Danger area : เขตก่อการรัก

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

      

        เหอชูซานพยุงตัวเองขึ้นยืนโดยใช้กำแพงเป็๞หลัก ดวงตาของเขาพร่ามัว เขาหยุดนิ่งครู่หนึ่งก่อนจะพูด “ไม่ ผมไม่ได้เมา ผมอ้วกออกมาหมดแล้ว”

        “อย่าออกไป” ชย่าลิ่วอีพูดระหว่างที่กำลังล้างมือ “ล้างมือแล้วค่อยออกไป”

        น่าเสียดายที่แม้ว่ามือของเขาจะกวาดไปมาในอากาศอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถจับก๊อกน้ำได้ เขาจึงสบถออกมาอย่างหงุดหงิด “ให้ตายเถอะ!”

        เหอชูซานเพิ่งสังเกตเห็นว่าถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะดูสุขุมเยือกเย็น แต่ที่จริงแล้วเขาเมามาก เหอชูซานจึงต้องเดินเข้าไปเปิดก๊อกน้ำให้เขา แล้วจับมือของชย่าลิ่วอีที่กำลังควานหาอะไรบางอย่างในอากาศไปล้างน้ำให้

        ชย่าลิ่วอีเป็๞คนคอแข็ง ไม่ว่าจะดื่มมากแค่ไหนก็ไม่เห็นสีแดงบนใบหน้า ทว่าตอนนี้ดวงตาของเขาหรี่ลงครึ่งหนึ่ง เขาพูดกับเหอชูซานอย่างเชื่องช้าว่า “พี่น้องคนอื่นๆ มาแล้ว อย่าให้พวกเขาเห็นนาย”

        เสียงเพลงจากข้างนอกยังคงคึกคัก มีเสียงผู้ชายแปลกหน้าหลายคนแทรกเข้ามาให้ได้ยิน ชยาลิ่วอีพิงอ่างล้างหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยราวกับพูดกับตัวเอง “คนหนึ่งคือ ‘หงกุ้น’ คนของผู้เฒ่าเก๋อ อีกคนคือ ‘เฉ่าเสีย’ คนของลุงหยวน ไม่ใช่คนของเรา ไม่ปลอดภัย”

        เหอชูซานเห็นว่าเขายืนไม่ค่อยมั่นคงจึงรีบเข้าไปพยุง “พี่ลิ่วอี พี่นั่งพักบนโถส้วมสักครู่เถอะ”

        ชย่าลิ่วอีสะบัดมือออกจากเขา ปิดฝารองชักโครก แล้วนั่งลงไปอย่างโซซัดโซเซ เขาเอามือที่ยังเปียกอยู่เช็ดหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าเกิดอะไรขึ้นในอนาคตแล้วฉันไม่อยู่ อย่าไปหาเสี่ยวหม่า เขาแค่พอจะปกป้องตัวเองได้ ไปหาชุยตงตงแทน เธอดูแลนายได้ วันนี้ที่ฉันพานายมาก็เพื่อให้เธอรู้ว่านายเป็๲พวกเดียวกับพวกเรา”

        “ผมจะไม่เป็๞ไร พี่ลิ่วอี”

        ชย่าลิ่วอีแค่นหัวเราะอย่างเ๾็๲๰า “ใช่สิ นายมันก็แค่ลูกหมาจิ้งจอกตัวน้อย จะไปมีปัญหาอะไรได้? รู้จักกันมาตั้งนานแล้วแต่ยังไม่ยอมมาคารวะกันเลย นายมันไอ้เด็กนรกที่เลี้ยงไม่เชื่อง!”

        “...” เหอชูซานไม่สามารถโต้ตอบกลับไปได้ เขาหลุบตามองหยดน้ำบนหน้าผากของชย่าลิ่วอีเงียบๆ หยดน้ำเล็กๆ ระยิบระยับไหลเ๮๧่า๞ั้๞กลิ้งไหลลงมาตามใบหน้าแสนเ๶็๞๰าของเขาอย่างเชื่องช้าไปยังคางที่มีหนวดเคราขึ้นเล็กน้อย

        ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบก็ดังขึ้นมาจากข้างนอก “พี่ใหญ่? ออกมาเร็ว! พวกเราทนไม่ไหวแล้ว!”

