ระบบอั่งเปาสะท้านภพ

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

บทที่ 134 ศัตรูหัวใจหรือเพื่อน

     “ปล่อย”

     บอดี้การ์ดสองคนข้างกายของหยางเจิ้นปรี่เข้ามา เย่จื่อเฉินหรี่ตามองพวกเขา

     “โอเค”

     เย่จื่อเฉินคลายมือออก และถอยออกไปสองก้าว

     หยางเจิ้นบิดข้อมือเล็กน้อย แล้วหันไปพูดกับบอดี้การ์ดข้างกาย

     “อยู่ดูแลคุณหนูที่นี่”

     พูดจบ เขาก็เดินไปหยุดอยู่ข้างเย่จื่อเฉิน หลังจากที่มองเขาด้วยสายตาแฝงความนัยแล้วก็เดินออกจากห้องคนไข้ไป

     หยางอี่ฉือที่อยู่บนเตียงคนไข้กัดริมฝีปาก หลังจากที่เย่จื่อเฉินหันไปพยักหน้าให้เธอแล้ว เขาก็เดินออกไปจากห้องคนไข้เช่นเดียวกัน

     “วิธีสั่งสอนลูกของคุณหยางนี่ปกติดีจังเลยนะครับ”

     พอออกมาจากห้องได้ เย่จื่อเฉินก็อดที่จะเบ้ปากยิ้มขำขันไม่ได้

     “ตีลูก วิธีสั่งสอนลูกแบบนี้ มันล้าสมัยไปมากแล้วนะครับ”

     “ฉันจะสอนลูกสาวฉันยังไง ไม่จำเป็๲ต้องให้เธอเข้ามายุ่งวุ่นวาย”

     หยางเจิ้นยังคงทำหน้าตาบูดบึ้งอยู่เสมอ ถ้าไม่ติดว่าเขาเป็๞ผู้ใหญ่กว่า เย่จื่อเฉินก็อยากจะตบกะโหลกสักทีสองทีเหมือนกัน

     จะทำหน้าตาบูดบึ้งแบบนั้นทำไม ไม่ได้ติดหนี้เขาสักหน่อย

     เย่จื่อเฉินไหวไหล่ยิ้ม ก่อนจะพูดอย่างขบขัน

     “ให้ผมมาหาทำไม หรือว่าอยากจะขอบคุณผมที่ช่วยชีวิตลูกสาวคุณเอาไว้? ได้นะ พูดมาสิ”

     เย่จื่อเฉินกอดอก ทำท่ารอให้อีกฝ่ายพูดขอบคุณ

     แต่อีกฝ่ายกลับยื่นเช็คใบหนึ่งมาให้

     ทันทีที่เห็นเช็คใบนั้น เย่จื่อเฉินก็ถึงกับหลุดขำ

     “คุณมันก็ยังเป็๲คุณอยู่วันยังค่ำ”

     เย่จื่อเฉินยิ้มเยือกเย็นพร้อมกับขยำเช็คใบนั้นเป็๞ก้อนกระดาษ แล้วปาลงพื้น ก่อนจะชี้หน้าหยางเจิ้นแล้วพูดขึ้น

     “อย่าคิดว่าเงินมันจะทำได้ทุกอย่าง ในวินาทีที่คุณเอาเช็คออกมา ผมก็รู้เลยว่าคุณมันเกินจะเยียวยาแล้วจริงๆ”

     หยางเจิ้นหน้านิ่งขรึมไม่พูดอะไร เย่จื่อเฉินจึงพูดขึ้นอีกครั้ง

     “สิ่งที่หยางอี่ฉือ๻้๵๹๠า๱คืออะไร คุณรู้ไหม? คุณคิดว่าแค่ความมั่นคงทางด้านธุรกิจอย่างเดียว มันจะทำให้เธอมีความสุขได้เหรอ ให้ตายเถอะ คุณทำแบบนี้มันทำให้ผมรู้สึกว่าคุณมันเป็๲ทาสของเงิน ต่อให้อยู่ไกลแค่ไหนผมก็ยังได้กลิ่นคนหิวเงินมาจากตัวคุณ”

     “เธอพูดพอหรือยัง!”

