จากนั้นปรากฏร่างกลุ่มคนที่ตามมาอีกกลุ่มโดยมีซีฉู่ป้าหวางที่เดินมาพร้อมดาบยาวในมือ ตอนนี้เ้าหมอนั่นเลเวล 27 แล้วทันทีที่เดินเข้ามาหมอนั่นก็แผดเสียงหัวเราะดังลั่น “ไอ้เซียวเหยาจื้อจ้ายครั้งนี้แกจะหนีไปไหนได้อีก? ครั้งนี้ไม่มีใครช่วยแกได้หรอกฮ่าๆๆๆๆ!”
ผม “!!!”
ในเวลานั้นเองผมก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างะโลงมาที่พื้นและแน่นอนว่ามันคงจะเป็วิธีการล่องหนของเยียนสั่วเฟิงเยว่การล่องหนของแอสซาซินถึงแม้จะมองไม่เห็น แต่พื้นที่โดยรอบก็อาจได้รับผลกระทบไม่มีแอสซาซินคนใดใช้วิธีการล่องหนตอนอยู่ในน้ำเพราะมันไม่สามารถเรียกใช้งานภายในสภาพแวดล้อมแบบนั้นได้
ผมเงยหน้ามองก่อนจะพบว่าด้านหลังของซีฉู่ป้าหวางยังมีกลุ่มคนอีกไม่ต่ำกว่าร้อยตอนนี้ศัตรูตรงหน้ามากเกินกว่าที่ผมจะรับมือไหว
ผมรีบหมุนตัววิ่งหนี ใครจะไปอยู่ฟะ!สู้ไปก็แพ้ ยังไงตอนนี้ก็เอาตัวรอดไว้ก่อน แล้วค่อยกลับมาฆ่าโจรพวกนี้ต่อยังไงซะเป้าหมายของผมตอนนี้ก็คือทำภารกิจให้เสร็จสิ้น หลังจากที่ผมเลเวล 30 และมีสกิลรักษาชีวิตเลเวล4 ที่สามารถฮีลเืได้ 600 พอยต์และเลเวลของเ้าจุกนมเพิ่มกว่านี้อีกสักนิด ผมก็สามารถสู้กับคนพวกนี้ได้แล้ว
……
ฟึบ!
ทันใดนั้นด้านหลังของผมก็มีลูกธนูลอยตามมาติดๆ
ผมรีบถอยเพื่อหลบหลีกแต่น่าเสียดายที่โดนเข้าที่ตัวแล้วเต็มๆ ถึง 2 ดอกผมรีบฮีลเืให้ตัวเองก่อนเงยหน้ามองก็พบว่ายังมีนักเวทอีก 3 คนกำลังเล็งลูกศรมาที่ผม ทันใดนั้นนักธนูที่อยู่ด้านหน้าสุดก็หัวเราะ “หลี่เซียวเหยา ถูกเอลฟ์จันทราเล็งหัวขนาดนี้ ยังคิดจะหนีอีกเหรอวะ?แกคิดว่าจะรอดจริงๆ เหรอ? ฮ่าๆๆๆๆ”
ในบรรดา 5 เผ่าพันธุ์มีเพียงเอลฟ์จันทราเท่านั้นที่บินได้ และพวกเขายังสามารถโจมตีระยะไกลได้อีกด้วยครั้งนี้เ้าซีฉู่ป้าหวางพาเอลฟ์จันทรามากว่า 10 คนถ้ามองตามหลักความเป็จริง โอกาสที่ผมจะรอดจากคนพวกนี้ไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียว
ด้านหลังของผมยังมีเ้าซีฉู่ป้าหวางและคนอื่นๆตามมาติดๆ เยียนสั่วเฟิงเยว่เองก็ใกล้เข้ามาเพื่อเอาชีวิตผมเช่นกัน
ผมกัดฟันแน่น ตอนนี้ยังลงมือฆ่าใครไม่ได้ไม่อย่างนั้นชื่อของผมต้องกลายเป็สีแดงแน่ๆ แต่ถ้าไม่สู้ผมก็ต้องตายอยู่ที่นี่...และมันก็ไม่ใช่นิสัยของผม ยังไงผมก็ต้องสู้ตอนนี้ผมต้องเปลี่ยนชื่อของนักธนูพวกนั้นให้กลายเป็สีเทาก่อนเพราะหากผมฆ่าคนพวกนี้ตอนที่ชื่อเป็สีเทา ผมก็จะไม่ต้องรับค่าบาป
……
สวบ!
