า พวกเขารอจนเริ่มจะสงสัยว่ากูเฟยเยี่ยนฉวยโอกาสล้างแค้นและจงใจยืดเวลาเอาไว้ใช่หรือไม่?
แต่อันที่จริงแล้วกูเฟยเยี่ยนไม่ทราบเื่ราวอะไรเลย!
หญิงสาวเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องบรรทม แต่หลังจากที่เฝ้าไปแล้วหลายวันก็ยังไม่ได้พบกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เซี่ยเสี่ยวหม่านก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเตี้ยนเซี่ยเสด็จไปที่ใด แต่ต่อให้ทราบเขาก็ไม่บอก เมื่อนางถามไปที่เซี่ยเสี่ยวหม่านถึงความคืบหน้าของศาลต้าหลี่ เซี่ยเสี่ยวหม่านก็ตอบว่าไม่รู้ตลอด นางจึงคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านยังคงประชดประชันอยู่เลยไม่ได้คิดมากอะไร
ผ่านไปอีกสองวันกูเฟยเยี่ยนก็ยังคงไม่ได้พบกับจิ้งหวางและไม่ได้รับลิ่วตันซางลู่ นางนั่งคิดอยู่ในลานของิเย่วจวี คิดไปคิดมาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ในขณะเดียวกันเซี่ยเสี่ยวหม่านก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
ทันทีที่เขามาถึงตรงหน้านางก็ได้โยนจดหมายฉบับหนึ่งมาให้พร้อมกับน้ำเสียงเ็าพิลึกกึกกือ “ญาติที่ยากจนและคร่ำครึของเ้าส่งมา! ”
ญาติที่ยากจนและคร่ำครึ?
เมื่อกูเฟยเยี่ยนเปิดจดหมายออกมาดูก็พบว่าอารองตระกูลกูเขียนจดหมายฉบับนี้มาให้นาง แต่เนื้อหาในจดหมาย…ทำให้นางคาดไม่ถึงเป็อย่างยิ่ง! หญิงสาวโกรธมากจึงโยนจดหมายลงไปที่พื้น “น่าขันสิ้นดี! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านหยิบขึ้นมาดูด้วยความสงสัยโดยไม่สนใจว่าตนเองกำลังประชดกูเฟยเยี่ยนอยู่ ไม่นานเขาก็สบถออกมาด้วยความโมโห “ให้ตายเถอะ! ”
จดหมายนี้เขียนโดยกูเอ้อร์เย่แต่ความหมายที่สื่อกลับเป็ของฉีอวี้ ฉีอวี้กล่าวว่าเพียงแค่กูเฟยเยี่ยนสามารถช่วยตามหาคนร้ายตัวจริงออกมาได้ เขาจะยินยอมเพิกเฉยถึงความน่ารังเกียจในอดีต เพิกเฉยถึงข่าวลือด้านนอกเ่าั้ แล้วปฏิบัติตามสัญญาหมั้นหมายแต่งงานกับนาง หากกูเฟยเยี่ยนยินยอมเช้าวันพรุ่งนี้ให้กลับไปคุยกับเขาที่ตระกูลกู…