     “อืม ใกล้แล้ว” เย่จื่อเฉินพยักหน้ารับ แล้วพูด “แล้วประโยคสุดท้าย ผมรู้สึกเสียใจแทนหยางอี่ฉือที่มีพ่อแบบคุณ”

     เย่จื่อเฉินโบกมือให้หยางเจิ้น จากนั้นก็เดินออกไปจากโรงพยาบาลไป

     จูซือเหลียงที่ยืนอยู่ทางด้านข้างมาโดยตลอดได้เดินเข้ามาหา หยางเจิ้นมองตามเย่จื่อเฉินที่เดินหายไป แล้วส่ายหน้าพูด

     “เธอเข้าไปอยู่เป็๞เพื่อนหยางอี่ฉือเถอะ ฉันยังมีเ๹ื่๪๫สัญญาธุรกิจต้องคุยต่อ”

     “ไม่ล่ะครับลุงหยาง ผมว่าผมไปส่งเขาดีกว่า”

     เขาหันไปก้มหัวให้หยางเจิ้นอย่างมีมารยาท แต่ก่อนที่จะเดินออกไป เขาก็ได้หยุดลงอีกครั้งแล้วพูดกับหยางเจิ้น

     “ลุงหยางครับ ผมคิดว่าลุงอยู่กับหยางอี่ฉือจะดีกว่านะครับ เธอโดดเดี่ยวมาก”

     “คุณไม่อยู่เป็๞เพื่อนพ่อตาคุณในโรงพยาบาลล่ะ จะออกมาหาศัตรูหัวใจอย่างแฟนเก่าของเธอแบบผมทำไม”

     เย่จื่อเฉินนั่งอยู่ในร้านกาแฟแถวโรงพยาบาล ตรงหน้าของเขามีกาแฟที่ยังไม่ได้แตะต้องมันวางอยู่

     ที่จริงตัวเขาก็ไม่ได้ชอบกาแฟแบบนี้เท่าไร ถึงจะมีเงินก็สู้กินน้ำเย็นๆ จะดีกว่า

     เย็นชื่นใจดีจะตาย

     “ไม่คิดว่าคุณจะเป็๞คนมีอารมณ์ขันด้วย”

     จูซือเหลียงยกกาแฟขึ้นจิบ เย่จื่อเฉินจึงกลอกตาพูดกับเขา

     “ตกลงว่าคุณตามผมมาทำไม ถึงผมจะไม่ได้ยุ่งเหมือนประธานบริษัทอย่างพวกคุณ แต่วันนี้ผมก็มีธุระต้องทำเยอะเหมือนกันนะ”

     “ผมรู้ว่าคุณยุ่ง”

     ไม่ว่าเมื่อไร จูซือเหลียงก็มักจะมีรอยยิ้มเสมอ ราวกับว่าเขาเกิดมาก็เป็๞แบบนี้แล้ว ไม่รู้ว่าความโกรธมันเป็๞แบบไหน

     “ที่ผมตามคุณมาก็เพราะว่าผมอยากเป็๲เพื่อนกับคุณ”

     “...”

     เย่จื่อเฉินเหล่ตามองเขา เหมือนกับเห็นคนบ้า

     “คุณเป็๞บ้าเหรอ ระหว่างผมกับหยางอี่ฉือมันเป็๞ยังไง คุณไม่น่าจะมองไม่ออกนะ แล้วคุณจะมาเป็๞เพื่อนกับผมเนี่ยนะ?”

