“เ้าอาวาส นางโกหก... ปิ่นนั่นอยู่กับนาง... ตอนอาตมาบังเอิญถูกนางจู่โจม นางใช้ปิ่นนั้นข่มขู่อาตมา!”
พระอี้หานรีบแก้ตัวทันที!
และ.. ฮวาชีเยว่รอคอยสิ่งนี้อยู่!
นางใจเย็นดุจสายน้ำ เอ่ยเรียบเรื่อย “ไต้ซือหานิ ปิ่นเฟิ่งหวงอันนั้นมิได้อยู่กับข้า หากท่านไม่เชื่อ ลองวานให้ผู้แสวงบุญหญิงแถวนี้ให้ค้นตัวข้าเพื่อพิสูจน์ก็ได้!”
คำพูดนางดุจสายฟ้าฟาด ทำให้ทั้งฮวาเมิ่งซือและหลานจูหวาดกลัว
หลานจูกะพริบตาและรีบกระซิบกับฮวาเมิ่งซือทันที ใบหน้าซีดจึงใจเย็นลงได้
อย่างไรไต้ซือหานิก็เป็เ้าอาวาส คำแนะนำของฮวาชีเยว่ย่อมเป็หนทางเดียว ทั้งสองต่างเล่าเื่ของตน ไม่มีใครทราบความจริง
ดังนั้นเ้าอาวาสจึงขอให้ผู้แสวงบุญหญิงสองสามคนในฝูงชนมาช่วยค้นตัวฮวาชีเยว่
โหย่วชุ่ยเพิ่งกลับมาจากการไปเอาน้ำอุ่น นางแตกตื่นขึ้นมา คุณหนูของนางถูกใส่ร้ายหลายครั้งแล้ว หากครั้งนี้พลาดไป ย่อมไม่มีใครกล้าแต่งกับนาง ด้วยนิสัยของอีกฝ่ายย่อมต้องฆ่าตัวตายแน่ คนพวกนี้บังคับให้คุณหนูของนางฆ่าตัวเองตายอยู่หรือ?
ฮวาชีเยว่รับถ้วยน้ำอุ่นขึ้นมาดื่มเพื่อดับกระหายให้ลำคอแห้งผากชุ่มชื้นขึ้นมา
ผ่านไปสักพัก ผู้แสวงบุญที่ค้นตัวฮวาชีเยว่จนทั่วก็ทำหน้าสับสน ส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไต้ซือ หาปิ่นเฟิ่งหวงไม่พบเ้าค่ะ”
สีหน้าฮวาเมิ่งซือไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยยามมองหลานจูที่อยู่ข้างกาย
ดวงตาหลานจูเบิกกว้าง มองฮวาชีเยว่ด้วยสายตาไม่เชื่อ
พระอี้หานร้องขึ้นทันที “เป็ไปไม่ได้ เป็ไปไม่ได้!”
ไต้ซือหานินิ่วหน้าเข้าอย่างเ็า วัดหานเยว่โด่งดังในอาณาจักรฉางจิง ผู้แสวงบุญมากมายมาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสายทุกวัน ใน่เวลาสองร้อยปีไม่เคยเกิดเื่ไม่ดีไม่งาม ...กระทั่งในคืนนี้
ยิ่งกว่านั้น เื่ยังดูไม่เรียบง่ายอย่างที่คิด
ไต้ซือหานิสั่งคนให้ค้นตัวพระอี้หาน ทว่าเสียงเ็าหยุดเอาไว้ก่อน
“ไม่จำเป็ต้องค้นหาเ้าค่ะ ข้าทราบว่าใครเอาปิ่นเฟิ่งหวงของข้าไป เป็นาง... สาวใช้ของน้องรอง หลานจู!”