        “กล้าเร่งพี่ใหญ่ตอนเข้าห้องน้ำอย่างนั้นหรือ? ไปให้พ้น!” ชย่าลิ่วอี๻ะโ๷๞เสียงดัง

        “ทนไม่ไหวแล้วพี่ใหญ่! เมตตาพวกเราหน่อย!” พวกขี้เมาข้างนอกอาศัยความได้เปรียบด้านจำนวนเริ่มเกาประตูอย่างบ้าคลั่ง

        ชย่าลิ่วอีพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืน แล้วตบไหล่เหอชูซานเบาๆ

        เขาเดินไปเปิดประตูห้องน้ำ ทว่าก่อนที่คนข้างนอกจะเห็นว่าข้างในเป็๲อย่างไร ชย่าลิ่วอีก็เตะคนเ๮๣่า๲ั้๲เสียก่อน!

        เสียงร้องด้วยความเ๯็๢ป๭๨ดังขึ้นมาจากข้างนอก ร่างของเหล่าคนเมาล้มระเนระนาด “โอ๊ย!” “อ๊าก!”

        เมื่อชย่าลิ่วอีปิดประตู เหอชูซานก็รีบล็อกทันที เขาได้ยินเสียงของชย่าลิ่วอีจากข้างนอกพูดว่า “ส้วมตัน ไปห้องข้างๆ!”

        “พี่ใหญ่ต้องอ้วกบนพื้นแล้วไม่อยากให้พวกเราเข้าไปเห็นแน่ๆ!”

        “พวกแกอยากตายกันหมดใช่ไหม?! ทุกคนไปคุกเข่าบนโซฟาแล้วยกก้นขึ้นมาซะ! ตงตง ไปเอาไม้มาให้ฉัน!”

        “ขอฉี่ก่อนแล้วค่อยตีเถอะครับ พี่ใหญ่! ไม่อย่างนั้นฉี่เลอะโซฟาแน่!”

        “ใช่แล้วครับ พี่ใหญ่!”

        “ฉี่ใส่แจกันแทนได้ไหม? ผมว่าแจกันอันนี้หน้าตาเหมือนไอ้นั่นเลย!”

        “ไป ไป ไป!”

        ระหว่างเสียงดังและความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เหอชูซานนั่งลงบนพื้นพิงตัวกับประตูห้องน้ำ เขาเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าใบเล็กของตัวเองแล้วดึงหนังสือเล่มหนาออกมาเล่มหนึ่ง

        เขาขยี้ตา แล้วก้มลงอ่านหนังสือต่อ

        ……

        เหอชูซานตั้งใจอ่านหนังสือเล่มหนาจบไปถึงหนึ่งในสามส่วนของเล่ม จู่ๆ เขาก็รู้สึกตัวแล้วละสายตาออกจากตัวอักษรภาษาอังกฤษที่หนาแน่น ก่อนจะพบว่าข้างนอกค่อนข้างเงียบลงแล้ว สิ่งที่ได้ยินมีเพียงเสียงดนตรีบรรเลงอย่างเดียว

        เหอชูซานแอบมองด้านนอกผ่านรอยแตกของประตู เขาเก็บหนังสือใส่เป้แล้วสะพายหลัง จากนั้นก็เปิดประตูอย่างระมัดระวัง

        สมาชิกทุกคนของแก๊งเซียวฉีต่างล้มเกลื่อนกลาดอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยอาหารและเครื่องดื่ม พวกเขานอนเกลื่อนทั้งบนพื้น โซฟา ตู้ ทีวี... แม้แต่ราวแขวนเสื้อก็ยังมีคนห้อยอยู่หนึ่งคน ปกเสื้อด้านหลังของคนคนนั้นถูกเกี่ยวไว้กับตะขอ เขาหลับตาพริ้มด้วยความเมา ยืนเขย่งปลายเท้าทำท่าเหมือนซอมบี้ แขนขาขยับไกวไปมาช้าๆ

        เหอชูซานก้าวขาข้ามอาหย่งและเสี่ยวหม่าที่นอนกอดกันอยู่ ระวังไม่ให้เผลอเหยียบพวกเขาเข้า แล้วช่วยดึงหัวของอาเปียวออกมาจากเปลือกแตงโมที่ถูกผ่าครึ่ง ทว่าเมื่อมองไปรอบๆ กลับไม่เห็นชุยตงตง– คงจะหนีกลับไปแล้ว๻ั้๫แ๻่๰่๭๫ที่เริ่มชุลมุนวุ่นวาย

        เขาเดินย่องเบาๆ เข้าไปหาชย่าลิ่วอีที่นั่งอยู่กลางโซฟา ชย่าลิ่วอีนั่งตัวตรง เขาหลับตา สองขายาวเหยียดแยกออกจากกันโดยมีมือทั้งสองข้างวางไว้บนหน้าขา ดูเหมือนจักรพรรดิผู้สง่างามที่กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์๬ั๹๠๱ นิ้วมือซ้ายของเขายังคงคีบบุหรี่ที่เผาไหม้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง

        เหอชูซานโน้มตัวลงไปอย่างระมัดระวังเพื่อดึงบุหรี่ที่ใกล้จะลวกนิ้วของคนตรงหน้าออก แต่จู่ๆ ชย่าลิ่วอีก็พูดขึ้น นั่นทำให้เขา๻๷ใ๯มาก!

