มิตรภาพยืนยงอยู่ไม่ได้หากมีเพียงฝ่ายใดฝ่ายเดียว [1] เนื่องจากหานซินใช้วิธีการนี้มาจัดการกับนาง เช่นนั้นนางก็จะใช้วิธีการเดียวกันจัดการกลับคืน
หานซินผู้นี้ก็ช่างโง่งมเสียเหลือเกิน ไม่ยอมกลับไปอยู่ที่จวนใหญ่ตระกูลหาน ด้วยคงเป็เพราะอยากจะคอยชื่นชมความทุกข์ระทมของหานโม่หลังจากนางได้สูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่านางจะเข้าพักที่โรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้ามอี้หงหยวนนี่เอง
ก่อนหน้านี้ตอนที่หานโม่ถูกใครบางคนอุ้มไป ก็จับสังเกตได้ถึงสายตาอาฆาตแค้นปะปนไปกับความยินดีปรีดาในความโชคร้ายของผู้อื่นมาจากฝั่งตรงข้ามอี้หงหยวน
เมื่อเหลือบไปมองก็เป็อย่างที่คาด นางเห็นหานซินเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องด้วยความตื่นเต้น
หานโม่มัดนางมาโดยไม่พูดไม่จาแม้แต่คำเดียว [2]
“ข้าบอกเลยนะเ้าคะนายท่านจง แม่นางผู้นี้ถือเป็ของดีที่พวกเราเพิ่งได้มาวันนี้เลยเ้าค่ะ รูปร่างหน้าตานั้นข้ารับรองเลยว่าท่านจะต้องพึงพอใจเมื่อได้เห็น และที่สำคัญที่สุดคือนางยังเป็หญิงสาวบริสุทธิ์สะอาดหมดจดที่ยังไม่ผลิบานอีกด้วย รูปร่างนุ่มนิ่มบอบบาง รับรองว่าจะต้องบริการท่านให้สบายกายสบายใจได้อย่างแน่นอนเ้าค่ะ”
เสียงประจบสอพลอของเหลาป่าวดังมาจากนอกประตู หานโม่ปลุกชายร่างใหญ่ที่นอนหมดสติไปก่อนหน้านี้ให้รู้สึกตัว และจุดสิ่งที่ทำให้เกิดความกระสันที่ได้จัดเตรียมไว้ภายในห้อง จากนั้นจึงหมุนตัวออกไปทางหน้าต่างห้อง
ชายร่างใหญ่ที่เพิ่งฟื้นคืนสติยังคงรู้สึกสับสนงุนงงอยู่บ้างเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูจึงเดินไปเปิดด้วยความเคยชิน
เหลาป่าวขยิบตาหนึ่งครั้ง “เ้าทำตามที่ข้ามอบหมายเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่?”
ชายร่างใหญ่ยังรู้สึกเวียนหัวและไม่รู้ว่าเกิดเื่อะไรขึ้น จึงทำเพียงพยักหน้าขึ้นลงตามความคุ้นเคย "ท่านแม่ ท่านวางใจได้ขอรับ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว"
เหลาป่าวยิ้มด้วยความพึงพอใจแล้วส่งนายท่านจงเข้าไปในห้อง
บัดนี้ยาที่จุดไว้ได้ออกฤทธิ์อย่างเต็มที่แล้ว เมื่อนายท่านจงเดินไปหยุดที่ข้างเตียง หานซินกำลังกระสับกระส่ายบิดร่างไปมาอยู่บนเตียงด้วยความไร้สติ เสื้อผ้าบนร่างกายถูกนางดึงกระชากจนหลุดลุ่ยไปเกือบหมดแล้ว
นายท่านจงเห็นว่าบนเตียงนั้นเป็สาวงามจริงๆ ความงดงามเช่นนี้มาอยู่ตรงหน้าก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป จึงถอดเสื้อผ้าออกแล้วพุ่งตรงเข้าไปหาราวหมาป่าราวกับเสือ [3]
ในไม่ช้าก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้น
หานโม่รออยู่บนหลังคาสักพัก รอจนบรรยากาศภายในห้องเริ่มร้อนระอุขึ้น นางก็หัวเราะเยาะเย้ยและหลบหายออกไปจากหลังคาของอี้หงหยวน
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เสียงกรีดร้องแสบแก้วหูดังก้องกระจายไปทั่วทุกซอกทุกมุมในอี้หงหยวน
“กรี๊ด! ข้าจะฆ่าเ้า......”