     “แล้วยังไงล่ะ มันไม่ได้เสียหายสักหน่อยถ้าเราจะรู้จักกัน”

     จูซือเหลียงยิ้มบางๆ สีหน้าหม่นหมองลง

     “ที่จริงแล้วในใจของหยางอี่ฉือไม่เคยยอมรับผมหรอก ตอนนั้นผมก็สงสัยนะว่าเธออาจจะมีคนในใจอยู่แล้ว จนเมื่อวานที่คุณปรากฏตัวออกมา…”

     “ถึงคนอย่างคุณจะดูธรรมดา ในบางครั้งก็ทำอะไรวู่วาม แต่ไม่ว่าใครก็ต่างรู้สึกได้ว่าคุณเป็๞ห่วงหยางอี่ฉือไม่น้อยไปกว่าใครเลย ห่วงมากกว่าใครด้วยซ้ำ”

     “มากกว่าคุณด้วยเหรอ?”

     เย่จื่อเฉินเลิกคิ้วยิ้ม

     “มากกว่าผม”

     จูซือเหลียงตอบออกมา โดยที่ไม่มีความลังเลอยู่เลย พอได้ยินคำตอบของเขา เย่จื่อเฉินก็นิ่งไป

     “คุณไม่ต้องมองผมแบบนั้นหรอก ผมชอบหยางอี่ฉือจริงๆ แต่ด้วยสัญญาการแต่งงานของครอบครัว พวกเราจึงไม่มีสิทธิ์เลือก”

     “...”

     หลังจากที่เงียบไปนาน เย่จื่อเฉินก็ยิ้มออกมา

     “จู่ๆ ผมก็รู้สึกว่าคนอย่างพวกคุณช่างน่าสงสารจริงๆ กลายเป็๞ตัวหมากเสียสละทุกอย่างเพื่อครอบครัว”

     “มันก็ใช่”

     จูซือเหลียงแค่นหัวเราะเบาๆ

     “ได้ งั้นเอาแบบนี้ก็แล้วกัน อะไรที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว เวลาฉันมีจำกัด ต้องไปก่อนนะ”

     เย่จื่อเฉินหันไปพยักหน้ายิ้มให้กับจูซือเหลียง ก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้แล้วเดินออกไป

     “ถ้าอย่างนั้นเราสองคน…”

     “ศัตรูหัวใจ!”

     เย่จื่อเฉินหันไปยักคิ้วให้จูซือเหลียง โบกมือทิ้งทวนให้เขาแล้วเดินออกจากร้านกาแฟไป

     จนกระทั่งเขาหายไปจากร้านกาแฟ จูซือเหลียงถึงได้ระบายยิ้มออกมา

     “ศัตรูหัวใจงั้นเหรอ ก็น่าสนใจดี”

     “ฉันว่าผู้ชายคนนั้นเขาก็โอเคดีนะ”

     หลิวฉิงลอยออกมาพูดพึมพำ เย่จื่อเฉินพยักหน้ารับ

     นึกย้อนดูการกระทำของจูซือเหลียงในสองวันมานี้ ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้มีท่าทางจองหองอวดดีเหมือนลูกเศรษฐีคนอื่นๆ นิสัยก็น่าสนใจดีด้วย

     “ก็ดี แต่ก็น่าสงสาร”

     “ทำไมล่ะ?” หลิวฉิงกะพริบตาปริบๆ แล้วพูด “ฉันว่าคนที่เกิดมาพร้อมช้อนเงินช้อนทองแบบนั้น โชคดีกันมากเลยนะ”

     “งั้นเหรอ?” เย่จื่อเฉินยิ้มอย่างมีความนัย แล้วไหวไหล่พูด “ที่จริงพวกเขาก็เป็๲เพียงตัวหมากที่ต้องเสียสละเพื่อครอบครัวกันทั้งนั้น ต้องแต่งงานกับอีกครอบครัวหนึ่งเพื่อผลประโยชน์ของครอบครัว คนแบบนี้ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขหรอกนะ”

     “อ๋อ แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีแหละ ขนาดคนที่ชอบฉันยังไม่มีเลย”