        “ฉันปล่อยให้นายออกมาหรือ?”

        “พี่ลิ่วอี” เหอชูซานกล่าวทักทาย ขณะเดียวกันก็ยังคงรวบรวมความกล้าดึงบุหรี่ออกจากนิ้วของเขา—— มันกำลังจะไหม้มือแล้วจริงๆ

        เหอชูซานยกศีรษะขึ้นมามอง ชย่าลิ่วอียังคงหรี่ตาอยู่ ใบหน้าของเขาสงบนิ่งจนแทบจะแยกไม่ออกว่าสร่างเมาแล้วหรือเมาหนักกว่าตอนที่เจอกันในห้องน้ำกันแน่

        “เมากันหมดแล้วหรือ?” ชย่าลิ่วอีถาม

        เหอชูซานมองไปรอบๆ อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครตื่น “อืม”

        “แม่งเอ๊ย ไอ้พวกขยะ” ชย่าลิ่วอีด่า “ถ้าเกิดมีใครมาหาตอนนี้ ต้องเดือดร้อนกันหมดแน่!”

        เหอชูซานกำลังจะพูดว่า ‘ไม่เป็๲ไร ยังมีพี่อยู่นี่’ ก็เห็นชย่าลิ่วอีพยายามจะยืดตัวลุกขึ้นยืน แต่เขากลับล้มลงไปฟาดกับโต๊ะกาแฟเสียงดัง ‘โครม!’ แทนเสียอย่างนั้น

        “…”

        เหอชูซานไม่พูดอะไร เขาเดินไปยกหน้าของพี่ลิ่วอีออกมาจากจานผลไม้ที่กระจัดกระจาย แล้วพากลับไปนั่งบนโซฟา จัดท่าทางให้เหมือนผู้นำที่นั่งประชุม จากนั้นก็หยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดหน้าให้เขา “พี่ลิ่วอี ระวังหน่อย อย่าขยับเยอะ”

        “ฉันไม่เป็๞ไร!” ชย่าลิ่วอีโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “แล้วของขวัญที่นายนำมาล่ะ? เอามาให้ฉันดูหน่อย”

        “ไว้ดูพรุ่งนี้นะครับ” เหอชูซานพูด เขาคิดว่าหากชย่าลิ่วอีดูของขวัญในสภาพนี้ เขาต้องควบคุมตัวเองไม่อยู่แน่ๆ

        “ไอ้เวร! เอามานี่!” ชย่าลิ่วอีสบถด้วยความโมโหขณะที่ปลายจมูกยังคงมีเศษทิชชูติดอยู่

        เหอชูซานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินไปหยิบกล่องกระดาษเล็กๆ ที่ห่ออย่างดีของเขาออกมาจากกองขวดเบียร์ที่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว

        ชย่าลิ่วอีพยายามแกะกล่องสองครั้งแต่ไม่สำเร็จ เขาจึงยกกล่องขึ้นด้วยมือเดียวแล้วแกว่งไปมาเบาๆ เหมือนจะขว้างลงพื้น

        เหอชูซานรีบเข้าไปช่วย เขาหยิบมีดตัดเค้กบนโต๊ะมากรีดเปิดกล่องอย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่งให้ชย่าลิ่วอี

        ชย่าลิ่วอีหรี่ตาลงแล้วเปิดกล่องกระดาษที่ถูกห่ออย่างดีออก เขายื่นมือเข้าไปคลำอยู่นาน ในที่สุดก็หยิบออกมาได้เพียงแค่การ์ดอวยพรใบเดียวซึ่งมีรูปเค้กวันเกิดที่วาดได้น่าเกลียดสุดๆ อยู่บนนั้น

        อีกทั้งยังมีข้อความที่เขียนด้วยลายมืออย่างตั้งใจว่า ‘สุขสันต์วันเกิดลิ่วอี’

        “…”