เ้าจุกนมบินอยู่กลางอากาศก่อนใช้เหล็กในแทงไปด้านหน้าติดต่อกัน2 ครั้งทำให้หนึ่งในเอลฟ์จันทราที่เล็งโจมตีผมถูกจัดการจนชื่อกลายเป็สีเทาก่อนจะลงไปนอนตายอยู่ที่พื้นในเวลาอันรวดเร็วเอลฟ์อีกคนก็ถูกเ้าจุกนมใช้เหล็กในแทงกลางอกอย่างแรง
“-412!”
เอลฟ์จันทราเปล่งเสียงร้องพร้อมกับเืที่ลดลงไปมากกว่า20% ทันใดนั้นปีกที่บินอยู่ก็ค่อยๆแ่ลงจนตกลงมา ดูเหมือนการโจมตีที่ทำให้ค่าเืลดลงมากกว่า 20% จะทำให้เ้านั่นไม่สามารถบินได้สินะเนี่ย
ผมถือหอกโลหะโบราณวิ่งไปด้านหน้าพร้อมใช้อาวุธแทงท้องของนักธนูคนนั้นจนทำให้เกิดค่าดาเมจ–237 พอยต์ก่อนจะส่งเ้านั่นไปสู่ความตาย
ในเวลาเดียวกันเ้าจุกนมก็ไล่ตามเอลฟ์จันทราคนที่3 พร้อมโจมตีต่อเนื่อง2 ครั้ง ก่อนที่เหยื่อของเ้าจุกนมจะลงมานอนตายอยู่ที่พื้น
“ไปเร็ว”
ขณะที่กำลังจะหนีเสียงปืนก็ดังจากด้านหลังพร้อมกับเปลวเพลิงที่ถูกส่งมาที่ตัวผมติดต่อกัน 2 ครั้ง
“-257!”
“-224!”
ผมรีบฮีลเืเพื่อให้ค่าเืกลับมาอีกครั้งในเวลาเดียวกันก็ส่งเ้าจุกนมออกไปโจมตีไอ้หมูน้อยรีบวิ่งเร็วๆสิวะที่มีชื่อเป็สีเทา
“แอสซาซิน ลงมือ!”
ซีฉู่ป้าหวางออกคำสั่งทันใดนั้นเ้าจุกนมที่กำลังบินโจมตีศัตรูก็ชะงักไปก่อนจะติดค่าสถานะมึนงง “นักเวทใช้สกิลลมหนาว!”
นักเวทราวๆสิบกว่าคนเริ่มร่ายคาถาก่อนจะใช้สกิลลมหนาวและสกิลเจาะทะลุผาหินไปที่ศัตรูอย่างรวดเร็ว
“-198!”
“-219!”
“-187!”
……
ค่าความเสียหายเด้งขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนทำให้ผมไม่มีเวลาแม้แต่จะฮีลเืให้เ้าจุกนมทำให้มันถูกฆ่าตายในที่สุด
ซีฉู่ป้าหวางพุ่งมาด้านหน้าพร้อมเปล่งเสียงด้วยความโกรธ“ไอ้เซียวเหยาจื้อจ้ายตายซะเถอะแก!!!”
“เคร้ง”
ผมใช้หอกรับการโจมตีจากดาบยาวของเ้าหมอนั่นแน่นอนว่าพลังดาเมจของผมด้อยกว่ามันอย่างชัดเจนและในขณะนั้นเองผมก็ถอยไปด้านหลังอย่างต่อเนื่องจนทำให้หนามที่อยู่ด้านหลังแทงทะลุเกราะผ้าของผมความเ็ปค่อยๆ แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายในเวลาเดียวกันด้านหลังเ้าหลิวอิงก็ตามมาด้วยเบอร์เซิร์กเกอร์อีก 2 คนซึ่งมาพร้อมขวานที่มีเปลวเพลิงรายล้อมเ้าพวกนั้นใช้ขวานทุบบ่าผมอย่างแรงจนผมลงไปนอนตายกับพื้นในที่สุด
“-371!”
