เซี่ยเสี่ยวหลานไปเจอทังหงเอินมาแล้วก็รู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้น
คนระดับเ้าพ่อทัง แม้เขาจะพูดจาไม่ค่อยตรงไปตรงมา โดยเฉพาะเื่ที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของภาครัฐ แต่จะให้เขาบอกรายละเอียดกับเซี่ยเสี่ยวหลานได้อย่างไร ทว่าสิ่งที่ทั้งคู่คุยกันนั้นหาได้ไร้ประโยชน์ไม่ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่เด็กสาวอายุ 19 ปีจริงๆ ดังนั้นเธอย่อมฟังออกถึงความหมายแฝงที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของทังหงเอิน
จนกระทั่งเธอกลับมาที่บ้านพักรับรอง หลิวหย่งก็ยังไม่เข้านอน
“เสี่ยวหลาน เื่สัญญา...”
หลิวหย่งต้องอยู่กับลูกเมีย และคอยดูแลหลิวเฟิน ดังนั้นคืนนี้คนที่ร้านขายวัสดุจึงยกโขยงกันไปกินอาหารทะเล ทว่าแม้ใบหน้าหลิวหย่งจะยิ้มแย้ม แต่ในใจของเขายังคงกังวลเื่สัญญาที่เซ็นกับหลิวเทียนเฉวียน
สุดท้ายพอถามเก่อเจี้ยนก็ทราบว่า เซี่ยเสี่ยวหลานเอาสัญญาไปแล้ว หลิวหย่งดูไม่ออกว่าสัญญานั้นมีปัญหาอะไร ถามเก่อเจี้ยนกับคังเหว่ย พวกเขาก็บอกว่าไม่รู้ ก่อนเซี่ยเสี่ยวหลานจะกลับมา หลิวหย่งจึงนั่งไม่ติด
ความรู้สึกของเขาตอนนี้เหมือนพวกขาดทุนจากการค้าของเถื่อน คิดเพียงจะลาวงการไปทำงานอื่น แต่ก็กลัวอีกฝ่ายไม่เห็นด้วย เขาคิดมาก ฟุ้งซ่าน และฝากความหวังไว้กับคนอื่นทั้งหมด ทำให้ตัวเองกลายเป็ฝ่ายตั้งรับไปโดยปริยาย!
อย่างไรก็ลุงแท้ๆ ของตน เซี่ยเสี่ยวหลานจะจงใจทำให้เขาเดือดร้อนไปทำไมกัน
แต่ลุงของตนเซ็นสัญญาตอนดื่มเหล้า เื่นี้ทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกปวดหัวเป็อย่างมาก
หลิวหย่งรูปร่างผอมแห้ง เดิมทีก็ตัวไม่สูงมาก เขาทำงานหนักตลอดจึงไม่ได้มีน้ำมีนวลขึ้นดั่งหลิวเฟินแม่ของเธอ กอปรกับแสงแดดที่เผิงเฉิงนั้นแรงเป็พิเศษ ผิวที่แต่เดิมก็ไม่ได้ขาวของหลิวหย่งจึงดำคล้ำยิ่งขึ้นกว่าเดิม แม้จะเป็เ้านายคนก็ตาม แต่หากแต่งตัวมอซอกว่านี้คงถูกเข้าใจผิดว่าเป็ชาวนาชาวไร่ที่ลงใต้มาหางานทำแน่นอน
เซี่ยเสี่ยวหลานชักรู้สึกใจอ่อนอีกแล้ว
ครึ่งชีวิตของลุงเธอทำงานเลี้ยงชีพอยู่ที่ชนบท ประสบการณ์การติดต่อกับโลกภายนอกมีเพียงการลักลอบค้าของเถื่อนเท่านั้น จะทำธุรกิจคงต้องลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ แม้เธอจะคอยเตือนให้ระวังบางเื่ แต่หลายเื่ต้องเจอกับตัวเองก่อนถึงจะมีประสบการณ์
“สัญญามีปัญหานิดหน่อย ลุงเซ็นสัญญาร่วมกันรับเหมาก่อสร้างจำนวนมูลค่าที่ประเมินแล้วของโครงการคือห้าแสนหยวนสินะ เงินเก้าหมื่นหยวนที่ลุงจ่ายสำรองไปก่อน อาจจะเอากลับคืนมาไม่ได้แล้ว”
ในเมื่อเซี่ยเสี่ยวหลานใจอ่อนเช่นนี้เธอจึงไม่คิดปิดบังหลิวหย่งอีก ช้าเร็วก็ต้องบอกเื่นี้ จะทำให้ลุงเธอกังวลจนคืนนี้นอนไม่หลับไปทำไม เธอกางสัญญาออกมาแล้วชี้ความแตกต่างของคำว่า ‘天宸’ (เทียนเฉิน) กับ ‘天辰’ (เทียนเฉิน) ให้หลิวหย่งดู
หลิวหย่งกำเอกสารสัญญาแน่น เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าตนจะทำเื่แบบนี้พลาดได้
่นี้เขาถูกแอลกอฮอล์ทำให้สมองฝ่อไปแล้วหรือเปล่า
เงินเก้าหมื่น?