เมื่อคืนหานซินนั้นฝันดีอยู่เื่หนึ่ง ในความฝันนางหญิงสารเลวหานโม่ถูกชายชราอ้วนหัวโตหูใหญ่ลากตัวไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวของนางเองถึงได้รู้สึกสะใจมากเช่นนั้น
แต่นางกลับคาดไม่ถึงว่าเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา จะพบเข้ากับชายชราอ้วนหัวโตหูใหญ่คนหนึ่งนอนอยู่ข้างๆ กายนางแทน!
ไม่เพียงเท่านั้นร่างกายของพวกเขาทั้งสองยังนอนเปลือยเปล่าอยู่ด้วยกัน และความเ็ปจากร่างกายส่วนล่างทำให้หานซินตระหนักได้ว่าตัวนางถูกทำให้แปดเปื้อนแล้ว!
เพียงชั่วพริบตาเดียว หานซินก็รู้ตัวว่านางได้ถูกหานโม่วางแผนร้ายตลบหลังแล้ว
หานโม่
นางสารเลวนี่!
ข้าจะต้องฆ่านางให้ได้!
หลังจากหานโม่พักในโรงเตี๊ยมคืนหนึ่ง ก็พาโตวโตวออกมา
และทันทีที่หานโม่ออกมาด้านนอกก็พบเข้ากับเหล่านักฆ่ารับจ้างที่ถูกนางจัดการไปเมื่อวานนี้
หานโม่เลิกคิ้วขึ้น "พวกเ้ามาทำไมกันหรือ?"
ชายมีหนวดเคราอดีตหัวหน้าของนักฆ่ารับจ้างกวาดตามองหานโม่ขึ้นลง โดยไม่อาจระงับความตื่นตะลึงในดวงตาได้
“หัวหน้า ท่านสบายดีหรือไม่?”
หานโม่รู้สึกงงงวย "ข้าจะเป็อะไรหรือ?"
ชายมีหนวดเคราเหลือบมองหานโม่และพูดด้วยความกระดากอายเล็กน้อย “อันที่จริงเมื่อวานนี้พวกข้าได้ส่งคนมาคอยคุ้มกันท่าน ต่อมาจึงได้เห็นว่าท่านถูกลักพาตัวเข้าไปในอี้หงหยวน เดิมทีพวกเราวางแผนที่จะเข้าไปช่วยท่านออกมา แต่ว่าพวกเราก็เห็นว่าตี้เฉินเองก็เข้าไปด้วยเช่นกัน สุดท้ายจึงไม่กล้าเข้าไปช่วยท่าน......”
หานโม่หัวเราะเยาะเมื่อได้ยินคำพูดพวกนั้น
คุ้มกันนาง?
ช่างพูดได้ฟังดูดีเหลือเกิน แต่ในความเป็จริงแล้วมันก็คือการเฝ้าระวังติดตามนางอยู่ไม่ใช่หรือ?
“ตี้เฉิน? เขาเป็ใครหรือ?” หานโม่ไม่ได้เอ่ยสิ่งที่คิดกับชายมีหนวดเครา นางทำเพียงแค่เอ่ยถามในสิ่งที่สงสัย
“หัวหน้า ท่านน่าจะได้เจอเขาแล้วเมื่อวานนี้ พวกเราเห็นเขาเข้าไปในห้องข้างๆ ห้องของท่าน” ชายมีหนวดเคราพูด
ทันใดนั้นหานโม่ก็รู้ได้ในทันที
ปรากฏว่าชายรูปงามผู้นั้นมีชื่อเรียกว่าตี้เฉิน
“จงบอกสิ่งที่เ้ารู้เกี่ยวกับตี้เฉินผู้นี้มา”
หานโม่ไม่เคยลงไปต่อสู้ในการต่อสู้ที่นางไม่มั่นใจ แม้ว่านางกับตี้เฉินจะไม่ใช่ศัตรูกัน แต่ก็ไม่ใช่มิตรสหายเช่นเดียวกัน หากมีสิ่งที่ต้องรู้หานโม่ก็ควรที่จะรู้ไว้
ชายมีหนวดเครารีบบอกสิ่งที่ตนเองรู้มาอย่างละเอียดให้แก่หานโม่ และในตอนท้ายยังบอกหานโม่อีกว่านางสามารถหลบหนีจากคนของตี้เฉินได้ ต่อไปนี้จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แน่นอน ั้แ่นี้เป็ต้นไปพวกเขาจะจงรักภักดีและยอมตายแทนหานโม่