“-344!”
……
สวบ!
ร่างิญญาของผมปรากฏที่บริเวณสุสานอีกครั้งแต่ครั้งนี้หอกโลหะโบราณไม่ได้อยู่ในมือผมแล้วมันคงถูกดรอปไปหลังจากที่ผมถูกฆ่าตายสินะ
อดทนไว้! ไม่มีก็ไม่มี ไม่เป็ไรผมใจกว้างมากพอจะให้เ้าพวกบ้านั่นได้ลิ้มลองความเจ๋งของมันสักหน่อยก็ได้ฮีลเลอร์แค่หนึ่งคนที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่นเลเวลสูงขนาดนั้นไม่มีทางที่จะควบคุมสถานการณ์อะไรได้ั้แ่แรกอยู่แล้วแถมอีกฝ่ายยังมีนักเวทเป็เอลฟ์จันทราตั้ง 5 คนซึ่งสามารถบินและโจมตีจากระยะไกลพร้อมกันได้ยังไงคนพวกนั้นก็สามารถฆ่าเ้าจุกนมและผมได้อยู่แล้ว
ความแข็งแกร่งของผมและเ้าจุกนมในเวลานี้มีจำกัดแถมอีกฝ่ายก็มีการวางแผนโจมตีอยู่แล้ว ไหนจะมีสัตว์เลี้ยงอีกยังไงผมก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่แล้ว
ผมนำิญญาของตัวเองวิ่งกลับไปที่เดิมก่อนจะพบว่าเ้าหลิวอิง สวีเยว่ และคนอื่นๆ กำลังยืนเฝ้าศพของผมอยู่
เ้าหลิวอิงถือหอกโลหะในมือก่อนจะหัวเราะ “ชิขยะแบบเ้าหมอนั่นมีอาวุธดีๆ ขนาดนี้ได้ยังไง ของดีๆแบบนี้ควรจะอยู่กับคนที่คู่ควรกับมันสิถึงจะถูกต้อง!”
สวีเยว่ยิ้ม “ใช่เ้าเด็กนั่นนอกจากความหล่อแล้ว ก็เป็แค่เด็กอ่อนแอคนหน่่งเท่านั้นแหละ”
ไอ้หมูน้อยรีบวิ่งเร็วๆสิวะขมวดคิ้วพร้อมพูด “ผมว่าไม่น่าจะใช่นะ เขาเผชิญหน้ากับพวกเราตั้งหลายคนขนาดนี้ยังไงก็ไม่มีทางชนะหรอก แต่จริงๆ แล้วเ้าหลี่เซียวเหยานั่นถือว่าสุดยอดมากเลยนะยังไงพวกเราก็ไม่ควรประมาทเราเองก็น่าจะรู้อยู่แล้วจากประสบการณ์ที่เราเสียเปรียบเ้านั่นก่อนหน้านี้”
“ถุย!”
หลิวอิงเอาเท้าเตะศพของผม “ตอนนี้เท้าฉันอยู่บนตัวมันแล้วนายลองพูดใหม่ซิว่า สรุปแล้วใครเก่งกว่า?”
ไอ้หมูน้อยมองเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร
……
ติ๊ง!
หลังจากรอได้ราวๆ หนึ่งชั่วโมงกว่าอีกฝ่ายก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะไปจากที่นี่ทันใดนั้นข้อความจากเยว่ชิงเฉี่ยนก็ส่งมาถึงผม “พี่เซียวเหยา พี่ถูกคนพวกนั้นฆ่าตายแล้วเหรอ?”
“ใช่ เธอรู้ได้ยังไงเนี่ย?”
“ไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวฉันจะพาคนไปช่วยพี่เอง”
“ไม่ต้อง” ผมรีบปฏิเสธ “เยี่ยนจ้าวอู๋ซวงไม่ยอมให้เธอมาสู้กับคนพวกนี้เพราะฉันหรอกฉันว่ามันไม่คุ้มที่จะทำแบบนั้น เธอไม่ต้องพาคนมาที่นี่นะ”
“ไม่ได้” อีกฝ่ายยังคงยืนกรานคำเดิม“ตอนนี้ฉันได้พิกัดของพี่แล้ว พี่รอแป๊บนะ ไม่เกิน 20นาทีฉันจะไปถึงที่นั่น ไม่ต้องกังวล ฉันไม่พาคนของปรากไปหรอกคนที่ฉันหามาเป็เพื่อนของฉันเอง”
ผม “ก็ได้ ขอบใจมากนะ”
“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกน่า ดูสิตอนนี้ฉันเรียกพี่ว่าพี่เซียวเหยาแล้วนะ อิอิ”
“…”
……
หลังจากปิดช่องสนทนาทันใดนั้นเสียงระบบก็ดังขึ้น
“ติ๊ง!”
ข้อความจากระบบ :ผู้เล่น [ชางเยว่]้าเพิ่มท่านเป็เพื่อน ท่าน้ารับคำขอหรือไม่?
ใครวะ? กดตอบรับไปก่อนแล้วกันจากนั้นไม่นานผมก็เห็นภาพโปรไฟล์ผู้หญิงใบหน้ารูปไข่ที่ดูคุ้นตา ไม่สิ...เรียกว่าคุ้นมากๆ น่าจะดีกว่า เป็นักเวทเลเวล 32 ด้วยแฮะไม่เลวเลยนะเนี่ย
“ติ๊ง!”
ชางเยว่ส่งข้อความมาหาผม “คิคิ นี่เซียวเหยารู้หรือเปล่าว่าฉันคือใคร?”
“ตงเฉิงเยว่เหรอ?”
“ใช่แล้ว! ฉลาดเหมือนกันนี่ตอนนี้ฉันกับหว่านเอ๋อร์มาถึงเมืองปาหวางแล้วนะแต่ได้ยินว่านายถูกฆ่าแล้วโดนนั่งเฝ้าศพอยู่เหรอ?”
ผมหน้าแดง “ก็นะ แต่มันก็เป็เื่ปกติของการแก้แค้นนั่นแหละ”
“พูดอะไรของนายเนี่ย ยังไงนายก็เป็เพื่อนพวกเราอีกอย่างหว่านเอ๋อร์ก็บอกแล้วว่านายเป็คนของหว่านเอ๋อร์ยังไงจะปล่อยให้ถูกรังแกไม่ได้เด็ดขาด ขืนปล่อยให้นายถูกรังแกพวกเราก็เสียชื่อหมดสิ”
“พวกเธอรออยู่ที่เมืองก็พอ”
“เอางั้นก็ได้ รีบกลับเมืองเร็วๆ ล่ะ”
“อื้อ”
……
หลังจากผ่านไปไม่นานก็มีกลุ่มคนเข้ามาในป่าโดยมี 2 คนที่วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วซึ่งทั้งสองคนมีชื่อกิลด์ปรากฏอยู่้า “ปราก” และแน่นอนว่าทั้งสองคนไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็เยว่ชิงเฉี่ยนและเยว่เวยเหลียงคนสวยนี่เอง
“เวร!”
ซีฉู่ป้าหวางลุกขึ้นยืนก่อนจะสบถออกมา “แม่งเอ๊ย ปรากมาที่นี่แล้วทุกคนรีบรับมือการโจมตีตอนนี้เลย ยังไงซะอีกฝ่ายก็มีคนไม่เยอะเท่าพวกเรา”
ทันใดนั้นนักดาบของเ้าหมอนั่นก็พุ่งตัวไปด้านหน้าทว่าการโจมตีของเยว่ชิงเฉี่ยนเป็อะไรที่เกินความคาดหมายมากกริชในมือโจมตีนักเวทอย่างรวดเร็วจนเกิดความวุ่นวายภายในป่าเมเปิ้ลแอสซาซินสาวทั้งสองมีพลังแข็งแกร่งมากและด้านหลังของพวกเธอก็มาพร้อมกับผู้เล่นของปรากมากกว่า 30 คน
การโจมตีเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่คนพวกนั้นจะถูกฆ่าการตายของผู้เล่นเป็ไปอย่างรวดเร็วจนเหนือความคาดหมายของผมมากจริงๆ
ฟื้นคืนชีพ!