นี่ก็ใกล้สิ้นปีเต็มที่ ตลอดทั้งปีหลิวหย่งหาเงินมาได้แค่เท่านี้
ในมือเขามีเงินทุนเดิม เงินที่ได้จากสินเชื่อธนาคาร และเงินปันผลที่หลี่เฟิ่งเหมยได้มาจากร้านเสื้อผ้า โครงการที่ทำเงินได้มากที่สุดคือบ้านพักรับรองเทศบาลเมือง โดยเขาได้เงินมารวดเดียวแสนกว่าหยวน แต่หลิวหย่งไม่ได้เก็บเงินก้อนนั้นไว้ทั้งหมด เขาได้แบ่งกำไรครึ่งหนึ่งให้กับเซี่ยเสี่ยวหลานด้วย
เงินที่หามาได้นั้นเขามีติดตัวอยู่ไม่มากนัก โดยทั้งหมดเขาได้เอาไปลงทุนกับธุรกิจ ส่วนเงินไม่กี่หมื่นที่เจียดออกมาได้ก็เอาไปซื้อเรือนสี่ประสานที่ปักกิ่งเป็ที่เรียบร้อย
ต้องขาดเงินทุนเก้าหมื่น หลิวหย่งปวดใจยิ่งนัก เขายังต้องใช้หนี้ที่กู้ธนาคารมาอีกด้วย แม้ดอกเบี้ยจะต่ำแต่ก็ใช่ว่าไม่มีดอกเบี้ย หลิวหย่งรู้สึกเหมือนถูกตีหัว เขาควรลงทุนต่อแล้วรอให้หลิวเทียนเฉวียนเป็คนดีขึ้นมาสักวันไหม? หรือว่าจะยุติสัญญาตอนนี้แล้วยอมปล่อยให้เงินเก้าหมื่นหายวับไปกับตา?
“ยังมีค่าผิดสัญญาอีก...”
ตอนนี้หลิวหย่งกลุ้มใจจนแทบคลั่ง
เขาเองก็มีความละโมบเช่นกัน บ้านพักรับรองเทศบาลทำเงินคราวเดียวถึงแสนกว่าหยวน คนเราพอเคยได้เงินก้อนโต จะให้หาเงินก้อนเล็กก็คงไม่มีความกระตือรือร้นเท่าไร เขาตกแต่งบ้านของคังเหว่ยกับเส้ากวงหรง รวมๆ กันแล้วได้เงินมาแค่สามสี่พันหยวน ตอนนั้นเขารู้สึกมีเรี่ยวแรงทำงาน ไม่ได้คิดเลยว่าจะทำกำไรได้หรือไม่ เขาคิดเพียงตนได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เท่านั้น
ตอนนั้นไม่มีคนช่วยเขาดูแลงานตกแต่งภายใน ทุกวันเขาจึงต้องคอยเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง
ตอนนี้พอมีผู้ช่วยสองคนอย่างหลี่ต้งเหลียงกับเก่อเจี้ยน เขาจึงปล่อยให้ทั้งสองคนช่วยดูแลโครงการเล็กๆ บางส่วน เวลาว่างที่มีเอาไปทำอะไรน่ะหรือ ก็ถูกหลิวเทียนเฉวียนเรียกไปดื่มเหล้าสังสรรค์อย่างไรเล่า
คลุกคลีกับหลิวเทียนเฉวียนนานเกินไป ถึงได้ตกหลุมพรางสินะ
พอคิดดูให้ดี หนังสือที่เขาพกมาเผิงเฉิงพวกนั้น นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้เปิดอ่าน?
