บทที่ 91 การสังหารในลำน้ำสายแคบ
“ซ่ง... หัวหน้าซ่ง ท่าน...” เมื่อมองดูซากศพของนักรบกลุ่มหมาป่าที่นอนอยู่บนพื้น ฉู่อวิ๋นก็ตะลึงงันไปชั่วขณะ
เมื่อสักครู่นี้ ตอนที่ฉู่อวิ๋นเห็นซ่งอี้ไม่สนใจเขา เดิมทีเขาคิดว่าซ่งอี้จะยอมรับคำขอของกลุ่มหมาป่า พาทุกคนมุ่งไปทางปลายน้ำ
ไม่มีใครคิดว่าเขาจะลงมือฆ่าสมาชิกกลุ่มหมาป่าทั้งหมดทิ้ง นี่แสดงว่าเขาสนับสนุนฉู่อวิ๋นอย่างเต็มที่ แม้ว่าความแข็งแกร่งของกลุ่มจะด้อยลงไปบ้าง แต่เขาก็ไม่ลังเลใจ!
หลังจากการจู่โจมอย่างเด็ดขาดของซ่งอี้ ยามนี้ในกลุ่มจึงเหลือเพียงสิบเอ็ดคน นอกจากพ่านพ่านแล้ว ทุกคนล้วนเป็สมาชิกของกลุ่มัเหล็ก
“เชอะ ไอ้พวกอวดดี แต้มสีสามจุดมองเป็แดง[1]! ข้าไม่ควรไว้ชีวิตพวกเขาั้แ่แรก อย่างที่คิดไว้เลย คนที่มาจากถ้ำหมาป่าไม่ใช่คนดีอะไร!”
ซ่งอี้เหลือบมองศพของนักรบกลุ่มหมาป่าด้วยท่าทางเคร่งเครียด สีหน้าของเขาโกรธเกรี้ยว
จากนั้นเขาก็เดินไปหาฉู่อวิ๋นและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “จอมยุทธ์ฉู่อวิ๋น แผนของเ้าถูกต้อง ตอนนี้ วิธีเดียวที่จะรอดไปได้คือการทวนกระแสไปทางต้นน้ำ"
“หัวหน้าซ่ง ท่านทำเช่นนี้ไม่เป็ไรหรือ…?” แม้ฉู่อวิ๋นจะไม่อยากคบค้ากับนักรบกลุ่มหมาป่าพวกนั้นมากนัก แต่พวกเขาก็เป็นักรบขั้นมหาสมุทร ออกแรงช่วยเหลือได้ไม่น้อย
“ก่อนหน้านี้ พวกเขาสัญญาว่าจะเชื่อฟังคำสั่งของข้า แต่ตอนนี้กลับตลบตะแลง คิดข่มขู่ข้าไม่ให้พาเ้าไปที่ปลายน้ำด้วย หมาป่าตาขาว[2]พวกนี้เลี้ยงไม่เชื่อง ดังนั้นฆ่าทิ้งไปจะดีที่สุด!” ซ่งอี้แค่นเสียงอย่างเ็า ดวงตาของเขาฉายแววเย็นเยียบ
ก่อนจะพูดอย่างภาคภูมิใจ "แม้ไม่มีพวกเขา ข้า ซ่งอี้ ก็รับประกันได้ว่าแม้ว่าข้าจะต้องเสี่ยงชีวิต แต่ข้าก็มั่นใจว่าจะพาพวกเ้าทุกคนที่นี่รอดไปถึงเผ่าสุนัขได้!"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ นักรบทุกคนของกลุ่มัเหล็กก็ตัวสั่น ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยประกายแห่งความหวัง เืในร่างกายพลุ่งพล่าน!
ซ่งอี้คนนี้กล้าหาญชาญชัยนัก! แม้จะมีโอกาสหลบหนีเอาตัวรอดแต่กลับไม่ลังเลเลยที่จะพาทุกคนออกไปให้ได้!