ร่างของผมยืนขึ้นอีกครั้งในเวลาเดียวกันก็เรียกเ้าจุกนมออกมาด้วยผมรีบฮีลเืให้ตัวเองก่อนจะใช้หมัดเป็อาวุธผมออกคำสั่งให้เ้าจุกนมโจมตีผู้เล่นที่มีชื่อสีเทาซึ่งคนกลุ่มแรกที่ต้องจัดการคือพวกนักเวทมิเช่นนั้นคนของชิงเฉี่ยนคงไม่สามารถสู้กับคนพวกนั้นได้แน่ๆ
เคร้ง!
เสียงกริชปะทะกันก่อนที่ร่างของเยว่ชิงเฉี่ยนจะถอยไปด้านหลังในเวลาเดียวกันแอสซาซินอีกคนก็ปรากฏตัวขึ้น คนคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็เยียนสั่วเฟิงเยว่ของเ้าซีฉู่ป้าหวางนี่เอง
เยว่ชิงเฉี่ยนมองเยียนสั่วเฟิงเยว่ก่อนกัดฟันแน่น“ชิ!ผู้หญิงคนนี้สินะที่มาทำร้ายเซียวเหยา! หน้าไม่อาย!”
สวีเยว่แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา “รนหาที่ตาย!”
ผ่านไป 2 วินาทีร่างของสวีเยว่ก็ลงไปนอนอยู่ที่พื้นด้วยการโจมตีของเยว่ชิงเฉี่ยนทำให้ไม่มีแรงแม้แต่จะรับมือต่อ
……
“ไอ้เซียวเหยาจื้อจ้ายคืนชีพแล้ว รีบไปฆ่ามันซะ!”ซีฉู่ป้าหวางะโด้วยความโกรธ
เวลาต่อมาผมก็ตกเป็เป้าหมายของอีกฝ่ายทันทีเยว่ชิงเฉี่ยนเห็นสถานการณ์ไม่ดีก็รีบะโ “พี่เซียวเหยาระวัง!”
สกิลลมหนาวถูกส่งออกมาทำให้เกราะผ้าของผมแหลกกระจุยฮีลเลอร์ที่น่าสงสารลงไปนอนอยู่ที่พื้นก่อนจะพบกับความตายอีกครั้ง เลเวลลดลงเหลือ 26 อีกแล้วสินะในเวลาเดียวกันเยว่ชิงเฉี่ยนก็ลากผมเข้าทีม ซึ่งภายในทีมเวลานี้มีเพียง 2 คนที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งก็คือเยว่ชิงเฉี่ยนและเยว่เวยเหลียง
ผมยืนอยู่ที่สุสานอีกครั้งก่อนที่จะส่งซิบ [1] เข้าไปในกลุ่มอย่างรวดเร็ว“พวกเธอรอฉันก่อนนะ ฉันจะรีบกลับไปฟื้นคืนชีพเดี๋ยวนี้แหละไม่เกิน 7 นาที”
“อื้อ สบายใจเถอะ ตอนนี้พวกนั้นเหลืออีกไม่กี่คนแล้วแม้แต่ซีฉู่ป้าหวางก็ถูกน้องสาวฉันฆ่าตายไปแล้วเหมือนกัน”
“อื้อ ดีเลย”
……
แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเยว่ชิงเฉี่ยนก็เปล่งเสียงร้อง“เอ๋...นี่มัน...”