เมื่อย้อนคิดถึงพฤติกรรมของตนตลอดสองเดือนที่ผ่านมา หลิวหย่งก็เหงื่อโซมกาย
“เสี่ยวหลาน ลุงก้าวพลาดคราวนี้ล้มลงทั้งตัว... แต่ก็ดี มันทำให้ลุงได้สติเสียที!”
ต้องขาดทุนอย่างน้อยเก้าหมื่นหยวน หลี่เฟิ่งเหม่ยต้องขายเสื้อผ้ามากแค่ไหนกว่าจะได้เงินเก้าหมื่นหยวน เงินเก้าหมื่นหยวนสามารถซื้อบ้านที่ปักกิ่งได้เหลือเฟือ แต่กลับถูกสัญญาที่พลาดเซ็นตอนดื่มเหล้าทำลายไปจนสิ้น บทเรียนนี้นับว่าทำเอาหลิวหย่งเจ็บไปจนวันตาย
เซี่ยเสี่ยวหลานเห็นลุงเครียดมาก ทว่าสีหน้าท่าทางยังมีแรงสู้ก็รู้สึกดีใจ ความผิดพลาดครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เขาล้มจนลุกไม่ขึ้น
“เงินเก้าหมื่นไม่มากนักหรอก ดีกว่าลุงทำงานเสร็จหมดแล้ว แต่ไม่มีใครจ่ายเงินหลายแสนที่ลงทุนไป ถ้าเป็เช่นนั้นครอบครัวเราคงกลับไปสู่ยุคก่อนเปิดประเทศในชั่วข้ามคืน ความพยายามตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมานี้คงเท่ากับสูญเปล่า”
ติดหนี้หลายแสนยังพอใช้คืนได้
หากรวบรวมเงินของทั้งสองครอบครัวก็คงได้สักประมาณสี่แสนกว่า ขาย ‘หลานเฟิ่งหวง’ ที่ซางตูก็คงได้เงินมาอีกแสนกว่าหยวน อย่าเห็นว่างานตกแต่งภายในของหลานเฟิ่งหวงใช้เงินไปแค่หมื่นกว่าหยวน และค่าเช่าปีหนึ่งเพียงสองพันหยวนเท่านั้น หลังเปิดกิจการมาเกือบหนึ่งปี ตอนนี้ชื่อเสียงของร้านเสื้อผ้าแห่งนี้โด่งดังพอสมควร ถ้าเซี่ยเสี่ยวหลานกับหลี่เฟิ่งเหมยอยากหาคนมารับ่ต่อ ย่อมมีคนยินดีควักเงินจ่ายเพื่อซื้อมันอย่างแน่นอน
ที่จัตุรัสเอ้อร์ชีไม่มีหน้าร้านที่เหมาะสมแก่การค้าขายดั่งหลานเฟิ่งหวงอีกแล้ว ธุรกิจนี้ดำเนินการได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าใครรับ่ต่อย่อมได้กำไร ดังนั้นต่อให้ขายแพงก็ย่อมมีคนยินดีจ่าย
แต่ถ้าทำเช่นนี้ก็เท่ากับต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่หมดไม่ใช่หรือ
ค่ำคืนนี้ของหลิวหย่ง เขาแทบข่มตานอนไม่ได้ อีกทั้งยังไม่กล้าพลิกตัวแรงเกินไปเพราะกลัวจะรบกวนการพักผ่อนของหลี่เฟิ่งเหมย เขานอนราบตัวตรงอยู่บนเตียงทั้งคืน วันรุ่งขึ้นจึงรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว เื่นี้หลี่เฟิ่งเหมยกับหลิวเฟินยังไม่รู้ ทั้งสองคนมาเผิงเฉิงเพื่อท่องเที่ยว หากทั้งสองรู้ว่าหลิวหย่งถูกคนหลอกเอาเงินไปเก้าหมื่น ใครยังจะมีอารมณ์เที่ยวเล่นอีกเล่า