“โฮก สำหรับข้าแล้ว! ไม่มีคนพวกนั้น กลุ่มัเหล็กของเราก็ยังมีพี่น้องอีกเยอะ!” สือเหล่ยหัวเราะและตบหน้าอกของตัวเองดังปักปัก ความภาคภูมิใจของเขาพุ่งสูงเสียดฟ้า
“ถูกต้อง พวกเราต้องทำให้สัตว์ปีศาจพวกนี้รู้ว่า กลุ่มัเหล็กชื่อนี้ ไม่ใช่ชื่อที่ตั้งขึ้นมาลอยๆ!” เมิ่งชานยกคันธนูขึ้นและะโเสียงดัง ใบหน้าของเขาแดงก่ำ และรู้สึกตื่นเต้นมาก
“ตอนนี้มีกันสิบเอ็ดคน และสุดท้ายก็จะมีกันสิบเอ็ดคน! ขาดใครไปไม่ได้!” เฟิงเยี่ยนกล่าวอย่างอาจหาญ เขายืดตัวตรง กำหมัดแน่น มีดบินวายุในแขนเสื้อของเขาส่องสว่างอยู่ตลอด
“ขาดใครไปไม่ได้!”
“ขาดใครไปไม่ได้!”
กลุ่มคนะโเสียงดังพลางต่อสู้กับสัตว์ปีศาจที่โจมตีเข้ามา อารมณ์ดุเดือดอย่างยิ่ง
“ใช่! ขาดใครไปไม่ได้!” ฉู่อวิ๋นเสียงดังด้วยถูกบรรยากาศพาไป จึงรู้สึกถึงเืที่เดือดพล่านในร่างกายของเขา!
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ซ่งอี้ก็หัวเราะชอบใจและออกคำสั่งทันที โดยพูดว่า "ฮ่าๆๆ! ดี! เวลาไม่คอยท่า เรารีบออกเดินทางกันเถอะ! ในแม่น้ำมีสัตว์ปีศาจไม่กี่ตัว เฟิงเยี่ยนเ้าเป็ผู้นำแล้วกัน!"
“จอมยุทธ์ฉู่ พลังปราณเ้ามีค่อนข้างมาก ติดตามเฟิงเยี่ยนไปทางหน้าขบวนเถอะ!”
“ส่วนข้า ซ่งอี้... จะรั้งท้ายให้เอง!”
ทันทีที่พูดจบ ทุกคนก็รู้สึกกระจ่างแจ้งขึ้นมาอีกครั้ง พลังปราณและเืในร่างกายพลุ่งพล่าน
ซ่งอี้ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเอง สละตนคอยรั้งท้ายเพื่อปกป้องทุกคน น่านับถือเหลือเกิน!
“ซินเอ๋อร์เ้าไม่ต้องสู้แล้ว คอยดูแลพ่านพ่านให้ดีแล้วตามข้าไว้อย่าห่างไปไหน!” ยามนี้ ฉู่อวิ๋นกำลังบอกมู่หรงซินให้วิ่งไปพร้อมกับพ่านพ่าน ไม่เช่นนั้นด้วยร่างกายของพ่านพ่านแล้ว นางคงตามคนในกลุ่มไม่ทัน
“ตู้ม ตู้ม ตู้ม!”
หลังจากนั้นทุกคนก็ออกเดินทางทันที ะโลงแม่น้ำอย่างรวดเร็ว เริ่มใช้ทักษะทางร่างกาย ถ่ายเทพลังปราณลงบนเท้า เพื่อเดินบนน้ำและวิ่งไปจนสุดทาง
"โฮก โฮก--!!"
“อาฮู้ว——!!”
เมื่อมีคนเดินบนน้ำ สัตว์ปีศาจบางตัวก็สังเกตเห็นทันที พวกมันวิ่งรี่มาทางแม่น้ำจนฝุ่นตลบ สาดน้ำกระเซ็นใส่ด้วยพลังอันน่าทึ่ง
แม้ว่าฝูงสัตว์ปีศาจจะไม่สามารถใช้พลังปราณเมื่อลงน้ำได้ แต่แม่น้ำสายนี้ก็ไม่ลึกมาก ประมาณสิบหมี่เท่านั้น ไม่นับเป็อุปสรรคสำหรับสัตว์ปีศาจที่ดุร้ายและใหญ่โตเหล่านี้
“ตึง ตึง!”
ด้วยดวงตาสีแดงเื พวกมันเคลื่อนตัวทวนไปตามกระแสน้ำเหมือนที่กลุ่มัเหล็กทำ ก่อตัวเป็คลื่นสัตว์ปีศาจหนาแน่นที่ซัดสาดอย่างรุนแรง บีบอัดจนในแม่น้ำแทบไร้ที่ว่าง
“สัตว์ปีศาจพวกนี้มีความแค้นกับมนุษย์หรือ? บ้าไปหมดแล้ว!” ฉู่อวิ๋นรีบวิ่งลงไปในน้ำและหันไปมองข้างหลังเขา
เขาอดรู้สึกกลัวไม่ได้เมื่อเห็นสัตว์ปีศาจและสัตว์ป่าหลายชนิดหลายประเภทจำนวนนับไม่ถ้วนปะปนกัน ต่างพุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างบ้าคลั่งและคอยไล่ตามทุกคน
นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว สัตว์ปีศาจพวกนี้เหมือนโดนหนามทิ่มตัวจนต้องวิ่งพล่านไปทั่ว บ้างก็ะโลงแม่น้ำจนน้ำกระจาย!