เพียงครู่เดียวิญญาของเธอก็มาปรากฏข้างๆผมพร้อมกับถือกริชเดินเข้ามา “มีแอสซาซินเข้ามาเพิ่มอีก 1 คนฉันกับเวยเหลียงก็เลยถูกฆ่าตายซะงั้น”
ผม : “…”
……
ผ่านไปไม่กี่นาทีผมก็กลับมายังจุดที่ตายอีกครั้งตอนนี้การต่อสู้ได้จบลงแล้ว โดยมีศพนอนเกลื่อนไปหมด
บนต้นไม้มีเรียวขาซึ่งขาวราวกับหิมะส่องแสงระยิบระยับห้อยลงมาเ้าของเรียวขาคู่นั้นคือสาวน้อยในชุดเกราะหนัง ที่เอวมีกริชสีแดงเหน็บอยู่ในมือข้างซ้ายถือร่มเหล็กหนึ่งคัน ใบหน้าของเธอเนียนละเอียดไร้ที่ติแถมหน้าอกหน้าใจก็โดดเด้งจนทะลุผ่านเกราะหนังชวนให้หลงใหลไหนจะร่องที่แหวกลึกนั่นอีกบนบ่าของเธอมีตราประจำเมืองสีทองลอยอยู่กับข้อความที่เขียนไว้ว่า “ผู้เล่นอันดับสามของเมืองฝานซู”ซึ่งนั่นก็เพียงพอจะระบุตัวตนของเธอผู้นี้ได้เป็อย่างดีหญิงสาวมองลงมายังศพที่กองอยู่บนพื้นก่อนพูดขึ้นว่า “เอาสิใครกล้าฟื้นคืนชีพตอนนี้ ฉันจะฆ่าให้หมดเลย กล้ามากนะที่มาฆ่าคนของฉัน!”
ผมตกตะลึงทันทีเมื่อได้เห็นตัวอักษรลอยอยู่เหนือศีรษะของเธอพร้อมกับใบหน้าที่เหมือนกับเหตุการณ์เดจาวูนั่น
ID :ชางถง เลเวล 32 อาชีพแอสซาซิน
……
สวบ สวบ!
ร่างของเยว่ชิงเฉี่ยนและเยว่เวยเหลียงฟื้นคืนชีพในเวลาเดียวกันพร้อมกับถือกริชพุ่งใส่หญิงสาวบนต้นไม้สีหน้าของเยว่ชิงเฉี่ยนเต็มไปด้วยความโกรธ “ชิ วันนี้จะเป็วันตายของแก!”
หญิงสาวบนต้นไม้ะโลงมาก่อนจะใช้มือขวาคว้ากริชอย่างช้าๆ“เคร้ง”เสียงดังขึ้นก่อนที่ร่างของเยว่ชิงเฉี่ยนจะผงะออกพร้อมกับที่ร่มเหล็กซึ่งอยู่ด้านซ้ายมือก็ถูกใช้งาน
ฟึบ
ร่มเหล็กถูกกางออกก่อนจะฟาดเยว่เวยเหลียงจนกระเด็นไปด้านหลัง
ผมมองเหตุการณ์ตรงหน้าจนตาค้างทั้งเยว่เวยเหลียงและเยว่ชิงเฉี่ยนต่างก็เป็ผู้เล่นระดับสูงของกิลด์ปรากแต่กลับไม่สามารถสู้อีกฝ่ายได้เนี่ยนะ? นะ... นี่มันจะแข็งแกร่งเกินไปหรือเปล่าเนี่ย?
……
สวบ!
ผมรีบฟื้นคืนชีพก่อนฮีลเืให้เยว่ชิงเฉี่ยน“หยุดก่อน!”
ทั้งสามคนมองมาที่ผม
“เราพวกเดียวกันนะ... เอ่อ...คุณหนูมาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย?”
ตัวละครชางถง เลเวล 32 อาชีพแอสซาซินคนนี้ถ้าไม่ใช่หลินหว่านเอ๋อร์ก็ไม่รู้ว่าจะเป็ใครไปได้แล้วเธอถือร่มเหล็กในมือพร้อมกับใช้ดวงตาคู่สวยของเอลฟ์จันทรามองผมก่อนยิ้มออกมา “ได้ยินว่านายถูกรังแก ฉันก็เลยแวะมาเยี่ยมเยียนหน่อย”
ผม: “…”
………………………………………………………………………………………………………
[1] ส่งซิบ คือการส่งข้อความไปยังผู้เล่นคนอื่น