หานโม่ไม่ได้ตอบสนองอะไรต่อการแสดงออกด้านความซื่อสัตย์ของชายมีหนวดเครา ภายในใจได้บังเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาเล็กน้อยต่อชายผู้ชื่อตี้เฉินผู้นี้
ปรากฏว่าเขาเป็หัวหน้ากลุ่มนักฆ่ารับจ้างที่ชื่อว่าเปลวเพลิงสีชาดซึ่งผู้คนในทวีปเสวียนเทียนต่างหวาดกลัว เรียกขานเขาว่า "ยมบาลหน้าเย็น"
ทันใดนั้นก็ปรากฏภาพของตี้เฉินเมื่อสองครั้งก่อนหน้าขึ้นมาภายในหัวของหานโม่
แน่นอนว่ารูปลักษณ์ของเขานั้นช่างโดดเด่น บรรยากาศรอบตัวก็ยากที่จะมีใครเทียบได้ หลังจากที่ได้ประมือกันแล้ว หานโม่ก็ยังไม่รู้ว่าระดับวรยุทธ์ของตี้เฉินไปถึงระดับไหนแล้ว
แต่นางรู้ว่าตี้เฉินนั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก
กลุ่มนักฆ่ารับจ้างเปลวเพลิงสีชาด ได้รับการขนานนามว่าเป็กลุ่มนักฆ่ารับจ้างอันดับหนึ่งของทวีปเสวียนเทียน เพียงแต่ไม่อาจเปิดเผยตัวตนได้ ไม่มีภารกิจใดที่พวกเขาไม่กล้าทำ ทุกคนในกลุ่มล้วนเป็เหล่าทหารที่มีความสามารถ และนักฆ่ารับจ้างผู้หนึ่งของเปลวเพลิงสีชาดสามารถอยู่เหนือเหล่านักฆ่ารับจ้างนับสิบคนของนักฆ่ารับจ้างกลุ่มอื่นๆ ได้
เมื่อเป็หัวหน้าของกลุ่มนักฆ่ารับจ้างที่มีอำนาจเช่นนี้ หากไม่แข็งแกร่งก็คงไม่สมเหตุสมผลนัก
หานโม่ไม่ปฏิเสธเื่นี้ แต่เกี่ยวกับฉายา "ยมบาลหน้าเย็น" หานโม่รู้สึกค่อนข้างไม่ตรงตามความเป็จริงเสียเท่าไหร่นัก
สองครั้งที่ได้พบกับตี้เฉิน เขาดูเหมือนเป็เพียงอันธพาลขี้เล่นเท่านั้น แล้วจะไปมีใบหน้าที่เ็าได้อย่างไร?
และเมื่อคืนนี้เขายังแทะโลมนางเช่นนั้นอีก
เกรงว่าคนพวกนี้น่าจะยังไม่เคยได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของตี้เฉิน ดังนั้นมันจึงคล้ายเป็เื่แต่งขึ้นมาใช่หรือไม่?
“นายท่าน ท่านวางแผนจะไปที่ใดหรือ?” ท่าทีของชายมีหนวดเคราต่อหานโม่นั้นถือว่าดีขึ้นมาก เมื่อเทียบกับตอนที่เขาพ่ายแพ้เมื่อวานนี้และจำต้องเรียกนางว่าหัวหน้าอย่างยอมศิโรราบ ยามนี้เขาสามารถเรียกนางว่า นายท่านได้คล่องปากอย่างยิ่ง
หานโม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในแววตาเขา แต่ไม่ได้พูดอะไรมากทำเพียงแค่พูดว่า "ข้าจะไปเดินเล่นเสียหน่อย ่นี้แค่รอให้การประมูลเริ่มก็พอแล้ว"
ในโลกที่ผู้คนนับถือผู้มีวรยุทธ์แบบนี้ ที่จริงแล้วความคิดของชายมีหนวดเคราและคนอื่นๆ นั้นหานโม่เองก็สามารถเข้าใจได้
ตราบใดที่พวกเขาซื่อสัตย์ หานโม่จะปฏิบัติต่อผู้ติดตามของนางอย่างไม่เป็ธรรมได้อย่างไร
“เช่นนั้นข้าจะพานายท่านเดินไปรอบๆ เองขอรับ พวกข้าคุ้นเคยกับเมืองหลิงหยวนเป็อย่างดี” ชายมีหนวดเคราเอ่ยอย่างแข็งขัน
หานโม่พยักหน้า “นำทางไปเถอะ”
"ขอรับ!"