ฮวาชีเยว่ชี้หลานจูอย่างเ็า ดวงตาดุจน้ำแข็ง ใบหน้าเย็นเยือก ร่างกายปลดปล่อยรังสีเย็นเยือกที่มองไม่เห็น ความหยิ่งทระนงและมั่นใจจนถึงขีดสุด
ใบหน้าหลานจูซีดเผือด ทว่าเมื่อเห็นฮวาเมิ่งซือมองนางอย่างปลอบใจ นางก็อารมณ์มั่นคงมากขึ้น
“คุณหนูใหญ่ เหตุใดต้องใส่ร้ายบ่าวด้วยเ้าคะ? บ่าวจะกล้าขโมยปิ่นของคุณหนูได้อย่างไร? ” หลานจูก้มหน้า เลี่ยงไม่สบสายตาตาเ็าดุจน้ำแข็งของฮวาชีเยว่
“ไต้ซือหานิ โปรดค้นร่างหลานจูตอนนี้เถิดเ้าค่ะ ปิ่นเฟิ่งหวงของข้าต้องอยู่กับนางแน่!” ฮวาชีเยว่คร้านจะพูดมากไร้สาระกับหลานจู จึงหันไปขอร้องเ้าอาวาสทันที
นางทราบว่าไต้ซือหานิเป็ผู้นำที่ตรงไปตรงมา คนพวกนี้สร้างปัญหาที่นี่ ย่อมเสมือนโทษตายแล้ว
“สีกาท่านนี้ อาตมาขอรบกวนท่านค้นตัวแม่นางหลานได้หรือไม่? เื่นี้เกิดขึ้นในวัดหานเยว่ อาตมาย่อมต้องรักษาความเป็ธรรม หากอาตมาทำให้คุณหนูรองไม่พอใจ ก็หวังว่าคุณหนูรองจะให้อภัย” พระหานิพูดกับฮวาเมิ่งซือเสียงเบา
ฮวาเมิ่งซือรีบพยักหน้าทันที “มิเป็ไรเลยเ้าค่ะท่านเ้าอาวาส ให้คนค้นเถอะ หลานจูเป็ผู้บริสุทธิ์ ย่อมไม่มีอะไรให้ต้องกลัว”
ขณะที่นางเอ่ย ผู้แสวงบุญหญิงก็ค้นตัวหลานจูทันที ทันใดนั้น คนก็ร้องอุทานออกมา พร้อมหยิบปิ่นเฟิ่งหวงออกมาจากเข็มขัดของหลานจู!
ปิ่นเฟิ่งหวงสีทองส่องประกายใต้แสงเย็นเยียบ ทุกชีวิตสูดลมหายใจเข้า ใบหน้าหลานจูไร้สีเืฉับพลัน
แม้แต่ตัวนางเองก็คาดไม่ถึงว่าปิ่นจะมาอยู่ที่นาง!
หลานจูเสียบปิ่นนั่นกลับไปบนศีรษะฮวาชีเยว่ั้แ่ยามที่นางและพระอี้หานช่วยกันทุบฮวาชีเยว่จนสลบไปแล้ว เหตุใดของจึงมาอยู่กับนางได้?
“หลานจู เ้า...กล้าทำเื่แบบนี้!” ก่อนหลานจูจะทันตั้งตัว ฮวาเมิ่งซือก็ฉวยโอกาสออกปากตำหนินางรุนแรงแล้ว
หลานจูกลัวเสียจนเข่าทรุด “คุณหนูรอง ช่วยบ่าวด้วย! บ่าวไม่เคยทำเื่ไม่ดี... ต้องเป็ตอนที่คุณหนูใหญ่บอกให้บ่าวช่วยนางแน่ เป็นางเอาของมายัดให้บ่าว!”
ทุกคนมองหลานจู จากนั้นมองฮวาชีเยว่ ไม่ทราบจะเชื่อใครดี
ฮวาชีเยว่ยิ้มเย็น ใจฮวาเมิ่งซือสั่นกระตุก เหตุใดฮวาชีเยว่ตื่นมาแล้วจึงเปลี่ยนไปเป็คนละคนได้เล่า?
นางเป็คนขี้ขลาดตาขาว เมื่อก่อนยามมีปัญหา ย่อมต้องตัวสั่นทำตัวเล็กจ้อย!
ทว่ายามนี้ ดวงตาฮวาชีเยว่กลับราวมีประกายสายฟ้า ล้วนเปี่ยมด้วยประกายเยือกเย็นน่าเคารพ!
“มิใช่เพียงปิ่นปักผม ข้ายังบังเอิญได้เห็นหน้าขโมยยามไล่ตามมัน คนคนนั้นมีหน้าขาวราวซากศพ หลักฐานคือบนพื้นที่ยังมีแป้งหลงเหลือ ดูเถอะเ้าค่ะ!” ฮวาชีเยว่ชี้มือ ทุกคนมองลงไปบนพื้น ตรงนั้นยังมีแป้งขาวปรากฏอยู่กระจัดกระจาย