“โฮก!”
สัตว์ร้ายพวกนี้เข้ามาทั้งทางด้านหน้าและด้านหลัง ในไม่ช้า สัตว์ปีศาจระดับต่ำอย่างวัวั์ทลายศิลาหลายตัวก็วิ่งเข้ามาโจมตี
“ฮึ่ม! พวกเดรัจฉาน อย่าคิดจะทำสำเร็จเลย!” ซ่งอี้ะโพลางพุ่งไปข้างหน้า เขายกมีดขึ้นแล้วฟันลงไปที่ด้านหลังของมัน ทรงพลังจนสามารถฆ่าวัวั์ทลายศิลาได้ทันที
เฟิงเยี่ยนรู้ว่าหากมีซ่งอี้อยู่รั้งท้ายจะไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงไม่หันกลับไปมอง ได้แต่มองตรงไปข้างหน้าและเดินต่อไป บ้างก็ใช้มีดบินจัดการสัตว์ปีศาจที่โผล่มาจากแม่น้ำ
บางครั้งก็จะมีสัตว์ปีศาจบางตัวที่โจมตีมาทางด้านหน้า ดวงตาของฉู่อวิ๋นเข้มขึ้น เขาเหวี่ยงกระบี่ชื่อยวนออกไป แสงกระบี่ส่องประกาย สังหารสัตว์ปีศาจพวกนั้นในทันทีโดยยังไม่ทันได้เฉียดเข้าใกล้มู่หรงซินและพ่านพ่าน
ทุกอย่างเป็ไปอย่างราบรื่น หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็รีบไปถึงต้นน้ำ และเตรียมที่จะผ่านเข้าไปทางแม่น้ำสายแคบ ๆ
“มีกำแพงูเาเล็กๆ กั้นอยู่สองฝั่งของแม่น้ำจริงๆ ด้วย พวกเราทำได้แค่เดินหน้าเท่านั้น”
ฉู่อวิ๋นเดินพลางเหลือบมองไปทางซ้ายและขวา และเห็นว่ายิ่งเดินลึกเข้าไป กำแพงูเาทั้งสองข้างก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ และความกว้างของแม่น้ำก็ค่อยๆ แคบลง จนตอนนี้กว้างไม่ถึงสิบหมี่แล้ว
เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ระยะการมองเห็นก็แคบคล้ายอยู่ในก้นเหว หมอกสีแดงในท้องฟ้ายามค่ำคืนดูเหมือนจะถูกพัดพาไปในทิศทางเดียวกันซึ่งแปลกมาก
“หวังว่าจะไม่มีสัตว์ปีศาจะโลงมาจากกำแพงูเาอีกนะ ไม่เช่นนั้นขบวนของเราแพ้ราบคาบแน่” ฉู่อวิ๋นคิดและอธิษฐานอย่างเงียบ ๆ
แม้ว่าทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นดี โดยมีเฟิงเยี่ยนที่คอยเปิดทางและซ่งอี้ที่คอยสังหารสัตว์ปีศาจที่เข้ามาใกล้จากทางด้านหลัง
แต่ระหว่างขบวนมีช่องว่างอยู่ เพราะฉู่อวิ๋นต้องปกป้องมู่หรงซินและพ่านพ่าน เขาจึงทำได้แค่จัดการสัตว์ปีศาจที่อยู่ข้างหน้าเท่านั้น ไม่อาจปลีกตัวไปช่วยเหลือตรงอื่นได้
หากขบวนแตกหรือหากสัตว์ปีศาจะโลงมาจากกำแพงูเาทั้งสองข้างแล้วพุ่งเข้ามาโจมตี ทุกคนก็จะตกอยู่ในอันตราย
เพราะตอนนี้ ยกเว้นฉู่อวิ๋น พลังปราณที่ทุกคนมีเหลืออยู่ เพียงพอแค่ฝืนใช้ในการเดินบนน้ำเท่านั้น
“อา...อ๊าก!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมา สิ่งที่ฉู่อวิ๋นกังวลเกิดขึ้นแล้ว นักรบระดับแปดของขอบเขตควบแน่นพลังปราณหมดแรงแล้ว เขาพลัดตกลงไปในน้ำโดยบังเอิญจนน้ำกระเซ็นเปียกปอน
นักรบคนอื่นๆ ซวนเซและล้มลงไปด้านหลังทันทีด้วยสีหน้าหวาดกลัว ทันใดนั้น ก็เห็นสัตว์ปีศาจทุกชนิดเดินเข้ามา ปากของพวกมันเปิดกว้าง พยายามกัดเขาจนตาย
“แย่แล้ว!”