เซี่ยเสี่ยวหลานมีแผนการอยู่ในใจแล้ว ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดคือการปล่อยให้ลุงของตนเสียเงินเก้าหมื่นเป็ค่าบทเรียน
ทำเช่นนี้ยังดีกว่าต้องขาดทุนด้วยเงินจำนวนเก้าแสนหรืออาจจะถึงเก้าล้านหยวนในภายหลัง ทำธุรกิจย่อมมีกำไรมีขาดทุน เซี่ยเสี่ยวหลานเข้าใจสัจธรรมของโลกธุรกิจดี
หลิวหย่งแสร้งทำเป็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเที่ยวเล่นที่เผิงเฉิงทั้งวัน ทว่าพอถึงเวลามื้อค่ำเขาก็เริ่มจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “เสี่ยวหลาน หลิวเทียนเฉวียนทำเื่ตุกติกในสัญญาเช่นนี้ ลุงลองมาคิดดูแล้ว ลุงไม่อยากจ่ายเงินค่าผิดสัญญา!”
“ใครบอกว่าเราจะยอมจ่ายค่าผิดสัญญาล่ะ ที่จริงก็ใช่ว่าจะรับงานนี้ต่อไม่ได้ แต่พวกเราต้องเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับหลิวเทียนเฉวียน”
ตอนนี้ทานมื้อค่ำเสร็จแล้ว ไปหาหลิวเทียนเฉวียนคุยงานสักนิดก็ดี ถือเสียว่าเป็การย่อยอาหารไปในตัว
หลิวหย่งไม่เข้าใจ แต่เขาเชื่อใจเซี่ยเสี่ยวหลาน
ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกอับอายเหลือเกิย ความเดือดร้อนที่ตนสร้าง สุดท้ายก็ต้องให้เซี่ยเสี่ยวหลานช่วยเก็บกวาดให้
—--------------------------------------------------
“หลิวหย่งกับหลานสาวอยากเจอฉันอย่างนั้นหรือ?”
ไม่ต้องคิดว่าอยากหรือไม่อยากเจอ อย่างไรก็ต้องรีบเชิญเข้ามา
ฝานอวี่ที่กำลังนั่งซบหลิวเทียนเฉวียนถึงกับลุกพรวด “เถ้าแก่คะ...”
หลิวเทียนเฉวียนโบกมือ “หลบไปก่อน ตอนนี้เธอยังไม่ควรเจอกับเซี่ยเสี่ยวหลาน”
ถ้าเซี่ยเสี่ยวหลานเห็นฝานอวี่ ต่อไปไม่ว่าฝานอวี่จะมารยาร้อยเล่มเกวียนแค่ไหน หลิวหย่งก็จะไม่มีวันเชื่อใจเขาอีก ฝานอวี่รู้สึกตื่นใ เธอกลัวการเผชิญหน้ากับเซี่ยเสี่ยวหลานจากใจจริง
เซี่ยเสี่ยวหลานเข้ามาแล้วแต่ี้เีทักทาย เธอวางเอกสารสัญญาลงตรงหน้าหลิวเทียนเฉวียน
“เถ้าแก่หลิว คนของบริษัทพวกคุณทำงานสะเพร่าไปหน่อยหรือเปล่า ฉันว่าสัญญาฉบับนี้เหมือนจะมีช่องโหว่นะคะ!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้