ทางฝั่งของหานโม่ที่กำลังเดินเตร่อยู่กับชายมีหนวดเคราและคนอื่นๆ อยู่นั้น หานซินเองก็กลับไปถึงจวนตระกูลหานเรียบร้อยแล้ว
นางไม่อาจบอกให้ใครรู้เื่ที่ตนแปดเปื้อนมลทินเช่นนี้ได้ แม้แต่คนจากอี้หงหยวนเองนางก็ล้วนไม่อยากจดจำ แต่ด้วยพื้นฐานความสามารถของนางที่ยังแข็งแกร่งได้ไม่มากพอ นางจึงทำได้เพียงแค่แอบออกมาจากอี้หงหยวนอย่างเงียบๆ เท่านั้น
เพราะคิดว่าตนเป็คุณหนูตระกูลหานที่ร่ำรวยและมีฐานะอันสูงส่ง สิ่งนี้ถือเป็เื่ที่น่าอัปยศอย่างแน่นอน
“หานโม่ ข้าจะฆ่าเ้า!” หานซินกลับมาถึงภายในห้องนอนของนางเอง และขว้างปาข้าวของทุกอย่างอย่างบ้าคลั่งเพื่อระบายความโกรธเกรี้ยว
“แม่นาง เหตุใดเ้าถึงได้โกรธจัดเช่นนี้?” จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังหานซิน หานซินใและรีบหันไปมองอย่างรวดเร็ว
ด้านหลังของหานซินเป็ชายลึกลับผู้หนึ่งที่สวมใส่เสื้อคลุมสีดำทั้งร่าง น้ำเสียงของเขาฟังดูแหบแห้งและร่างกายงองุ้มเล็กน้อย
หานซินเบิกตากว้าง "เ้าเป็ใคร? เข้ามาได้อย่างไร?"
ชายชุดดำหัวเราะ “ข้าเข้ามาได้อย่างไรนั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือข้ามาเพื่อช่วยเ้า”
หานซินไม่ไว้วางใจชายชุดดำผู้นี้ แต่ว่าภายในตระกูลหานได้รับการคุ้มกันอย่างหนาแน่น ในเมื่อชายผู้นี้สามารถเข้ามาได้แสดงว่าต้องมีความสามารถมากจริงๆ
หานซินมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะแก้แค้น นางไม่สนใจว่าชายชุดดำผู้นี้จะมีที่มาอย่างไร จึงเอ่ยถามกลับไปว่า "เ้ามีความสามารถอะไรที่จะช่วยข้าได้หรือ?"
ชายชุดดำหัวเราะ “ข้ามีความสามารถมากมาย ข้าไม่อาจช่วยล้างแค้นให้เ้าเป็การส่วนตัวได้ แต่ข้าสามารถสอนวิธีฝึกฝนให้แก่เ้าได้ ตราบใดที่เ้าฝึกฝนตามที่ข้าสอนก็สามารถเอาชนะผู้ใดก็ตามที่เ้าอยากจะเอาชนะได้"
“จริงหรือ? ข้าสามารถเอาชนะได้ ไม่สิ สามารถฆ่านางสารเลวหานโม่นั่นได้หรือไม่?” สติสัมปชัญญะของหานซินเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความเกลียดชังอย่างท่วมท้น สิ่งที่นางอยากทำตอนนี้ก็คือการฆ่าหานโม่ให้ตายตกไปเท่านั้น
ชายชุดดำพยักหน้า “แน่นอน”
ทันใดนั้นหานซินก็แสยะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย “ได้ ข้าจะเรียน!”
ในน้ำเสียงของชายชุดดำบังเกิดความพึงพอใจขึ้น "ดี เช่นนั้นข้าจะเริ่มสอนเ้านับั้แ่วันนี้"
หานซินพยักหน้าแรงๆ
เพียงแค่สามารถกำจัดหานโม่ที่คอยขวางหูขวางตานางได้ การฝึกฝนวิชาอื่นๆ กับชายลึกลับผู้นี้แล้วนับเป็อันใดได้?
นางสารเลวนั่นทำให้ชีวิตของนางแปดเปื้อน นางจะต้องฆ่านางผู้หญิงคนนั้นด้วยน้ำมือของตัวเองอย่างแน่นอน!
........................................................................
เชิงอรรถ
[1] มิตรภาพยืนยงอยู่ไม่ได้หากมีเพียงฝ่ายหนึ่งฝ่ายเดียว คือ การกระทำเพื่อตอบแทนสิ่งที่ผู้อื่นกระทำ
[2] ไม่พูดไม่จาแม้แต่คำเดียว หมายถึง ทำอะไรทันทีโดยไม่รีรอ
[3] ราวหมาป่าราวกับเสือ หมายถึง ดุดัน น่ากลัว อย่างหยาบช้าร้ายกาจ