เมื่อเห็นดังนั้น ซ่งอี้ก็ใ แม้ว่าเขาจะอยู่รั้งท้ายเพื่อคอยคุ้มกันทุกคน แต่เขาก็ยังต้องต่อสู้กับสัตว์ปีศาจระดับกลางและล่อความสนใจของสัตว์ปีศาจกลุ่มใหญ่อยู่ ไม่สามารถละมือจากตรงนี้ไปช่วยได้
เฟิงเยี่ยนเองก็เห็นเหตุการณ์แล้วเช่นกัน แต่เขาก็ติดพันกับสัตว์ปีศาจตรงหน้า แสงมีดบินส่องสว่างพุ่งเข้าใส่สัตว์ปีศาจที่เป็อันตราย ไม่อาจละมือไปได้เช่นกัน
หากแนวหน้าหายไปและมีสัตว์ปีศาจข้ามแนวป้องกันมาได้ ผลที่ตามมาย่อมร้ายแรงเกินคาดการณ์
“ย๊า!”
ใน่เวลาวิกฤตินี้ ดวงตาของฉู่อวิ๋นเบิกโพลง เขากัดฟัน ก้าวเท้าจนกลายเป็ภาพติดตา หันหลังและวิ่งกลับไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้น แสงกระบี่ก็สว่างวาบ แสงดาวส่องสว่างสะท้อนกับแม่น้ำ ทรงพลังจนสามารถฆ่าสัตว์ปีศาจทั้งหมดที่อยู่ใกล้เพื่อนร่วมกลุ่มได้ทันที
“เ้าก้อนหิน! จับเขาไว้!”
ฉู่อวิ๋นะโ จากนั้นใช้มือซ้ายจับคอเสื้อของสหายกลุ่มัเหล็กไว้ แล้วเหวี่ยงเขาไปข้างหน้าสุดกำลัง ให้ไปตกลงในมือของสือเหล่ยอย่างแม่นยำ ทำให้สมาชิกในกลุ่มรู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่น
“ฉู่... จอมยุทธ์ฉู่ ขอบคุณ... ขอบคุณ…” ชายคนนั้นเหงื่อออกท่วมตัวและพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา
เมื่อกี้นี้มันน่ากลัวมาก ในแม่น้ำแคบๆ สายนี้ มีสัตว์ปีศาจถาโถมมาจากด้านหลังอย่างหนาแน่น พวกมันทั้งหมดรวมตัวกัน แยกเขี้ยวอย่างดุร้ายยิ่ง หากเมื่อครู่ฉู่อวิ๋นมาไม่ทันเวลา เขาคงกลายเป็กองกระดูกไปแล้ว
แต่อุบัติเหตุเมื่อครู่นี้ ได้ทำลายสมดุลของขบวนลง
“ควั่บ--”
ยามนี้ เฟิงเยี่ยนกำลังฆ่าสัตว์ปีศาจตรงหน้า ปลาลายรุ้งยาวสามหมี่กว่าสิบตัวพุ่งขึ้นจากลำน้ำสะท้อนแสง และกระโจนกัดเข้าไปที่ใจกลางขบวนทันที
“ควั่บ!”
ทันใดนั้น ก็เกิดพลังปราณอันดุเดือดปะทุขึ้น ทุกคนยังคงมีพลังเหลืออยู่ ดังนั้นพวกเขาย่อมสามารถจัดการกับสัตว์ปีศาจระดับแปดที่ค่อนข้างอ่อนแอได้
แต่นี่ไม่ใช่กรณีของมู่หรงซิน ยามนี้นางกำลังวิ่งหนีโดยมีพ่านพ่านจับมืออยู่ นางไม่สามารถปล่อยมือออกเพื่อมายิงลูกธนูได้จึงกังวลอย่างมาก
“อ๊ะ!” ผู้หญิงทั้งสองคนกรีดร้องด้วยความใ ใบหน้าที่สวยงามของทั้งคู่ซีดเผือด เมื่อเห็นปลาลายรุ้งกำลังจะโจมตีเข้ามา เผยให้เห็นฟันแหลมคมและปากที่เปื้อนเื
“ควั่บ!”