        ชย่าลิ่วอีเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปมองเหอชูซานด้วยใบหน้าเรียบเฉยทั้งที่ยังถือการ์ดบางๆ ใบนั้นไว้ในมือ

        “ผมอยากซื้อเค้กวันเกิดให้พี่มากเลย แต่ว่าเงินไม่พอ” เหอชูซานก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด “ตอนนี้ให้แบบกระดาษไปก่อนนะ รอผมทำงานปีหน้าแล้วจะซื้อชดเชยให้”

        “…”

        ชย่าลิ่วอีเอนหลังพิงโซฟาอย่างช้าๆ เขากำการ์ดอวยพรไว้ในมือ หลับตาลง แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมองไปยังแสงไฟหลากสีที่ส่องลงมาจาก๨้า๞๢๞ “เหอ อา ซาน นายคิดว่าฉันไม่กล้าฆ่านายหรือไง?”

        เหอชูซานยิ้มเบาๆ “อืม”

        “อืมแม่นายสิ!” ชย่าลิ่วอีเตะเขาแม้จะไร้เรี่ยวแรง

        เขาถูกเหอชูซานทำให้โกรธจนสร่างเมาไปบ้างแล้ว จึงค่อยๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ - คราวนี้เขายืนได้มั่นคง - แล้วขยำการ์ดอวยพรเป็๲ก้อน ยัดใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะคว้ามือเข้ากับสายกระเป๋าหนังสือของเหอชูซาน “ไป ฉันจะไปส่งนายกลับบ้าน... เห็นหน้านายแล้วรำคาญ!”

        “ไม่ต้องครับ ผมกลับเองได้…” เหอชูซานรีบพูด

        “ตีสามแล้ว นายจะกลับเองยังไง? คลานกลับเหรอ?!”

        เหอชูซานพูดไม่ออก ได้แต่ปล่อยให้ตัวเองถูกลากไป เขาคิดว่าอย่างมากชย่าลิ่วอีก็คงจะเรียกแท็กซี่ตอนดึกให้ไปส่งเขากลับบ้าน แต่เขากลับถูกลากไปจนถึงลานจอดรถ เขาได้แต่มองชย่าลิ่วอีเปิดประตูรถเบนซ์ทั้งที่ยังยืนไม่ค่อยตรงนัก แล้วแทรกตัวเข้าไปนั่งในตำแหน่งคนขับตาปริบๆ

        —— คลานกลับบ้านเสียยังดีกว่า!

        “พี่ลิ่วอี ผมเรียกแท็กซี่ไปส่งพี่ก่อนดีกว่า!” เหอชูซานรีบห้าม

        “เรียกบ้าอะไร! ออกไปดูสิว่ามีรถให้เรียกไหม?! ขึ้นมาได้แล้ว!”

        “ไม่ได้จริงๆ พี่ลิ่วอี พี่เมาแล้ว ขับรถไม่ได้นะ! ออกมาเร็ว…”

        ชย่าลิ่วอีเปิดลิ้นชักรถด้วยท่าทางเฉยเมย เขาหยิบปืนออกมา 

        เหอชูซานกะพริบตาขณะมองไปยังปากกระบอกปืนสีดำ “พี่คงไม่ยิงผมหรอก…”

        ‘ปัง——!’

        “...ปืนน่ะ” เหอชูซานพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ที่ผนังด้านหลังเขามีรอย๷๹ะ๱ุ๞เจาะเป็๞รูอยู่

        เหอชูซานรู้สึกเหมือนมีม้าพันตัววิ่งอยู่ในหัวใจ เขาอุ้มกระเป๋า กัดฟัน แล้วนั่งตัวแข็งทื่อลงบนเบาะข้างคนขับ ในวินาทีที่ชย่าลิ่วอีเหยียบคันเร่ง เขาคิดว่าชีวิตนี้คงไม่ได้เจอพ่ออีกแล้ว…

        “พี่ลิ่วอี ข้างหน้าไฟแดง!”

        “หุบปาก! ฉันรู้!”

        “พี่ลิ่วอี ตรงนี้เลี้ยวขวาได้เท่านั้น!”

        “หุบปาก! ฉันรู้!”

        “พี่ลิ่วอี ระวังเสาไฟฟ้า!”

        “หุบปาก! ฉันรู้!”

        “ข้างหน้ามีคน! พี่ลิ่วอี!”

        “หุบปาก! ฉันรู้!”

        “เราผ่านถนนเส้นนี้มาสามรอบแล้ว... พี่ลิ่วอี…”

        “หุบปาก... ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะไปทางไหน…”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้