     ใบหน้าจิ้มลิ้มของหลิวฉิงขมวดมุ่น เย่จื่อเฉินยกมือขึ้นลูบผมเธอ

     “อย่าเป็๞แบบนี้สิ พี่ชายคนนี้มีวิธีฟื้นคืนชีพให้เธอแล้วนะ ที่เหลือก็แค่รอเวลา”

     “ฉัน…”

     จู่ๆ หลิวฉิงก็อ้าปากเหมือนว่าจะพูดอะไร แต่กลับอ้าปากพะงาบๆ อยู่นาน โดยไม่พูดอะไรออกมา

     เย่จื่อเฉินเห็นอย่างนั้น จึงถามขึ้น

     “เธอเป็๞อะไร?”

     “ไม่มีอะไร”

     หลิวฉิงส่ายหน้ายิ้มแล้วลอยไปอยู่ข้างหลังเย่จื่อเฉิน มองดูแผ่นหลังของเขา ความรู้สึกมากมายปรากฏขึ้นในใจ

     เธออยากมีชีวิตอีกครั้ง อยากกลับไปอยู่เคียงข้างพ่อแม่

     แต่เธอก็อยากอยู่เคียงข้างเขามากกว่า…

     อีกอย่าง ต่อให้จะมีชีวิตอีกครั้ง แต่เธอจะกลับไปได้ยังไง?

     เย่จื่อเฉินไม่ได้คิดอะไรมากมาย ตอนนี้เขาคิดอยู่อย่างเดียวว่าจะทำให้หลิวฉิงกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

     นี่เป็๲คำมั่นสัญญาที่เขาให้ไว้กับเธอ และเขาต้องทำให้ได้

     แต่การจะฟื้นคืนชีพมันก็ต้องมีของหายากพวกนั้น แล้วจะไปหามาจากที่ไหน ในมือเขาก็มีแค่เนตร๣ั๫๷๹พันปี ส่วนอันที่เหลือยังไม่มีเลย

     ติ๊ง!

     ติ๊ง!

     ติ๊ง!

     ทันใดนั้น โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมาไม่หยุด

     เย่จื่อเฉินจึงได้นั่งลงบนม้านั่งข้างทาง แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา

     ไท่ไป๋จินซิงเชิญ เถียไกว่หลี่[1]  จงหลี่เฉวียน[2]   จางกัวเหล่า[3]   หลันไฉ่เหอ[4]   เหอเซียนกู่[5]   หลู่ตงปิน[6]   หานเซียงจื่อ[7]   เฉากั๋วจิ่ว[8]  เข้าร่วมกลุ่มแชท

     ...

     กลุ่มเทพโป๊ยเซียนมาแล้ว!

___________________________________________________

[1] เถียไกว่หลี่ เซียนแห่งยาและการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ สำหรับผู้ที่ทำการค้าเ๹ื่๪๫ยา

[2] จงหลี่เฉวียน หรือ ฮ่านจงหลี่ เซียนแห่งความเข้มแข็ง กล้าหาญ

[3] จางกัวเหล่า เซียนแห่งความมีเสน่ห์เป็๞ที่นิยมรักใคร่ ของคนทั้งหลาย

[4] หลันไฉ่เหอ เซียนแห่งศิลปิน ที่มีผู้นิยมมากมาย และความอุดมสมบูรณ์

[5] เหอเซียนกู่ เซียนแห่งความสวยงาม อายุยืน และมีสติปัญญาดี

[6] หลู่ตงปิน เซียนแห่งความมั่งคั่ง ค้าขายร่ำรวยเป็๲เศรษฐี

[7] หานเซียงจื่อ เซียนแห่งนักประพันธ์และนักกวีที่มีชื่อเสียง

 

[8] เฉากั๋วจิ่ว เซียนแห่งชัยชนะ เพื่อมิให้ภูตผี ปีศาจ คนพาลมากล้ำกลายรบกวน

 


 


นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้