ทันใดนั้น ฉู่อวิ๋นก็ก้าวไปข้างหน้าจนน้ำกระเซ็นแล้วพุ่งเข้ามาจากด้านหลัง ฟาดฟันปราณกระบี่หลายสิบคลื่นออกไปในอากาศ ฆ่าฝูงปีศาจปลาจนหมด เศษชิ้นเนื้อปลิวว่อนไปทั่วทุกที่ หญิงสาวทั้งสองคนถอนหายใจทันทีอย่างโล่งอก
“ตามข้ามา!” ฉู่อวิ๋นเตือน และพุ่งออกไปอีกครั้งทันที กระบี่ของเขากะพริบแสงอย่างดุเดือด ฆ่าสัตว์ปีศาจทั้งหมดที่โจมตีมาจากด้านหน้า
“อื้ม!”
มู่หรงซินพยักหน้า มองดูสัตว์ปีศาจที่พุ่งเข้ามาหาพวกเขาราวกับคลื่นที่ถาโถมมาจากทั้งสองด้าน ดวงตาคู่งามของนางสั่นไหวจนคล้ายน้ำตาจะไหลอยู่รอมร่อ แต่นางไม่มีเวลามาตื่นตระหนก ดังนั้นนางจึงได้แต่เดินตามหลังพวกเขาด้วยก้าวที่มั่นคงเท่านั้น
ยามนี้ นางทำได้เพียงพึ่งพาฉู่อวิ๋นและเชื่อฟังคำสั่งของเขา เพราะชายคนนี้ทำให้นางรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยอันไร้ขีดจำกัด
ทุกคนรวมกลุ่มใหม่และรีบเร่งเดินทางกันไปตลอดทาง เดินทางตัดผ่านเส้นทางนองเื ซากศพของสัตว์ปีศาจกระจายไปทั่ว แม้แต่นกบนท้องฟ้าก็ถูกยิงให้ตกลงมาสู่แม่น้ำโลหิต สถานการณ์ดูเหมือนจะราบรื่นมาก
“ไม่...ไม่ใช่กระมัง?! สัตว์ปีศาจตัวนี้มาถึงที่นี่แล้วหรือ?”
จู่ๆ ก็มีเสียงอุทานของซ่งอี้ดังมาจากด้านหลัง ทำให้ทุกคนตื่นตัวและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“หืม เกิดอะไรขึ้น?!” หลังจากที่ฉู่อวิ๋นฆ่าสัตว์ปีศาจไปหลายตัว เขาก็มีท่าทีสับสนและหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว
ไม่ไกลนัก เขามองเห็นเศษหินแตกกระจายทะลุท้องฟ้า เสียงดังลั่นจนพื้นดินสั่นะเื สัตว์ปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนถูกเหยียบย่ำจนแบนราบ เืสีสดไหลนอง แรงกดดันอันดุดันกำลังใกล้เข้ามา แม่น้ำทั้งสายสั่นไหวกะทันหัน ทุกคน ณ ที่นี้แทบจะยืนนิ่งไม่ไหวติง
“ตึง--!!!"
ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามก้อง จระเข้ตัวใหญ่เท่าเนินเขาพุ่งออกมาจากฝูงสัตว์ปีศาจ ปากอันใหญ่โตของมันอ้าออกกว้าง เผยให้เห็นซี่ฟันที่น่าสะพรึงกลัวเป็แถบแถว ด้านในเต็มไปด้วยเนื้อและกระดูกที่หักละเอียด
เกล็ดของมันเป็สีดำสนิท แผ่นหลังเต็มไปด้วยซี่หนาม ปกคลุมด้วยพิษอันแวววาว หางขนาดใหญ่ยาวสามสิบหมี่สะบัดกวาดล้างทุกสิ่ง ทั้งตัวอัดแน่นอยู่ในแม่น้ำแคบๆ และพุ่งมาข้างหน้าตลอดเวลา
“จระเข้กลืนฟ้า!” ใบหน้าของซ่งอี้เริ่มเคร่งเครียดขึ้น ก่อนจะะโออกมา
----------
[1] คนที่ประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไป
[2] คนขี้ขลาด